ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง - ตอนที่ 80 สนมจิ่นมาเยี่ยม (สอง)
เมื่อฮองเฮาเสด็จไปที่ประตู ทันทีที่ม่านประตูเปิดออก นางก็เปลี่ยนพระพักตร์ด้วยรอยยิ้มว่า "น้องหญิงทำไมถึงมาล่ะ อากาศหนาวแล้ว ดูเจ้าสิ ยังสวมชุดบางเช่นนี้ ถ้าเป็นหวัดเข้าจะทำยังไง?" หญิงสาวแต่งกายด้วยชุดสีขาวที่สง่างาม และชายกระโปรงปักดอกเหมยด้วยด้ายสีเงินกิ่งหนึ่ง เมื่อมองขึ้นไป ก็เห็นใบหน้ารูปทรงไข่ พร้อมรอยยิ้มที่มีทั้งเสน่ห์และเยือกเย็น
"เมื่อวานนี้หลังจากที่พี่หญิงจากไป หม่อมฉันรู้สึกไม่สบายเล็กน้อย ดังนั้นจึงพักผ่อนเร็ว และวันนี้เพิ่งได้ยินจากเจิ้งมามาว่า พี่หญิงทรงตั้งพระครรภ์แล้ว ปรีดียิ่งนัก หม่อมฉันก็ไม่มีของขวัญอะไรจะมอบให้ นี่คือหยกอุ่นที่ฝ่าบาทมอบให้กับหม่อมฉันเมื่อไม่นานมานี้ ว่ากันว่าในฤดูหนาวก็ยังอุ่นด้วย ดีต่อร่างกาย หม่อมฉันคิดว่าอากาศก็เย็นลงเรื่อยๆ พี่หญิงเพิ่งตั้งครรภ์จึงมามอบให้พี่หญิง" สนมจิ่นถือหยกอยู่ในมือ ที่แกะสลักลายดอกเหมยไว้บนหยก เสียงของสนมจิ่นนุ่มนวล ดูเหมือนจริงใจ
ฮองเฮากลับยิ้มไม่ออก อะไรคือพักผ่อนเร็ว มันจริงที่ว่าพักผ่อนเร็ว เมื่อวานนี้หลังจากที่ได้ยินว่าฮองเฮาทรงตั้งพระครรภ์ ฝ่าบาททรงทำในสิ่งแรกคือไม่ใช่มาพูดกับตน แต่รีบตรงมาที่พระราชวังชีอู๋ ไม่ได้เสด็จออกมาทั้งคืน นางในฐานะเจ้านายพระราชวังชีอู๋ ไม่ได้เห็นแม้แต่เงาของฝ่าบาท
"สนมจิ่นนั้นเกรงใจเกินไปแล้ว ในเมื่อฝ่าบาทได้มอบให้แก่สนมจิ่น ข้าจะแย่งของของเจ้าได้อย่างไร" ฮองเฮาไม่ยิ้ม แต่ทรงเสด็จตรงและเลยสนมจิ่นไป แล้วนั่งลงบนเก้าอี้ในห้องโถงด้านนอก
สนมจิ่นยิ้ม "หม่อมฉันไม่มีของมีค่าอื่นๆ หรือว่าพี่หญิงจะรังเกียจเพคะ?"
ฮองเฮาได้ยินคำพูดนี้ มุมพระโอษฐ์ของนางก็ยกขึ้นเล็กน้อย "ในเมื่อสนมจิ่นพูดเช่นนี้แล้ว หากว่าข้าไม่รับมันไว้ ฝ่าบาทจะไม่กล่าวโทษว่าข้ารังแกเจ้าหรอกหรือ?" ฮองเฮายื่นพระหัตถ์ออกไป รับหยกอุ่นมา เมื่อสัมผัสกลับรู้สึกถึงความชุ่มชื่น ฮองเฮาก็ขมวดพระขนงเล็กน้อย หลังจากรับมา ก็ยื่นให้กับซิ่วซิน
สนมจิ่นเห็นแล้วยิ้มอย่างไม่ใส่ใจ หันไปคุยกับฮองเฮาด้วยเสียงที่แผ่วเบา "พี่หญิง หม่อมฉันเพิ่งเห็นองค์หญิงหัวจิ้งจากไปอย่างเร่งรีบ เกิดอะไรขึ้นหรือเพคะ?"
