ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง - ตอนที่ 526 หยุนชางเข้าคุก
ฮองเฮายิ้มอย่างเย็นชาและหันศีรษะแล้วตรัสว่า “ฝ่าบาท ยาที่หยุนซีทานในช่วงนี้ ถูกส่งมาที่วังโดยพระชายารุ่ย ได้โปรดคุมตัวพระชายารุ่ยเข้าคุก แล้วไตร่สวนเพคะ”
เซี่ยหวนอวี่ลูบแหวนหยกบนนิ้วหัวแม่มือ ดวงตาของเขาจับจ้องไปที่หยุนชาง จากนั้นก็พยักหน้า “คุมตัวลงไปเถอะ หลิวเหวินอันไปแจ้งรุ่ยอ๋องด้วย”
หลิวเหวินอันตอบรับ แล้วรีบออกจากห้องโถง ทหารรักษาการณ์ที่อยู่ข้างๆเดินไปหาหยุนชาง โค้งคำนับให้หยุนชางแล้วกล่าวว่า “พระชายารุ่ย เชิญพ่ะย่ะค่ะ”
หยุนชางยิ้มเยาะเย้ย และพยักหน้า “ต้องขอรบกวนพวกเจ้านำทางแล้ว”
แม้ว่าจะอยู่ในคุกหลวง แต่ดูเหมือนว่าเซี่ยหวนอวี่ได้ทรงออกคำสั่งพิเศษ หยุนชางรู้สึกว่าสภาพแวดล้อมในห้องคุกหลวงดีกว่าห้องขังทั่วไปมาก ไม่มีความชื้น ผ้าห่มและหมอน ดูเหมือนเป็นของใหม่
ทหารรักษการณ์นำหยุนชางเข้ามาและกล่าวอย่างเร่งรีบว่า “ฝ่าบาททรงรับสั่งว่าเรื่องนี้จะได้รับการไตร่สวนโดยเร็วที่สุด พระชายาไม่น่าจะอยู่ในคุกแห่งนี้นานนัก เพราะเวลาเร่งรีบเล็กน้อย อาจเตรียมไม่ครบถ้วน ถ้าพระชายาต้องการอะไร ก็แจ้งกับผู้คุมเถอะ”
หยุนชางผงะไปครู่หนึ่ง ครุ่นคิดในใจว่า เมื่อก่อนเซี่ยหวนอวี่ไม่ใช่ไม่ชอบนางมากหรือ? แต่ทำไมในครั้งนี้ดูเหมือนกำลังช่วยนาง?
หยุนชางยิ้มอย่างเย็นชา ส่ายหัวและกล่าวว่า “ไม่เป็นไร”
ในทหารรักษการณ์คำนับให้หยุนชางและถอยออกไป
หยุนชางยิ้มอย่างเย็นชา เดินไปข้างผ้าห่มแล้วนั่งลง หลับตา ครุ่นคิดถึงทุกสิ่งในวันนี้ และเชื่อมโยงสาเหตุ และผลที่ตามมาทีละขั้น
ครั้งก่อนตอนที่เซี่ยหยุนซีถูกวางยาพิษ ฮองเฮารู้ว่านางมีทักษะทางแพทย์ ฮองเฮาได้ล่อนางด้วยการสานพันธมิตรก่อน แล้วจึงปล่อยเบี้ยต่อรองของนางออกมา โดยบอกว่าชิงหมิงเป็นคนของนาง ตราบเท่าที่นาง ทำให้ชิงหมิวได้เป็นนางสนมของเซี่ยหวนอวี่ นางมีวิธีที่จะทำให้เสิ่นซู่เฟยไม่สามารถพลิกตัวได้อีก อีกอย่างเซี่ยหวนอวี่ชัดเจนมากเกี่ยวกับทุกการเคลื่อนไหวในวัง และมันไม่ง่ายเลยที่จะปิดบังเขา และหยุนชางคือพระชายารุ่ย ตอนนี้รุ่ยอ๋องเป็นที่โปรดปราน นางมีอิสระมากขึ้น ใช้โอกาสนี้ให้หยุนชางนำยาเสน่ห์เข้าวัง นางสนมที่ถามหยุนชางก่อนหน้านี้ว่าทำไมนางถึงไปที่วังเว่ยยางบ่อยๆเกรงว่าคงเป็นคนของฮองเฮาเช่นกัน และฮองเฮาก็เป็นคนที่คิดรอบคอบมาก คิดว่าหยุนชางจะตอบอย่างไรนางก็คงได้คิดไว้หมดแล้ว
