ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง - ตอนที่136 งานเฉลิมฉลองวันเกิดของจวนซุ่นชิ่งอ๋อง
ในวันที่สอง เมื่อหยุนชางไปถวายพระพรที่พระราชวังชีอู๋ ฮองเฮาจงใจให้หยุนชางกลับคนสุดท้าย หลังจากที่เหล่านางสนมทั้งหมดออกไปแล้ว ฮองเฮาก็ยิ้มและรับบัตรเชิญจากซิ่วซินที่อยู่ด้านข้าง และตรัสว่า "นี่คือบัตรเชิญจากจวนซุ่นชิ่งอ๋อง พรุ่งนี้เป็นวันเกิดของพระชายาซุ่นชิ่ง ซุ่นชิ่งอ๋องเป็นน้องชายของฮ่องเต้องค์ก่อน พระชายาซุ่นชิ่งก็มีอายุมากแล้ว โชคดีซือจื่อ(ลูกคนโต)และจวิ้นอ๋อง(ลูกคนรอง)แห่งจวนซุ่นชิ่งอ๋องต่างก็มากความสามารถกันทั้งคู่ พระชายาของซื่อจื่อและพระชายาของจวิ้นอ๋องทั้งหลายต่างก็เป็นคนดีมาก เจ้ากลับมาที่วังมานานแล้ว ไม่ได้สานสัมพันธ์กับครอบครัวเหล่าขุนนางในราชสำนักเท่าไหร่นัก ในเมื่อฝ่าบาททรงมีพระราชโองการให้เจ้ากับจิ้งอ๋องได้อภิเษกสมรสกัน ในอนาคตเจ้าก็จะเป็นพระชายา ผู้คนเหล่านี้ เจ้าควรที่จะติดต่อไว้บ้าง มันจะดีสำหรับเจ้าในอนาคต"
หยุนซางได้ยินเช่นนี้ รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ชีวิตในภพก่อน สิ่งที่ฮองเฮาไม่ชอบมากที่สุดคือการที่นางติดต่อกับคนในครอบครัวของเหล่าขุนนางมากเกินไป เหตุใดจู่ๆนางถึงคิดเช่นนี้ ถึงกับเป็นฝ่ายริเริ่มให้ตนติดต่อกับครอบครัวของเหล่าขุนนาง มีอะไรแปลกๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้…
สีหน้าของหยุนชางทำเหมือนเชื่อฟังรับทราบตามที่แนะนำ แต่ในใจแอบเตรียมการเอาไว้ "เพคะ ชางเอ๋อร์น้อมรับฟังการเตรียมการของเสด็จแม่เพคะ"
"อือ" ฮองเฮาดึงผ้าเช็ดหน้าในมือ ไอเบาๆ "จริงสิ นี่เป็นครั้งแรกที่เจ้าเข้าร่วมงานเลี้ยงวันเกิดเช่นนี้ ของขวัญวันเกิดของพระชายาซุ่นชิ่งนั้นจะประมาทมิได้นะ พระชายาซุ่นชิ่งก็นับว่าเป็นราชวงศ์ สมบัตริล้ำค่าอะไรก็เคยพบเคยเห็น ข้ารู้ว่าตำหนักของเจ้ามีของที่มีค่าจำกัด และเกรงว่าจะไม่มีของขวัญพิเศษใดๆเลย ข้าจึงขอให้ซิ่วซินเตรียมให้" ฮองเฮาตรัสออกมา
พร้อมหันไปตรัสกับซิ่วซินว่า "ไปนำของมาให้องค์หญิงสิ"
ในใจของหยุนชางแอบหวั่นๆ ฮองเฮามีเมตตาเช่นนี้เมื่อไร?
