ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง - ตอนที่ 203 บีบเค้นเรื่องราวจากองค์ชาย (๒)
เฉี่ยนอินนิ่งเงียบ ครู่หนึ่งจึงเอ่ยว่า "องค์หญิงของหม่อมฉันทรงมีพระเมตตายิ่งนัก แต่ว่านั่นเป็นปิ่นของพระองค์ และเป็นปิ่นประจำฉลองพระองค์ ทำขึ้นตามพระยศของพระองค์นะเพคะ คุณหนูเวินนั่นแม้จะได้ไป ก็คงไม่กล้าปักออกมาเดินข้างนอก หากมีคนพบเข้าล่ะก็ จะต้องเป็นเรื่องใหญ่แน่ๆเลยเพคะ"
หยุนชางยิ้มพลางเลิกคิ้ว "งั้นก็ดีน่ะสิ"
เฉี่ยนอินเห็นลักษณะท่าทางของนางเช่นนั้นแล้ว ก็รู้ได้ทันทีว่าหยุนชางต้องมีแผนการบางอย่างเอาไว้แล้วเป็นแน่ นางอ้าปากด้วยความรู้สึกทึ่ง แต่ก็มิได้พูดสิ่งใดออกมา องค์หญิงของนางนั้นเป็นจอมวางแผน ในเมื่อองค์หญิงประทานปิ่นไปแล้ว ก็ถือว่าเหตุการณ์ได้ผ่านไปแล้ว ไม่รู้ว่าคุณหนูเวินจะแบกรับผลของการครอบครองปิ่นนั้นได้มากน้อยเพียงใด
เมื่อช่วยหยุนชางฉลองพระองค์จนสวยสง่าแล้ว ก็หาเครื่องประดับง่ายๆมาประดับศีรษะแทนปิ่น
หยุนชางรู้สึกพอใจมาก นางยิ้มอย่างสุขใจ "แต่งแบบนี้เรียบง่าย ข้าชอบ ต่อไปเจ้าทำผมให้ข้าแค่นี้ก็พอแล้ว ทรงยากๆนั่นไม่เห็นจะน่าสนใจเลย"
เฉี่ยนอินก็พลอยอมยิ้มไปด้วย ก็แล้วใครให้นางเป็นถึงองค์หญิงล่ะ ทรงพระเกศาขององค์หญิงในวังถือว่าเป็นทรงที่เรียบง่ายแล้ว ลองดูทรงพระเกศาของฮองเฮาสิ ทรงที่ซับซ้อนเช่นนั้น นางกำนัลผู้ที่ทำผมให้คงจะได้แอบปาดเหงื่อกันไปหลายยก
เมื่อหยุนชางมาถึงห้องโถง ก็เห็นว่าบรรดาคุณหนูทั้งหลายได้เปลี่ยนเสื้อผ้าและนั่งอยู่ที่ห้องโถงเป็นที่เรียบร้อย หยุนชางกวาดสายตามองไปที่พวกนาง และยิ้มออกมา "ดีจริงๆเลย เมื่อครู่นี้ข้าก็กังวลว่าพวกท่านจะใส่เสื้อผ้าของข้าไม่ได้ ไม่คิดว่าจะสวมใส่ได้พอดีเช่นนี้" พูดจบก็มองไปที่เวินหยูอวี้ เสื้อผ้าที่นางเปลี่ยนเป็นชุดกระโปรงสีแดงสด ดูจะเป็นจุดเด่นมากเกินไป แต่ก็เป็นชุดที่สวยงามมาก หยุนชางยิ้ม ได้ยินว่าเมื่อตอนเลือกเสื้อผ้านั้น เวินหยูอวี้ถูกใจชุดกระโปรงนี้ตั้งแต่แรกเห็นเลยเชียวล่ะ
หยุนชางกวาดสายตาสำรวจต่ออีกนิด วิเศษมาก ปิ่นนั่น นางยังไม่ได้ถอดออกเลย
