ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง - ตอนที่ 24 นินทา
ฉินเมิ่งได้ยินเช่นนี้ เธอก็ร้องไห้ออกมาดัง "โห" " องค์หญิง องค์หญิงใจร้ายเกินไป องค์หญิงไม่พาบ่าวไปที่วิหารแคว้นหนิงด้วย บ่าวรอคอยองค์หญิงในพระราชวังนี้วันแล้ววันเล่า รอยคอยให้องค์หญิงกลับมาที่วัง แต่ใครจะไปรู้ว่าองค์หญิงไปคราวนี้นานถึงเจ็ดปี"
หยุนชางได้ยินเช่นนี้ก็ยิ้มออกมา เธอกำลังจะเอ่ยปากพูด แต่ก็ไอขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้ ฉินยีรีบเข้าไปลูบหลังให้เธอ เพื่อช่วยให้หยุนชางหายใจได้ง่ายขึ้น เมื่อฉินเมิ่งได้ยินเช่นนี้เธอก็กล่าวด้วยความทุกข์ใจว่า "ตอนที่องค์หญิงออกจากวังไป ร่างกายยังแข็งแรงอยู่เลย ทำไมตอนนี้ร่างกายถึงอ่อนแอเช่นนี้เพคะ องค์หญิงวางใจได้เลยเพคะ กลับวังมาคราวนี้ บ่าวจะดูแลองค์หญิงให้ดี ให้ร่างหายขององค์หญิงกลับมาแข็งแรงเจ้าค่ะ"
หยุนชางไออยู่นานกว่าจะหยุดลง และเหงื่อก็เต็มหน้าผากเธอแล้ว ฉินยีรีบหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาเช็ดให้หยุนชาง หยุนชางจึงค่อยๆ เงยหน้าขึ้นและพูดว่า " เจ้าหนูโง่ตอนนี้ข้าก็สบายดีมิใช่หรือ? พาข้ากลับไปที่ตำหนักชิงซินเถิด ข้าเหนื่อยแล้ว"
ฉินยีรีบมาช่วยพยุงหยุนชางลุกขึ้นจากเตียง หยุนชางเห็นหัวจิ้งที่อยู่ข้างนั้นส่งสายตาให้ฉินเมิ่ง ฉินเมิ่งเองก็รีบเข้ามาพยุงหยุนชาง และกล่าวว่า "องค์หญิงเพคะ บ่าวช่วยเจ้าค่ะ"
หัวจิ้งพยักหน้าด้วยความพึงพอใจและยิ้ม "น้องสาว พี่รู้ว่าวันนี้เจ้าจะกลับมา ก็เลยตั้งใจทำขนมดอกกุ้ยฮวามาให้น้องทาน เมื่อสักครู่นั้นเสด็จแม่เองก็ได้ชิมไปหนึ่งชิ้น ท่านว่าหวานมาก พี่จำได้ว่าน้องสาวชอบทาน น้องสาวก็เอากลับไปทานเถิด"
หยุนชางยิ้มเล็กน้อย "ขอบคุณเสด็จพี่นะเพคะ" ฉินยีที่อยู่ด้านข้างก็รีบรับขนมนั้นมา แล้วยื่นนางกำนัลที่ตามฉินเมิ่งมา จากนั้นจึงได้พยุงหยุนชางเดินออกไป
จักรพรรดิหนิงส่งเสลี่ยงมารอที่ด้านนอกอยู่นานแล้ว หยุนชางจึงนั่งเสลี่ยงและตรงไปที่ตำหนักชิงซิน
ตำหนักชิงซินเป็นไปตามที่ฮองเฮากล่าวไว้จริง คนที่รับใช้ในนั้นยังคงเป็นคนชุดเดิม และการตกแต่งในพระตำหนักนั้นแทบจะไม่เปลี่ยนไปเลย ฉินยีหยุงหยุนชางไว้แล้วเดินอยู่ด้านหน้าสุด ทันทีที่เธอเปิดม่านและเดินเข้าไปภายในตำหนัก เธอก็ได้ยินเสียง "เมี๊ยว" แล้วก็มีสิ่งที่มีขนเต็มตัวพุ่งเข้าหาหยุนชาง
"อ๊า … " หยุนชางร้องด้วยความตกใจ จากนั้นก็กลอกตาและเป็นลมไป
"องค์หญิงเพคะ องค์หญิงเพคะ … " จากนั้นทุกคนที่ตามหลังมาก็วุ่นวายขึ้นมา ฉินยีขมวดคิ้วและพูดอย่างรีบร้อยว่า " กรี๊ดอะไรกัน องค์หญิงสุขภาพไม่ดีต้องการความสงบ แมวป่านี้มาจากไหน เอามันออกไป ส่วนคนอื่นๆ กลับไปทำหน้าที่ตัวเองเสีย"