ซิ่วซินนำของเข้ามา มันถูกใส่ไว้ในกล่องไม้จันทน์ที่สวยงาม แกะสลักดอกไห่ถังเต็มไปหมด หยุนชางก้าวเข้าไปเปิดกล่อง เห็นว่ามีลูกท้อมงคลทำจากหยกมรกตเนื้อดีอยู่ในกล่อง เป็นมรกตมีสีเขียวที่โปร่งใสมาก เห็นได้ว่าเป็นสมบัติล้ำค่าที่ไม่สามารถเทียบได้ หยุนชางยื่นมือไปลูบลูกท้อมงคลในกล่อง แล้วอุทานว่า "นี่เป็นครั้งแรกที่ชางเอ๋อร์ได้เห็นมรกตใสเช่นนี้ หยกก้อนใหญ่เช่นนี้ ต้องมีค่าอันประเมินค่ามิได้แน่ พระชายาซุ่นชิ่งต้องชอบแน่เพคะ ชางเอ๋อร์ขอบพระทัยเสด็จแม่เพคะ"
ฮองเฮายิ้มอย่างมีสง่าผ่าเผย "แน่นอน พระชายาซุ่นชิ่งเป็นบุคคลที่มีเกียรติอยู่ในเมืองหลวง ชางเอ๋อร์เจ้าต้องจำไว้ว่า ต้องทำให้พระชายาซุ่นชิ่งพอใจ ถ้าพระชายาซุ่นชิ่งปฏิบัติดีต่อเจ้า นางสนมของเหล่าขุนนางในเมืองหลวงก็ต้องให้เกียรติเจ้า"
หยุนชางพยักหน้า "ชางเอ๋อร์ทราบแล้วเพคะ ชางเอ๋อร์จะประพฤติตัวดีอย่างแน่นอน แต่ชางเอ๋อร์ไม่เคยพบพระชายาซุ่นชิ่งผู้นี้ ชางเอ๋อร์ ไม่รู้ว่าพระชายาซุ่นชิ่งโปรดอะไร"
ฮองเฮายิ้มแล้วตรัสว่า "อาจเพราะพระชายาซุ่นชิ่งอายุมากแล้ว นางชอบความเงียบสงบ และสีอ่อนๆ โดยเฉพาะสีเขียวและสีฟ้า นางมักจะดื่มชาต้าหงเผา อาหารที่นางชอบหูฉลามหางหงส์ เจ้าแค่จำไว้ก็พอ…"
หยุนชางฟังอย่างจริงจังและพยักหน้าซ้ำ "ชางเอ๋อร์ทราบแล้วเพคะ"
จากนั้นก็เอ่ยถึงความชอบของพระชายาซุ่นชิ่งอีกเล็กน้อย และฮองเฮาก็ให้หยุนชางออกจากพระราชวังชีอู๋ไป หยุนชางรับลูกท้อมงคลที่ทำจากหยกมรกตกลับไปตำหนักชิงซิน หยิบมันออกมาแล้วมองใกล้ๆผ่านแสง "ช่างเป็นของที่เยี่ยมยอดจริงๆ มีสีมันวาว ฝีมือเช่นนี้หายากจริงๆ"
ฉินยีกังวลเล็กน้อย "แต่ว่าองค์หญิง ฮองเฮาให้ท่านไปที่จวนซุ่นชิ่งอ๋อง หม่อมฉันรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกตินะเพคะ"
หยุนชางยิ้ม "แน่นอนว่ามีบางอย่างผิดปกติ หลี่อี้หรานอย่างนางเคยเป็นคนเมตตากรุณาเมื่อไหร่กัน ยังอธิบายสิ่งที่พระชายาซุ่นชิ่งทรงโปรดให้ข้าฟังด้วยตนเอง"
หยุนชางกวักมือเรียกเฉี่ยนอิน "ส่งข่าวออกไป ให้คนไปสอบถามพระชายาซุ่นชิ่งชอบและเกลียดอะไรบ้าง จำไว้ รายละเอียดมากยิ่งดี"
เฉี่ยนอินตอบรับ หันหลังเดินออกไป
หยุนชางจ้องมองไปที่หยกมรกต และมุมปากของนางก็โค้งงอเล็กน้อย
