ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง - ตอนที่ 16 โด่งดังชั่วพริบตา
"เอ๊ะ ทำไมจู่ๆท้องฟ้าถึงได้เปลี่ยนไป?” เสียงกระซิบแผ่วเบาดังมาจากด้านล่าง
หยุนชางยิ้มเล็กน้อย ก้มศีรษะลงเอื้อมมือไปหยิบลูกสาลี่บนโต๊ะแล้วกัดคำหนึ่ง ทุกอย่างล้วนเหมือนกับในชาติที่แล้ว ยกเว้นเรื่องที่หัวจิ้งทำผิดและเรื่องคำสั่งของเจ้าอาวาสอู๋น่า ดังนั้นสถานที่จัดพิธีบรรลุนิติภาวะจึงเปลี่ยนจากตำหนักจินหลวนเป็นเกาะเผิงไหลแทน นอกจากมีคนเข้าร่วมน้อยลงแล้วที่เหลือก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ในชาติก่อนก็เป็นเวลานี้ที่เกิดฝนฟ้าคะนอง ฝนเริ่มตกเมื่อหัวจิ้งคำนับถึงขั้นที่สอง…
เมื่อนั่งบนนั้น จักรพรรดิหนิงก็ตกใจเมื่อได้ยินเสียงฟ้าร้องและยิ้มอย่างดีใจ "เจ้าอาวาสอู๋น่าช่างมีพลังเหนือธรรมชาติจริงๆ ลำบากชางเอ๋อร์อธิษฐานอย่างหนักเพื่อประชาชนแล้ว หลังจากที่ฝนแล้งมานานในที่สุดฝนก็จะตกเสียที"
เมื่อทุกคนได้ยินดังนั้นก็ตอบเห็นด้วยซ้ำแล้วซ้ำเล่า บนใบหน้าของพวกเขาต่างเต็มไปด้วยความยินดี "ความจริงใจขององค์หญิงหยุนชางได้ทัให้พระพุทธเจ้าเห็นใจ ฝนตกลงมาแล้ว ในที่สุดปีนี้ผู้คนก็สามารถวางใจได้แล้ว"
หยุนชางยิ้มเล็กน้อยและไม่พลาดใบหน้าบูดบึ้งของหัวจิ้ง "ทั้งหมดนี้เป็นผลงานของเจ้าอาวาสอู๋น่า ชางเอ๋อร์เพียงแต่นำความหมายของเจ้าอาวาสอู๋น่ากลับมาเท่านั้น เสด็จพี่ยังต้องจัดพิธีต่อไป… "
ในขณะที่หยุนชางกำลังพูด หัวจิ้งก็แค่นเสียงหึอย่างเย็นชาและก้าวถอยหลังไป ทุกคนต่างรู้สึกว่าบรรยากาศแปลกประหลาดเล็กน้อยพวกเขาจึงหยุดพูด หยุนชางเงยศีรษะขึ้นมองไปที่ฮองเฮาและจักรพรรดิหนิงที่นั่งอยู่ที่เก้าอี้เจ้าภาพ ก็เห็นว่าดวงตาของฮองเฮากำลังมองมาที่นางด้วยความมาดร้าย
หยุนชางก้มศีรษะลงและมองไปที่ถ้วยชาบนโต๊ะของนาง ผ่านไปสักพัก หัวจิ้งก็เดินออกมาอีกครั้งโดยสวมชุดกระโปรงหรู่ฉวิน นางแสดงให้ทุกคนเห็นแล้วจึงหันมาคำนับฮองเฮาและจักรพรรดิหนิง
สาวใช้คนหนึ่งถือปิ่นปักผมขึ้นมา ภรรยาของมหาเสนาบดีก็รับปิ่นนั้นและกำลังจะอวยพรแสดงความยินดี แต่กลับได้ยินเสียงฟ้าร้องครืนและมีเม็ดฝนตกลงมา
"อา… ฝนตก… "
จักรพรรดิหนิงยืนขึ้นด้วยความยินดี ผลักร่มที่ขันทีด้านข้างรีบกางออกอย่างเร่งรีบและกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า "ฝนดี ฝนดี!"
