ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง - ตอนที่ 232 คลอดก่อนกำหนด(๑)
ขาของหยุนชางอ่อนลง นางเกือบจะล้มลงกับพื้น ทำไม ทั้งๆที่นางป้องกันมากขนาดนี้ มันเกิดอะไรขึ้นกันนะ?
ฉินยีและเฉี่ยนอินรีบประคองหยุนชาง หยุนชางกัดฟันและยืนขึ้น "ฉินยีตามข้าเข้าวัง เฉี่ยนอินเจ้าอยู่ที่นี่ดูแลจิ้งอ๋อง ถ้าจิ้งอ๋องตื่นขึ้นมา เจ้าก็ทูลว่าเสด็จแม่เกิดเรื่องแล้ว ข้าเข้าวังแล้ว"
ทั้งสองพยักหน้าอย่างรวดเร็ว และหยุนชางรีบออกจากห้องหอ แขกกลับกันเกือบหมดแล้ว ห้องโถงด้านหน้ามีสภาพยุ่งเหยิง คนใช้ต่างยุ่งกับการทำความสะอาด และหยุนชางรีบร้อนเข้าวัง จึงเงยหน้าขึ้นเหลือบมอง แต่มีความรู้สึกแปลกๆ แวบเข้ามาในใจ นางรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ แต่ไม่มีเวลาที่จะสนใจ และรีบออกจากจวนอ๋อง
หยุนชางขี่ม้าเหงื่อโลหิตที่จิ้งอ๋องมอบให้เข้าวัง และรีบตรงไปที่พระราชวังชีอู๋ทันที
หัวหน้าเจิ้งที่เฝ้าอยู่นอกพระราชวังชีอู๋ เขาตกตะลึงเมื่อเห็นหยุนชาง ตาของเขาจับจ้องไปที่ชุดสีแดงของหยุนชาง และเขาพูดอย่างรวดเร็วว่า "พระชายาทำไมถึงเข้าวังล่ะพ่ะย่ะค่ะ?"
หยุนชางกังวลใจ ไม่ได้หยุดเดิน เพียงถามอย่างวิตกกังวล "เกิดอะไรขึ้นกับเสด็จแม่"
หัวหน้าเจิ้งส่ายหัว "หม่อมฉันไม่ทราบพ่ะย่ะค่ะ"
หยุนชางยิ่งตื่นตระหนก รีบเร่งเดินไปที่ตำหนักข้างที่สนมจิ่นอาศัยอยู่ ประตูของตำหนักข้างปิดแน่น จักรพรรดิหนิงและหยวนเจินฮองเฮาทั้งคู่นั่งข้างนอก ดวงตาของพวกเขาจ้องมองไปที่ประตูที่ปิดแน่นบานนั้น
หยุนชางกำลังจะพุ่งเข้าไปข้างใน แต่มีคนหยุดไว้ "องค์หญิง ท่านเข้าไปไม่ได้พ่ะย่ะค่ะ"
หยุนชางกัดฟัน พยายามหยุดร่างกายที่สั่นเทา หายใจเข้าลึกๆ หันกลับมามองจักรพรรดิหนิง "เสด็จพ่อเพคะ เสด็จแม่เป็นอย่างไรบ้างเพคะ เกิดอะไรขึ้น ทั้งๆที่ดีๆอยู่ ทำไมถึง…"
จักรพรรดิหนิงนั่งบนเก้าอี้ พระเนตรแดงก่ำ และพระหัตถ์ที่จับแขนเก้าอี้ก็เผยให้เห็นเส้นเลือดนูนออกมา ราวกับไม่ได้ยินคำพูดของหยุนชาง สายพระเนตรจับจ้องไปที่ประตู
"อ๊า…" จู่ๆ ก็มีเสียงร้องของความเจ็บปวดดังขึ้นจากข้างใน หยุนชางและจักรพรรดิหนิงขยับร่างของพวกเขาพร้อมกัน หยุนชาง รู้สึกว่าขาของนางอ่อนแรง ในหัวสับสนไปหมด มีแต่คำถามที่ว่า "ทำไม" "เพราะอะไร" "เป็นอย่างไรบ้าง"
ตอนนี้เด็กยังไม่แปดเดือน เกรงว่าแม้คลอดออกมาก็ยากที่จะรอดได้ ทั้งๆที่เหลือเวลาอีกเพียงสองเดือน และอีกเพียงสองเดือนก็จะคลอดอย่างปลอดภัย
เมื่อหยุนชางนึกถึงจุดนี้ นางอดไม่ได้ที่จะนึกถึงเหิงเอ๋อร์ของนาง และหัวใจของนางก็ยิ่งปวดร้าว แทบจะควบคุมอารมณ์ของตัวเองไม่ได้