ในวันที่ห้าของวันขึ้นปีใหม่ งานเฉลิมฉลองครบรอบอายุ50ปีของพระชายาซุ่นชิ่ง หยุนชางตื่นแต่เช้า เฉี่ยนอินยกน้ำเดินเข้ามา "องค์หญิง ข่าวส่งเข้ามาแล้ว ความชอบของพระชายาซุ่นชิ่งที่ฮองเฮาทรงตรัสนั้นถูกต้องเพคะ"
'โอ๋?' หยุนชางยกคิ้ว ตวัดน้ำขึ้นมาล้างหน้า และรับผ้าเช็ดหน้าที่เฉี่ยนอินยื่นมาเช็ดหน้า จากนั้นนั่งลงตรงหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง ฉินยีเดินเข้ามาหยิบหวีเพื่อแต่งหน้าทำผมให้หยุนชาง
เฉี่ยนอินตากผ้าเช็ดหน้าก่อนแล้วค่อยเดินมาและพูดว่า "พระชายาซุ่นชิ่งโปรดสีเขียวและสีฟ้ามากที่สุด สิ่งที่พระชายาซุ่นชิ่งเกลียดที่สุดคือมีคนใส่ชุดสีเหมือนกับนาง ดังนั้นเสื้อผ้าสองสีนี้จึงต้องห้ามอย่างแน่นอน"
"เป็นเช่นนี้นี่เอง…" หยุนชางยิ้มเล็กน้อย "ถ้ามีใครรู้ว่าพระชายาซุ่นชิ่งชอบสองสีนี้ที่สุด พวกนางก็จะพยายามทำให้พึงพอใจอย่างแน่นอน ในแง่ของสี สิ่งที่ง่ายในการทำให้พอใจที่สุดก็คือสีของเสื้อผ้า แต่ว่า ถ้าข้าใส่แล้วจริงๆ เกรงว่าพระชายาซุ่นชิ่งจะแอบเกลียดชังข้า ฮองเฮาช่างละเอียดมากจริงๆ และสิ่งที่นางพูดนั้นถูกต้อง แต่…"
ฉินยีหวีผม แล้วหยิบเชือกผูกผมสีขาวขึ้นมาจากโต๊ะเครื่องแป้ง แล้วผูกกับผม ขมวดคิ้วเล็กน้อย "แต่ว่าองค์หญิง หรือว่าฮองเฮาให้องค์หญิงไปจวนซุ่นชิงอ๋องฉลองวันเกิด เพียงเพื่ออยากให้องค์หญิงสวมชุดสีที่เหมือนกับสีชุดของพระชายาซุ่นชิ่ง ถ้าองค์หญิงไม่ใส่ แผนของนางก็ล้มเหลวมิใช่หรือเพคะ?"
หยุนชางจ้องมองไปที่กล่องไม้จันทน์ยิ้มและพูดว่า "แน่นอนว่าไม่ใช่…"
"ถ้าเช่นนั้นองค์หญิงก็อย่าเสด็จเลยนะเพคะ หม่อมฉันกลัวความชั่วร้ายของฮองเฮา และเป็นจวนซุ่นชิ่งอ๋องอีก หากมีอะไรเกิดขึ้นกับองค์หญิง ไม่สามารถโทษนางได้เลยนะเพคะ" ฉินยีรู้สึกกระสับกระส่ายเล็กน้อย เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานายหญิงเพิ่งเกิดเรื่อง ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับองค์หญิงอีก จะทำอย่างไรดี
หยุนชางหันศีรษะ และจับมือฉินยี "ข้าไม่สามารถเป็นเต่าหดหัวที่ซ่อนตัวอยู่ในตำหนักชิงซินไปตลอดใช่ไหม ข้าจะระวัง ฉินยีก็วางใจเถอะ"
ฉินยีพยักหน้า หันหลังไปหยิบชุดสีชมพูให้หยุนชาง ปรนนิบัติหยุนชางสวมชุด และนำเสื้อคลุมตัวใหญ่ที่มีสีเดียวกันมาผูกให้หยุนชาง แล้วตามหยุนชางพร้อมกับกล่องไม้จันทน์ออกจากตำหนักชิงซิน
