ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง - ตอนที่ 140 ความลับที่ซอนอยู่ในลูกท้อมงคลมรกต
"ท่านอ๋อง เมื่อครู่ข้าน้อยพบสิ่งนี้บนตัวใต้เท้าหวูและสาวใช้คนนั้น" พ่อบ้านรีบเข้ามารายงาน บนถาดที่เขาถืออยู่นั้นมีถุงหอมที่ปักด้วยเป็ดที่กำลังเล่นอยู่ในน้ำสองถุง มีรูปแบบที่เหมือนกัน แต่มีอันหนึ่ง เป็นสีน้ำเงิน อีกอันเป็นสีชมพู
ซุ่นชิ่งอ๋องยื่นมือจะไปหยิบ พ่อบ้านรีบพูด "ท่านอ๋อง ระวัง มียาพิษอยู่ในถุงหอมนี้"
ซุ่นชิ่งอ๋องได้ยินก็ชักมือ สำรวจด้วยสายตา พ่อบ้านก็รีบพูดออกมาว่า เมื่อครู่ ข้าน้อยได้ให้หมอดูแล้ว ยาพิษในถุงหอมเหมือนกับยาพิษในตัวของใต้เท้าหวูและสาวใช้คนนั้น
"โอ๋?" จู่ๆจิ้งอ๋องก็พูดขึ้น จิ้งอ๋องยืนขึ้น ก้าวไปข้างหน้า เอื้อมมือหยิบถุงหอมทั้งสองขึ้นมา ซุ่นชิ่งอ๋องรีบร้องออกมา "ชิงเหยียน"
จิ้งอ๋องยิ้มเล็กน้อย "เสด็จอามิต้องเป็นห่วง หลานมีลูกแก้วต้านพิษอยู่บนตัว พิษธรรมดาจะไม่สามารถทำอะไรหลานได้" จิ้งอ๋องเปิดถุงหอมทั้งสอง แล้วพบว่ามีผมหนึ่งช่อและกระดาษอยู่ในถุงหอม
ทุกคนเดินเข้ามาดู เห็นว่ากระดาษในถุงหอมสีน้ำเงินมีลายมือที่สวยงาม ซึ่งเขียนว่า "ถั่วแดงเติบโตในภาคใต้ มันจะงอกและเติบโตเมื่อฤดูใบไม้ผลิมาถึง ข้าหวังว่าเจ้าสามารถใช้มากขึ้นเพราะมันเป็นสัญลักษณ์ของความคะนึง หยูโม่" อีกแผ่นหนึ่งของกระดาษ มีลายมือที่ดูมีพลัง เขียนว่า "ถ้าความรักทั้งสองนั้นยั่งยืน เหตุไฉนต้องภวังค์ว่าจะได้อยู่ด้วยกันหรือไม่ เฉียนอัน"
จิ้งอ๋องมองไปที่หวูฮูหยินด้วยใบหน้าที่ตะลึงอยู่ด้านหนึ่ง "บัณฑิตหวู นามเฉียนอัน นี่คือลายมือของเขาใช่หรือไม่"
ซุ่นชิ่งอ๋องก็เห็นเบาะแสบางอย่างเช่นกัน "สาวใช้ที่ตายซึ่งชื่อ หยูโม่?"
พ่อบ้านพยักหน้าอย่างรวดเร็วและกล่าวว่า "เรียนท่านอ๋อง สาวใช้ที่ตายไม่ได้มีนามว่าหยูโม่ แต่ชื่อซือฉี"
"ท่านอ๋อง นายท่านต้องถูกคนใส่ร้าย นี่ต้องเป็นแผนของฆาตกรแน่ๆเจ้าค่ะ…' หวูฮูหยิน ตื่นตระหนกอยู่ครู่หนึ่ง พูดซ้ำๆ แต่แววตาเต็มไปด้วยความสงสัย
"ไปตรวจสอบที่มาที่ไปของซือฉีคนนี้… " ซุ่นชิ่งอ๋องกล่าวอย่างเฉียบขาด
พ่อบ้านรีบถอยกลับ แต่หวูฮูหยินที่อยู่ข้างๆ ดูเหมือนจะทนไม่ได้กับความตกใจที่นางเพิ่งเจอ และบ่นพึมพำกับตัวเองว่า "เป็นไปได้ไง เป็นไปไม่ได้ นายท่านจะไม่ทำเยี่ยงนั้น เป็นไปไม่ได้
… "
