ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง - ตอนที่ 198 องค์ชายสามแห่งแคว้นเย้หลางได้รับบาดเจ็บ
- Home
- ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง
- ตอนที่ 198 องค์ชายสามแห่งแคว้นเย้หลางได้รับบาดเจ็บ
"โอ้?" หยุนชางเงยหน้าขึ้นและมองเฉียนหยิน "เป็นไปได้ไหมที่องค์ชายสามจะมีความแค้นกับใครบางคน?"
สายตาของหยุนชางกวาดไปรอบ ๆ และเห็นว่าทุกคนมีความรู้สึกขุ่นเคือง พลันคาดเดาอย่างสงสัยว่าใครคนแทงชางเจียชิงซู และทำไมถึงแทง
ภายในสวนเงียบกริบมิมีใครพูดอันใดออกมา ในเวลานี้ มีเสียงข้างนอกพูดมาว่า
"ซางเอ๋อร์ องค์ชายสามถูกลอบสังหารและบาดเจ็บ ทุกคนในสวนนี้ตกเป็นผู้ต้องสงสัยทั้งหมด ขอให้ทุกคนย้ายออกจากสวนในตอนนี้จะดีกว่า ."
เมื่อสาวๆ ได้ยินคำพูด พวกเธอก็แสดงสีหน้าวิตกกังวลเป็นอย่างมาก พวกเขาไม่คิดเลยว่าการมานำเสนอดอกไม้เพียงดอกเดียว จะทำให้เกิดเรื่องไม่คาดฝันเช่นนี้ หยุนชางยิ้มอย่างผ่อนคลายพลางปลอบใจว่า "ไม่เป็นไร ตอนนี้เราทุกคนอยู่ในสวนนี้ ไม่มีใครมาเวลาพอที่จะไปลอบสังหารเจ้าชายทั้งสาม นี่เป็นเพียงคำถามเท่านั้น ทุกคนวางใจได้"
เมื่อได้ยินสิ่งที่หยุนชางพูด ทุกคนรู้สึกผ่อนคลายลงมาบ้าง ลุกขึ้นอย่างรวดเร็วและใส่ผ้าคลุมหน้า แล้วเดินออกจากสวนพร้อมกับหยุนชาง
เมื่อเดินออกมาจากสวน พลันเห็นจิ้งอ๋องที่ยืนอยู่ใต้ต้นอิงฮวา อีกทั้งยังเป็นฤดูที่ออกดอกเต็มต้น เมื่อลมพัดผ่าน กลีบของต้นอิงฉวาก็ร่วงหล่น จิ้งอ๋องได้ยินเสียงเท้าเดินเข้า เมื่อเงยหน้าขึ้นมาก็พบหยุนชาง ใบหน้าเสมือนสวรรค์ประทานให้ เมื่อเห็นหยุนชางอยู่ข้างหน้าแล้ว จิ้งอ๋องพลางยิ้มให้เล็กน้อย ใบหน้าพลันอ่อนโยนขึ้นหลายส่วน ใครพบเห็นเป็นอันได้ตกตะลึง
"ซ่างเอ๋อร์" จิงหวางพูดเบาๆ
หยุนชางพลางถอนหายใจ ผู้ร้ายคนนี้จงใจแน่ ๆ แม้หยุนชางมิได้หันกลับมาหาบรรดาหญิงสาวที่อยู่ด้านหลังทว่ากลับรับรู้ได้ว่าพวกนางต้องมีสีหน้าแดงระเรื่อและมีแววตาที่เปล่งประกายเป็นแน่
"เสด็จอา เมื่อครู่มิใช่เพิ่งพูดว่าองค์ชายสามถูกลอบสังหารไปหรือ ? แต่บาดแผลนั้นร้ายแรงหรือไม่? ใครเป็นคนแทงองค์ชายที่สามหรือ?" หยุนชางเดินไปหาจิ้งอ๋องถามด้วยเสียงต่ำ
จิ้งอ๋องเลิกคิ้ว จ้องกลับไปที่หยุนชาง ดวงตาของเขาเขียนอย่างชัดเจนว่า "เจ้ามิใช่ว่ารู้อยู่แล้วหรือ"
หยุนชางหันไปมองผู้คนที่อยู่ข้างหลังเธอ นางรู้แต่ผู้คนที่อยู่ด้านหลังเธอไม่รู้
"องค์ชายสามได้รับบาดเจ็บแต่ไม่มาก ถูกกริชแทงจากช่องท้องทว่าค่อนข้างลึก แต่หมอหลวงบอกว่าไม่ได้อันตรายถึงชีวิต ฆาตกรถูกจับตรงที่เกิดเหตุ แต่จักรพรรดิบอกว่าอาจจะเป็นการสมรู้ร่วมคิด ดังนั้นจึงเรียกทุกคนให้ไปที่นั่น" จิงหวางกระซิบ