เมื่อเราไปถึงประตูพระราชวัง รถม้ารออยู่แล้ว เฉี่ยนอินช่วยพยุงหยุนชางขึ้นรถม้า ทั้งสามก็มุ่งหน้าไปยังจวนซุ่นชิ่งอ๋อง
"องค์หญิงฮุ่ยกั๋วเสด็จ…" เสียงประกาศ ทุกคนในสวนก็มองไปทางประตู
หญิงอายุประมาณ30ปีเดินเข้ามาพร้อมเสียงหัวเราะที่สดใส "เมื่อครู่ข้ายังบอกว่าได้ยินเสียงนกสาลิการ้องแต่เช้า คงจะมีคนสูงศักดิ์มาแน่ๆ เพิ่งพูดจบก็ได้ยินองค์หญิงเสด็จมา"
เฉี่ยนอินเดินตามหลังหยุนชาง ก้มหน้าพูดเบาๆ "นี่คือพระชายาซื่อจื่อ เวินหยูซิน ภรรยาของลูกชายคนโตของพระชายาซุ่นชิ่ง บุตรสาวสาวของรองเสนาบดีกรมคลัง"
หยุนชางพยักหน้า เงยหน้าขึ้นและพูดด้วยรอยยิ้มว่า "ท่านป้าเกรงใจเกินไปแล้ว นี่คือทำให้ชางเอ๋อร์ทำอะไรไม่ถูกแล้ว"
หญิงคนนั้นดูจะตกตะลึงเมื่อได้ยินหยุนชางเรียกนางด้วยความสนิทสนม แต่นางก็มีปฏิกิริยาไหวพริบดี รีบเดินไปหาหยุนชางและดึงมือหยุนชาง "ดูสิ หม่อมฉันบอกแล้ว ถึงแม้ว่าองค์หญิงฮุ่ยกั๋วยังเยาว์วัย แต่ก็ขึ้นชื่อว่าเป็นหญิงงาม หญิงสาวและฮูหยินเหล่านี้ยังเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง ยังบอกว่าสู้องค์หญิงหัวจิ้งไม่ได้ ในความคิดของหม่อมฉัน องค์หญิงฮุ่ยกั๋วสวยที่สุดเพคะ"
มีเสียงหัวเราะจากด้านข้าง หยุนชางเงยหน้าขึ้นมอง คนเหล่านี้ล้วนเป็นผู้คนที่หยุนชางเคยเห็นในชีวิตเมื่อภพก่อน
หยุนชางหรี่ตา แม้ว่าผู้หญิงตรงหน้าจะดูตรงไปตรงมา แต่นางเป็นคนหน้าเนื้อใจเสือ แค่เผลอก็จะตกหลุมพลางของนาง หยุนชางยิ้มเล็กน้อย "ท่านป้าพูดไร้สาระ ถึงแม้ว่าชางเอ๋อร์จะอยู่ในวัง แต่ก็รู้ดีว่าพี่หญิงเป็นหญิงงามที่ทุกคนยอมรับ และชางเอ๋อร์เทียบไม่ได้หนึ่งในสิบของพี่หญิงเลย ท่านป้า ท่านปลอบใจคนเช่นนี้ แต่ถ้าได้ฟังก็รู้ว่าเป็นคำหลอกลวง ชางเอ๋อร์ฟังแล้วก็ไม่มีความสุข"
พระชายาซื่อจื่อหัวเราะเสียงดัง แล้วพูดอย่างรวดเร็วว่า "ถึงหม่อมฉันจะกล้าแค่ไหนก็ไม่กล้าหลอกองค์หญิงหรอกเพคะ พระชายาซุ่นชิ่งอยู่ที่ลานต้อนรับแขก องค์หญิงตามหม่อมฉันไปพบพระชายาซุ่นชิ่งก่อนเถอะเพคะ! ถ้าท่านรู้ว่าองค์หญิงเสด็จมา ท่านคงจะมีความสุขมาก"
หยุนชางพยักหน้าและพูดด้วยรอยยิ้ม "เช่นนั้นชางเอ๋อร์ต้องขอรบกวนท่านป้านำทางให้ชางเอ๋อร์แล้ว"
