ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง - ตอนที่ 59 หยุนชางมอบของขวัญ
อะไรนะ เจ้าหมายถึง จิ้งอ๋องอยู่ที่นั่นก่อนที่พวกเราจะไปหอยวี่หมั่นแล้ว?" หัวจิ้งยืนขึ้นอย่างกะทันหัน ชาในถ้วยก็หกใส่มือของนาง โชคดีที่ชาไม่ร้อน หัวจิ้งสบัดมือของนาง ยื่นมือไปหาสาวใช้ที่ยืนอยู่ข้างๆ
แต่มีความสับสนในหัวทันที "ถ้าเช่นนี้ จิ้งอ๋องโกหกเราก่อนหน้านี้ที่หอยวี่หมั่น หรือถ้าไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาจะไม่มีโกหกเรา เป็นไปได้ไหมที่เขาได้ยินมันจริงๆ"
"องค์หญิง แล้วจะทำอย่างไรดีเพคะ?" ปิงเอ๋อร์ตื่นตระหนกทันทีเมื่อได้ยินคำพูด "จิ้งอ๋องดูเหมือนว่าจะมีความสัมพันธ์ที่ดีกับองค์หญิงฮุ้ยกั๋ว หรือว่า องค์หญิงฮุ้ยกั๋วรู้เรื่องแล้วเพคะ?"
หัวจิ้งเก็บมือที่สาวใช้เช็ดแห้งกลับ คิดอยู่ครู่หนึ่ง ก็ส่ายหัวและพูดว่า "มันไม่เหมือน ถ้าหยุนชางรู้จะตามข้ามาที่จวนองค์หญิงอย่างโดยดีได้ไง"
หัวจิ้งนั่งบนเก้าอี้และขมวดคิ้วนานพอควร "เจ้าได้พบพี่ไป๋เอ้อร์หรือไม่ พี่ไป๋เอ้อร์พูดว่าอย่างไร?"
ปิงเอ๋อร์ส่ายหัว สีหน้าไม่สบายใจเล็กน้อย "องค์หญิง หม่อมฉันไม่พบตัวพี่ไป๋เอ้อร์ หม่อฉันหารอบๆแล้วไม่เลยเพคะ แต่ว่าได้พบลูกน้องของเขาอยู่บนถนน เขาพูดแค่ว่า พี่ไป๋เอ้อร์เห็นสถานการณ์ไม่สู้ดี กลัวว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น เขาจึงหนีไปแล้วเพคะ"
"อะไรนะ" หัวจิ้งตบโต๊ะด้วยท่าทางลำบากใจ "เจ้าคนทำอะไรไม่จริงจัง! ข้าไม่ควรเชื่อเขา! ถ้าไม่ใช่เพราะกลัวว่าจะถูกเสด็จพ่อจะพบเบาะแส มีหรือที่ข้าจะคนขี้โกงนี้ ให้คนไปหาให้พบ พบตัวแล้ว จะจัดการกับมันทันที"
"เพคะ" ปิงเอ๋อร์ตอบกลับอย่างรวดเร็ว
หัวจิ้งถอนหายใจ "พี่ไป๋เอ้อร์ไม่มีความสำคัญอะไร มันก็ไม่ยากที่จะจัดการ แต่จิ้งอ๋อง… ถ้าแน่ใจว่าจิ้งอ๋องรู้เรื่องนี้ ข้าสามารถไปหาจิ้งอ๋องได้โดยตรงและถามเขาว่ามีเงื่อนไขอย่างไรบ้าง แต่ว่า ข้ากลัวว่าจิ้งอ๋องจะไม่รู้ แต่ข้ากลับรีบไปส่งมอบให้ข้อมูล เรื่องนี้ไม่สามารถทำผลีผลามได้ ข้าต้องหาเวลาดูปฏิกิริยาของจิ้งอ๋องก่อนค่อยตัดสินใจ อย่างไรก็ตาม จิ้งอ๋องไม่ใช่ผู้ที่จะทำให้ขุ่นเคืองได้ง่ายๆ"