หยุนชางเข้าไปในกับดักของฮองเฮาทีละนิด แต่ฮองเฮาได้ติดต่อกับเสิ่นซู่เฟยเป็นการส่วนตัว และสร้างพันธมิตรกับเสิ่นซู่เฟย ถ้าจะว่าผู้ที่เซี่ยหวนอวี่จะไม่ป้องกันที่สุด นอกจากหลิวเหวินอันแล้ว เกรงว่าจะเป็นเสิ่นซู่เฟยที่ไม่มีครอบครัวคอยสนับสนุน แต่มีบุตรที่ต้องกังวล และไม่นานมานี้เพิ่งมีเรื่องใหญ่ก็เกิดขึ้นในเผ่าของนาง ดังนั้นแผนการจากตำหนักซู่หย่านั้นเป็นเรื่องที่ง่ายดายมาก นางกำนัลซึ่งมีช่องโหว่บ่อยครั้งในคำให้การ ไม่ได้ไร้ประโยชน์จริงๆ นางดูเหมือนดึงปิ่นทองหุ้มหยกออกมา ล่อให้หมอหลวงตรวจดูผงยา และบอกเซี่ยหวนอวี่ว่า นั่นไม่ใช่ยาเสน่ห์ธรรมดา แต่เป็นผงห้าศิลา
ผงห้าศิลาเป็นยาต้องห้ามในวัง และมันทำให้เสียสมาธิ เซี่ยหวนอวี่รู้ว่าของที่ชั่วร้ายนี้ถูกใช้กับเขาจริงๆ แน่นอนว่าในใจของเขาจะต้องโกรธมาก เมื่อคนๆหนึ่งโกรธขึ้นมา ก็จะสูญเสียสติตามปกติได้ง่ายดาย ในเวลานี้ ให้คนรายงานว่าเซี่ยหยุนซี ได้ถูกวางยาผงห้าศิลา และผงห้าศิลาถูกผสมในยาที่หยุนชางส่งเข้าวังเพื่อมอบเซี่ยหยุนซี เซี่ยหวนอวี่คงจะต้องโกรธมากขึ้น
ในตำหนักเว่ยยาง แน่นอนว่าพยานและหลักฐานเพียงพอ เพียงพอที่จะตัดสินความผิดของหยุนชาง
มุมปากของหยุนชางกระตุกเล็กน้อย และหลับตาครุ่นคิด สงสัยว่าหลักฐานที่ฮองเฮาได้เตรียมให้นางมีอะไรบ้าง? ก่อนอื่นให้พิสูจน์ว่ายาถูกส่งมายังวังโดยหยุนชางพิสูจน์ได้ง่ายมาก เพียงแค่ถามนางสนมที่มักจะอยู่ในตำหนักเซียงจู๋ ใครบางคนจะออกมาเป็นพยานและอาจจะมีมากกว่าหนึ่งคน
ประการที่สอง จะต้องพิสูจน์ว่ายาที่หยุนชางส่งเข้ามาในวังแต่เดิมนั้น ถูกนำมาพร้อมกับ ผงห้าศิลาและไม่มีใครเพิ่มเข้าไปในภายหลัง อันที่จริง นี่ไม่ใช่เรื่องยาก ตราบใดที่มีเจ้าของร้านยาในเมืองจิ่นพิสูจน์ให้เห็นว่าหยุนชางซื้อผงห้าศิลาจากเขา หรือวัตถุดิบที่สามารถแปลงเป็นผงห้าศิลาได้
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้หยุนชางอดหัวเราะไม่ได้ ที่แท้ มันไม่ยากเลยที่จะต้องการชีวิตของนาง
ขณะที่นางหลับตากำลังคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงอย่างเย็นชา หยุนชางลืมตาขึ้นทันที และเห็นลั่วชิงเหยียนยืนอยู่นอกประตูเหล็กพร้อมกับขมวดคิ้ว ในใจของหยุนชางมีความสุขมาก รีบยืนขึ้นอย่างรวดเร็วและกำลังจะพูด แต่ได้ยินเขาถอนหายใจ “เจ้ามักจะทำตัวฉลาด และไม่ยอมบอกอะไรข้าเลย ถ้าฝ่าบาทไม่ส่งคนมาบอกข้า ข้าคงไม่รู้เรื่อง เจ้าที่ยังดีๆในตอนเช้านี่ยังไม่ข้ามวัน ทำไมถึงได้เข้ามาอยู่ในคุกแล้วล่ะ”
หยุนชางกระพริบตาเมื่อได้ยินคำพูดนั้น และหัวเราะอย่างประจบเล็กน้อย “ท่านอ๋องไม่ต้องกังวล เรื่องนี้อยู่ภายใต้การควบคุมของข้าแล้ว วางใจเถอะ ไม่มีอะไรเกิดขึ้นแน่”
“ทั้งหมดอยู่ในการควบคุม?” ลั่วชิงเหยียนเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ “ในเมื่อเจ้าควบคุมได้ทำไมเจ้าถึงตกอยู่ในสภาพกระเซอะกระเซิงนี้ได้ล่ะ?”
