ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง - ตอนที่ 58 ความกังวลของหัวจิ้ง
ท่านฮูหยินยิ้ม และลุกขึ้นยืนด้วยมือ หยุนชาง "ความสัมพันธ์ระหว่างผู้อาวุโสของหม่อมฉันนั้นไกลไปเล็กน้อย แต่องค์หญิงฮุ้ยกั๋วเป็นองค์หญิงขั้นหนึ่งที่ฮ่องเต้ทรงแต่งตั้ง หม่อมฉันเป็นเพียงก้าวมิ่งฟูเหรินระดับสูง แม้ว่าตำแหน่งจะสูงกว่าองค์หญิงหัวจิ้งเล็กน้อย แต่ก็ยังมีช่องว่างระหว่างองค์หญิงฮุ้ยกั๋วเพคะ หม่อมฉันควรทำความเคารพ ไม่เช่นนั้นคนอื่นๆ ก็หาว่า จวนจ้าวของหม่อมฉันไร้มารยาทเพคะ"
หยุนชางผงะเล็กน้อย คำเหล่านี้ดูเหมือนจะจงใจประชดใครบางคน หยุนชางเห็นหัวจิ้งข้างตนกำมือแน่น ก็เข้าใจทันที
หัวจิ้งเดินไปหน้าหยุนชาง ยิ้มและพูดกับจ้าวฮูหยินว่า "ท่านแม่ เวลานี้ท่านไม่ใช่พักผ่อนกลางวันหรือ ทำไมถึงมาที่นี่ได้ ข้าเป็นคนเชิญชางเอ๋อร์มาเอง ฮองเฮาตรัสว่า ชางเอ๋อร์จะออกเรือนไม่ช้าก็เร็ว เรื่องของหลังจวนก็ควรต้องรู้เรื่องสักหน่อย เพื่อที่อนาคตนางออกเรือนไปจะได้ไม่ถูกแม่สามีของไม่พอใจ ดังนั้นหัวจิ้งจึงพานางมาอยู่กับเราสักสองสามวัน และพอดีว่าอีกไม่กี่วันจะเป็นวันเกิดของท่านแม่ จึงให้ชางเอ๋อร์มาร่วมด้วย"
ท่านฮูหยินจ้าวเหลือบมองนาง รอยยิ้มประชดประชันปรากฏขึ้นที่มุมปากของนาง " จริงเหรอ ดูเหมือนว่าองค์หญิง หัวจิ้งจะไม่ได้ศึกษาให้ดีก่อนที่จะออกเรือนนะเพคะ"
หยุนชางเห็นว่าหัวจิ้งโกรธเล็กน้อย จึงยิ้ม "ก่อนที่ชางเอ๋อร์จะมาเคยได้ยินชื่อเสียงท่านฮูหยินหลายครั้ง ตอนเมื่อกี้ในหอยวี่หมั่น จิ้งอ๋องก็ยังกล่าวว่า จวนจ้าวเป็นตระกูลที่ซื่อสัตย์ภักดี ทั้งชายและหญิงต่างเป็นวีรบุรุษที่แท้จริงในสนามรบ เดิมทีอยากจะให้พี่หญิงพาหยุนชางมาคารวะท่านฮูหยิน แต่พี่หญิงบอกว่าท่านฮูหยินกำลังพักผ่อนกลางวัน เกรงว่าจะรบกวนท่านฮูหยิน ดังนั้นจึงไม่ได้ไปคารวะท่านฮูหยินก่อน หวังว่าท่านฮูหยินจะยกโทษให้ข้าด้วย"
ท่านฮูหยินจ้าวยิ้มเล็กน้อย แต่ไม่มีรอยยิ้มแม้แต่น้อยในดวงตาของนาง "ไม่เป็นไร จวนองค์หญิงนี้ไม่ใช่ที่ของตระกูลจ้าวอยู่แล้ว องค์หญิงฮุ้ยโกวเป็นคนจิตใจดี หม่อมฉันชื่นชอบเพคะ ลูกชายของหม่อมฉันไม่อยู่ หม่อมฉันก็ไม่มีอะไรต้องทำ ทุกวันทำแค่เพียงคัดพระธรรมและสวดมนต์ ได้ยินมาว่าองค์หญิงฮุ้ยกั๋วอาศัยอยู่ในวิหารแคว้นหนิงเป็นเวลาหลายปี คิดว่าท่านก็มีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับพระธรรม หากองค์หญิงว่าง มานั่งอยู่ที่สวนของหม่อมฉันก็ได้นะเพคะ"
หยุนชางตอบตกลงซ้ำๆ ท่านฮูหยินจ้าวถึงหันหลังจากไป
เมื่อท่านฮูหยินเดินจากไป หัวจิ้งยิ้มอย่างประชดประชัน "อารมณ์ของแม่สามีของข้าแปลกขึ้นเรื่อยๆ เป็นแบบนี้มาตั้งแต่ราชบุตรเขยจากไป"
หยุนชางรู้ว่านางแค่รู้สึกถูกท่านฮูหยินกระทำเช่นนี้ต่อตน กลัวเสียหน้าก็เลยออกมาเช่นนี้ จึงรีบตอบว่า "ท่านฮูหยินคงจะคิดถึงท่านราชบุตรเขยแน่เลย รักลูกสุดหัวใจ ก็พอจะเข้าใจ ได้ยินมาว่าสามีของท่านฮูหยินเสียชีวิตในสนามรบ ดังนั้นราชบุตรเขยไปอยู่สนามรบ ท่านฮูหยินจึงกังวลเช่นนี้"
"ใช่ ช่างเถอะช่างเถอะ ไม่พูดเรื่องนี้ ไปดูตำหนักของเจ้าก่อน" หัวจิ้งเปิดประตูและเดินเข้าไป
"สวนนี้ไม่มีใครพัก เมื่อก่อนมันดูร้างไปหน่อย แต่ตอนที่ข้าให้คนทำความสะอาดได้ให้พวกนางเอาดอกไม้มาวาง ตอนนี้ดูดีขึ้นบ้างแต่ว่าจะแย่กว่าวังนิดหน่อย เจ้าดูสิว่าชอบไหม?"
