ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง - ตอนที่ 43 กระดานหมากของฮองเฮา
ในวังชีอู๋ ซิ่วซินเดินอยู่ด้านนอกอย่างเร่งรีบ "เหนียงเหนียงอยู่ที่ไหน?"
นางกำนัลที่อยู่ด้านข้างรีบพูด "อยู่ที่หอพระเจ้าค่ะ"
เมื่อซิ่วซินได้ยินดังนั้นก็พยักหน้าและเดินไปที่หอพระโดยไม่หยุดฝีเท้า ในหอพระควันกำยานลอยคละคลุ้ง มีเพียงเสียงปลาไม้ดังกังวานแว่วมา ฮองเฮาหยวนเจินคุกเข่าอยู่หน้าแท่นบูชา หลับตาและสวดมนต์อยู่อย่างเงียบๆ
เสียงฝีเท้าทำลายความเงียบของหอพระลง ฮองเฮาหยวนเจินไม่ขยับตัว ยังคงเคาะปลาไม้เบาๆอยู่ดังเดิม
"เหนียงเหนียง องค์หญิงฮุ่ยกั๋วกลับมาแล้วเพคะ" เสียงของซิ่วซินมีแววหอบเล็กน้อย ดูเหมือนนางจะรีบวิ่งมาอย่างรีบร้อน
มือของฮองเฮาหยวนเจินชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นก็มีเสียงเคาะปลาไม้ดังเป็นจังหวะขึ้นอีกครั้ง "ไม่ใช่ว่าไปหาหมอที่จวนจิ้งอ๋องหรือ? ทำไมถึงกลับมาเร็วนัก? กลับมาแล้วก็กลับมาเถอะ"
ซิ่วซินพูดขึ้นอีก "เมื่อครู่ข้าเห็นว่าขันทีของตำหนักชิงซินไปที่ประตูวังแล้ว ข้าจึงตามไปดู เห็นว่าเด็กฉิงเมิ่งนั่นถูกหามลงมา ไม่รู้ว่านางเป็นอะไร ราวกับไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ ข้าจึงหาคนไปสอบถามขันทีจากตำหนักชิงซินได้ความว่าฉินเมิ่งรุกล้ำเข้าไปในเขตต้องห้ามในจวนจิ้งอ๋อง จึงถูกจิ้งอ๋องหักขา"
เสียงเคาะปลาไม้หนักขึ้นมาหนึ่งทีจากนั้นก็เงียบไปอยู่นานก่อนที่จะได้ยินเสียงของฮองเฮาหยวนเจินดังขึ้น "อะไรนะ? ฉินเมิ่งถูกหักขา? จิ้งอ๋อง?"
ซิ่วซินตอบรับ "เพคะ คนในตำหนักชิงซินกล่าวเช่นนั้น"
" ไร้ประโยชน์!" ค้อนไม้ถูกปาลงกับพื้นอย่างแรง ฮองเฮาหยวนเจินยกปลาไม้และยืนขึ้นอย่างกะทันหัน "ไปตรวจสอบมาให้แน่ชัดว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ คนจากตำหนักชิงซิน จวนจิ้งอ๋อง ไปถามมาให้หมด หมากที่ข้าวางมาหลายปีจู่ๆจะถูกทำลายไปอย่างไร้เหตุผลได้อย่างไร?"
ซิ่วซินรับคำอย่างรวดเร็วและรีบออกจากหอพระไป
ความเงียบสงบกลับคืนมายังหอพระ หลังจากนั้นสักพัก ฮองเฮาหยวนเจินก็เปล่งเสียงที่อัดอั้นใจออกมา "จิ้งอ๋อง เจ้ากับข้าไม่ได้มีความแค้นใดๆต่อกัน แต่เจ้ากลับทำลายแผนการของข้า หากเจ้าไร้คุณธรรมก็อย่าหาว่าข้าไร้ความปราณีก็แล้วกัน"
ณ ตำหนักชิงซิน หมอหลวงเดินไปมาไม่หยุด หยุนชางยืนอยู่ที่ห้องพักนางกำนัลอย่างกระวนกระวายเล็กน้อย จากนั้นไม่นานก็เห็นหมอหลวงเดินออกมา หยุนชางก็รีบเข้าไปหา "ท่านหมอ ขาของฉินเมิ่งเป็นอย่างไรบ้าง?"