แม้ว่าหยุนชางจะรู้ว่าชางเจียชิงซูได้รับบาดเจ็บ ทว่าไม่รู้ว่าเขาได้รับบาดเจ็บได้อย่างไร แม้อาการบาดเจ็บจะเล็กน้อย ทว่ามันต้องมีเหตุผลอะไรบางอย่าง
หยุนชางพยักหน้าเล็กน้อย "งั้นพวกเราไปกันเถอะ อย่าให้เสด็จพ่อรอนาน"
จิ้งอ๋องพาทุกคนมายังที่ด้านหลังของวัง วังนี้.. หยุนชางว่าพลางหลี่ตามอง เเห็นได้ชัดว่านี่คือข้างหลังวังของหัวจิ้ง มีลานของตัวเองเพื่อการพักผ่อน ชื่อของลานนี้คือสวนจิ้งหลานของหัวจิ้ง
จักรพรรดิหนิงอยู่พร้อมกับขุนนางทั้งหมด จักรพรรดิหนิงนั่งอยู่ตรงกลางโดยมีขุนนางขนาบอยู่ทั้งสองข้างและมีสองคนคุกเข่าอยู่ตรงกลาง
"ฉางเอ๋อร์มาแล้วหรือ นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ นั้นคือคณะหญิงสาวทั้งหมดหรือ เกิดอะไรขึ้นหรือไม่" จักรพรรดิหนิงเงยหน้าขึ้นมองหยุนชางและมองไปยังผู้หญิงที่อยู่ข้างหลังอย่างเฉยเมย
หยุนชางส่ายหัว "เมื่อครู่ หม่อมฉันและพวกผู้หญิงพักผ่อนอยู่ในสวน ทว่าได้ยินเาียงกรี๊ดร้องดังขึ้นมา หม่อมฉันเดาว่าอาจจะมีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้น ดังนั้นจึงขอให้เสด็จอานำองครักษ์ล้อมรอบสวนเพื่อไม่ให้รบกวนทุกคน หม่อมฉันเสียมารยามที่ไม่ได้มารับเสด็จจักรพรรดิ์แล้ว"
จักรพรรดิหนิงพยักหน้ารับ" ทั้งหมดเป็นแขกรับเชิญ หัวหน้าเจิ้ง ไปเอาเก้าอี้มาให้สาวๆ พักผ่อนเร็"ว
หัวหน้าเจิ้งรับคำสั่งพร้อมโค้งกายกลับไป
หยุนชางมองดูทั้งสองคนที่คุกเข่าบนพื้นอยู่นั้น เมื่อมองดูด้านหลังรู้สึกคุ้นเคยเป็นอย่างมาก. หยุนชางเงยหน้าขึ้นและกล่าวว่า "นี่คือนักฆ่าที่แทงองค์ชายสาวแคว้นเย้หลางงั้นหรือ ช่างกล้าลงมือเสียจริง โชคดีที่แคว้นหนิงได้ด้รับการปกป้องอย่างเข้มงวดเสมอไม่เช่นนั้นองค์ชายสามอาจเสียชีวิตได้ "
ทันทีที่เสียงของหยุนชางหายไป ก็ได้ยินเสียงดังขึ้น "ได้รับการปกป้องอย่างเข้มงวดงั้นหรือแคว้นของเจ้าได้รับการคุ้มกันอย่างหนัก แต่กระหม่อมไม่เข้าใจจริงๆ ว่าทำไมองค์ชายสามของเราถึงเกิดเรื่องเช่นนี้ได้? หรือเป็นเพราะคำสั่งของจักรพรรดิ"
"กล้าดียังไง!" หยุนชางตะโกนออกมาพลางจ้องมองไปยังชายที่กำลังพูดอยู่ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเย็นชา "องค์ชายของเจ้าเกิดอุบัติเหตุแคว้นหนิงของเรา เราจะทำการสอบสวนอย่างเข้มงวดเอง แต่ในเมื่อเจ้าบอกว่าเป็นเพราะคำสั่งของจักรพรรดิหนิงสั่งให้แทงองค์ชายของเจ้า เจ้ามีหลักฐานอะไรมายืนยัน ที่ใส่ร้ายจักรพรรดิว่าทำหรือไม่ หากไม่แล้ว แคว้นหนิงของเรามิต้องแบกรับโทษไปเก้าชั่วโคตรเลยหรือ ในวันนี้ข้าหนิงหวุนชางจะขอถามเจ้า หากพบว่าเรื่องนี้จักรพรรดิ์มิได้มีส่วนเกี่ยวข้อง เจ้ากล้าแบกรับผลที่ตามมาหรือไม่?"
