ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง - ตอนที่ 14 ทหารมาใช้ขุนพลต้านรับ
องครักษ์ถวายสิ่งที่อยู่ในมือ กำไลสองวงก็เหมือนกับกำไลที่วางอยู่บนโต๊ะ
"หือ?" หยุนชางขมวดคิ้ว มองไปที่ฮ่องเต้หนิงด้วยความงงงวยเล็กน้อย "เสด็จพ่อ ทั้งๆที่มีกำไลเพียงสองวง ทำไมถึงโผล่ออกมาอีกสองวงได้อย่างไร?"
"นางกำนัลคนนั้นอยู่ที่ไหน?" ฮ่องเต้หนิงถาม
องครักษ์กวักมือเรียก องครักษ์สองสามคนก็มาพร้อมกับนางกำนัลที่อยู่ข้างหลัง ดวงตาของนางหม่นหมอง สีหน้าของนางซีดมาก องครักษ์คุมตัวนางไปพบฮ่องเต้
นางกำนัลคนนั้นคุกเข่าลงกับพื้นอย่างนุ่มนวล ขบฟันของนาง สั่นสะท้าน กล่าวว่า "หม่อมฉันขอถวายบังคมฝ่าบาท ขอฝ่าบาทอายุหมื่นปีหมื่นปี ฮองเฮาพันปี องค์หญิงพันปี…"
หยุนชางจ้องไปที่นางกำนัลสักพักก่อนที่จะพูดว่า "เสด็จพ่อ หยุนชางเคยเห็นนางกำนัลคนนี้ นางนางเป็นนางกำนัลที่ทำความสะอาดในตำหนักของหม่อมฉัน ห้องบรรทมของหยุนชางก็เป็นนางทำความสะอาด…… "
ฮ่องเต้หนิงพยักหน้า ตรัสกับนางกำนัลอย่างโกรธเกรี้ยวว่า "กำไลสองวงนี้เจ้าได้มาจากไหน? "
นางกำนัลหมอบลงพื้น เสียงของนางสั่นเทา "กลับทูลฝ่าบาท หม่อมฉันแอบเอามาจากห้องบรรทมขององค์หญิงเพคะ"
หยุนชางขมวดคิ้ว ทำเสียงเชอะ "ทำไมเจ้าถึงเอากำไลของข้าด้วย?"
"หม่อมฉัน…" นางกำนัลกัดฟันก่อนจะพูดต่อ "เป็นองค์หญิงหัวจิ้ง! องค์หญิงหัวจิ้งให้คนจับน้องชายของหม่อมฉันให้หม่อมฉันไปขโมยกำไลขององค์หญิงหยุนชางให้นาง หม่อมฉันไม่กล้าไปขโมย หลังจากขโมยแล้ว หม่อมฉันก็กลัวว่าองค์หญิงหัวจิ้งจะทำอะไรไม่ดีต่อองค์หญิงหยุน แม้ว่าหม่อมฉันจะกระตือรือร้นที่จะช่วยน้องชาย แต่องค์หญิงหยุนชางก็ดีกับหม่อมฉันมาโดยตลอด หม่อมฉันทนไม่ได้ที่จะทำร้ายองค์หญิงได้ บ้านของหม่อมฉันทำการค้าขายเครื่องประดับ หม่อมฉันรู้วิธีทำเครื่องประดับมากมายตั้งแต่ยังเป็นเด็ก หม่อมฉันจึงแอบลอกกำไลสองวงนี้ มอบให้องค์หญิงหัวจิ้ง เดิมหม่อมฉันต้องการจะคืนกำไลให้องค์หญิงหยุนชาง แต่ก็ไม่มีโอกาส…"
หัวจิ้งกระวนกระวายทันที พูดอย่างไม่หยุด "เจ้าพูดไร้สาระเจ้าพูดเรื่องไร้สาระ!"