ผ่านไปสักพัก พ่อบ้านก็ส่งข้อมูลทั้งหมดของหยูโม่มา "หยูโม่ อายุสิบหก เป็นคนเมืองหลวง แม่ผู้ให้กำเนิดของชื่อหยูโม่ เคยเป็นสาวใช้ข้างกายของท่านฮูหยินในจวนหวู เมื่อสิบเจ็ดปีที่แล้ว ถูกท่าฮูหยินส่งออกจากจวน และได้ไปอาศัยอยู่ในบ้านเล็กๆ ทางตะวันตกของเมือง"
หวูฮูหยินตกใจมาก นั่งลงบนเก้าอี้ หน้าซีดเผือด และตาเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ
ทุกคนที่อยู่ที่นี้มีความชัดเจนมากเกี่ยวกับการแย่งชิงในวังหลัง ไม่จำเป็นต้องพูด ก็รู้ว่า ซือฉี น่าจะเป็นลูกสาวนอกสมรสของหวูฉีและหยูโม่
พระชายาซุ่นชิ่งเหลือบมองหวูฮูหยินด้วยความเห็นอกเห็นใจเล็กน้อย และกล่าวว่า "หวูฮูหยินดูไม่ค่อยสบาย เชิญพักผ่อนที่ห้องพักก่อนดีหรือไม่ ประเดี๋ยวมีข่าวข้าจะส่งคนไปแจ้งเจ้าเอง"
ตาของหวูฮูหยินแดงก่ำ พยักหน้า ลุกขึ้นยืนและเดินตามสาวใช้กลับไป
พระชายาซุ่นชิ่งถอนหายใจ "เฮ้อ ไม่ได้สงบเลยจริงๆ ชางเอ๋อร์และชิงเหยียนไปเดินเล่นกับข้าเถิด" หลังจากพูด ก็ลุกขึ้นยืน
หยุนชางได้ยินเยี่ยงนั้น หรี่ตาแล้วยืนขึ้น เดินไปหาพระชายาซุ่นชิ่งและช่วยพยุงนางเดินออกไป
ทะเลสาบข้างสวนที่พระชายาซุ่นชิ่งอาศัยอยู่ ในทะเลสาบ ยังได้สร้างสะพานสู่ศาลากลางทะเลสาบโดยเฉพาะ พระชายาพาหยุนชางและจิ้งอ๋องไปที่ศาลากลางทะเลสาบ แล้วนั่งลงในศาลา หยุนชางมองไปรอบๆ แอบถอนหายใจ ที่นี่เป็นที่ที่ดีจริงๆ ไม่ว่าจะพูดอะไร ก็ไม่ต้องกังวลว่าจะมีคนได้ยิน
"นั่งเถิด" พระชายาซุ่นชิ่งนั่งลง ใช้มือตบหยุนชางเบาๆ หยุนชางจึงนั่งลงกับนาง
พระชายาซุ่นชิ่งจ้องที่หยุนชางครู่หนึ่ง ยิ้มและกล่าวว่า "ชิงเหยียนมีวาสนา ชางเอ๋อร์ช่างงามยิ่งนัก อีกสักสองปี คงจะไม่มีใครเทียบได้ จริงสิ ข้าได้ยินมาว่า เจ้าอยู่ที่วิหารแคว้นหนิงมาหลายปีแล้ว"
หยุนชางพยักหน้า "ตอนเด็กร่างกายไม่แข็งแรง แต่โชคดีที่เจ้าอาวาสอู๋น่าเข้าวัง ช่วยชีวิตชางเอ๋อร์ไว้ แต่เพราะกระทบจุดสำคัญ ดังนั้นเจ้าอาวาสอู๋น่าจึงรับชางเอ๋อร์ไปรักษาตัวที่วิหารแคว้นหนิง"
พระชายาซุ่นชิ่งให้ความสนใจกับท่าทีของหยุนชางที่แสดงออกมา และเมื่อนางเห็นสีหน้าของหยุนชางที่เฉยเมย นางพูดอีกครั้ง "ข้าได้ยินเรื่องในปีนั้นมาบ้าง ในปีนั้นเจ้าสวดมนต์ที่วิหารแคว้นหนิงและอธิษฐานเผื่อผู้คน จนตัวเองล้มป่วย เพียงแต่ว่า ข้าได้ยินมาว่า เจ้าไม่ใช่ป่วยแต่โดนวางยาพิษ?"
หยุนชางดูจะตกใจ จับกระโปรงของนางจนมีรอยย่น ผ่านไปครู่หนึ่ง นางก้มศีรษะลงแล้วลดเสียงลง "จะเป็นไปได้อย่างไร ชางเอ๋อร์ก็ไม่รู้ว่าทำไมมีข่าวลือเยี่ยงนี้ออกมา เสด็จแม่และพี่หญิงดีต่อชางเอ๋อร์มาก ชางเอ๋อร์จะถูกวางยาพิษได้อย่างไร?"
