ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง - ตอนที่ 227 ฮวากั๋วกงมาเยือน
หยุนชางรู้สึกเพียงแค่ว่านอนหลับครั้งนี้ไม่สนิท นางรู้สึกว่ามีคนมาบีบไหล่นางอยู่เสมอ และรู้สึกเจ็บปวดอย่างมาก แต่นางไม่สามารถลืมตาขึ้นมาได้ ราวกับว่านางนั้นมีเรื่องบางอย่างที่สำคัญมาก และต้องการจะตื่นมา แต่นางใช้ความพยายามอย่างมากที่สุด แต่ไม่สามารถลืมตาได้ ความรู้สึกเช่นนี้เคยเกิดเมื่อตอนที่นางให้กำเนิดเหิงเอ๋อร์ เหิงเอ๋อร์เกิดก่อนกำหนด เมื่อตอนที่นางให้กำเนิดเหิงเอ๋อร์ นางรู้สึกราวกับว่าตนนั้นได้ผ่านประตูนรกมาแล้ว
"องค์หญิง องค์หญิง…" หยุนชางได้ยินคนเรียกตัวเองอย่างแผ่วเบา และหลังจากนั้นครู่หนึ่ง ดูเหมือนมีใครบางคนเข้ามากอดตนไว้ แล้วป้อนอะไรยางอย่างเข้ามาในปากของตน "ตามหมอมาให้เร็วกว่านี้! ขี่ม้าข้าไป"
น้ำเสียงนั้นเต็มไปด้วยความกังวลเล็กน้อย ทำให้หยุนชางแทบจะร้องไห้ออกมา นี่คือใคร? โมจิ้งหรานหรือ?
หยุนชางครุ่นคิด และรู้สึกหนักหัวเล็กน้อย ดังนั้นนางจึงหลับไปอีกครั้ง นางที่กำลังหลับใหลนั้นไม่ทราบว่าอาการบาดเจ็บครั้งนี้ของนาง ทำให้จิ้งอ๋องโกรธเคืองอย่างมาก ทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการบาดเจ็บของนาง ทั้งมหาเสนาบดีหลี่ เซี่ยโหจิ้ง ทุกคนกำลังจะเจอศึกที่หนักหน่วง
หยุนชางตื่นขึ้นอีกทีในหกวันต่อมา ทันทีที่นางลืมตาขึ้น นางก็รู้สึกว่าร่างกายกำลังจะแหลกเป็นชิ้นๆ นางเอ่ยปากและได้ยินเสียงของเฉี่ยนอินดังขึ้น "องค์หญิงเพคะ องค์หญิง เป็นอย่างไรบ้างหรือเพคะ? ฟื้นแล้วหรือเพคะ? องค์หญิงรู้สึกดีขึ้นหรือไม่เพคะ? กระหายน้ำหรือไม่? หิวหรือไม่เพคะ?"
หยุนชางได้ยินคำถามยาวเหยียดเช่นนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา แต่ก่อนที่นางจะหัวเราะออกมา นางก็แทบจะเป็นลมไปเพราะความเจ็บปวดที่อกของนาง
"องค์หญิงอย่าขยับ อย่าพูดเพคะ หมอหลวงกล่าวว่าอาการขององค์หญิงสาหัสอย่างมากเพคะ หม่อมฉันจะไปทูลท่านอ๋องเพคะ สองสามวันมานี้ท่านอ๋องได้เฝ้าองค์หญิงทุกวัน และท่านแทบจะไม่ได้พักผ่อนเพคะ แต่เมื่อสักครู่นั้นมีเรื่องด่วนจึงถูกเรียกตัวไปที่ห้องหนังสือเพคะ องค์หญิงอย่าขยับนะเพคะ หม่อมฉันจะไปตามท่านอ๋องเดี๋ยวนี้เลยค่ะ" กล่าวจบนางก็รีบวิ่งออกไปอย่างเร่งรีบ
หยุนชางอยากจะหัวเราะอีกครั้ง เมื่อสักครู่นั้นถามคนมาตั้งแต่ ตนยังไม่ทันได้ตอบคำถาม นางก็วิ่งออกไปอย่างเร่งรีบ
แต่ในใจก็นึกถึงสิ่งที่เฉี่ยนอินกล่าวมาเมื่อสักครู่นี้ เขาเฝ้าอยู่เคียงข้างตนตลอดเวลาเลยหรือ?