หัวจิ้งกัดริมฝีปากของนาง และครุ่นคิดอยู่นาน ค่อยพูดว่า "เรื่องนี้จะให้เสด็จแม่รู้เรื่องไม่ได้เด็ดขาด ตอนนี้นางจิ้งจอกสนมจิ่นกำลังตั้งครรภ์ และยังอาศัยอยู่ในพระราชวังชีอู๋ดูแลครรภ์ แค่นี้ท่านก็ยุ่งยากพอแล้ว อย่าได้ให้ท่านต้องมากังวลเรื่องที่ข้าทำ ประเดี๋ยวข้าจะเขียนคำเชิญ เจ้าส่งไปที่จวนจิ้งอ๋อง ก็บอกว่าจิ้งอ๋องเป็นผู้สง่างาม ชายที่มีพรสวรรค์และหญิงที่สวยงามหลายคนในจักรวรรดิต่างชื่นไม่ง่ายเลยที่ท่านอ๋องจะกลับมาที่เมืองพระราชวัง อยากเชิญมาร่วมงานเลี้ยงเล็กๆ ที่จัดขึ้นเดือนละครั้งในเมืองพระราชวัง นอกจากนี้ยังเป็นการดีที่จะได้รู้จักกับผู้ที่มีความสามารถในรุ่นเยาว์"
ปิงเอ๋อร์ตอบรับ "เพคะ หม่อมฉันจะไปจัดการเพคะ"
หัวจิ้งพยักหน้าโบกมือให้ปิงเอ๋อร์ถอยไป จากนั้นหันกลับไปมองชิงเอ๋อร์ที่ยืนอยู่ข้างๆนาง และพูดเสียงเบาว่า "ทางฝั่งหยุนชางและหญิงเฒ่าจัดคนไปเฝ้าให้ดี ถ้ามีอะไรผิดพลาดอีก อย่าโทษข้าที่ไม่เห็นแก่ความสัมพันธ์นายและบ่าว"
ชิงเอ๋อร์ตอบกลับอย่างรวดเร็ว
"ไป นำรายชื่อที่เตรียมไว้สำหรับงานเลี้ยงเล็กในอีกเจ็ดวันมาให้ข้า"
ชิงเอ๋อร์รีบไปที่ห้องนอนและหยิบกระดาษออกมา หัวจิ้งมองดูอย่างละเอียด "เดี๋ยวไปส่งข้อความถึงซีมามา พรุ่งนี้ในเวลาเที่ยงให้ไปที่ตำหนักองค์หญิงฮุ้ยกั๋วอาศัย"
ชิงเอ๋อร์พยักหน้า หัวจิ้งจึงยืนขึ้นหยิบกระดาษและเดินไปที่ห้องนอน "วันนี้ช่างวุ่นวายเสียจริง เตรียมการมาหลายวันสุดท้ายก็ล้มเหลว"
"องค์หญิงอย่าทรงร้อนพระทัยเพคะ ตอนนี้องค์หญิงฮุ้ยกั๋วคนนี้ได้มาถึงจวนองค์หญิงแล้ว จวนองค์หญิงนี้เป็นที่ตั้งขององค์หญิง เมื่อถึงเวลานางจะถูกองค์หญิงจัดการนางได้ตามต้องการเพคะ"
ชิงเอ๋อร์รีบตามหลังหัวจิ้ง พูดด้วยความเคารพ
"หึ มันจะง่ายอย่างที่เจ้าพูดได้อย่างไร เพราะมันอยู่ในที่ของข้า ข้าควรยิ่งต้องระวัง ถ้านางเสียชีวิตในจวนองค์หญิงของข้า เมื่อถึงเวลานั้นเสด็จพ่อสืบหามูลเหตุ มันยากที่จะอธิบาย ดังนั้น… เรื่องนี้ต้องวางแผนในระยะยาว ข้าไม่ต้องการให้นางตาย แต่ข้าต้องการให้นางมีชีวิตที่เหมือนตายทั้งเป็น" ปากของฮั่วจิ้งยกยิ้มขึ้นพร้อมกับความโหดเหี้ยม
หัวจิ้งกำลังดูที่สิ่งต่างๆ สักพักก็ได้ยินเสียงถวายพระพรมาจากข้างนอก " ถวายพระพรองค์หญิงฮุ้ยกั๋ว"
หัวจิ้งเงยหน้าขึ้นและชำเลืองมองไปที่ชิงเอ๋อร์ ชิงเอ๋อร์รีบเดินไปที่ประตูและเปิดม่านดูหันหน้าไปทางหัวจิ้ง "องค์หญิง องค์หญิงฮุ้ยกั๋วมาเพคะ"
เสียงของหยุนชางดังมาจากข้างนอก "พี่หญิงอยู่หรือไม่"
หัวจิ้งยืนขึ้นและเดินออกไป "ข้าอยู่ กำลังดูการเตรียมงานเลี้ยง พักผ่อนสบายดีหรือไม่"