ฮองเฮาแอบกำพระหัตถ์ไว้แน่นใต้แขนเสื้อ "ราชบุตรเขยถูกศัตรูล้อมอยู่ที่ชายแดน หัวจิ้งกังวลจึงมาขออนุญาตข้าให้นางพาคนไปช่วยราชบุตรเขยที่ชายแดน ข้าเป็นห่วงความปลอดภัยของนาง จึงต่อว่าไป แต่ทว่า ดูเหมือนนางจะตัดสินใจอย่างแน่วแน่ไปแล้ว นางจะไปชายแดนให้ได้ ข้ายังไม่อนุญาต แต่นางก็จากไปอย่างรวดเร็ว"
สนมจิ่นขมวดพระขนง ตรัสด้วยความกังวลเล็กน้อย "หม่อมฉันได้ยินมาว่าราชบุตรเขยอยู่ชายแดนทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ พักนี้แคว้นเย้หลางมีความเคลื่อนไหว ฝ่าบาทก็ทรงเป็นห่วงมากเช่นกัน ชายชาวเย้หลางนั้นกล้าหาญและดุร้ายดุจหมาป่าทุกคน องค์หญิงที่เป็นผู้หญิงเปราะบาง ไปชายแดนตามใจชอบได้อย่างไร ถ้ามีอะไรผิดพลาด ฝ่าบาทและพี่หญิงจะต้องเสียพระทัยมากอย่างแน่นอน พี่หญิงควรเกลี้ยกล่อมองค์หญิงให้มากกว่านี้นะเพคะ ฝ่าบาทตรัสว่าให้จิ้งอ๋องไปที่ชายแดนเพื่อต่อสู้กับแคว้นเย้หลางที่เข้ามาในวัง ตอนนี้กำลังเตรียมการอยู่ จิ้งอ๋องยังไปไม่ถึง ชายแดนนั้นอันตรายอย่างยิ่งนะเพคะ…"
ฮองเฮาอึ้งไปครู่หนึ่งแล้วตรัสว่า "ทั้งหมดนี้ฝ่าบาทตรัสกับเจ้าหรือ?"
สนมจิ่นพยักหน้า "เพคะ ช่วงก่อนฝ่าบาทเคยตรัสว่า ครั้งนี้แคว้นเย้หลางยกกองทัพทหารมาสองแสนนาย กำลังเข้าใกล้ชายแดนทีละก้าว ช่วงนี้เลยให้จิ้งอ๋องฝึกทหารเข้มงวดขึ้นและส่งทหารออกไปโดยเร็วที่สุด"
"จริงหรือ?" พระขนองของฮองเฮารู้สึกเย็นยะเยือก ยิ้มอย่างฝืนๆ "จริงหรือ โชคดีที่ข้าไม่ได้ให้หัวจิ้งไปที่ชายแดน มันช่างอันตรายเช่นนี้ นางเป็นลูกผู้หญิงคนเดียว…"
สนมจิ่นยิ้มและพูดว่า "อือ" จากนั้นนางก็ปิดการสนทนาและพูดเบาๆ ว่า "จริงด้วย พี่หญิง เมื่อครู่นางกำนัลของสนมซู่เพิ่งมาบอกหม่อมฉันว่า ในอีกไม่กี่วัน สนมซู่จะจัดงานเลี้ยงในตำหนักของนาง ได้ยินมาว่าฝ่าบาทจะเสด็จไปที่นั่นด้วย หม่อมฉันเพิ่งถามนางกำนัลผู้นั้น ว่ามีเรื่องน่ายินดีอะไร นางกำนัลก็ไม่ได้แจ้งกับหม่อมฉัน พี่หญิงพอจะทราบไหมเพคะว่าในวังมีเรื่องน่ายินดีอะไร?"
