ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง - ตอนที่ 6 พลิกผ่านความฝันอันล่องลอย
ทิวทัศน์ของตำหนักชิงซินนั้นดีจริงๆ หยุนชางอาศัยอยู่ที่นี่มาสองสามวันก็ตกหลุมรักที่นี่เข้าแล้ว และยังสั่งให้คนหาชิงช้ามาวางในสวนเป็นพิเศษ วันธรรมดานางมักจะชอบนั่งแกว่งไปมา
"องค์หญิง… " หยุนชางกำลังงีบอยู่บนชิงช้าก็ได้ยินเสียงของฉิงยี หยุนชางยกมือขึ้นปิดปากหาวเล็กน้อยและพูดว่า "ไม่ใช่เพียงแค่ไปเอาแบบลายปักหรือ ทำไมถึงได้นานนัก?"
ฉิงยีมองไปรอบๆแล้วเดินไปข้างหลังชิงช้าและเริ่มแกว่งพลางกระซิบว่า "ระหว่างทางไปข้าพบกับซิ่วซินกูกูที่เป็นคนสนิทของฮองเฮา นางพาข้าไปพบกับฮองเฮา… "
"อ้อ… " แววตาของหยุนชางมีร่องรอยแห่งความเย็นชา นางยกเปลือกตาขึ้นเล็กน้อยและพูดว่า "ฮองเฮา? นางต้องการซื้อตัวเจ้าเพื่อทำงานให้นาง?"
ฉิงยีพยักหน้า "ฮองเฮาเตรียมการไว้ก่อนแล้ว นางสืบประวัติของข้ามาอย่างละเอียด เพียงแต่ครอบครัวข้าเหลือเพียงแต่ท่านอา ความสัมพันธ์ของข้ากับเขาเดิมทีก็ไม่ดีนัก ตอนแรกก็เป็นพวกเขาที่ขายข้าเข้ามา แต่คนรับใช้ของฮองเฮาก็โง่เขลาเช่นกัน เข้าไปบอกท่านอาและอาสะใภ้ของข้าว่าข้าอยู่ในวังมีตำแหน่งใหญ่โต ดังนั้นจึงต้องการให้พวกเขาสบาย พวกเขาก็เชื่อและรีบบอกว่าพวกเขาเป็นญาติที่สนิทที่สุดของข้าและตามไป ฮองเฮาคิดว่าสามารถใช้พวกเขาสองคนข่มขู่ข้าได้ แต่กลับไม่รู้ว่าหากไม่ใช่เพราะข้าไม่สามารถออกจากวังได้ ข้าคงหาทางไปแก้แค้นด้วยตัวเองนานแล้ว… "
หยุนชางไม่ได้กล่าวอะไร ฉิงยีพูดขึ้นอีกครั้ง "ฮองเฮาบอกว่าถ้าข้าทำงานให้นาง ต่อไปข้าจะมั่งคั่งร่ำรวยเป็นแน่ มีของรางวัลมากมาย ดังนั้น… ข้าจึงตอบตกลง… " นางกล่าวและหัวเราะออกมา
หยุนชางก็หัวเราะตาม "ในเมื่อตงลกไปแล้ว ทำไมเจ้ายังไม่รีบไปทำงานให้กับฮองเฮาของเจ้าอีก?"
ฉิงยีที่ได้ติดตามหยุนชางในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาก็ค่อยๆคุ้นเคยกับนิสัยของนาง นางรู้ว่าองค์หญิงองค์นี้ไม่ได้เหมือนที่คนอื่นๆลือกันว่าโง่เขลา แต่กลับค่อนข้างฉลาดและมีวุฒิภาวะไม่เหมือนกับรูปลักษณ์ภายนอก เมื่อได้ยินหยุนชางพูดเช่นนั้นฉิงยีก็รู้ว่านางเข้าใจแผนการของนางแล้วจึงรีบพูดว่า "อย่าพูดเลยเจ้าค่ะ ฮองเฮาคราวนี้คงโกรธมาก แผนการคราวนี้ที่นางคิดร้ายกาจไม่เบา อีกทั้งนางข้าสงสัยว่าคราวนี้นางคงอยากทดสอบข้าเท่านั้น เรื่องร้ายกาจที่แท้จริงน่าจะอยู่ทีหลัง" นางพูดพลางโน้มตัวไปกระบอกแผนทั้งหมดของฮองเฮาที่ข้างหูของหยุนชางโดยละเอียด