ทันทีที่เสียงของนางกำนัลลดลง หัวจิ้งคุกเข่าลงบนพื้นชี้ไปที่นางกำนัลและนางกำนัลที่อยู่ข้างหลังพระสนมซู่กล่าวว่า "เสด็จพ่อ พวกนางทั้งหมดใส่ร้ายข้า…" หลังจากพูด นางก็ตะโกนทันที "อ๋อ" ชี้ไปที่หยุนชางและพูดต่อว่า "เสด็จพ่อ ต้องเป็นนาง ต้องเป็นแผนการของนาง…"
ฮองเฮาที่นิ่งเงียบอดไม่ได้ที่จะพูด "ฝ่ายาท หม่อมฉันคิดว่าข้อเท็จจริงนี้แปลกเกินไป ดูเหมือนว่ามีใครบางคนออกแบบมันอย่างละเอียด เกรงว่าต้องการใส่ร้ายกับหัวจิ้งฝ่าบาท… "
ก่อนที่คำพูดของฮองเฮาจะพูดจบ นางกำนัลก็พูดอีกครั้ง "ถ้าฝ่าบาทไม่เชื่อ สามารถไปทางทิศตะวันออกของพระราชวังร้านทำเครื่องประดับของตระกูลเซี่ยถามได้เพคะ เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา มีบางคนบอกว่าเป็นคนขององค์หญิงหัวจิ้ง โดยบอกว่าหม่อมฉันทำการผิดในวัง ดังนั้นต้องการคุมตัวน้องชายของหม่อมฉัน และพาตัวน้องชายของหม่อมฉันไป เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาเป็นวันเยี่ยมครอบครัวของหม่อมฉัน พ่อแม่ของหม่อมฉันก็เล่าเรื่องนี้ให้ฟัง หม่อมฉันจึงต้องแอบไปพบเตี๋ยะเอ๋อร์นางกำนัลขององค์หญิงหัวจิ้ง…"
นางกำนัลกัดฟัน หลับตาราวกับว่านางต้องตัดสินจนต้องพูดออกมา "หม่อมฉันยังรู้ว่าเซียงหลันถูกนางกำนัลข้างกายองค์หญิงหัวจิ้งพาไป! "
หัวจิ้งได้ยินเช่นนั้น ก็ขึ้นเสียงของนาง ตะโกนอย่างโกรธเกี้ยวว่า "ยัยบ้าพูดไร้สาระอะไรกัน!"
ฮ่องเต้หนิงขมวดคิ้ว ขว้างถ้วยชาในมืออย่างแรง พูดอย่างโกรธเกรี้ยว "หุบปาก!"
หัวจิ้งสำลัก กัดริมฝีปากของนาง คุกเข่าโดยไม่พูด แต่มองตรงไปที่หยุนชางด้วยสายตาความเกลียดชังอย่างรุนแรง
"ในฐานะองค์หญิงของแคว้นหนิง ไม่มีมารยาท หุบปากเดี๋ยวนี้" หลังจากพูดแล้ว ก็หันไปหานางกำนัล และตรัสว่า "เจ้าพูดต่อไป"
นางกำนัลพยักหน้า และพูดต่อว่า "เมื่อคืน ดึกแล้ว ทุกคนหลับไปกันหมดแล้ว แต่หม่อมฉันปวดท้องเนื่องจากท้องเสีย จึงนอนดึก ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวบางอย่างในห้องข้างๆ หม่อมฉันจึงลุกขึ้น เดินไปที่หน้าต่างเพื่อดู หม่อมฉันก็เห็นเซียงหลันเดินออกจากตำหนักชิงซินพร้อมนางกำนังคนหนึ่ง แม้ว่าท้องฟ้าจะมืดสลัวเล็กน้อย แต่หม่อมฉันก็จำได้ว่านั่นคือนางกำนัลข้างกายองค์หญิงหัวจิ้ง เพราะหม่อมฉันเพิ่งเห็นนางเมื่อไม่นานมานี้ จึงจำได้ชัดเจนมาก หลังจากนั้นเป็นเวลานาน เซียงหลันก็ไม่กลับมา หม่อมฉันก็หลับไป พอเช้านี้ก็ได้ยินนางกำนัลพูดฝว่า เซวียงหลันจมน้ำในทะเลสาบนี้… "