ฮองเฮาก็ผงะอีกครั้ง "จริงรึ สนมซู่กำลังจะจัดงานเลี้ยง ข้าไม่ทราบเลย"
สนมจิ่นได้ยินคำพูดนั้น งุนงงสักพัก แต่ครู่หนึ่งนางก็หัวเราะออกมา "ดูหม่อมฉันสิ สิ่งที่น่ายินดีที่สุดในวังตอนนี้ คือเรื่องที่พี่หญิงกำลังทรงตั้งพระครรภ์ ในเมื่อฝ่าบาททรงทราบเรื่องแล้ว ต้องเป็นพระองค์ที่รับสั่งให้สนมซู่จัดงานเลี้ยงเป็นแน่ และเก็บเป็นความลับกับพี่หญิง คงอยากจะให้พี่หญิงซาบซึ้งอย่างแน่นอน"
ฮองเฮาได้ยินเช่นนี้ ก็รู้สึกไม่น่าเป็นไปได้ ท้ายที่สุดแล้ว ท่าทีของฝ่าบาทที่มีต่อพระกุมารในครรภ์ของนาง กลับเฉยเมยมาก แต่ทว่า ยังคงมีความคาดหวังอยู่เล็กน้อย ยิ้มแล้วตรัสว่า "จริงหรือ?"
สนมจิ่นพยักหน้าและยิ้มอย่างจริงใจเมื่อได้ยินคำพูดนั้น "พี่หญิง อย่าได้ตรัสว่าหม่อมฉันได้หลุดปากออกมานะเพคะ เมื่อถึงเวลาต้องแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องอะไร ถ้าสนมซู่พูดว่า เป็นการแสดงความยินดี ที่พี่หญิงกำลังทรงตั้งครรภ์มังกร พี่หญิงต้องแสร้งทำเป็นแปลกพระทัยมาก อย่าได้ลากหม่อมฉันออกมานะเพคะ"
ฮองเฮายิ้มเล็กน้อยแล้วตอบว่า "แน่นอน"
จากนั้นทั้งสองคุยกันเรื่องไร้สาระอยู่พักหนึ่ง สนมจิ่นจึงลุกขึ้นและขอตัวจากไป
ทันทีที่สนมจิ่นจากไป ฮองเฮาก็ปลดรอยยิ้มของนางทิ้ง กลับมาแสดงสีพระพักตร์ไร้อารมณ์
"เหนียงเหนียง ตั้งแต่สนมจิ่นมาอาศัยอยู่ในพระราชวังชีอู๋แห่งนี้ นางปฏิบัติต่อเหนียงเหนียงอย่างเฉยเมยอยู่เสมอ กับฝ่าบาทก็เฉยเมยด้วย แต่วันนี้กลับเหมือนเปลี่ยนไปทั้งคน มาถวายพระพรเหนียงเหนียงด้วยความขยันขันแข็ง และพูดด้วยน้ำเสียงเช่นนั้น ช่างไม่เหมือนวิธีการของสนมจิ่นเลยจริงๆเพคะ?" ซิ่วซินมองไปที่ประตูวังอย่างวิตกกังวล ฮองเฮายิ้มอย่างเย็นชา "เจ้าก็ดูออกหรือ เมื่อครู่ข้าก็ยังแปลกใจ ข้าและนางต่างคนต่างอยู่ไม่ข้องเกี่ยวโดยตลอด ช่วงเวลาที่นางมาอาศัยพระราชวังชีอู๋นี้ ที่เคยพูดคุยมาไม่เยอะเท่าวันนี้ แต่ว่า ในเมื่อนางเต็มใจที่จะแสดง ข้าก็จะตามน้ำไป"
ซิ่วซินชะงักครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยอย่างลังเล "แต่ว่า เหนียงเหนียง เมื่อครู่ที่สนมจิ่นพูดนั้นจริงหรือไม่ ถ้ามันเป็นเรื่องจริงอย่างที่สนมจิ่นกล่าว สถานการณ์ชายแดนที่คับขัน เช่นนั้นองค์หญิง… หม่อมฉันไปที่จวนองค์หญิงดีหรือไม่เพคะ?"