คิ้วของหยุนชางขมวดเล็กน้อย ดวงตาของนางค่อยๆเย็นเยียบ "เป็นกลยุทธ์ที่ดีจริงๆ แต่หากมีเพียงแค่เจ้าที่เป็นหนอนบ่อนไส้ก็จะถูกพบได้ง่ายมาก ข้ารู้สึกว่าในเมื่อฮองเฮาต้องการซื้อตัวคนต้องไม่ใช่แค่เจ้าเพียงคนเดียวแน่ ข้าเคยอยู่ภายใต้การควบคุมของนางมาก่อน นางต้องรู้สึกว่าข้าคนนี้ไม่มีประโยชน์ หากอยากซื้อตัวคนรอบกายข้าก็เป็นเรื่องง่าย ช่วงสองสามวันนี้เจ้าจับตาดูอีกสามคนที่เหลือให้ดี หากมีอะไรก็รายงานข้าทันที คราวนี้ข้าจะต้องให้นางรู้ว่าในวังหลังนี้นางไม่ได้รับอนุญาตให้ทำตามอำเภอใจ… "
หยุนชางนั่งแกว่งชิงช้าอยู่ในลานเป็นเวลาตลอดทั้งบ่าย หลังรับประทานอาหารเย็นกำลังจะกลับไปพักผ่อนที่ตำหนัดด้านใน แต่เสี่ยวหลินจื่อขันทีที่วันนั้นนางนำกลับมาด้วยกลับเดินตามหลังของหยุนชางมาอย่างเงียบเชียบและกระซิบบอกนางว่า "องค์หญิง ข้ามีบางอย่างจะรายงานให้องค์หญิงทราบ แต่ไม่สะดวกที่จะบอกคนอื่น องค์หญิงได้โปรดอนุญาติให้ข้ารายงาน… "
"หืม?" หยุนชางชะงักฝีเท้าชั่วคราวและหันกลับมามองที่เสี่ยวหลินจื่อ ขันทีน้อยเป็นผู้ที่มีชีวิตชีวา ยามปกติเขามักจะคุยจ้อกแจ้กจอแจ ให้รู้สึกว่าเขาเป็นคนตรงไปตรงมาแต่ก็ทำให้หยุนชางรู้สึกประทับใจ
หยุนชางเหลือบมองเขาและขอให้ฉิงยีพานางกำนัลอีกคนเข้าไปจัดเตียงในตำหนักด้านใน จากนั้นนางก็นั่งลงบนเก้าอี้ แต่กลับเห็นว่าขันทีน้อยลังเลไม่พูดอยู่นาน
หยุนชางยิ้มและพูดว่า "เสี่ยวหลินจื่อ เจ้าไม่ได้บอกว่าเจ้ามีอะไรจะบอกข้าหรือ ยามปกติมักจะเห็นเจ้าคุยจ้อ เมื่อครู่เจ้าบอกว่ามีธุระ ทำไมพอให้เจ้าพูดแล้วเจ้าไม่พูดแล้วล่ะ?"
นอกจากฉิงยี ต่อหน้าคนอื่นหยุนชางไม่เคยลืมว่านางยังเป็นเด็กอายุแปดขวบ เวลาพูดนางก็พยายามจะพูดให้สมกับอายุของนางมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ตอนนี้นางจ้องมองไปที่เสี่ยวหลินจื่อด้วยตากลมโตเต็มไปด้วยความสงสัย
เสี่ยวหลินจื่อลังเลอยู่นานก่อนจะกระซิบเสียงเบา "องค์หญิง ฮองเฮาคิดทำร้ายท่าน… "
หยุนชางนิ่งค้างไป นางคิดไม่ถึงว่างจะได้ยินคำพูดดังกล่าวออกมาจากปากของเสี่ยวหลินจื่อ แต่นางก็นิ่งไปเพียงชั่วครู่เท่านั้น ในใจของนางสงบลงอย่างรวดเร็วและนางก็ส่ายหัวซ้ำๆ "เป็นไปได้ยังไง เสี่ยวหลินจื่อ เจ้ารู้ไหมว่าพูดจาเหลวไหลจะต้องถูกตัดหัว ข้าไม่เชื่อ เสด็จแม่ใจดีกับข้าจะตาย นางให้ข้ากินอาหารอร่อยๆมากมายแล้วยังไม่บังคับให้ข้าเรียนพิณฝึกพู่กันท่องกลอนอะไรนั่นอีก ฮองเฮาเป็นคนที่ดีกับข้าที่สุดแล้ว"