หยุนชางครุ่นคิดแล้วจึงตระหนักได้ว่า นี่ไม่ใช่ตำหนักชิงซินของนาง เหมือนเป็นจวนจิ้งอ๋องเสียมากกว่า
ตนหมดสติไปนานแค่ไหนหรือ? หยุนชางอมยิ้มเล็กน้อย แต่โชคดีที่นางยังมีชีวิตอยู่ แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว
ไม่นานก็ได้ยินเสียงฝีเท้าที่เร่งรีบดังมา หยุนชางเงยหน้าและเห็นใบหน้าของจิ้งอ๋องอยู่ตรงหน้าตน หยุนชางผงะเล็กน้อย ดูเหมือนสีหน้าของเขาจะเศร้าหมองลงอย่างมาก หยุนชางก้มหน้าลงและครุ่นคิด ดวงตาของเขาเย็นชาเล็กน้อย กำลังคิดจะดุว่าตนอย่างแน่นอน
"ตื่นแล้วก็ดีแล้ว มีกระไรที่อยากเสวยหรือไม่? เจ้าไม่ได้เสวยกระยาหารมาสองสามวันแล้ว คงจะหิวอย่างแน่นอน" จากนั้นเขาก็หันหน้าไปมองเฉี่ยนอิน "ไปต้องโจ๊กซุปไก่ให้องค์หญิงหน่อยเถอะ รีดน้ำมันออกเยอะๆ"
ดวงตาของเฉี่ยนอินล่อกแล่กอย่างเจ้าเล่ห์ นางตอบรับและถอยลงไป จากนั้นจิ้งอ๋องก็นั่งที่ข้างเตียง เอามือลูปศีรษะของหยุนชางแล้วกล่าวว่า "ข้าและเสด็จพ่อของเจ้าได้วางเพลิงเผาภูเขากิเลนจนหมดสิ้นแล้ว เหล่าทหารยอดฝีมือของแคว้นเซี่ยเสียชีวิตไปสองหมื่นกว่าคน และจับกุมไว้มากกว่าสี่หมื่นคน ทหารเฝ้าเมืองของเมืองหลวงก็ถูกเปลี่ยนไปหมดแล้ว รับรองว่าคนแคว้นเซี่ยไม่มีใครสามารถเข้าได้อย่างแน่นอน ตอนนี้ที่จวนมหาเสนาบดีนั้นยุ่งเหยิงอย่างมาก เพราะได้พบหลักฐานการขายอาวุธให้กับแคว้นเซี่ยในบ้านของลูกชายคนที่สองของมหาเสนาบดีหลี่"
หยุนชางฟังอย่างตกตะลึง ทำไมรู้สึกว่าตนหลับไปแค่ครู่เดียว และเมื่อตื่นมาโลกนี้เปลี่ยนไปอย่างมากจนตนแทบจะไม่รู้จักแล้ว
"ข้าสลบไปกี่วันแล้วเพคะ?" หยุนชางกะพริบตา น้ำเสียงของนางแหบแห้งเป็นอย่างมาก
จิ้งอ๋องช่วยจัดผ้าห่มให้นาง "หกวัน อีกสี่วันเป็นงานอภิเษกของเรา"
ว่าอย่างไรนะ? หยุนชางตกตะลึง อะไรนะ? อีกสี่วันหรือ? หยุนชางไม่ต้องถามก็ทราบดีว่าตอนนี้ตนเป็นเช่นนี้ คงต้องพักฟื้นสักเดือนสองเดือน หากคิดจะยืนขึ้นได้ก็คงต้องใช้เวลาครึ่งเดือนกว่าๆ เช่นนี้จะให้นางอภิเษกอย่างไร? แต่งงานแบบนี้ได้ยังไง?
จิ้งอ๋องยิ้มออกมา หยุนชางตะลึงอย่างห้ามไม่ได้ เหตุใดนางจึงรู้สึกว่าในแววตาของจิ้งอ๋องนั้นมีความชั่วร้ายของคนที่ได้ฉวยโอกาส?
"แม้ว่าพิธีอภิเษกสมรสขององค์หญิงจะซับซ้อนเล็กน้อย แต่เสด็จพ่อของเจ้ากล่าวแล้ว หากเจ้าไม่สามารถร่วมพิธีจนสำเร็จได้ ก็ให้ข้าจะอุ้มเจ้าแทนแล้วกัน"
หยุนชางเบะปาก นี่เป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดในชีวิตนาง จะทำชุ่ยๆ เช่นนี้ได้อย่างไร
"หากว่าเจ้านั้นอยากร่วมพิธีด้วยตนเอง เช่นนั้นสองสามวันนี้เจ้าก็พักผ่อนให้ดี"
มีเสียงที่ร้องเรียกจิ้งอ๋องดังมาจากข้างนอก จิ้งอ๋องลูบหัวหยุนชางและพูดด้วยรอยยิ้มว่า "ข้ามีเรื่องยางอย่างที่ยังไม่ได้จัดการ เมื่อสักครู่ได้ยินว่าเจ้าฟื้นแล้ว จึงรีบมา ประเดี๋ยวเจ้าเสวยกระยาหารเรียบร้อยก็พักผ่อนเสีย"
หยุนชางพยักหน้าและมองดูจิ้งอ๋องเดินออกไป อันที่จริงนางอยากถามว่า ช่วงที่ผ่านมานี้จิ้งอ๋องทำกระไรไปบ้าง และยังอยากถามอีกว่า เรื่องที่พวกเขาสองคนได้ยินในวันนั้น เรื่องที่เกี่ยวกับตัวตนของเขา เขาคิดอย่างไร?