พระชายาซื่อจื่อพูดซ้ำๆอย่างรวดเร็ว "ไม่รบกวนไม่รบกวน" จากนั้นจึงพาหยุนชางไปที่ลาน
จวนซุ่นชิงดูไม่หรูหรานัก แต่ก็เต็มไปด้วยความสง่างาม ศาลาและหอห้อง ถูกสร้างขึ้นตามสวนป่าของเจียงหนาน ให้ความรู้สึกที่สง่างาม หยุนชางกล่าวยกย่องไม่กี่คำ แววตาของพระชายาซื่อจื่อก็ได้ใจเล็กน้อย แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า "นี่ออกแบบโดยท่านอ๋องเอง พระชายาซุ่นชิ่งมาจากเจียงหนาน ท่านอ๋องกลัว ว่าพระชายาซุ่นชิ่งจากบ้านมาแล้วไม่คุ้นเคย จึงได้ซ่อมแซมจวนนี้เป็นการเฉพาะ"
"โอ๋?" หยุนชางหันศีรษะมองดูพระชายาซื่อจื่อ "ความสัมพันธ์ของท่านอ๋องและพระชายาซุ่นชิงช่างดีจริง น่าอิจฉาจริงๆ"
พระชายาซื่อจื่อได้ยินคำพูดองค์หญิงก็หัวเราะและพูดว่า "องค์หญิงอยากจะแต่งงานแล้วใช่ไหมเพคะ หม่อมฉันได้ยินท่านอ๋องบอกว่า ฝ่าบาททรงให้องค์หญิงอภิเษกสมรสกับจิ้งอ๋อง จิ้งอ๋องเป็นผู้ที่หญิงสาวมากมายในเมืองหลวงปรารถนา องค์หญิงเป็นผู้ที่ได้รับพรอย่างแท้จริงเพคะ"
หยุนชางเดินตามพระชายาซื่อจื่อไปรอบสวนต่างๆ และเดินเข้าไปในหอที่สร้างริมน้ำ ในลานมีหอสองชั้นเล็กๆ ลานบ้านหันหน้าไปทางน้ำ มีป่าไผ่มากมายปลูกไว้ในลานบ้าน ซึ่งเป็นรูปแบบเมืองแห่งน้ำในเจียงหนานอย่างแท้จริง
"องค์หญิง เชิญทางนี้เพคะ พระชายาซุ่นชิ่งอยู่ด้านใน" พระชายาซื่อจื่อยิ้มและเดินเข้าไปพร้อมกับหยุนชาง
หยุนชางเห็นเหล่าฮูหยินและหญิงสาวหลายคนนั่งอยู่ในห้อง บนเก้าอี้ไม้มะฮอกกานีด้านในสุดมีฮูหยินที่ดูท่าทางใจดีนั่งอยู่ สวมชุดสีเขียวเข้มปักด้วยไม้ไผ่ คิ้วของนางดูเป็นผู้ทรงอำนาจ
"ท่านแม่ องค์หญิงฮุ่ยกั๋วมาอวยพรวันเกิดให้ท่านเจ้าค่ะ" พระชายาซื่อจื่อยิ้มและไปยืนอยู่ข้างๆ
หยุนชางยิ้มและเดินเข้าไป พร้อมกับกล่าวว่า "ชางเอ๋อร์ขอให้พระชายาซุ่นชิ่งโชคดีเกษมสุขสำราญ และอายุมั่นขวัญยืน" ฉินยีที่อยู่ด้านข้าง รีบยื่นกล่องไม้จันทน์ หยุนชางเปิดกล่องไม้จันทน์และกล่าวว่า "ชางเอ๋อร์ไม่รู้ว่าจะมอบอะไรให้พระชายาซุ่นชิ่งดี จึงไปขอลูกท้อมงคลมรกตจากเสด็จแม่ ยืมดอกไม้มาถวายพระ มอบให้กับพระชายาซุ่นชิ่ง"
พระชายาซุ่นชิ่งจ้องไปที่หยุนชางด้วยแววตาที่พร่างพราวและพูดด้วยรอยยิ้มว่า "องค์หญิงมาอวยพรวันเกิดให้แก่หม่อมฉันก็คือของขวัญที่ดีที่สุดแล้วเพคะ…"