ฮองเฮาทำเสียงเชอะอย่างเย็นชา "คำพูดของสนมจิ่นที่เต็มไปด้วยช่องโหว่ จะฟังได้อย่างไร วันนั้นข้าได้ยินฝ่าบาทตรัสที่ตำหนักฉินเจิ้งด้วยตัวเอง ว่าส่งจิ้งอ๋องไปที่ชายแดน คือการไปช่วยเหลือราชบุตรเขย จู่ๆนางก็กลายเป็นจะไปต่อต้านกองทัพแคว้นเย้หลาง จะเป็นไปได้อย่างไรสำหรับประเทศเล็กๆ อย่างเย้หลางที่ส่งกองทัพมาสองแสนคน? นางพูดอย่างนั้น ก็เพื่อไม่ต้องการให้หัวจิ้งไปที่ชายแดน ให้หัวจิ้งเป็นไปตามคำพูดของราษฎรในเมืองหลวง ถ้าหัวจิ้งไม่ไปที่ชายแดน เพียงแค่หนึ่งคำพูดต่อหนึ่งราษฎรในเมืองหลวง ก็สามารถทำลายนางได้อย่างหมดสิ้น"
ซิ่วซินพยักหน้า "ฮองเฮาทรงฉลาดยิ่งนัก สนมจิ่นช่าง…"
ฮองเฮานั่งบนเก้าอี้ ค่อนข้างจะงุนงงและพึมพำกับตัวเองว่า "แต่ว่า จู่ๆนางก็พูดว่าสนมซู่จะจัดงานเลี้ยงในวัง หมายความว่าอย่างไร?"
ซิ่วซินขมวดคิ้ว แต่ทั้งสองคิดอยู่นาน แต่ก็คิดหาเหตุผลไม่ได้ ฮองเฮาเงยพระเศียรขึ้น แล้วตรัสกับซิ่วซินว่า "เจ้าไปสืบดูก่อน สนมซู่จะจัดงานเลี้ยง มันคือเรื่องจริงหรือเท็จ ฝ่าบาททรงทราบจริงหรือไม่ เชิญใครร่วมงานบ้าง จัดขึ้นเมื่อใดและจัดที่ไหน ยิ่งมีรายละเอียดมากยิ่งดี……"
ซิ่วซินพยักหน้าอย่างรวดเร็ว "หม่อมฉันทราบแล้วเพคะ หม่อมฉันจะรีบไปจัดการ"
ฮองเฮาพยักหน้าแล้วตรัสอีกว่า "พรุ่งนี้ เชิญท่านแม่เข้าวัง และบอกท่านแม่ด้วยว่า ข้าอยากทานเค้กชบาที่ยายเฒ่าในจวนทำ"
ซิ่วซินตอบรับและพูดว่า "หม่อมฉันจำไว้แล้วเพคะ เหนียงเหนียงมีคำสั่งอื่นอีกหรือไม่เพคะ"
"ประเดี๋ยวเจ้าไปหากงกงที่ดูแลสำนักพระราชวัง ให้เขาส่งกระถางดอกไม้และต้นไม้มาเพิ่ม"
"ดอกไม้?" ซิ่วซินตะลึงและถาม "ฤดูกาลนี้ดอกไม้ที่เหนียงเหนียงทรงโปรดยังไม่บานเลยนะเพคะ หม่อมฉันจะให้ผู้ดูแลสำนักพระราชวังส่งดอกสุ่ยเซียนมาให้ดีไหมเพคะ"
ฮองเฮาส่ายหัว "ไม่ ไม่เอาดอกสุ่ยเซียน บอกผู้ดูแลสำนักพระราชวัง โดยบอกว่าข้าจะวางไว้ในห้องโถงนอน ต้องการขนาดใหญ่ มีดินมากหน่อย…"