เมื่อได้ยินเช่นนั้นหมอหลวงก็ส่ายหน้าและตอบว่า "เกรงว่าจะพิการ กระดูกหักแล้ว ข้าและเหล่าหมอหลวงจัดการโดยใช้แผ่นไม้ดามกระดูกไว้ ผ่านไปสองสามเดือนกระดูกอาจจะเชื่อมกันได้ใหม่ แต่เท้าคงจะง่อยเล็กน้อย เมื่อฝนตกก็จจะปวดมาก ไม่สามารถเดินนานเกินไปหรือทำงานหนักเกินไป"
หยุนชางได้ยินดังนั้นก็ถอนหายใจเบาๆ "เพราะข้าไม่ดีเอง หากข้าไม่พานางไปที่จวนจิ้งอ๋องก็คงจะไม่เกิดเรื่องเช่นนี้ ท่านหมอโปรดรักษาสุดกำลังเถอะ ลดความเจ็บปวดของนางให้ได้มากที่สุด"
หมอหลวงพยักหน้า "หม่อมฉันเข้าใจแล้วพ่ะย่ะค่ะ"
หยุนชางเดินเข้าไปในห้องของฉินเมิ่ง นางนอนอยู่บนเตียง มีเลือดแห้งติดอยู่บนกระโปรงและผ้าห่ม นางยังไม่ฟื้นขึ้นมา คิ้วขมวดแน่นราวกับกำลังเจ็บปวดมาก
หยุนชางยืนอยู่ข้างเตียงและมองดูนางสักพักก่อนจะกลับไปที่ห้องโถงใหญ่
ในตอนกลางคืนของวันนั้น มีเสียงดังจากข้างนอกปลุกหยุนชางให้ตื่นขึ้น หยุนชางเรียกฉิงยีและขอให้นางออกไปดูข้างนอก เมื่อฉิงยีกลับมาจึงได้รู้ว่าเป็นฉินเมิ่งที่ตื่นขึ้นมาและรับรู้ว่าขาของนางหักแล้ว ต่อไปนางจะเดินกะเผลกไปตลอดกาล ตอนนี้จึงกำลังโวยวายอยู่
หยุนชางหาวหนึ่งหวอด สวมเสื้อคลุมและเดินออกจากตำหนักไปที่ห้องพักนางกำนัลที่อยู่ในสวนด้านหลัง มีผู้คนมากมายล้อมรอบห้องที่ฉินเมิ่งพักอาศัยอยู่ เมื่อเห็นหยุนชางมาที่นี่ พวกเขาจึงรีบหลีกทางไปด้านข้าง หยุนชางเดินเข้าไปเห็นว่าฉินเมิ่งนอนร้องไห้เสียงดังอยู่บนเตียง
หยุนชางรีบเดินไปที่เตียง นั่งลงก้มหน้าและถอนหายใจ "ข้าไร้ความสามารถ ข้าไม่สามารถขอให้เสด็จอาปล่อยเจ้าไปได้"
ฉินเมิ่งไม่ตอบ นางยังคงร้องไห้อย่างโหยหวน
"เจ้าเป็นนางกำนัลของข้าและจะเป็นตลอดไป แม้ว่าเจ้าจะพิการ ข้าก็ไม่มีวันปล่อยให้เจ้าต้องทนลำบาก" หยุนชางกล่าวอีกครั้ง ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความทะนุถนอม เสียงร้องไห้ของฉินเมิ่งจึงค่อยๆเบาลง หยุนชางถอนหายใจและปลอบโยนอีกเล็กน้อย จากนั้นก็ลุกขึ้นพูดกำชับนางกำนัลใช้ที่อยู่นอกประตู ให้พวกเขาได้ดูแลฉินเมิ่งให้ดี
หยุนชางหันศีรษะไป แต่กลับเห็นฉินเมิ่งมองนางด้วยความเกลียดชังอย่างไม่ปิดบัง เมื่อนางเห็นหยุนชางหันกลับมา นางจึงก้มหน้าลงอีกครั้ง
หยุนชางยิ้มเยาะที่มุมปากและหันหลังเดินออกจากห้องไป
หลังจากความโกลาหลดังกล่าวจบลงแล้ว ฉินเมิ่งก็สงบลง ไม่ร้องไห้หรือสร้างปัญหาใดๆ ในทุกวันเมื่อถึงเวลาดื่มยานางก็ดื่มยา ถึงเวลากินข้าวก็กินข้าว ราวกับไม่มีอะไรผิดปกติ
สองสามวันต่อมา ทันทีที่หยุนชางตื่นขึ้นในเช้าวันหนึ่งก็มีนางกำนัลรีบมารายงาน "องค์หญิง ฉินเมิ่งหายไปแล้ว"
