ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง - ตอนที่ 51 ฉิงเมิ่งได้รับการแต่งตั้ง
อะไรนะ? ฮ่องเต้?
ทุกคนตกใจมาก กำลังจะเข้าไปเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ก็ได้ยินเสียงอันแหบๆ ว่า "ฮองเฮา เจ้าพูดว่าใครเป็นชายโฉดหญิงชั่ว?"
ฮองเฮาได้ยินเสียงที่คุ้นเคยนี้ นางก็ตกตะลึง หลังจากมีกาตอบสนอง ก็รีบคุกเข่าลงทันที "หม่อมฉันไม่ทราบว่าเป็นฝ่าบาท ขอฝ่าบาทประทานอภัยด้วยเพคะ"
จักรพรรดิหนิงได้ยิน มีความโกรธในน้ำเสียงของเขา "ไสหัวไป ไม่มีธุระอะไรก็อย่ามารบกวนข้ากับซูจิ่น"
ฮองเฮาโบกมือไปด้านหลัง นางสนมที่อยู่ด้านหลังก็รีบออกจากตำหนัก ฮองเฮาก็หันหันกำลังจะไป แต่ก็ชะงัก "ซูจิ่น?"
ฮองเฮาหันศีรษะกลับมา พูดอย่างไม่เข้าใจ "ฝ่าบาท หญิงที่อยู่ข้างท่านไม่ใช่สนมจิ่น แต่เห็นได้ชัดว่านางเป็นนางกำนัลในตำหนักของหม่อมฉัน ฉิงเมิ่ง?"
จักรพรรดิหนิงได้ยินเข้า กำลังจะพูดอย่างโกรธเกรี้ยว แต่พอเห็นใบหน้าของหญิงสาวในอ้อมแขนของเขา อึ้งไปชั่วขณะ ใช้เวลาพอสมควรถึงได้สติกลับมา จึงผลักฉิงเมิ่งออกไป "นี่เป็นใครกัน? ซูจิ่นของข้าล่ะ?"
ได้ยินเสียง "อ๊ะ" พอฉิงเมิ่งตื่นขึ้นมาอย่างงัวเงียโดยมีเพียงผ้ารัดหน้าท้อง ดูเหมือนว่านางจะไม่เห็นสถานการณ์ตรงหน้าอย่างชัดเจน ร้องออกมาเบาๆ ว่า "เจ็บ" หลังจากเห็นใบหน้าของผู้คนตรงหน้า นางก็หน้าซีดและทรุดลงคุกเข่า "หม่อมฉันถวายพระพรฮ่องเต้ ถวายพระพรฮองเฮา ถวายพระพรองค์หญิงหยุนชาง"
ฮ่องเต้หนิงมองไปที่ฉิงเมิ่ง ด้วยสายตาเจตนาฆ่า "เป็นเจ้าได้ยังไง ข้าจำได้ชัดเจนเลยว่า เมื่อคืนเป็นซูจิ่น… "
ฉิงเมิ่งได้ยิน ก็พูดพร้อมน้ำตาที่ไหลออกมา "ทูลฝ่าบาท เพราะเมื่อสองสามวันก่อนหม่อมฉันบาดเจ็บที่ขา ไม่สามารถรับใช้นายได้ ถูกฮองเฮาพาไปที่พระราชวังชีอู๋ หม่อมฉันรู้สึกขอบพระทัยสำหรับความเมตตาของฮองเฮา รู้สึกว่าตัวเองไร้ประโยชน์ ข้ารู้สึกว่าตนเองช่างน่าสมเพช จึงรอโอกาสไม่มีใครสนใจแอบออกจากพระราชวังชีอู๋ เพื่อต้องการฆ่าตัวตาย แต่ไม่คิดว่าจะพบฮ่องเต้ ฮ่องเต้เข้ามาก็กอดหม่อมฉันไว้ เรียกหม่อมฉันว่าซูจิ่น หม่อมฉันพูดตลอดว่าหม่อมฉันไม่ใช่ แต่ก็ยัง…" ฉิงเมิ่งร้องไห้และคำนับ "ขอฝ่าบาทประทานอภัยโทษด้วยเพคะ ขอฮองเฮาประทานอภัยโทษให้หม่อมฉันด้วยเพคะ…"
จักรพรรดิหนิงได้ยิน ก็มีเส้นเลือดโผล่บนหน้าผาก ลุกขึ้นอย่างทันที รู้สึกกระวนกระวายเล็กน้อย ในทันใดเขาสะดุดเล็กน้อย ชี้ไปที่ฮองเฮาและตรัสว่า "ทั้งหมดนี้เป็นเพราะเจ้า ให้ข้าดมกลิ่นธูปเหอฮวง…"