หยุนชางหรี่ตาลงมองตัวเอง ชุดสีชมพูปักดอกท้อบนตัวนางไม่ได้เลอะเทอะ และก็ยกมือขึ้น เริ่มแตะมวยผมของตัวเองก็ไม่มีอะไรผิดปกติ แต่นางไม่รู้ว่าเขาหมายถึงอะไร ถึงได้บอกว่านางมีสภาพกระเซอะกระเซิง
แม้ว่าในใจจะคิดเช่นนั้น แต่หยุนชางก็ไม่กล้าพูดเช่นนั้น ดังนั้นเขาจึงหรี่ตาลงและยิ้มเบาๆ
ลั่วถอนหายใจอีกครั้งเมื่อเห็นสิ่งนี้ แล้วกล่าวว่า “ฝ่าบาทได้ส่งคนไปตรวจสอบแล้ว เกรงว่าอีกสักครู่จะพาเจ้าไปสอบสวน ข้าทุ่มเทมากมายถึงได้เข้ามาดูเจ้า ประเดี๋ยวเจ้ามีแผนอะไร มีที่ใดที่เจ้าต้องการให้ข้าช่วยตอนนี้หรือไม่?”
หยุนชางรู้สึกอบอุ่นในใจ เอียงศีรษะครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเดินไปที่กรงเหล็ก ดึงลั่วชิงเหยียนและแนบไว้กับนาง พูดบางอย่างที่ข้างหู หลังจากนั้นไม่นาน นางก็ถอยกลับและพูดเบาๆ กับลั่วชิงเหยียนด้วยรอยยิ้มว่า “ต้องขอบคุณสามีของข้าแล้วเจ้าค่ะ”
หยุนชางไม่ค่อยเรียกลั่วชิงเหยียนว่าสามี ตอนนี้แม้ว่านางจะเรียกเขาด้วยรอยยิ้มเยี่ยงนี้ ลั่วชิงเหยียนก็อดไม่ได้ที่จะตะลึง หลังจากเงียบไปนาน เขาก็พยักหน้าและกล่าวว่า “ข้ารู้แล้ว เจ้าเองก็ต้องระวังให้มากกว่านี้ แม้ว่าตอนนี้จะรู้ในสิ่งที่ฮองเฮาทำ อยากจะใส่ร้ายเจ้า ให้เจ้ารับโทษ แต่ก็ต้องป้องกันไม่ให้กลายเป็นหมาจนตรอก ใช้โอกาสที่เจ้าอยู่ในคุกหลวง แล้วกำจัดเจ้าทิ้ง”
หยุนชางตอบรับ ลั่วชิงเหยียนมองไปที่หยุนชางและหันหลังกลับจะจากไป แต่เขาหยุดอีกครั้ง หันกลับมาหยิบยาเม็ดขนาดเท่าหัวแม่มือสีดำจากแขนเสื้อและส่งให้หยุนชาง
“ข้าวางคนเฝ้าอยู่ใกล้ๆคุกหลวงนี้ ถ้ามีเรื่องด่วน เจ้าก็คว้าสิ่งนี้ลงกับพื้น และพวกเขาจะสามารถเข้ามาช่วยได้ทันเวลา” ลั่วชิงเหยียนกล่าวอย่างแผ่วเบา
หยุนชางยิ้มและพยักหน้า “เพคะ ข้าเข้าใจแล้ว”
ลั่วชิงเหยียนจึงหันหลังกลับและจากไป
หยุนชางรู้สึกว่างตอนที่อยู่ในคุกหลวง ก็เอนหลังนอนบนผ้าห่ม และหลับตาเพื่อพักสมอง หลังจากนั้นสักพัก หยุนชางรู้สึกปวดเหมือนถูกแทงที่หลังเล็กน้อย เบาจนไม่รู้สึกตัว ทั้งร่างของหยุนชางขนลุกซู่ นางจึงรีบลุกขึ้นยืนและดูไปที่ผ้าห่ม แต่ก็ไม่มีอะไรผิดปกติ…