ทุกคนรีบโค้งคำนับ "ขอให้ฝ่าบาททรงพระเจริญ หมื่นปี หมื่นปี หมื่นหมื่นปี”
องค์ฮ่องเต้หัวเราะเสียงดังและพูดเสียงดัง "องค์หญิงหยุนชางอธิษฐานขอฝนมีผลงาน แต่งตั้งเป็นองค์หญิงฮุ่ยกั๋ว ให้รางวัลเป็นชุดกระโปรงผ้าคลุมไหล่สีแดงหนึ่งชุด ชุดกระโปรงสีชมพูขลิบทองหนึ่งชุด ปิ่นหยกขุ่นใสหนึ่งชิ้น"
หยุนชางก้มลงคุกเข่าขอบคุณอย่างรวดเร็ว
พิธีบรรลุนิติภาวะของหัวจิ้งถูกทำลายลงอย่างสมบูรณ์ หลังจากที่หยุนชางได้รับรางวัลแล้วฝนก็ตกหนักขึ้นเรื่อยๆ ฮ่องเต้จึงได้ออกคำสั่งให้ทุกคนแยกย้ายกันไป
กลับมาที่ตำหนักชิงซิน ฉิงยีและฉินเมิ่งสองคนหัวเราะอย่างมีความสุข "องค์หญิง องค์หญิงฮุ่ยกั๋วต้องเป็นองค์หญิงที่เกิดจากฮองเฮาจึงจะได้ยศเช่นนี้ องค์หญิงขั้นหนึ่ง ช่างยอดเยี่ยมจริงๆ องค์หญิงได้รับแต่งตั้งสมญานามแล้วก็จะมีจวนองค์หญิงและจะมีที่นาด้วย”
ฉิงยีก็หัวเราะตามเช่นกัน แต่ก็ไม่ลืมว่าหยุนชางเพิ่งตากฝนมา ตอนนี้นางตัวเปียกไปทั้งตัว นางจึงพูดอย่างเร่งรีบ "ฉินเมิ่ง ชุดขององค์หญิงเปียกชุ่มหมดแล้ว ให้คนต้มน้ำให้มาให้องค์หญิงอาบเถอะ” จากนั้นนางก็เดินไปแล้วหยิบชุดที่แห้งสะอาดออกมาแล้วเดินไปหาหยุนชาง "องค์หญิง ให้ข้าช่วยเปลี่ยนชุดที่เปียกออกมาเถอะ”
หยุนชางพยักหน้าเล็กน้อย เมื่อเห็นว่าฉินเมิ่งออกไปแล้วจึงพูดว่า "หากท่านแม่รู้ นางจะต้องมีความสุขมากแน่ๆ”
ฉิงยีช่วยหยุนชางเปลี่ยนเสื้อผ้าพลางพูดว่า "อืม องค์หญิงอยู่อย่างดี นายท่านก็โล่งใจ"นางนิ่งไปครู่หนึ่งแล้วจึงกล่าวว่า "เมื่อครู่ข้าเห็นว่าสีหน้าของฮองเฮาและองค์หัวจิ้งไม่ค่อยดีนัก ข้ากังวลว่าพวกนางจะทำอะไรไม่ดีต่อองค์หญิง"
หยุนชางพยักหน้าเล็กน้อยและลดเสียงลง "แต่ก่อนที่พวกเขาไม่ได้ลงมือกับข้าเกรงว่าคงเป็นเพราะรู้สึกว่าข้าไม่ได้คุกคามพวกเขา เมื่อวันนี้มีเรื่องเช่นนี้ ข้าก็รู้เช่นกันว่าความอดทนของพวกเขาคงหมดลงแล้ว ตอนนี้ข้าได้รับการแต่งตั้งเป็นองค์หญิงฮุ่ยกั๋ว แย่งความมีเกียรติของหัวจิ้งมา พวกนางคงทนไม่ไหวแล้ว ตอนนี้ข้ายังเด็กอยู่ การกำจัดข้าทำได้ง่ายกว่าเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาในอนาคต… "
ฉิงยีขมวดคิ้วและถอนหายใจ "องค์หญิง ตอนนี้พวกเราไม่มีความสามารถที่จะต่อสู้กับพวกเขา รอเมื่อจวนองค์หญิงสร้างเสร็จแล้ว พวกเราค่อยย้ายไปที่จวนก่อนก็แล้วกัน"
หยุนชางยิ้มน้อยๆและพูดว่า "โง่จริง องค์หญิงหากไม่ได้แต่งงานจะสามารถย้ายไปอยู่ที่จวนองค์หญิงได้อย่างไร คอยดูไปเถอะ อย่างไรปัญหาก็ต้องมีวิธีแก้”