หยุนชางเดินตามนางเข้าไป มีดอกไม้มากมายที่ปลูกอยู่รอบๆ ถนนที่ปูด้วยหิน พวกมันเป็นดอกไม้และพืชตามฤดูกาลทั้งหมด แยกออกเป็นพื้นที่ต่างๆตามสีของดอกไม้ แลดูมีสีสันมาก มีชีวิตชีวามาก ผ่านสวนที่เต็มไปด้วยดอกไม้และต้นไม้ จากนั้นก็ผ่านซุ้มประตู ซึ่งเป็นลานที่พักอาศัย ดูสง่างามกว่ามาก มีกระถางดอกไม้สีขาวเพียงไม่กี่กระถางวางอยู่ที่มุมซึ่งดูไม่เกะกะ เมื่อเข้าไปในห้อง เห็นได้ว่าเป็นห้องส่วนตัวของหญิงสาวทั่วไป มีโต๊ะและเก้าอี้ไม้จันทน์ ที่แกะสลักลายดอกสาลี่อยู่ เผยให้เห็นความอ่อนโยนในตัวหญิงสาว
ข้างหน้าต่างไม้ไผ่ มีพู่กัน หมึกกระดาษและหินหมึกวางอยู่บนโต๊ะไม้พะยูง ม่านลูกปัดสีม่วงขึงกั้นประตูกั้นระหว่างห้องด้านนอกและห้องนอน
"ดีมาก ข้าชอบมาก ขอบพระทัยพี่หญิงเพคะ" หยุนชางยิ้มเล็กน้อย
หัวจิ้งพยักหน้า เช่นนั้นก็ดี ข้ากลัวว่าเจ้าจะไม่ชอบ เอาล่ะ ใช้เวลามานานแล้ว เจ้าจะพักผ่อนเถอะ ประเดี๋ยวข้าจะให้คนมาตามเจ้าเพื่อทานอาหารค่ำ ข้าจะให้คนรับใช้สองคนอยู่ที่ประตูตำหนักของเจ้า หากมีอะไร เจ้าให้นางกำนัลส่วนตัวของเจ้ามาสั่งพวกนางที่หน้าประตู
หยุนชางพยักหน้า "เพคะ"
หัวจิ้งพูด "อืม" "งั้นข้าจะไปก่อน ยังมีเรื่องที่ต้องจัดการ" จากนั้นนางก็พาสาวใช้จากไป
ทันทีที่หัวจิ้งจากไป เฉี่ยงอินก็หัวเราะออกมา "ฮ่าฮ่า องค์หญิง วันนี้สนุกมากเพคะ"
หยุนชางทำท่าให้เงียบ และพูดเบาๆว่า "ระวัง กำแพงมีหู"
เฉี่ยงอินรีบลดเสียงลงและพูดว่า "องค์หญิง ว่ากันว่าจิ้งอ๋องแสนเย็นชา แต่วันนี้หม่อมฉันดูแล้ว มันไม่ได้รู้สึกเหมือนตามคำบอกเล่า หม่อมฉันรู้สึกว่าท่านใจดีกับองค์หญิงนะเพคะ"
หยุนชางกลอกตา "พูดเรื่องไร้สาระอะไรกัน เขาต้องการช่วยข้าเป็นธรรมดา เพราะ…" เพราความสัมพันธ์ของพวกข้าคือต้องร่วมมือกัน
หยุนชางกำลังพูดถึงจิ้งอ๋อง และทางหัวจิ้งก็กลับไปที่ห้องของนาง สิ่งที่อยู่ในความคิดของนาง คือจิ้งอ๋องที่ปรากฏตัวขึ้นและขัดขวางแผนการของนาง
"ปิงเอ๋อร์กลับมาแล้วเหรอยัง" หัวจิ้งหันไปถามสาวใช้ข้างหลัง
"ทูลองค์หญิง ยังไม่ได้กลับมาเพคะ จวนองค์หญิงถึงหอยวี่หมั่นมีระยะทางควร หม่อมฉันคาดว่าจะต้องใช้เวลาสักพัก" สาวใช้ตอบอย่างรวดเร็ว