"ฝนนี่ก็ไม่รู้ว่าเมื่อไรจึงจะหยุดตก ได้แต่นั่งเฉยๆอยู่อย่างนี้ช่างน่าเบื่อจริงๆ ไม่สู้เรามาหาอะไรเล่นกันดีกว่า เมื่อครู่นี้ข้าให้นางกำนัลไปเตรียมอุปกรณ์มาแล้ว พวกเรามาเล่นโยนลูกดอกลงหม้อกากันดีไหม? เพื่อให้ทุกคนเล่นกันอย่างมีความสุข ข้าจะนำของชิ้นหนึ่งมาเป็นของรางวัล หากใครโยนลูกดอกลงหม้อกาได้ 3 แต้มก่อนก็จะได้รับของรางวัลไป แต่ว่าของชิ้นนี้เป็นเพียงเครื่องประดับที่ข้ายังพอมีเหลือ หวังว่าทุกท่านจะไม่รังเกียจนะ" เมื่อพูดจบนางก็มองไปที่เฉี่ยนอิน คนอื่นๆก็มองตามหยุนชางไปด้วย จึงเห็นว่าในมือของเฉี่ยนอินนั้นมีกล่องอยู่ 1 ใบ ในกล่องมีเครื่องประดับต่างๆนานา ทั้งตุ้มหู ปิ่นปักผม สร้อยคอ พู่หยก ทุกอย่างดูครบครัน ล้วนเป็นของมีค่าทั้งสิ้น สายตาของทุกคนแพรวพราว และยังเห็นอีกว่าด้านหลังของเฉี่ยนอินนั้นยังมีนางกำนัลอีก 2 คนได้หอบกองผ้าเข้ามาด้วย ดูๆแล้วเหมือนเป็นผ้าปักฝีมือปราณีตที่กำลังเป็นที่ต้องการของใครหลายๆคน
หยุนชางเห็นทุกคนตื่นเต้นดีใจเช่นนั้นก็ไม่รอช้า รีบให้คนจัดเตรียมสถานที่ แล้วหยิบหม้อกากับลูกดอกขึ้นมา
เหล่าคุณหนูโน้มตัวไปข้างหน้าโยนลูกดอกเข้าไปในหม้อกา หยุนชางมองพวกนางเล่นกันอย่างเพลินเพลิน บางครั้งก็หัวเราะร่วมไปกับพวกนางด้วย ในขณะที่กำลังดูซุนหย่าเหนียงโยนลูกดอกนั้น เฉี่ยนอินก็ได้ดึงแขนเสื้อของหยุนชางเบาๆ หยุนชางมองไปรอบๆ จึงเห็นว่าเวินหยูอวี้นั้นหลบไปอยู่ด้านหลังคนอื่นๆด้วยท่าทางระมัดระวัง นางอาศัยจังหวะที่ไม่มีใครสนใจพาสาวใช้ค่อยๆหนีออกไปจากบริเวณนั้น
หยุนชางยิ้ม นางเร่งรีบเช่นนี้ จะทำให้ตนเองต้องเดือดร้อนยังไม่รู้ตัวอีก
หยุนชางพยักหน้าให้เฉี่ยนอิน เฉี่ยนอินรับทราบ และค่อยๆเดินออกไปด้านนอก
เวินหยูอวี้กางร่มเดินมาจนถึงข้างๆมุมหนึ่งของตำหนักนอกวัง จู่ๆนางก็ได้ยินเสียงผิวปากแว่วเข้ามา เวินหยูอวี้รีบมองหาที่มาของเสียง จึงได้เห็นว่าที่พุ่มไม้ตรงหัวมุมตำหนักมีชายเสื้อเทายืนแอบอยู่
เวินหยูอวี้เดินเข้าไปคว้าแขนของชายผู้นั้น "เป็นอย่างไรบ้าง?" น้ำเสียงเต็มไปด้วยความรีบร้อน อดทนต่อไปไม่ไหวอีกแล้ว
ชายเสื้อเทาผู้นั้นขมวดคิ้วและพูดจาเย้ยหยัน "ไยเจ้าจึงไม่ถามถึงพี่ชายของเจ้าบ้างเลยล่ะ? คำถามแรกกลับไปถามถึงคนผู้นั้นว่าเป็นอย่างไรบ้าง? นี่เจ้าคงจะอดทนต่อไปไม่ได้แล้วสินะ?"