พระชายาซุ่นชิ่งเป็นคนฉลาด เห็นได้ว่าหยุนชางไม่พูดความจริง แถมยังชี้ให้เห็นว่าฮองเฮาและองค์หญิงหัวจิ้งดีต่อนางมาก ดูเหมือนว่าจงใจจะช่วยพวกนางปกปิด ถ้าเช่นนี้ ถูกวางยาพิษคงเป็นเรื่องจริง และผู้ที่วางยาพิษที่น่าจะเป็นไปได้มากที่สุดคือฮองเฮาและองค์หญิงหัวจิ้ง เกรงว่าหยุนชางจะถูกกระทำมาอย่างหนักหน่วงเช่นกัน ไม่กล้าแม้แต่จะพูดความจริง
พระชายาซุ่นชิ่งยิ้มอย่างเย็นชา นัยน์ตาเป็นปฏิปักษ์เล็กน้อย "ตอนที่หญิงคนนั้นยังเด็ก ข้าก็เห็นว่านางไม่ธรรมดา นางพยายามจะเข้าวังด้วยวิธีสกปรกต่างๆนาๆ เป็นจริงที่ว่าจิตใจของนางช่างร้ายกาจจริงๆ"
สายตาของจิ้งอ๋องมองผ่านสีหน้าของหยุนชาง รู้ว่านางกำลังแสดงอยู่ แต่เมื่อเจ็ดปีก่อน นางอายุเพียงแปดขวบ และเด็กอายุแปดขวบเป็นเพียงปลาบนเขียง ที่จะถูกเชือดได้ตามอำเภอใจ หรือว่า ในเวลานั้นนางทนทุกข์ทรมานมาจริงๆ ดังนั้น นางจึงเกลียดแค้นหัวจิ้งและฮองเฮามาก จนอยากจะลงมือฆ่าเพื่อตัดปัญหา
หลังจากที่พระชายาซุ่นชิ่งกล่าวประโยคที่ไม่เจาะจงชื่อคนๆนั้น ก็เปลี่ยนมายิ้มอย่างอ่อนโยนและถามต่อไปว่า "ลูกท้อมงคลมรกตคือฮองเฮาให้เจ้านำมามอบให้ข้าหรือ"
หยุนชางพยักหน้าและก้มศีรษะ "ชางเอ๋อร์เพิ่งกลับวังไม่นานมานี้ อันที่จริง ไม่รู้มาก่อนว่าวันนี้คือวันเกิดของพระชายา และเสด็จแม่ได้แจ้งให้ชางเอ๋อร์ทราบโดยเฉพาะ และให้ชางเอ๋อร์มาอวยพรให้พระชายา เสด็จแม่ตรัสว่า ไม่ว่าจะช้าหรือเร็วชางเอ๋อร์ก็ต้องออกเรือน ก็ควรเข้าหาครอบครัวเหล่าขุนนางไว้แต่เนิ่นๆ ต่อไปจะได้ไม่รู้สึกไม่คุ้นชิน เสด็จแม่ทรงเมตตากับชางเอ๋อร์มาก ทรงแจ้งชางเอ๋อร์ให้รู้ถึงความชอบของพระชายา ชางเอ๋อร์ไม่ได้มีสมบัติอะไรมากมายและ ไม่สามารถนำของขวัญล้ำค่าใดๆ ออกมาได้ เสด็จแม่จึงเตรียมลูกท้อมงคลมรกตนี้ไว้ให้ชางเอ๋อร์"
"อ๋อ?" พระชายาซุ่นชิ่งอ้าปากค้างเล็กน้อย "ฮองเฮาตรัสกับเจ้าว่าข้าโปรดอะไรบ้างล่ะ"
"เสด็จแม่ตรัสว่า พระชายาชอบสีที่อ่อนกว่า โดยเฉพาะสีเขียวและสีฟ้า มักชอบดื่มชาต้าหงเผา และอาหารจานโปรดคือหูฉลามหางหงส์ เดิมทีชางเอ๋อร์อยากจะสวมชุดสีเขียว แต่เสื้อผ้าที่ทำก่อนหน้านี้มีแต่ชุดสีสดใส และไม่มีชุดสีเขียว…" สายตาของหยุนชางมองพระชายาซุ่นชิ่งอย่างจริงใจและพูดว่า "พระชายาไม่ถือสาใช่ไหมเจ้าคะ?"