หัวจิ้งขมวดคิ้ว นั่งลงที่โต๊ะหยิบชาบนโต๊ะแล้วจิบ "ท่านฮูหยิน ไม่ได้อยู่ในห้องพระสวดมนต์หรอกหรือ ทำไมวันนี้จู่ๆถึงออกมาได้ พวกเจ้าก็ไม่รายงานให้ข้าสักคำ"
สาวใช้คุกเข่าลงอย่างรวดเร็ว "ขอองค์หญิงประทานอภัยด้วยเพคะ เหตุเพราะเกิดขึ้นกะทันหัน วันนี้ท่านฮูหยินระหว่างหลับกลางวัน พอหลับได้ไม่นานก็ตื่น บอกว่าฝันร้าย ฝันว่าราชบุตรเขยได้รับบาดเจ็บ เมื่อตื่นขึ้นไม่หลับไม่ลงเพคะ จึงพาสาวใช้ออกมาเดินเล่น แต่พบองค์หญิงพาองค์หญิง หยุนชางมา แต่หม่อมฉันก็งงเช่นกัน ท่านฮูหยินไม่เคยพบองค์หญิงหยุนชางมาก่อน นางรู้ได้อย่างไรว่าเป็นองค์หญิงหยุนชาง"
หัวจิ้งยิ้มอย่างเย็นชา "แน่นอนว่าเจ้าต้องสงสัย แต่อย่าดูถูกหญิงเฒ่านั่น แม้แต่เสด็จแม่ก็บอกว่านางไม่ธรรมดา ข้าประมาทไปแล้ว ดูเหมือนว่า ในจวนนี้ยังมีคนไม่ซื่อกับข้า เป็นเรื่องแปลกจริงๆ บ่าวรับใช้ในจวนองค์หญิงนี้ทั้งหมด ข้าเป็นคนถูกเลือกด้วยตัวเอง ข้าได้ตรวจสอบบรรพบุรุษของพวกนางแต่ละคนอย่างชัดเจน ทำไมหญิงเฒ่ายังสามารถรุกรานกับข้าได้อย่างไร?"
"องค์หญิงอย่าเกรี้ยวเลยเพคะ"
หัวจิ้งทำเสียงเชอะ "อย่าโกรธ? ข้าไม่เข้าใจ ข้าเป็นถึงองค์หญิง แต่งงานกับตระกูลจ้าวที่ยากจน นางควรจะขอบคุณสำนึกบุญคุณถึงจะถูก ทำไมนางถึงมีปัญหากับข้าอยู่เสมอ? แล้วจ้าวจงอี้ คนบ้าบิ่นที่รู้เพียงแต่นำทหารไปออกศึก ข้าไม่รู้ว่าเสด็จพ่อชื่นชอบอะไรในตัวเขา? แม้แต่เสด็จแม่ก็ยอมให้ข้าแต่งงานด้วย!"
สาวใช้คุกเข่าและพูดด้วยเสียงเบา "องค์หญิง ฮองเฮาตรัสว่าจ้าวจงอี้เป็นนายพลที่เก่งกาจ หลายชั่วอายุคนของตระกูลหลี่สามารถรับราชการเป็นขุนนางพลเรือนได้เท่านั้น อย่างไรก็ตามในแคว้นหนิง จุนนางทหารมีน้ำหนักมากกว่า หากสามารถหาทางผูกมัดใจตระกูลจ้าวได้ สามารถได้รับอำนาจทางทหารครึ่งหนึ่งในราชสำนัก เมื่อเป็นเช่นนั้น จะไม่มีใครมาสั่นคลอนตำแหน่งของตระกูลหลี่ได้เพคะ"
หัวจิ้งทำเสียงอย่างเย็นชา "ตระกูลหลี่ตระกูลหลี่ แต่นามสกุลของข้าคือหนิง"
"องค์หญิง ปิงเอ๋อร์กลับมาแล้วเพคะ" มีเสียงทุ้มต่ำจากด้านนอก หัวจิ้งถอนหายใจ เก็บอารมณ์ พูดด้วยเสียงต่ำว่า "เข้ามาเถอะ"
ทันทีที่ปิงเอ๋อร์เข้ามาในห้องโถงด้านใน นางก็รีบพูดว่า "องค์หญิง เมื่อกี้หม่อมฉันได้ถามเถ้าแก่ร้านแล้ว จิ้งอ๋องได้ไปถึงก่อนท่านเพคะ"