เสี่ยวหลินจื่อได้ยินดังนั้นก็เริ่มร้อนรนและรีบพูดว่า "องค์หญิง ท่านต้องเชื่อข้านะ ท่านเป็นนายของข้า ข้าไม่ทำร้ายท่านแน่ องค์หญิงมีความเมตตาต่อพวกเรา ข้าจึงกล้าพูดออกมา เมื่อคืนตอนที่กำลังหลับอยู่ข้าถูกชายชุดดำพาตัวไป ข้าตกใจมากคิดว่าข้ากำลังจะตายเสียแล้ว แต่จากนั้นข้าก็ได้พบกับฮองเฮา นางบอกว่าอีกสองวันนางจะเชิญคนมาสะเดาะเคราะห์ให้องค์หญิง ให้ข้าเอาของบางอย่างใส่ลงไปในอาหารขององค์หญิง… "
"อาหาร? ของอร่อยอะไรหรือ? ข้าบอกแล้วว่าเสด็จแม่ดีต่อข้าที่สุด ถ้ามีอาหารอร่อยนางก็ให้ข้าตลอด เสด็จแม่ต้องอยากทำให้ข้าดีใจแน่ถึงได้ให้เจ้าใส่ของ… " หยุนชางหรี่ตาลงเล็กน้อยซ่อนอารมณ์ทั้งหมดไว้เบื้องหลังดวงตาของนางและพูดด้วยรอยยิ้ม
"โธ่ องค์หญิง… เฮ้อ หากไม่ใช่เพราะกลัวว่านางกำนัลและขันทีคนอื่นๆจะถูกฮองเฮาซื้อตัวไปด้วย ข้าก็ไม่ต้องมาบอกองค์หญิงแล้ว ข้าจึงระวังเป็นพิเศษ เอาของที่ฮองเฮาให้มาป้อนให้ไก่กิน… " เสี่ยวหลินจื่อดูร้อนรนเล็กน้อย หน้าผากของเขามีเหงื่อไหลออกมา
หยุนชางเบิกตากว้างอย่างสงสัย "หือ? เกิดอะไรขึ้น?"
"ตอนเริ่มป้อนก็ยังดีๆอยู่ ข้าให้มันกินสามครั้งเมื่อครู่ไปดู ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ไก่ตัวนั้นราวกับบ้าไปแล้ว มันวิ่งไปทั่วไล่จิกไก่ที่อยู่ในเล้าเดียวกันจนเลือดอาบ ข้าเดาว่ายาไม่ได้ออกฤทธิ์ในทันทีแต่เมื่อออกฤทธิ์แล้วอาจทำให้ผู้คนบ้าคลั่ง ข้าคิดว่าอีกสองวันฮองเฮาต้องการเชิญนักพรตเต๋ามาที่นี่เพื่อปัดเป่าวิญญาณร้าย เกรงว่ายานี้คงจะออกฤทธิ์ในเวลานั้น… " เสี่ยวหลินจื่อขมวดคิ้วคิ้วอย่างไม่สบายใจ
หยุนชางเงียบไปครู่หนึ่งก่อนที่จะพูดว่า "ข้ารู้แล้ว เจ้าให้ยาข้ามาเถอะ จริงสิ เสด็จแม่ได้ข่มขู่เจ้าหรือไม่? มิฉะนั้นนางจะให้เจ้าวางยาได้อย่างไร?"
เสี่ยวหลินจื่อดึงยาออกมาจากแขนเสื้อส่งถุงยาขนาดเล็กให้กับหยุนชางและยิ้ม "เดิมทีข้าก็เป็นเด็กกำพร้า ไม่มีอะไรให้ใช้ข่มขู่ข้าได้ แต่นางบอกว่าจะให้แท่งทองคำแก่ข้าหากข้าทำสำเร็จ แต่ข้าเป็นคนขอววังแห่งนี้ กินใช้ไม่ต้องกังวล ชีวิตนี้ข้าไม่เคยจะออกไป รับมาก็ไร้ประโยชน์ ข้าเพียงไม่อยากทำร้ายคนอื่น เมื่อวานข้าคิดอยู่ทั้งคืนถึงได้ตัดสินใจบอกองค์หญิง… "
หยุนชางพยักหน้าและกล่าวด้วยรอยยิ้ม "ยามปกติข้าเห็นเจ้าไปนั่งยองๆที่ห้องครัว จึงมอบหน้าที่ดูแลอาหารให้เจ้า คิดไปคิดมาเจ้าเองก็ตะกละไม่ใช่น้อย เจ้าชอบกินอะไรพรุ่งนี้ข้าจะให้คนทำให้เจ้า ถือว่าเป็นรางวัลจากข้า… "
เสี่ยวหลินจื่อหรี่ตาลงอย่างยินดี เขาพยักหน้าและกล่าวว่า "ขอบคุณพ่ะย่ะค่ะองค์หญิง ข้าชอบกินบัวลอยสุรา แหะๆ… "
หยุนชางพยักหน้า "เช่นนั้นก็ทำบัวลอยสุรา! ดึกแล้ว เจ้าไปเถอะ ข้าจะพักผ่อนแล้ว… " นางพูดพลางยืนขึ้นเก็บถุงยาและเดินเข้าไปที่ตำหนักด้านใน