ชายผู้นี้เกิดมามีร่างกายแข็งแรง หน้าตาดุร้าย ท่าทางเย่อหยิ่งมีท่าทีดูถูกเหยียดหยามเป็นอย่างมาก เมื่อถูกหยุนชางตำหนิ เขานจึงไม่สามรถเปลี่ยนสีหน้าได้
"เจ้า"
หยุนชางส่งเสียงอย่างเย็นชา "ข้า? ข้าคือองค์หญิงฮุ่ยกั๋ว และข้าเคารพเจ้าในฐานะแขก และเจ้าก็อย่าได้ลืมว่าเจ้าเป็นใครในที่แห่งนี้ อย่าลืมว่าตอนนี้เท้าของเจ้ากำลังเหยียบในแผ่นดินแคว้นหนิงของเรา "
ใบหน้าของชายคนนั้นแดงก่ำ และเขาต้องการที่จะพูดอีกครั้ง แต่ทว่าถูกคนรอบกาย ดึงเบาๆ เขาต้องกระทืบเท้าหันหน้าหนีอย่างขมขื่น
หยุนชางก็มิอยากเกี่ยวข้องกับเขาเช่นกัน เมื่อรู้ว่าเป็นเช่นนี้แล้ว ในสายตาผู้นคนมากมายคงตัดสินนางไปกันหมดแล้ว หยุนชางพลางกลอกตาไปมาและเหลือบมองไปยังรอบ ๆแล้ว พลันเห็นสีหน้าที่อ่านไม่ออกของเสนาบดีหลี เวินหยูอวี้ที่จ้องมองหยุนชางด้วยแววตาตกตะลึง ทว่ามีเพียงจิ้งอ๋องเท่านั้นที่จ้องมองและยิ้มตอบกลับมา
หยุนชางหันหน้ากลับไปอีกครั้ง เมื่อเห็นว่าจักรพรรดิหนิงกำลังใช้ความคิดไตร่ตรอง หยุนชางจึงยิ้มเล็กน้อยและเดินเข้าหาจักรพรรดิหนิง "เสด็จพ่อท่านคงมิโทษชางเอ๋อร์ไม่รู้จักควบคุมตนเองใช่หรือไม่? หม่อมฉันแค่ไม่พอใจนิดหน่อย ทว่าบางคนเป็นแค่หมา แต่พวกเขากลับคิดว่าเป็นเจ้าของทุ่งหญาอันใหญ่โต เพียงแค่ไม่มีใครบอกว่าเขาเป็นหมา แต่ทระนงตนเองว่าเป็นหมาป่า "
จักรพรรดิหนิงยิ้มเล็กน้อย แม้ว่าเขาจะแปลกใจที่จู่ๆ หยุนชางปรากฎตัว ทว่าลึกๆ เขากลับพอใจเป็นอย่างมาก ที่ลูกสาวของเขาไม่ได้อ่อนแอพอที่จะถูกหลอก และเป็นเรื่องปกติที่นางจะปกป้องเขา
"สิ่งที่ชางเอ๋อร์พูดถูกต้องทุกอย่าง"
หยุนชางแสร้งทำเป็นไม่เห็นดวงตาอาฆาตแค้นที่รุนแรงของชายคนนี้ เมื่อมองไปที่ยังทั้งสองคนที่คุกเข่าลงบนพื้นพลันขมวดคิ้วเล็กน้อย "นักฆ่าท่านนี้ชางเอ๋อร์เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน?ทำไมถึงจำไม่ได้กัน"
จิ้งอ๋องได้ยินดังนั้นพลันยิ้มตอบกลับว่า "ซางเอ๋อร์เห็นแล้วเมื่อวันที่สามเดือนสามของปีนี้ เมื่อครั้นที่เราออกไปเที่ยวกัน นั้นเวินชิงจู๋ลูกชายของตระกูลเวิน"
หยุนซางแสดงสีหน้าตกตะลึงเล็กน้อยหลังจากได้ยินเรื่องนี้ "ใช่ ข้าจำได้แล้ว นั้นคือเวินชิงจู๋ลูกชายของตระกูลเวิน เหมือนว่าเขาจะมากับพี่สาวเวินหยูอวี้วันนี้ ทำไมถึงเป็นนักฆ่าได้เล่า?"
หยุนชางมองมายังที่เวินหยูอวี้อย่างงุนงง เมื่อหัวหน้าเจิ้งจัดเรียงเก้าอี้เสร็จเรียบร้อยแล้ว. ในขณะที่เวินหยูอวี้กำลังจะนั่งลงนั้น พลันได้ยินหยุนชางพูดถึงตนเอง เมื่อเงยหน้าขึ้นมา พลันเห็นสีหน้าที่มองมาอย่างไม่น่าเชื่อของหยุนชาง เมื่อมองไปยังชายที่คุกเข่าอยู่บนตรงหน้าแล้วนั้นจึงรู้สึกว่าทั้งสองมีลักษณะที่คุ้นเคยเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากได้ยินว่าเป็นมือสังหารที่แทงชางเจียชิงซูจึงมิได้สนใจอันใด ทว่า ไม่คาดคิดว่าจะเป็น…….