"องค์หญิง เกรงว่าจะต้องรอพระสนมจิ่นอีกซักพัก ทรงประทับตรงนี้สักพักดีไหมเพคะ?" ฉินยีเห็นว่าหยุนชางดูผิดปกติเล็กน้อย รู้สึกเพียงว่านางยังเด็ก เป็นครั้งแรกที่เจอสถานการณ์เยี่ยงนี้นางคงจะตื่นตระหนกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
หยุนชางเกือบจะกัดริมฝีปากของนางจนเลือดออก ถึงได้มีสติกลับมาอีกครั้ง เพียงรู้สึกว่ามีเหงื่อหยดจากหน้าผากของนางอยู่ตลอด
หยุนชางยืนตัวตรง ไม่ได้ นางไม่มีวันยอมให้เกิดอุบัติเหตุใดๆ ในภพนี้
หยุนชางสงบลงครู่หนึ่ง แล้วค่อยๆเดินไปหาจักรพรรดิหนิงและนั่งลง จับมือจักรพรรดิหนิงและบังคับให้พระองค์มองดูที่นาง "เสด็จพ่อ เมื่อตอนที่อยู่ในวิหารแคว้นหนิง เพราะชางเอ๋อร์สุขภาพไม่ดี ดังนั้น ลูกจึงได้เรียนรู้ทักษะตำราแพทย์มาเล็กน้อย เสด็จพ่อ ให้ชางเอ๋อร์เข้าไปข้างในเถอะเพคะ"
จักรพรรดิหนิงจ้องมองหยุนชาง สักพักถึงเอ่ยออกมาว่า "เคยเรียนตำราแพทย์หรือ"
หยุนชางพยักหน้าเพียง กำลังจะเอ่ยปากพูด ก็ได้ยินเสียงของฮองเฮาดังมา "ชางเอ๋อร์เคยเรียนแพทย์มาด้วยหรือ แล้วทำไมตอนที่ไม่สบายถึงเรียกแต่หมอหลวงด้วยล่ะ? ชางเอ๋อร์คงไม่ได้พูดไปเองหรอกมั้ง? การคลอดลูกของผู้หญิงนั้นไม่ได้เป็นเรื่องง่ายทั่วๆไป เจ้าอย่าได้ไปสร้างปัญหา"
หยุนชางมองฮองเฮาอย่างโกรธเคือง ฮองเฮาดูจะผงะไป แต่นางก็ไม่แสดงความอ่อนข้อและหัวเราะอย่างเย็นชา หยุนชางเห็นเช่นนี้ ก็เผยรอยยิ้มอย่างเย็น "ทำไมฮองเฮาถึงขัดขวางชางเอ๋อร์เช่นนี้ ตอนที่เสด็จแม่อยู่พระราชวังเฟิ่งไหลนั้นยังดีๆอยู่เลย ทำไมกลับมาที่วังก็เกิดเรื่องได้นะเพคะ? ตอนที่เสด็จแม่เพิ่งตั้งพระครรภ์ ฮองเฮาได้ทรงสัญญากับเสด็จพ่อว่า จะดูแลเสด็จแม่และลูกในท้องเป็นอย่างดี ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับเด็กในท้องเสด็จแม่ ฮองเฮาต้องรับผิดชอบ และควรลงโทษตัวเองเพื่อรู้สึกผิดต่อทุกคน"
ฮองเฮาหรี่ตา ดวงตาของนางมีคำเยาะเย้ย
จักรพรรดิหนิงหันไปมองฮองเฮาที่นั่งอยู่ข้างๆ หลังจากเงียบไปสักพักใหญ่ พระองค์ตรัสว่า "เจ้าเข้าไปข้างในเถิด"
ฮองเฮาได้ยินก็เบิกตากว้าง นัยน์ตาเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ "ฝ่าบาท เรื่องนี้มันเกี่ยวข้องถึงรัชทายาท ชางเอ๋อร์ก็ยังเป็นเด็ก นางรู้อะไร เข้าไปก็ไม่ใช่ไปสร้างปัญหาหรือเพคะ?"
"หุบปาก!" เสียงดุอันเย็นชาดังขึ้น ทุกคนต่างตกใจ หันศีรษะไปเห็นจิ้งอ๋องยืนอยู่ที่ประตูในชุดสีแดงสดโดยมีหญิงชราที่หลังค่อมอยู่ข้างหลังเขา
ฮองเฮาลืมพระเนตรกว้างและจ้องไปที่จิ้งอ๋อง เมื่อครู่เขาพูดว่าอะไรนะ หุบปาก?