"หายไป?" หยุนชางตะลึง "หายไปได้ยังไง? คนเป็นๆทั้งคนจู่ๆบอกว่าหายไปก็หายไปเช่นนั้นเหรอ? ยังไม่รีบไปตามหาอีก?" ทันทีที่สิ้นเสียงนางก็ได้ยินเสียงประกาศ "ฮองเฮาเสด็จ" หยุนชางชะงักไปเล็กน้อย นางรีบเปิดม่านและเดินออกมาจากตำหนักด้านใน
"เสด็จแม่มาแล้วก็ไม่ยอมบอกให้ชางเอ๋อร์รู้สักคำ ชางเอ๋อร์จะได้เตรียมการต้อนรับได้" หยุนชางยิ้มและมองไปที่ประตูตำหนัก เมื่อนางเห็นคนที่ตามฮองเฮาที่ด้านหลัง ดวงตาของนางก็หรี่ลงเล็กน้อยและมุมปากของนางก็ยกขึ้น
"เอ๊ะ นี่ไม่ใช่ฉินเมิ่งหรือ เจ้าหายไปไหนมา? เมื่อครู่ข้าได้ยินนางกำนัลมารายงานว่าเจ้าหายไป ข้าตกใจแทบแย่ กำลังจะให้ทุกคนออกไปตามหาจะได้ดูว่าเจ้าไม่ได้เป็นอะไร ทำไมเจ้าถึงได้อยู่กับเสด็จแม่ได้?" หยุนชางมองไปที่เงาร่างสีชมพูด้วยความประหลาดใจ
ฉินเมิ่งไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา แต่ฮองเฮากลับตรัสว่า "ที่ข้ามาก็เพื่อคุยกับเจ้าเรื่องนางกำนัลผู้นี้" ฮองเฮาหยวนเจินเหลือบมองไปที่หยุนชางและเดินไปนั่งลงที่ที่นั่งหลัก
หยุนชางเดินไปนั่งลงที่ตำแหน่งด้านล่างและกล่าวว่า "ฉินเมิ่งหรือ? เสด็จแม่ต้องการคุยกับชางเอ๋อร์เกี่ยวกับเรื่องของของนาง?"
ฮองเฮาหยวนเจินพยักหน้า "ก่อนหน้านี้ตอนที่ข้ากำลังเดินเล่นบนเกาะเผิงไหล เห็นนางกำนัลผู้นี้เข้าพอดี นางยืนอยู่ริมทะเลสาบและดูเหมือนจะอยากกระโดดลงไปในทะเลสาบ ข้าจึงห้ามนางไว้จึงได้รู้ว่านางเป็นนางกำนัลคนสนิทของเจ้า เข้าไปในเขตต้องห้ามของจวนจิ้งอ๋องจึงถูกจิ้งอ๋องหักขา นางรู้สึกว่านางทำให้เจ้าเดือดร้อน นอกจากนี้ตอนนี้ขานางก็พิการแล้ว ต่อไปคงไม่สามารถดูแลรับใช้เจ้าได้อีก จึงรู้สึกท้อแท้หมดหวังและต้องการฆ่าตัวตาย"
หยุนชางได้ยินดังนั้นก็ตกใจมาก นางลุกขึ้นยืนเดินเข้าไปหาฉินเมิ่งและจับมือของนาง "ทำไมเจ้าจึงโง่เขลาเช่นนี้ ข้าบอกแล้วว่าไม่ว่าอย่างไรข้าก็จะไม่ทิ้งเจ้า ตำหนักชิงซินแห่งนี้จะมีที่ให้เจ้าเสมอ เจ้าวางใจเถอะ อย่าได้คิดอย่างนี้อีกเลย"
น้ำตาของฉินเมิ่งค่อยๆไหลลงมาจากดวงตาของนาง นางส่ายหัวและพูดว่า "ข้าเป็นภาระขององ์หญิง ข้าไม่มีหน้ามาพบองค์หญิงอีก"
หยุนชางส่ายหัวช้าๆ ขณะที่กำลังจะเปิดปากพูดก็ได้ยินเสียงของฮองเฮา "ข้ากลับรู้สึกว่านางกำนัลผู้นี้เป็นคนจงรักภักดี เพียงแต่ข้างกายเจ้าก็ขาดคน ตอนนี้นางก็ดูแลเจ้าไม่ได้แล้ว ข้าจะหาคนฉลาดเฉลียวสักคนส่งมาให้เจ้า ส่วนฉินเมิ่งนี้ ข้าจะพานางไปอยู่วังชีอู๋ก่อน ให้นางพักรักษาตัว แม้นางจะเดินเหินไม่สะดวกแต่ก็ยังสามารถทำอย่างอื่นได้ วังของข้าใหญ่หน่อยจึงจัดการได้ง่ายขึ้น เมื่อขาของนางหายดีแล้ว ข้าจะส่งนางคืนให้เจ้าอีกครั้ง… "