นางกำนัลเหล่านั้นต่างก็มองไปที่ฉินเมิ่ง เมื่อเห็นว่าฉินเมิ่งพยักหน้าพวกเขาจึงถอยลงไป แววตาของฉินยีนั้นเผยให้เห็นว่าเธอเข้าใจทุกอย่างแล้ว เธอขมวดคิ้วแล้วพยุงหยุนชางเดินตรงไปที่เตียง
หลังจากให้หยุนชางได้พักผ่อนแล้ว ฉินยีก็หยิบใบสั่งยาออกมาจากแขนเสื้อของตนและส่งให้ฉินเมิ่ง " นี่คือใบสั่งยาสำหรับองค์หญิง ทางองค์หญิงนั้นขาดคนดูแลไม่ได้ ดังนั้นจึงรบกวนเจ้าไปรับยาที่โรงหมอหลวงให้องค์หญิงหน่อยนะ คนอื่นๆ เดิมทีก็ไม่ได้สนิทสนมอยู่แล้ว ข้าเองก็ไม่เชื่อใจมากนัก … "
ฉินเมิ่งได้ยินเช่นนี้ ก็รีบรับมาด้วยรอยยิ้ม " พี่ฉินยีโปรดวางใจได้เลยเจ้าค่ะ ข้าจะไปเดี๋ยวนี้เลย" หลังจากพูดจบเธอก็คำนับหยุนชาง แล้วออกจากตำหนักไป
"ช่างมีอำนาจเสียจริง เจ็ดปีที่ไม่ได้เจอกัน เจ้าของตำหนักนี้กลายเป็นฉินเมิ่งไปแล้วสินะ " ฉินยีทำเสียงหึเบาๆ จากนั้นก็เดินไปข้างๆ เตียง
หยุนชางมองไปที่ฉินยีอย่างเฉยชา และกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า " คนในตำหนักนี้คงจะถูกฮองเฮาซื้อใจไปแล้ว คราวนี้ เราต้องจัดการคนพวกนี้ออกไปทีละคนแล้ว เช่นนี้ข้าจึงจะมีโอกาสเอาหนิงเชียนพวกเขาเข้ามาอยู่ใกล้ๆ ตัวข้าได้ จะได้สะดวกในการทำการต่างๆ" เธอกล่าวไปพร้อมยิ้มให้ฉินยี "แนบหูเข้ามา"
ฉินยีแนบหูเข้าไป หยุนชางกระซิบบางอย่างข้างๆ หูเธอ ฉินยีก็เริ่มยิ้มมุมปากขึ้นมา " บ่าวจะไปจัดการเดี๋ยวนี้เลยเพคะ" พูดจบเธอก็หันกลับไปและเดินออกจากตำหนักไป
ทันทีที่ฉินยีออกจากตำหนักไป หยุนชางก็ได้ยินซุบซิบดังขึ้นจากด้านนอก "ที่แท้แล้วท่านนี้เองหรือที่เป็นองค์หญิงฮุ่ยกั๋ว หน้าตาดูดีนะ แต่ทำไมดูอ่อนแอจังเลย ข้าจำได้ว่าเมื่อก่อนเธอก้าวร้าวมากมิใช่หรือ?"
"ใช่ ข้าจำได้ว่าตอนเด็กๆ เอะอะก็ดุตีนางกำนัลและขันที ตอนนั้นไม่มีใครยอมมารับใช้ท่านเลย กรรมตามสนองจริงๆ เจ้าดูสิ สภาพตอนนี้แค่ลมพัดก็คงล้มแล้ว ช่างเฮงซวยจริงๆ"
" ข้าได้ยินมาว่า เธออาศัยอยู่ในวิหารแคว้นหนิงมาหลายปีเลยนะ ไม่น่าแปลกใจที่เธอดูเหมือนป้าที่มาจากชนบทเลย ไม่มีความสง่าที่องค์หญิงควรจะมีเลยแม้แต่น้อย เมื่อเทียบกับองค์หญิงหัวจิ้งนั้นเธอสู้ไม่ได้เลย"
หยุนชางตั้งใจฟัง และมุมปากค่อยๆ โค้งงอขึ้น ผ่านไปหลายปีแล้ว สตรีในพระราชวังแห่งนี้ก็ยังคงน่าเบื่อเช่นเดิม เหล่านางสนมวางอุบายแย่งชิงกัน และเหล่านางกำนัลก็เอาแต่นินทาชาวบ้านเขา
"พวกเจ้าดูหญิงสาวที่ชื่อฉินยีที่องค์หญิงพากลับมาด้วยสิ คิดว่าตัวเองเป็นใครกันหรือ กล้าดีมาสั่งพวกเรา ในตำหนักนี้นอกจากพี่ฉินเมิ่งแล้ว ไม่ว่าใครก็อย่าคิดที่จะสั่งพวกเราได้ แม้แต่องค์หญิงขี้โรคนั้นก็ตาม เฮ้อ ต้องโทษเราเองที่ชีวิตนั้นแสนลำบาก ไม่คาดคิดว่าจะได้มาปรนนิบัติเธอ แต่ดูสภาพของเธอนะ แมวเมื่อสักครู่นี้ข้าตั้งใจเอามาปล่อยเอง ไม่คิดว่าจะทำให้เธอตกใจเช่นนั้น ฮ่าๆ ดูสภาพที่เธอสลบไปพร้อมสีหน้าที่ขาวซีดนั้นสิ ช่างน่าตลกสิ้นดี…."