เวินหยูอวี้กัดฟันแสดงความไม่พอใจ
ชายเสื้อเทาผู้นั้นจึงขมวดคิ้วขึ้นมา "ทุกอย่างจัดเตรียมไว้เรียบร้อย เพียงรอให้เขามาถึง ก็ไม่มีทางที่จะหนีไปได้แน่ แต่ว่า ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด อาภรณ์ชุดนั้นดูเหมือนจะไม่ได้ผล เมื่อครู่นี้ข้าลองสังเกตดูแล้ว ไม่พบว่าเขามีปฏิกิริยาที่ผิดแปลก อาภรณ์ชุดนั้นคงจะใช้การไม่ได้ หากต้องการจะดึงเขามาที่นี่ ก็คงจะยากเสียแล้ว"
เมื่อเวินหยูอวี้ได้ฟังดังนั้นแล้ว สีหน้าแววตาของนางก็แสดงออกถึงความลำพองใจ "ตอนนั้นข้ายังไม่มีวิธี แต่ตอนนี้มีแล้ว ท่านดูการแต่งกายของข้าสิ เหมือนคนคนหนึ่งหรือไม่?"
ชายเสื้อเทาผู้นั้นมองไปยังเวินหยูอวี้อยู่ครู่หนึ่ง แล้วสายตาของเขาก็ต้องไปสะดุดกับปิ่นบนศีรษะของนาง "องค์หญิงหยุนชาง?"
เวินหยูอวี้พยักหน้า รอยยิ้มของนางเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกของผู้ที่อยากได้สิ่งใดก็ต้องได้ "เมื่อครู่นี้ข้าเปียกฝน องค์หญิงหยุนชางจึงประทานฉลองพระองค์มาให้พวกข้าเปลี่ยน ข้าตั้งใจเลือกชุดนี้ สีของชุดนี้ดูเหมือนกับสีของฉลองพระองค์ตัวก่อนหน้านี้ของนางใช่หรือไม่ เมื่อครู่นี้นางยังประทานปิ่นของนางให้กับข้า ช่างประจวบเหมาะเสียจริง หากข้าให้เขามองเห็นข้าจากทางด้านหลังในระยะไกล เขาคงจะดูไม่ออกแน่นอน อีกอย่าง ข้ายังแอบหยิบผ้าปักลายของนางมาด้วยล่ะ……"
ชายเสื้อเทานิ่งอึ้งไปสักพัก ก่อนจะพยักหน้า "ในเมื่อเจ้าเตรียมตัวมาดีเช่นนี้ เช่นนั้นก็ไปเถอะ อย่างไรเสียพวกเราก็ต้องลองดู จิ้งอ๋องนั่นไม่ใช่จะหลอกได้ง่ายๆ ขนาดอาภรณ์ชุดนั้นไม่มีตำหนิใดๆ ก็ยังถูกเขาจับได้ว่าไม่ใช่ของจริง"
ชายเสื้อเทาเห็นว่าเวินหยูอวี้นิ่งไป ไม่รู้ว่านางกำลังคิดสิ่งใดอยู่ จึงได้แต่ขมวดคิ้วและพูดว่า "เจ้าก็ระวังตัวดีๆล่ะ"
เวินหยูอวี้กำลังคิดว่าจะทำเช่นใดจึงจะสามารถล่อลวงเขาคนนั้นได้ หลังจากนั้นจะยื้อเขาไว้ด้วยวิธีใด จึงไม่ได้สนใจสิ่งที่ชายเสื้อเทาพูด แล้วนางก็เอ่ยขึ้นมาด้วยความเร่งรีบ "ไม่ต้องกังวลนะ ข้าขอตัวก่อน แล้วข้าจะนำคนผู้นั้นมาเอง ท่านเตรียมตัวเอาไว้ให้ดีก็แล้วกัน"
ทว่า เวินหยูอวี้นั้นหารู้ไม่ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้ได้ล่วงรู้ไปถึงหูของจิ้งอ๋องเป็นที่เรียบร้อย จิ้งอ๋องยิ้มเล็กน้อย เขามองดูการแสดงที่กำลังเข้มข้น แล้วพูดขึ้นอย่างสบายๆว่า "ข้าเองก็อยากจะรู้นัก ใครมันจะอยู่เหนือกว่าใคร นี่ถึงกับกล้ามาลูบคมคนอย่างข้าในเขตวังหลวงเชียวหรือนี่ ไม่รู้ว่า จะเป็นคนคนเดียวกับผู้ที่เคยปองร้ายข้าเมื่อครั้งก่อนหรือไม่?"