นางกำนัลก้มหัวคำนับหลายที "หม่อมฉันไม่กล้าพูดเพราะกลัว จึงทำสิ่งต่างๆตามปกติในตำหนักชิงซิน กำลังจะไปทำความสะอาดห้องบรรทมขององค์หญิง แต่ก็ได้ยินว่าองค์หญิงถูกคุมตัวไป… แม้ว่าหม่อมฉันจะอยู่ในวังไม่นาน แต่หม่อมฉันไม่อยากทำร้ายชีวิตคนจริงๆ ทั้งหมดเป็นเพราะหม่อมฉัน เซียงหลันตายหม่อมฉันก็ต้องรับผิดชอบ ขอฝ่าบาทโปรดลงโทษด้วยเพคะ… "
นางกำนัลพูดจบ ก็หมอบลงพื้นโดยไม่ลุกขึ้น
ฮ่องเต้หนิงจ้องไปที่หัวจิ้งเป็นเวลานาน ก่อนที่จะตรัสว่า "จิ้งเอ๋อร์ เจ้ามีอะไรจะพูดอีกตอนนี้มีหลักฐานมากมายอยู่ตรงหน้า ก่อนอื่นเจ้าหยิบกำไลของชางเอ๋อร์ แล้วเอาไปวางที่ตำหนักสนมซู่ที่นั่นหนึ่งวง จากนั้นให้คนฆ่าเซียงหลัน เดิมต้องการใส่ร้ายชางเอ๋อร์ แต่ล้มเหลว แล้วก็ส่งต่อไปยังสนมซู่…"
ฮ่องเต้หนิงมองไปที่ฮองเฮาก่อนที่จะตรัสต่อว่า "ข้าไม่รู้บุตรสาวของข้า มีความสามารถมากมาย ก่อนที่จะบรรลุนิติภาวะ นางรู้วิธีวางแผนการชั่วใส่ร้ายคนนั้นคนนี้ ยังรู้วิธีที่จับคนในครอบครัวนางกำนัลขู่ให้นางกำนัลทำบางอย่างเพื่อนาง! ช่างเป็นบุตรสาวที่ดีอะไรอย่างนี้… ฮองเฮา เจ้าสั่งสอนได้ดีจริงๆ……"
ฮองเฮาลุกขึ้นคุกเข่าด้วยเข่าข้างหนึ่ง แล้วพูดด้วยเสียงอันเบา "เป็นความผิดของหม่อมฉัน หม่อมฉันไม่ได้สอนจิ้งเอ๋อร์ให้ดี ขอให้ฝ่าบาทลงโทษด้วยเพคะ" สีหน้าไม่แยแส ราวกับว่าสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ฮ่องเต้หนิงมองไปที่หยวนเจินฮองเฮาเป็นเวลานาน ก่อนที่จะตรัสว่า "ฮองเฮาจัดการผิดพลาด ยึดตราประทับของนกฟีนิกซ์กลับคืน มอบให้สนมซูดูแลชั่วคราว ฮองเฮาและองค์หญิงหัวจิ้งถูกกักบริเวณสามเดือน หลังจากสามเดือนค่อยตัดสินใจ" หลังจากพูดก็ลุกขึ้น สะบัดแขนเสื้อเดินจากไป
"เสด็จพ่อ… " หัวจิ้งล้มลงกับพื้นอย่างฟูมฟาย กัดริมฝีปาก โกรธเป็นอย่างมาก
สนมซู่ลุกขึ้นยืน เดินไปข้างหน้าหยุนชาง ยิ้มเล็กน้อย "องค์หญิงหยุนชาง วันนี้คงตกพระทัยอย่างมากเลยเพคะประเดี๋ยวหม่อมฉันจะให้คนต้มซุปถั่วเขียวให้องค์หญิงนะเพคะ องค์หญิงอยู่ที่นี่ก็ไม่มีความสงบ ไปนั่งเล่นในตำหนักหม่อมฉันก่อนดีไหมเพคะ?"
หยุนชางเหลือบมองฮองเฮาที่ยืนอยู่โดยไม่ส่งเสียงใดๆ นางลังเลอยู่พักหนึ่งก่อนจะพูดว่า " วันนี้ชางเอ๋อร์ตื่นเช้าเกินไปหน่อย ตอนนี้ยังคงง่วงอยู่เล็กน้อย ชางเอ๋อร์ขอกลับไปนอนต่อก่อนนะเพคะ"
สนมซู่จ้องหน้านางนานพอสมควร แล้วยิ้มและพูดว่า " ในเมื่อองค์หญิงง่วงแล้ว หม่อมฉันก็ไม่อยากฝืน…" พูดจบแล้วนางก็หันหลังกลับพร้อมนางกำนัล หยุนชางก็ได้ยินคำพูดพึมพำจากระยะไกลของสนมซู่ว่า "พูดดีๆ ไม่ชอบต้องให้ลงมือ"
หยุนชางลดสายตาลง ปกปิดอารมณ์ทั้งหมดของนาง "เสด็จแม่ ชางเอ๋อร์ง่วงแล้ว ขอกลับไปนอนก่อนนะเพคะ ชางเอ๋อร์ขอทูลลาเพคะ" หลังจากพูดก็ทำความเคารพ หันกลับไปที่ตำหนักชิงซิน