ฮองเฮาคุกเข่าลงบนพื้นและพูดซ้ำๆ ว่า "หม่อฉันผิดไปแล้ว หม่อมฉันผิดไปแล้ว"
เมื่อหยุนชางเห็นว่าฉิงเมิ่งพูดในสิ่งที่ตนได้สอนในเมื่อวาน นางก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจอย่างชื่นชม แสดงเก่งจริงๆ ไม่น่าแปลกใจเลยที่ข้าเกือบจะโดนนางหลอกเมื่อหลายปีก่อน
"เสด็จพ่อ…" หยุนชางกล่าว
จักรพรรดิหนิงเพิ่งสังเกตเห็นหยุนชาง และอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วอีกครั้ง "ทำไมชางเอ๋อร์ถึงมาอยู่ที่นี่ด้วย"
หยุนชางตอบกลับว่า "ฉิงเมิ่งคนนี้ เดิมเป็นนางกำนัลข้างกายชางเอ๋อร์ เมื่อไม่นานมานี้ชางเอ๋อร์ได้ไปหาเสด็จอาที่จวน เพื่อหาหมอเทวดารักษาโรค ฉิงเมิ่งบังเอิญบุกเข้าไปในพื้นที่ต้องห้ามของเสด็จอา ถูกเสด็จอาตีจนขาหัก นางจึงถูกเสด็จแม่รับตัวไปเพคะ"
"หยุนชางก้าวไปข้างหน้า หยิบเสื้อผ้าขึ้นมาและนั่งลงข้างฉิงเมิ่ง ช่วยฉิงเมิ่งใส่เสื้อ หันศีรษะและพูดกับฮ่องเต้หนิงว่า "เสด็จพ่อ เรื่องถึงขั้นนี้แล้ว ตอนนี้มันสายเกินไปที่จะหาว่าใครเป็นฝ่ายผิด ฉิงเมิ่งไม่ได้ผิดอะไร จัดีไหมถ้าเสด็จพ่อแต่งตั้งฉิงเมิ่งเป็นฉางจ้าย
หรือเหม่ยเหรินอะไรก็ได้ ก็ให้มันจบๆไป อย่าได้หมางใจกับเสด็จแม่เพราะเรื่องเล็กน้อยนี้เลยเพคะ"
จักรพรรดิหนิงมองไปที่หยุนชางสักพัก ก่อนที่จะพูดว่า "ก็ทำตามที่ชางเอ๋อร์พูดเถอะ แต่งตั้งเป็นฉางจ้าย ฮองเฮาดูว่าตำหนักใดว่างอยู่ ก็จัดให้ไปอยู่เถอะ"
หลังจากพูดจักรพรรดหนิงก็จัดเสื้อผ้าบนร่างกายของเขา หันหลังจากไป
ฮองเฮาจ้องมองไปที่ฉิงเมิ่งเป็นเวลานาน และมีความเย็นชาในดวงตาของนาง "ตำหนักเหยากวงของหยิงเจี๋ยยวี๋ยังมีตำหนักด้านข้าง เจ้าไปพักที่นั่น" หลังจากพูดแล้วนางก็หันหลังจากไป
เมื่อรอฮองเฮาจากประตูตำหนักไป ไม่เห็นร่างฮองเฮาแล้ว ฉิงเมิ่งล้มลงกับพื้นอย่างปวกเปียก ดวงตาของนางว่างเปล่า ราวกับว่าจิตวิญญาณของนางถูกดึงออกไปแล้ว
หยุนชางยิ้มเล็กน้อย "หยุนชางขอแสดงความยินดีกับฉางจ้าย ฉิงยี เฉี่ยงอินส่งฉางจ้ายไปที่ตำหนักเหยาวกวงด้วย"
ฉิงเมิ่งเงยหน้าขึ้นมองไปที่หยุนชางและพูดเบาๆ "ขอบพระทัยเพคะ" แล้วฉิงยีและเฉี่ยงอินช่วยพยุงนางเดินไปที่ด้านนอกของตำหนัก
หยุนชางยืนขึ้นและยิ้มที่มุมปากของนาง "ฮองเฮา ดูคนที่ตนปลูกฝังมาแล้วกลายเป็นหนามในหัวใจ ความรู้สึกนี้อึดอัดมากใช่ไหม คอยดูเถอะ หนามนี้จะหยั่งรากที่ปลายหัวใจของท่าน แล้วกลายเป็นอาวุธที่ทำร้ายตัวท่านได้"