พูดจบ จิ้งอ๋องก็กลับไปนั่งที่เดิม รอให้คนแยกแยะผิดชอบชั่วดีไม่เป็นมาดำเนินแผนการตามที่ตนเองได้วางไว้ แต่ว่ารออยู่นานสองนานก็ยังไม่มีผู้ใดเข้ามา จิ้งอ๋องขมวดคิ้ว เขาเรียกทหารองครักษ์เข้ามา แต่ยังไม่ทันที่จิ้งอ๋องจะได้สั่งการ เขาก็เหลือบไปเห็นนางกำนัลคนหนึ่งเดินมาเติมน้ำชาให้เขา นางอาศัยจังหวะตอนกำลังเติมน้ำชา มอบผ้าผืนหนึ่งให้กับเขา
จิ้งอ๋องเลิกคิ้ว คลี่ผ้าออก ก็เห็นว่าผ้าผืนนั้นปักอักษรคำว่าชางเอาไว้ เป็นผืนเดียวกับที่หยุนชางถือมาเมื่อเช้า นางกำนัลผู้นั้นแอบกระซิบว่า "องค์หญิงทรงรอท่านอ๋องอยู่ที่หอลิ่งหย่าในตำหนักด้านข้างเพคะ"
จิ้งอ๋องได้ฟังก็พยักหน้า แล้วค่อยๆเก็บผ้าผืนนั้นเข้าไปใต้แขนเสื้อ
นางกำนัลผู้นั้นเมื่อเติมน้ำชาเสร็จแล้ว ก็ทูลลาออกไปทันที
แล้วจิ้งอ๋องก็เสด็จออกไปด้านนอก
เมื่อเสด็จมาถึงทางเดินไปสู่หอลิ่งหย่า จิ้งอ๋องก็ได้พบกับภาพสตรีสวมชุดสีแดงสดปรากฏอยู่กลางศาลาเหลียงถิง นางนั่งอย่างกุลสตรี หันหลังให้จิ้งอ๋อง ปิ่นทองรูปผีเสื้อที่ศีรษะนางนั้นเล่นแสงวิบวับ ขยับไปมาราวกับกำลังจะโบยบิน
จิ้งอ๋องขมวดคิ้วจ้องมองอยู่สักพัก แต่งออกมาได้เหมือนมากเลยนะนี่
ทว่า ทันใดนั้นเอง เขาก็เห็นชายเสื้อเทา 4 คนบุกเข้ามาจากอีกด้านหนึ่งของศาลาเหลียงถิง พวกเขาฉุดร่างหญิงสาวในชุดแดงไป หญิงสาวชุดแดงนั้นมีท่าทีตกใจและพยายามต่อสู้ขัดขืน แต่แล้ว ชายเสื้อเทาคนหนึ่งก็นำมือขึ้นมาตีเข้าไปที่ลำคอของนาง หญิงสาวชุดแดงสลบลงในทันที จากนั้นชายทั้งสี่ก็พาตัวนางหนีหายไป……
จิ้งอ๋องขมวดคิ้วเล็กน้อย นี่ถึงกับใช้วิธีนี้มาหลอกล่อตนเองเลยหรือนี่? จะว่าไปการแสดงฉากนี้ก็เล่นได้สมบทบาทจริงๆเลยนะ
จิ้งอ๋องก้าวเท้าและเดินจากไปจากศาลาเหลียงถิง ศาลาเหลียงถิงในตอนนี้จึงกลับเข้าสู่สภาวะปกติ แต่ปิ่นปักผมสีทองที่ตกอยู่บนพื้นดูจะดึงดูดสายตามากเป็นพิเศษ จิ้งอ๋องก้มลง เก็บปิ่นปักผมนั้นขึ้นมา สักครู่หนึ่งก็ขมวดคิ้วขึ้นมาอีกครั้ง เขาสัมผัสได้ถึงความผิดปกติ หากเป็นคนที่เวินหยูอวี้ส่งมาจริงๆ แล้วเหตุใด เมื่อเขามาถึงศาลาเหลียงถิงแล้ว เวินหยูอวี้ซึ่งนั่งหันหลังให้เขา นางควรจะมีแผนให้เขาต้องเดินไปหานาง แต่ว่านี่ จู่ๆนางกลับถูกคนพาหนีไปเช่นนี้
หรือว่า เวินหยูอวี้นั่นจะถูกลักพาตัวไปจริงๆ?