ดวงตาของพระชายาซุ่นชิ่งเผยความเย็นชาและนางก็ส่ายหัว "จะเป็นเยี่ยงนั้นได้อย่างไร ชุดที่เจ้าใส่ช่างสวยจริง"
หยุนชางก้มศีรษะลง ดูเหมือนเขินเล็กน้อย ทันใดนั้น เสียงของจิ้งอ๋องก็ดังขึ้น "เอ๊ะ สาวใช้คนนั้น ทำไมถึงดูคุ้นหน้า"
หยุนฉางเงยศีรษะขึ้นและมองไปที่สายตาที่จิ้งอ๋องกำลังจ้องมอง ก็เห็นสาวใช้คนหนึ่งข้างทะเลสาบ เดินตรงไปอย่างเร่งรีบ มีรอยยิ้มเปล่งประกายในดวงตาของหยุนชาง แต่ใบหน้าของนางทำเหมือนสงสัย "เอ๊ะ นั่นซิ่วซินกูกูที่อยู่ข้างกายเสด็จแม่ไม่ใช่หรือ ทำไมมาอยู่ที่นี่ได้ เสด็จแม่ก็มิได้มาด้วย หรือว่านางมาหาข้า?"
พระชายาซุ่นชิ่งปรบมือ และทันใดนั้นองครักษ์ลับก็โรยตัวจากด้านบนของศาลา คุกเข่าต่อหน้าพระชายา หยุนชางตกตะลึงครู่หนึ่ง ดูเหมือนจะแปลกใจเล็กน้อย ใช้เวลานานพอควรจึงได้สติกลับมาอีกครั้ง และมองดูองครักษ์ลับในชุดดำอย่างสงสัย
พระชายาซุ่นชิ่งชี้ไปที่หญิงสาวในชุดเขียวบนทางเดินและกล่าวว่า "ตามไป ดูสิว่านางไปไหน"
องครักษ์ลับตอบและหายตัวไปในพริบตา
จิ้งอ๋องก้มศีรษะ ยกถ้วยน้ำชาขึ้นจิบชา เมื่อเห็นหูของหยุนชางแดงเยือกแข็ง เขาแปลกใจเล็กน้อย หยุนชางมีศิลปะการต่อสู้ไม่ต่ำ ทำไมมักทำให้คนคิดว่านางดูเหมือนจะไม่มีวิทยายุทธเลย และแทบจะไม่รู้สึกถึงพลังภายในที่พุ่งพล่านในตัวนางเลย จิ้งอ๋องถอดเสื้อคลุมออกแล้วสวมให้หยุนชาง "ดูเหมือนเสื้อคลุมของเจ้าได้ถูกวางไว้ในห้องในก่อนหน้านี้ ที่นี่ลมแรง เจ้าสวมมันไว้ก่อน"
หยุนชางก้มศีรษะลงและไม่ปฏิเสธ พระชายาซุ่นชิ่งหัวเราะ และกล่าวว่า "วัยหนุ่มสาวนี่ดีจริงๆ"
หลังจากนั่งได้ครู่หนึ่ง องครักษ์ก็กลับมา "พระชายา สาวใช้คนนั้นไปที่สวนของพระชายาจวิ้นอ๋อง(สะใภ้รอง)"
"ฮ่าฮ่า" พระชายาซุ่นชิ่งยิ้ม ดวงตาของนางเป็นประกาย หลังจากนั้นสัมผัสความโหดร้าย นางยืนขึ้นและพูดว่า "งั้นเราไปที่สวนของพระชายาจวิ้นอ๋องดูกันเถอะ"
หยุนชางตามหลังพระชายาซุ่นชิ่ง ไปถึงที่สวนแห่งหนึ่ง ทันทีที่เดินไปที่ทางเข้าสวน ก็พบซุ่นชิ่งอ๋องที่เดินมา ซุ่นชิ่งอ๋องพยักหน้าและกล่าวว่า "เข้าไปจากข้างหลัง อย่าแหวกหญ้าให้งูตื่น"
หยุนชางแสร้งทำเป็นไม่รู้ ถูกจิ้งอ๋องโอบเอวเหินข้ามกำแพง ทันทีที่เข้าใกล้ตำหนัก ก็ได้ยินเสียงพูดอยู่ข้างใน "ไหนบอกจะไม่พลาดมิใช่หรือ ทำไมไอ้เฒ่าสองคนนั้นถึงยังมีชีวิตอยู่?"
หยุนชางรู้สึกเพียงว่าคนข้างตัวนางโกรธเล็กน้อย และมีอีกเสียงหนึ่งดังขึ้น หยุนชางเบิกตากว้าง แต่พระชายาซุ่นชิ่งปิดปากนางไว้ "หม่อมฉันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เดิมมีกลไกอยู่ภายใน กล่องไม้จันทน์หอม ขอเพียงแค่สัมผัสลูกท้อมงคลมรกต ผงพิษก็จะกระจายออกมา แต่ทั้งๆที่พระชายาก็เอาลูกท้อมงคลออกมา ทำไมถึงไม่เป็นอะไรเลยนะ?"