"อืม องค์หญิงขอให้ข้าคอยจับตาดูเหล่าคนรับใช้ในตำหนัก เมื่อไม่กี่วันก่อนมีนางกำนัลที่ชื่อหย่าฉิงออกจากตำหนักตอนกลางดึก ข้าไม่อยากแหวกหญ้าให้งูตื่นจึงไม่ได้ตามไป องค์หญิง ท่านคิดว่าเป็นฮองเฮาหรือไม่ที่ยื่นมือเข้ามาในห้องเครื่องของเรา? หากเป็นเช่นนั้นองค์หญิงจะต้องระมัดระวังเป็นพิเศษยามรับประทานอาหาร… "ฉิงยีนึกขึ้นมาได้ก็เอนตัวเข้าไปกระซิบที่หูของหยุนชาง
หยุนชางพยักหน้าเล็กน้อย "ในห้องเครื่องต้องระวัง แต่สิ่งที่ข้ากังวลมากที่สุดก็คือคนที่ใกล้ชิดข้ามากที่สุดสองสามคน ก่อนหน้านี้เสี่ยวหลินจื่อและเจ้าถูกคนของฮองเฮาพาตัวไป ฮองเฮาคนนั้นทำอะไรระมัดระวังอย่างยิ่ง ไม่มีเหตุผลที่จะพาไปเพียงสองคน ข้ากังวลว่าฉินเมิ่งและเสี่ยวหลินจื่อที่ถูกข้าเลือกมาน่าจะถูกคนของฮองเฮาใช้วิธีการเดียวกันในการบีบบังคับและล่อลวง แต่มีเพียงเจ้าและเสี่ยวหลินจื่อเท่านั้นที่บอกข้า ข้ากลัวว่า… "
"องค์หญิงสงสัยฉินเมิ่ง?"ฉิงยีขมวดคิ้วและใบหน้าค่อนข้างเอ๋อของฉินเมิ่งก็ปรากฏขึ้นในใจนาง "แต่ด้วยนิสัยของฉินเมิ่งไม่เหมือนกับคนที่เก็บความลับได้เลย? นอกจากนี้ก่อนหน้านี้องค์หญิงก็สอนบทเรียนให้ฮองเฮาและองค์หญิงหัวจิ้งแล้ว เพียงไฟไหม้ครั้งเดียวก็ทำลายเหล่าสายลับที่ฮองเฮาให้แฝงเข้ามาอย่างยากลำบาก พวกเขาไม่ควรจะเร็วขนาดนี้ไม่ใช่หรือ?”
หยุนชางยิ้มเล็กน้อย "อย่าดูถูกวิธีการของฮองเฮา ก็เป็นเพราะข้ากำจัดคนของนางไปหมดแล้ว ไม่เช่นนั้นนางจะต้องเหนื่อยใจซื้อตัวพวกเจ้าไปทำไม? ส่วนฉินเมิ่ง… "หยุนชางหยุดชั่วคราว "ถ้าฮองเฮาไม่ได้พบนางก็ดีไป แต่หากพบนางแล้วและนางก็เป็นคนของฮองเฮาแล้ว ข้าก็ต้องขอชื่นชมนางมาก
นี่คงจะเป็นการเสแสร้งที่ยอดเยี่ยมมาก"
"องค์หญิง น้ำมาแล้วเพคะ"เสียงที่มีชีวิตชีวาของฉินเมิ่งลอยมาจากด้านนอก หยุนชางเก็บสีหน้าและหันศีรษะไป ก็เห็นฉินเมิ่งกระโดดกระเด้งเปิดผ้าม่านและเดินเข้ามาพร้อมกับนางกำนัลสี่คนที่ถือถังน้ำอยู่
หยุนชางยิ้มและพูดว่า "ทำไมข้าถึงรู้สึกว่าฉินเมิ่งดูเหมือนเด็กยิ่งกว่าข้าเสียอีก?"
ฉินเมิ่งรีบเข้ามาประคองหยุนชางและกล่าวว่า "องค์หญิง ข้าก็คิดอย่างนั้นเช่นกัน เห็นได้ชัดว่าท่านอายุเพียงแปดขวบ แต่กลับรู้สึกว่าท่านเผ็นผู้ใหญ่แล้ว อืม รู้สึกว่าสมกับเป็นองค์หญิงมากๆเลย"
ฉิงยีมองไปที่ฉินเมิ่งด้วยความพินิจพิเคราะห์เล็กน้อยจากนั้นก็ปิดปากของเธอและหัวเราะ "เดิมทีองค์หญิงก็เป็นองค์หญิง ก็ต้องเหมือนองค์หญิงสิ"
ฉินเมิ่งร้อนรน "ไม่ใช่ ข้าหมายความว่าใจเย็นมากเหมือนผู้ใหญ่"
"เอาเถอะ ข้าเข้าใจความหมายของเจ้าแล้ว เทน้ำเสร็จแล้ว ข้าจะอาบน้ำ ไม่เช่นนั้นรออีกเดี๋ยวน้ำเย็นลงก็คงไม่ดี” ฉิงยีและฉินเมิ่งช่วยพยุงหยุนชางเดินไปที่อ่างเพื่อช่วยนางอาบน้ำ
ฟ้ามืดลงเรื่อยๆ หยุนชางอาบน้ำเปลี่ยนชุดเป็นเสื้อผ้าที่สะอาด รับประทานอาหารเย็นเล็กน้อยและเข้านอนแต่หัวค่ำ