จิ้งอ๋องส่ายหน้า เวินหยูอวี้แต่งกายเป็นหยุนชาง มีความเป็นไปได้ว่า คนพวกนั้นต้องการลักพาตัวหยุนชางจริงๆ แต่พวกเขาไม่รู้ว่าหญิงผู้นั้นแท้ที่จริงแล้วคือเวินหยูอวี้ต่างหาก
แล้วเขาก็หวนนึกถึงเรื่องที่หยุนชางมอบปิ่นให้กับเวินหยูอวี้ แล้วยังเรื่องที่นางให้เวินหยูอวี้สวมชุดที่เหมือนกันกับนาง เกรงว่าคงจะไม่ใช่แค่เป็นการเปิดโอกาสให้เวินหยูอวี้มาล่อลวงเขาหรอกนะ?
เมื่อคิดเช่นนี้แล้ว สายตาของจิ้งอ๋องก็ค่อยๆแน่นิ่ง เขานำปิ่นโยนออกไปด้านนอกศาลาเหลียงถิง "ไป กราบทูลฮ่องเต้ บอกว่า องค์หญิงหายตัวไป เมื่อครู่นี้มีสาวใช้เห็นองค์หญิงกำลังนั่งเล่นอยู่ที่ศาลาเหลียงถิงแห่งนี้ แต่แล้วกลับถูกกลุ่มชายเสื้อเทา 4 คนจับตัวไป นำปิ่นนี้ถวายแด่ฮ่องเต้ เมื่อฮ่องเต้ได้ทอดพระเนตร ก็จะทรงเข้าใจเอง"
รอบตัวจิ้งอ๋องหามีผู้ใดไม่ ทว่า กลับมีเสียงเสียงหนึ่งตอบกลับมาว่า "น้อมรับบัญชา"
จิ้งอ๋องครุ่นคิด สถานที่ที่ให้สายลับไปส่งข่าวให้ฮ่องเต่เมื่อครู่นี้นั้น คือหอชิงซือซึ่งอยู่ไม่ไกลจากหอลิ่งหย่าแห่งนี้ จิ้งอ๋องนิ่งเงียบไปชั่วครู่ แล้วจึงก้าวเท้ามุ่งหน้าไปยังหอชิงซือ
เมื่อมาถึงหอชิงซือได้ไม่นาน จิ้งอ๋องก็ได้ยินเสียงวัตถุแล่นมาทางอากาศ จิ้งอ๋องหันไปหาต้นตอของเสียง จึงได้พบกับลูกดอกจำนวนมากกำลังพุ่งมาทางเขา
จิ้งอ๋องขมวดคิ้ว เขาคลำไปที่เอวแล้วชะงักไปชั่วครู่ เนื่องจากวันนี้ต้องเข้าเฝ้าจักรพรรดิหนิง ไม่สามารถพกดาบเข้าไปได้ จิ้งอ๋องไหวตัวอย่างรวดเร็ว เขาก้มหลบลูกดอกที่พุ่งเป้ามาที่เขาได้ทันท่วงที ในจังหวะที่เขาก้มลงไปนั้นก็รีบชักมีดพกออกมาจากใต้ฝ่าเท้า เขาใช้มีดพกเล่มนั้้นปัดป้องลูกดอกที่พุ่งเข้ามา พลันเกิดเสียง "ปั้ก"ลูกดอกนั้นปักเข้าที่มีดพก แล้วแยกออกเป็นเสี่ยงๆ ภายในลูกดอกมีฝุ่นควันเล็กๆแทบจะมองไม่เห็นฟุ้งกระจายออกมา……