หยุนชางหัวเราะ ยืนอยู่ที่นั่นสักพัก ก่อนจะกลับไปที่ตำหนักชิงซินอย่างสบายๆ
ไม่นานหลังจากที่หยุนชางมาถึงตำหนักชิงซิน ฉิงยีและเฉี่ยงอินก็กลับมาเช่นกัน ฉิงยียิ้มและพูดว่า "ครั้งนี้ ไม่ว่าจะยังไงฝองค์หญิงได้ช่วยฉิงเมิ่ง ทำให้นางที่เป็นนางกำนัลได้กลายเป็นนาย นางจะต้องติดตามองค์หญิงอย่างสุดจิตสุดใจอย่างแน่นอน"
หยุนชางส่ายหัว "คนอย่างฉิงเมิ่ง ไม่มีวันพอใจในสิ่งที่มี คนเช่นนี้ ซื้อใจได้ง่าย แต่อย่าคิดว่านางจะภักดีต่อเจ้าตลอดไป นางเป็นเพียงภักดีเพื่อตัวนางเองเท่านั้น"
"แล้วองค์หญิงทำไมคุณถึงต้องช่วยนางด้วยเพคะ?" เฉี่ยงอินสับสนเล็กน้อย
"เพราะ ถ้าเป็นเช่นนี้ นางและฮองเฮาจะไม่มีวันร่วมมือได้อีกต่อไป อีกอย่าง ฮองเฮาจะถือว่านางเป็นหนามในสายตาของนาง หากฉิงเมิ่งที่จะปีนขึ้นไป นางจะต้องพึ่งคน และก็ ต้องการจัดการฮองเฮา ณ จุดนี้ เป้าหมายของข้าและนางก็สอดคล้อง" สัมผัสของความเป็นศัตรูในดวงตาของหยุนชาง หายวับไปทันที
ฉิงยีพยักหน้า ช่วยหยุนชางรินชาจากนั้นกล่าวว่า "องค์หญิง เรื่องเสี่ยวหลินจื่อที่ให้หม่อมฉันไปตรวจสอบ หม่อฉันได้ข้อมูลแล้วเพคะ และพบตัวเสี่ยวหลินจื่อแล้ว ตอนนี้เขาอยู่ในแผนกซักล้าง ทำงานทั่วไป เช่นแบกน้ำและทำไม้ค้อน องค์หญิงไม่ได้สั่ง
หม่อมฉันก็ไม่กล้าถามเขา แต่คนในแผนกซักล้างบอกว่าเมื่อเจ็ดปีก่อนหลังจากที่องค์หญิงจากไป เขาถูกฉิงเมิ่งส่งไป"
"ดูจากเช่นนี้ เสี่ยวหลินจื่อไม่ใช่คนของฮองเฮา หลายปีมานี้เขาต้องลำบากแล้ว อย่างไรก็ตาม แผนกซักล้างแห่งนี้…" หยุนชางไต่ตรองครู่หนึ่งและพูดว่า "เจ้าช่วยให้เขามาพบข้าที เร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งดี"
ฉิงยีตอบรับ "ถ้าเช่นนั้นหม่อมฉันจะไปจัดการเลยเพคะ" จากนั้นก็ก้าวถอยหลังออกไป
เฉี่ยงอินกล่าวอีกครั้ง "หลังจากที่หม่อมฉันและพี่ฉิงยีส่งฉิงเมิ่งไปที่ตำหนักเหยากวง ได้ยินว่าฮองเฮาถูกสั่งให้กักบริเวณอีกครั้ง หม่อมฉันคิดว่า เรื่องในวันนี้ ฮองเฮาจะไม่ยอมวางมืออย่างแน่นอน ถ้าหากว่าฮองเฮาถามขึ้นมา หม่อมฉันควรตอบอย่างไรดีเพคะ?"
"เจ้าก็บอกว่า ไม่พบว่าข้าผิดปกติอะไร ยังบอกว่า เจ้าพยายามทดสอบดูหลายครั้ง ดูเหมือนข้าจะไม่รู้ว่าฉิงเมิ่งเป็นคนของฮองเฮา และยังคงรู้สึกเสียดายที่นางจากไป ก่อนหน้านี้ ข้ายังบ่นว่าอยากจะไปขอให้หมอเทวดาเสวี่ยเหยียนในจวนจิ้นอ๋องมาช่วยฉิงเมิ่งดูขาของนาง"
"หม่อมฉันเข้าใจแล้วเพคะ" เฉี่ยงอินยิ้มเล็กน้อย พร้อมกับแผนการในใจของนาง