หยุนชางแหงนหน้ามองขึ้นไปด้านบนพระแท่นบรรทม ลายปักบนด้านบนนั้นเปลี่ยนเป็ดแมนดารินเล่นในน้ำตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ
เฉี่ยนอินเดินเข้ามา นางโผล่หัวออกมาก่อนแล้วมองไปรอบ ๆ ไม่เห็นจิ้งอ๋องจึงขบริมฝีปาก " ทำไมท่านอ๋องไปอีกแล้ว? องค์หญิงเพิ่งฟื้นขึ้นมา ท่านอ๋องควรอยู่ดูแลองค์หญิงให้มากๆ สิเพคะ"
"พูดกระไรกัน" หยุนชางก้มหน้าลง แล้วกินโจ๊กไก่เล็กน้อย จากนั้นก็อมยิ้ม "ท่านมีเรื่องที่สำคัญกว่าต้องไปจัดการ"
สองวันต่อมา หยุนชางถอนหายใจ มะรืนนี้ก็จะเป็นวันอภิเษกสมรสของตนแล้ว เพียงแต่ว่า แม้ว่าตนนั้นสามารถทำทุกอย่างได้ปกติ แต่ตนก็ยังไม่สามารถยืนตรงได้หากลุกจากเตียง
"ยกเข้ามาเถอะ" เสียงของเฉี่ยนอินดังขึ้น หยุนชางโผล่หัวออกมาจากเบาะนั่ง ก็พบว่าเฉี่ยนอินและขันทีหลายคน เดินเข้ามาพร้อมกล่องใบใหญ่
เฉี่ยนอินเดินไปหาหยุนชางและกล่าวว่า "ท่านอ๋องทรงไตร่ตรองได้อย่างรอบคอบอย่างมากเพคะ ท่านกล่าวบอกว่าองค์หญิงขยับตัวไม่สะดวกนัก ดังนั้นจึงสั่งให้คนไปนำไปชุดอภิเษกและเครื่องประดับต่างๆ เข้ามาเพคะ ให้องค์หญิงได้ลอง หากไม่เพอดีนักก็สามารถปรับเปลี่ยนได้ทันเวลา แล้วเมื่อถึงวันอภิเษกสมรส องค์หญิงเสด็จออกจากจวนจิ้งอ๋องไปถวายบังคมน้อมลาฝ่าบาท จากนั้นก็ส่งตัวองค์หญิงกลับมาที่จวนจิ้งอ๋องอีกครั้ง เดิมทีงานอภิเษกของจิ้งอ๋องและองค์หญิงนั้นจำต้องฉลองขบวนรอบเมือง แต่ท่านอ๋องกล่าวว่าไม่จำเป็นหรอกท่านกลัวว่าองค์หญิงจะเหนื่อยล้าเกินไป
หยุนชางยิ้มแต่ไม่ตอบ เจ้าเด็กน้อยนี้ช่างสนใจเรื่องชาวบ้านมากขึ้นเรื่อยๆ แล้วนะ
ขณะที่กำลังพูดคุยกัน เขาก็เห็นพ่อบ้านจวนท่านอ๋องเดินเข้ามา "พระชายาขอรับ ฮวากั๋วกงแห่งแคว้นเซี่ยมาเยือนขอรับ"
หยุนชางตะลึง แล้วก็นึกถึงสิ่งที่ได้ยินฮวากั๋วกงพูดในวันนั้น หากจิ้งอ๋องเป็นถึงองค์ชายใหญ่ของแคว้นเซี่ย เช่นนั้นฮวากั๋วกงก็คือท่านตาของเขาใช่หรือไม่?
"เจ้าไม่ได้ทูลฮวากั๋วกงไปหรือว่าจิ้งอ๋องมิได้อยู่ในจวน"
พ่อบ้านกล่าวอย่างเร่งรีบ "หม่อมฉันกล่าวแล้วขอรับ แต่ฮวากั๋วกงกล่าวว่าหากพระชายาอยู่นั้นมีค่าเท่ากันขอรับ ก่อนหน้านี้ท่านอ๋องก็ทรงออกคำสั่งว่า หากว่าท่านไม่อยู่ในจวน เรื่องทุกอย่างให้พระชายาตัดสินใจขอรับ"
หยุนชางก็เข้าใจขึ้นมาอย่างกะทันหัน ด้วยเล่ห์กลของฮวากั๋วกง แม้ว่าอยู่ในแคว้นหนิง หากคิดอยากทราบว่าจิ้งอ๋องอยู่ในจวนหรือไม่นั้นก็คงไม่ใช่เรื่องยากกระไร จิ้งอ๋องเพิ่งจากไปครึ่งชั่วโมงเขาก็มาที่จวน เกรงว่าเขาคงจงใจมาในเวลานี้กระมั้ง คนที่เขาอยากพบนั้นไม่ใช่จิ้งอ๋อง แต่เป็นนางต่างหาก
หยุนชางเงียบไปครู่หนึ่งแล้วจึงพยักหน้าและกล่าวว่า "เชิญฮวากั๋วกงเข้ามาเถอะ"