หยุนชางยิ้มและหัวเราะเบาๆ "ดีเพคะ" จากนั้นก็หันไปหาฉิงยีหยิบกระดาษหลายม้วนจากมือนาง พูดด้วยรอยยิ้ม "พี่หญิง ชางเอ๋อร์อยากไปเยี่ยมท่านฮูหยินจ้าว ชางเอ๋อร์เห็นว่าท่านฮูหยินไม่ค่อยชอบชางเอ๋อร์ ชางเอ๋อร์คิดว่า ไม่ควรสร้างความเดือดร้อนให้กับพี่หญิง ก่อนหน้านี้ได้ยินพี่หญิงบอกว่า ท่านฮูหยินเชื่อในพุทธศาสนา ชางเอ๋อร์ไม่เป็นอะไร แต่ตอนอยู่ที่วิหารแคว้นหนิงได้คัดพุทธคัมภีร์จำนวนไม่น้อย และมีสำเนามากมายที่สามารถดูได้จากใต้ซืออู๋น่าเท่านั้น โชคดีที่ข้าชินกับการนำพุทธคัมภีร์หลายเล่มไปทุกที่ด้วย อยากจะมอบให้กับท่านฮูหยิน"
หัวจิ้งได้ยินคำพูดนั้นยิ้มและหยิบพุทธคัมภีร์ในมือของหยุนชางเปิดออกดู และกล่าวด้วยรอยยิ้ม "ลายมือที่ชางเอ๋อร์เขียนสวยจริงๆ ไม่แพ้พี่หญิงเลยนะ กระดาษแผ่นนี้น่าจะอยู่ในดินแดนแห่งพระพุทธศาสนามานานแล้วใช่หรือไม่ มีหลิ่นไม้จันทน์จางๆ ในเมื่อชางเอ๋อร์มีใจเช่นนี้ พี่หญิงก็ไม่อาจทำให้ผิดหวัง เอาเถอะ พี่หญิงจะพาเจ้าไปเอง"
หยุนชางได้ยินคำพูดนั้น ดวงตาของนางก็เผยความดีใจเล็กน้อย "ขอบพระทัยพี่หญิงเพคะ"
"เอาล่ะ ของพวกนี้ค่อนข้างหนัก มอบให้สาวใช้ถือมันไว้เถอะ ชิงเอ๋อร์ ยังไม่รีบไปช่วยองค์หญิงหยุนชาง" หัวจิ้งหันศีรษะและมองไปที่ชิงเอ๋อร์
ชิงเอ๋อร์ได้ยิน ก็รีบก้าวไปข้างหน้าและรับกองกระดาษจากมือของหยุนชาง
"ต้องรบกวนพี่ชิงเอ๋อร์แล้ว" หยุนชางยิ้มและพยักหน้าเล็กน้อยให้ชิงเอ๋อร์และเดินตามหัวจิ้งไป
หลังจากออกจากลาน หัวจิ้งเห็นบ่าวชายหนุ่มคนหนึ่งเดินเข้ามาใกล้ในระยะไกล กวักมือเรียกให้กับบ่าวชายหนุ่มมาและถามว่า "ท่านฮูหยินตอนนี้อยู่ที่ไหน?"
บ่าวชายหนุ่มตอบทันที "ท่านฮูหยิน หลังจากกลับมาในช่วงบ่าย ท่านอยู่ในห้องพระ"
หัวจิ้งยิ้มหันหน้าไปทางหยุนชาง และพูดว่า "เจ้าช่างเลือกของขวัญได้ดีจริงๆ แม่สามีของข้า ถ้าไม่มีธุระอะไร ก็จะไปที่ห้องพระ แต่ว่า ชางเอ๋อร์ เจ้าอยู่ที่วิหารแคว้นหนิงเป็นเวลาหลายปี เจ้าคิดว่า พระพุทธเจ้าจะตอบสนองต่อคำขอจริงๆหรือไม่ ข้าไม่เชื่อมากนัก"
หยุนชางยิ้ม "มันไม่ได้วิเศษขนาดนั้นมั้งเพคะ พระพุทธเจ้า เป็นเพียงปัจจัยยังชีพทางจิตวิญญาณ ศรัทธาคือจิตวิญญาณ ความไม่เชื่อก็ไร้ผล"
เมื่อหัวจิ้งได้ยินคำนั้น ก็ยิ้มเล็กน้อยไม่พูดและเดินไปที่ห้องพระ
ก่อนถึงห้องพระก็ได้ยินเสียงเคาะปลาไม้ หัวจิ้งและคนอื่นๆ เดินไปที่ทางเข้าห้องพระ ก็เห็นพระพุทธรูปสูงเท่าคน4คนในห้องพระ หน้าพระพุทธรูป มีร่างของท่านฮูหยินที่ค่อนข้างแข็งกระด้าง
"ท่านแม่" หัวจิ้งเรียก ยืนอยู่ที่ทางเข้าห้องพระ แต่ไม่ได้เดินเข้าไป
คนที่อยู่ข้างในไม่ตอบกลับ เคาะปลาไม้อีก และสวดพระคัมภีร์สักพักแล้วค่อยพูดว่า "ช่างเป็นแขกที่หายากนัก เจ้ายากที่จะให้เข้ามาที่นี่สักครั้ง แล้ววันนี้ทำไม…"