"นินทาเจ้านาย เอามันลงไป ตีห้าสิบที! " เสียงที่แหลมๆ แต่ก็มีความมืดมนดังเข้ามาที่หูของหยุนชาง หยุนชางยิ้มเล็กน้อย และได้ยินเสียงของคนได้ใจเมื่อสักครู่นั้นเริ่มหวาดกลัวเล็กน้อย " หัวหน้าเจิ้งโปรดให้อภัยข้าน้อยด้วยเถิด บ่าวผิดเองและสมควรตาย … "
"ยังไม่รีบลากมันลงไปอีกหรือ?" เสียงของหัวหน้าเจิ้งดังขึ้นอีกครั้ง จากนั้นหยุนชางก็ได้ยินเสียงกรีดร้องอย่างตกใจดังมาจากข้างนอก "บ่าวผิดไปแล้วเจ้าค่ะ บ่าวสำนึกผิดแล้วเจ้าค่ะ…….."
"ลากออกไปให้ไกลๆ อย่าได้รบกวนองค์หญิงพักผ่อน" หัวหน้าเจิ้งก็ตะโกนออกไป จากนั้นก็พูดด้วยเสียงต่ำๆ ว่า "แม้ว่าองค์หญิงฮุ่ยกั๋วจะไม่ได้กลับวังมาเป็นเวลาเจ็ดปี แต่ท่านก็ยังคงเป็นเจ้าในตำหนักชิงซิน และกระทั่งพระราชวังแห่งนี้ด้วย อย่าได้ลืมว่าตนเป็นเพียงบ่าวรับใช้ เพียงเพราะไม่ได้ปรนนิบัติเจ้าแค่เพียงเวลาเจ็ดปี"
ทันทีที่หัวหน้าเจิ้งพูดจบ ก็ไม่มีเสียงใดๆ ส่งมาอีกต่อไป ผ่านไปสักพัก เสียงฝีเท้าก็ดังขึ้นจากด้านนอกตำหนัก เสียงฝีเท้ามาหยุดอยู่ด้านนอกประตู
"หัวเน้าเจิ้งใช่หรือไม่ เข้ามาเถิด" หยุนชางกล่าวเบาๆ
ม่านประตูถูกเปิดออก และผู้ที่เข้ามานั้นเป็นบ่าวรับใช้ที่ปรนนิบัติจักรพรรดิหนิงตามที่คาดไว้ "องค์หญิงขอรับ เมื่อสักครู่นั้นมีคนได้มอบจี้หยกให้กับฮ่องเต้ กล่าวว่านี่เป็นหยกเนื้ออุ่นที่หายาก ซึ่งมีผลดีอย่างมากต่อร่างกาย เมื่อฮ่องเต้ได้มา ท่านจึงสั่งให้บ่าวนำมาให้องค์หญิงทันทีขอรับ……" ในขณะที่พูด เขายื่นจี้หยกสีขาวบริสุทธิ์ชิ้นนี้มาให้เธอ
หยุนชางยิ้มและรับมันมา "รบกวนหัวหน้าเจิ้งด้วยนะ…"
หัวหน้าเจิ้งพยักหน้าและกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า "องค์หญิงโปรดรักษาสุขภาพให้ดี บ่าวจะไปเรียนฮ่องเต้ประเดี๋ยวนี้ขอรับ" หลังจากพูดจบเขาหยุดชั่วคราว จากนั้นก็ลดเสียงลงและกล่าวว่า " องค์หญิงขอรับ แม้ว่าท่านจะไม่กลับวังมาเจ็ดปี แต่ว่าในพระตำหนักชิงซินนี้ยังคงมีท่านเป็นเจ้าแค่เพียงคนเดียวนะขอรับ บ่าวรับใช้พวกนี้ คนไหนที่ท่านไม่ถูกชะตา สามารถจัดการออกไปได้เลยขอรับ อย่าให้พวกมันรู้สึกว่าท่านนั้นรังแกได้………."
หยุนชางได้ยินเช่นนี้ก็ตกตะลึง เธอไม่คาดคิดว่าหัวหน้าเจิ้งจะพูดเช่นนี้กับเธอ หลังจากนั้นอยู่นานเธอจึงยิ้มและกล่าวว่า " ข้าทราบเช่นกัน แต่เพราะข้าเพิ่มจะกลับมาที่พระราชวัง ร่างกายก็อ่อนแอ ข้ายังไม่มีแรงไปจัดการอยู่ชั่วคราว ไว้รอพักผ่อนสักสองสามวันแล้วค่อยว่ากันเถิด"
หัวหน้าเจิ้งตอบเสียง "อืม" " ถ้าเช่นนั้นบ่าวขอตัวนะขอรับ……."