ก่อนที่ฮองเฮาจะตั้งสติ จิ้งอ๋องได้เดินไปที่ข้างๆของหยุนชางแล้ว เอื้อมมือไปจับมือหยุนชางไว้แน่น แล้วหันไปทางฮองเฮา กล่าวว่า "ชายาของข้าไม่ขอให้ฮองเฮาทรงกังวลพระทัย"
หลังจากพูดแล้ว เขาหันศีรษะไปหาจักรพรรดิที่เอาแต่ขมวดคิ้วไม่สนใจเรื่องวุ่นวายที่เกิดขึ้น "เสด็จพี่ ข้าเชิญหมอตำแยที่ดีที่สุดของแคว้นหนิงมา ให้นางตามหยุนชางเข้าไปอาการเถอะ"
จักรพรรดิหนิงจ้องมองไปที่หญิงชราหลังค่อมที่อยู่ข้างหลังจิ้งอ๋อง หลังจากนั้นไม่นานก็พยักพระพักตร์และตรัสว่า "ไปเถิด"
ฮองเฮามีความกังวล อ้าปากและอยากจะตรัสอะไรบางอย่าง แต่ถูกสายตาอันเย็นชาจ้องมองมา รู้สึกตกพระทัย คำพูดในปากของนางจึงถูกกลืนลงไปทันท่วงที
เมื่อได้ยินเรื่องนี้ หยุนชางก็มองจิ้งอ๋องอย่างซาบซึ้ง ดึงหมอตำแยและเปิดประตูเข้าไปข้างใน
พระสนมจิ่นนอนอยู่บนเตียง สีหน้าของนางนั้นเจ็บปวดมาก ศีรษะของนางเปียกโชกไปครึ่งหนึ่ง ใบหน้าของนางก็เปียก แยกไม่ว่ามันเป็นเหงื่อหรือน้ำตา ข้างเตียงมีหมอตำแยสองคนและนางกำนัลสามสี่คน หยุนชางรู้สึกเจ็บปวดในใจ จะวิ่งไปหาพระสนมจิ่น แต่ถูกดึงแขนไว้
หยุนชางขมวดคิ้วหันศีรษะไป เห็นหญิงชราที่หลังค่อมส่ายหัว "ถ้าพระชายาต้องการให้พระสนมจิ่นปลอดภัย อย่าได้เข้าไปที่นั่น กลิ่นหอมของพระชายาผิดปกติ"
หยุนชางตกใจ แววตาเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ กลิ่นหอมบนร่างกายของตน?
หยุนชางไม่มีเวลาสืบหา และสายตาของนางจับจ้องไปที่หมอตำแยและนางกำนัลเหล่านั้น ขมวดคิ้ว และพูดอย่างเคร่งขรึมว่า "พวกเจ้าทุกคนถอยไป!"
นางกำนัลเหล่านั้นไม่เคยเห็นหยุนชางมาก่อน ได้ยินเพียงหญิงชราเรียกนางว่าพระชายาเท่านั้น แต่ไม่รู้ว่าพระชายาจากไหนกัน ต่างมองหน้ากัน และไม่ยอมถอยไป
หยุนชางเยาะเย้ย เกรงว่าคนเหล่านี้คงจะถูกส่งมาจากทุกทิศทุกทางสินะ ช่างมีเจตนาที่ดีจริงๆ "ยังไม่รีบถอยไป ไม่อย่างนั้น…" หยุนชางดึงมีดสั้นป้องกันตัวออกมาจากขาของนาง และยิ้มเยือกเย็นยิ่งขึ้น "ถ้าใครไม่ถอยไป ข้าก็ไม่ถือสาที่จะกำจัดด้วยตนเอง…"
เมื่อเห็นเช่นนี้ คนเหล่านั้นก็สั่นสะท้านไปทั้งตัวและรีบหลบไปข้างๆ หนึ่งในหมอตำแยคนหนึ่งลังเล "คือ สนมจิ่น…"
หยุนชางไม่ต้องการฟังอีกต่อไป หยิบมีดสั้นขึ้นมาแล้วขว้างไปที่นาง และปักไปที่ขาของนาง หมอตำแยคนนั้นกรีดร้อง หยุนชางเกรงว่าจะรบกวนข้างนอก จึงเปิดประตูและผลักนางออกไปโดยตรง
หลังจากหันกลับมา พูดกับหมอตำแยที่จิ้งอ๋องพามาว่า "เจ้ารีบไปดูสิว่าเกิดอะไรขึ้นกับเสด็จแม่"
จากนั้นหมอตำแยก็เดินไปโดยไม่รีบร้อน ยกผ้าห่มขึ้นดู จากนั้นนางก็ขมวดคิ้วแล้วกล่าวว่า "นางได้รับยากระตุ้นคลอด ทำให้มดลูกหดรัดตัว จนปวดท้องรุนแรงมาก ปริมาณยากระตุ้นที่ได้รับไม่มาก ตอนนี้ยังคลอดไม่ได้ จึงเจ็บปวดมาก ให้ยาทานช่วยบรรเทาอาการปวด รักษาลูกไว้ อย่างน้อยยังสามารถเพิ่มเวลาประมาณหนึ่งเดือน แม้ยังต้องคลอดก่อนกำหนด แต่โดยทั่วไปก็รักษาชีวิตเด็กได้ แต่หมอตำแยพวกนี้ดูเหมือน ต้องการให้พระสนมจิ่นเจ็บปวด ความเจ็บปวดนั้นเหลือทนมาก ถ่วงเวลาแบบนี้สักสองสามชั่วยาม เกรงว่าทั้งแม่และเด็กคงจะไม่รอด"