มีเสียงมาจากด้านข้าง "สีของลูกท้อ มงคลมรกตนี้ดีมาก เมื่อมองดูหยกมรกตนี้ สีน้ำนี้ยอดเยี่ยมจริงๆ เกือบจะโปร่งใส และลูกท้อมงคลนี้มีลักษณะเหมือนจริงมาก"
พระชายาซุ่นชิ่งยิ้ม แล้วให้มามาที่อยู่ด้านข้างรับกล่องไม้จันทน์ ยิ้มและพูดว่า "จริงด้วย นี่เป็นครั้งแรกที่หม่อมฉันได้เห็นมรกตที่สวยงามเช่นนี้ องค์หญิงฮุ่ยกั๋วช่างใส่พระทัยจริงๆ" หลังจากนั้นก็ถามเล็กๆน้อยๆกับหยุนชาง หยุนชางไล่ก็ตอบทีละคำถาม แล้วพระชายาซุ่นชิ่งก็พูดว่า "ที่นี่ล้วนมีแต่หญิงชรา ช่างน่าเบื่อเสียจริง องค์หญิงพาหญิงสาวเหล่านี้ไปเดินเล่นในสวนดีไหมเพคะ ปล่อยให้หญิงสาวเหล่านี้มานั่งฟังหญิงชราอย่างเราคุยกัน มีแต่จะทำให้พวกนางอึดอัด"
เหล่าฮูหยินด้านล่างปิดปากหัวเราะ แล้วพูดกับหญิงสาวที่อยู่ข้างๆพวกนางว่า "ถ้าเช่นนี้ พวกเจ้าก็ไปเดินเล่นกับองค์หญิงเถิด"
หยุนชางยิ้มและพาเหล่าหญิงสาวออกจากสวน แล้วมีหญิงสาวหน้าตาสะสวย ยิ้มและเดินเข้าไปด้านข้างของหยุนชาง และกล่าวว่า "องค์หญิง ท่านช่างสวยจริงๆ ซีเอ๋อร์ไม่เคยเห็นคนที่สวยงามเช่นนี้มาก่อนเลยเพคะ"
หยุนชางได้ยินเสียงกระซิบจากด้านหลัง "บุตรสาวของสำนักการบูชา จิ่งเหวินซี"
หยุนชางได้ยินเช่นนี้ กำลังจะตอบ แต่ได้ยินเสียงที่ค่อนข้างประชดประชันมาจากอีกด้านว่า "จิ่งเหวินซี เจ้าไร้ยางอายจริงๆ ในเมืองหลวงนี้ใครจะไม่รู้ว่าเจ้าชื่นชอบจิ้งอ๋อง? ฝ่าบาทเพิ่งมีพระราชโองการให้จิ้งอ๋องและองค์หญิงฮุ่ยกั๋วอภิเษกสมรส ข้าขอแนะนำให้เจ้าทิ้งความคิดเลอะเทอะในใจของเจ้าซะ หรือว่าเจ้ายังคิดอยู่ว่า ประจบองค์หญิงให้ชื่นชอบเจ้า แล้วให้องค์หญิงเกลี้ยกล่อมจิ้งอ๋องแต่งเจ้าไปเป็นนางสนม? ฮ่า ไร้เดียงสา"
หยุนชางไม่รู้ว่ามีความลับเช่นนี้ซ่อนอยู่ นางจึงหันกลับมามองผู้หญิงที่ส่งเสียงด้วยรอยยิ้ม กลับเห็นว่าหญิงสาวคนนั้นมีใบหน้าที่สวยมาก เพียงแต่ว่าการพูดจาของนางนั้นทำร้ายคนมาก
จิ่งเหวินซีกัดฟัน ไม่สนใจหญิงสาวคนที่พูด เพียงขมวดคิ้วและมองหยุนชางอย่างไม่เป็นธรรม "องค์หญิง ซีเอ๋อร์มิได้คิดเช่นนั้นเพคะ"
หยุนชางยิ้ม กำลังจะพูดปลอบใจนาง แต่ได้ยินเสียงที่เย็นชาดังขึ้น "ถึงเจ้าคิดอย่างนั้น ก็ไร้ประโยชน์ นอกจากชางเอ๋อร์แล้ว ข้าจะไม่แต่งงานกับใคร…"