ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 3645
เฉินอิ่งซานพูดว่า “รถคันที่เย่เฉินขับ ความยาวรถ ฐานล้อ ความกว้างของยาง รวมไปถึงองค์ประกอบไฟหน้า ล้วนเป็นของระดับสูงในBMW เมื่อกี้ฉันลองเปรียบเทียบดู รถคันนี้คือ BMW 760Li xDrive เป็นรุ่นเมื่อปีที่แล้ว แต่ที่ติดอยู่ด้านหลัง กลับเป็นBMW 520”
เฟ่ยเข่อซินอึ้งเล็กน้อย จากนั้นจึงพูดว่า “ดูเหมือนเขาจะไม่ใช่แค่ติดดินธรรมดาๆ แล้วล่ะ ขับBMW ยังต้องปิดบัง”
พูดพลาง เหมือนเธอนึกอะไรออก พูดกับเฉินอิ่งซานว่า “ซานซาน ใช้มือถือเธอเชื่อมต่อกับกล้องติดรถยนต์ หาดูหน่อยว่าถ่ายภาพรูปพรรณสัณฐานของเย่เฉินได้หรือเปล่า”
เฉินอิ่งซานหัวเราะคิกคัก ยื่นมือถือให้เฟ่ยเข่อซิน แล้วพูดว่า “คุณหนู ตอนคุณเข้าไปกับเย่เฉิน ฉันเอารูปออกมาจากกล้องติดรถยนต์แล้วค่ะ อีกทั้งฉันยังเลือกรูปที่ค่อนข้างชัด คุณลองดูค่ะ”
เฟ่ยเข่อซินเอ่ยชมว่า “ใช้ได้เลยนะซานซาน นับวันยิ่งเข้าท่า”
เฉินอิ่งซานพูดว่า “คุณหนู อยู่ข้างๆ คุณ มีความก้าวหน้าเร็วมากค่ะ”
เฟ่ยเข่อซินยิ้มบางๆ รับมือถือมาปัดดูรูปอย่างจริงจัง
เพราะเมื่อกี้เย่เฉินมาถึงที่นี่ก่อน อีกทั้งเย่เฉินยังรออยู่นอกรถ ดังนั้นตอนที่รถคาดิลแลค เข้าใกล้เย่เฉิน จึงถ่ายรูปภาพได้อย่างชัดเจน ภาพที่เฉินอิ่งซานดาวน์โหลดออกมา จึงชัดมาก
เฟ่ยเข่อซินพูดอย่างพอใจว่า “ฉันต้องไปเจอพอล.สมิธขององค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา ให้เขาดูรูปภาพพวกนี้ ดูว่าตอนเขาเจรจากับบริษัทผลิตยาเก้าเสวียน ผู้จัดการเย่คนนั้นคือเย่เฉินหรือเปล่า”
พูดพลาง เธอพูดกับเฉินอิ่งซานว่า “ซานซาน ช่วยฉันติดต่อพอล.สมิธหน่อย นัดเขาออกมาเจอฉัน บอกเขาว่าฉันมีเรื่องอยากถามเขาต่อหน้า”
“ค่ะ!”
……
ในเวลาเดียวกัน
ระหว่างเย่เฉินขับรถกลับไป เขาเอาแต่รู้สึกว่ามีอะไรผิดปกติ
ในหัวของเขา มีภาพคนขับรถของเฟ่ยเข่อซินลอยขึ้นมา รู้ขึ้นมาทันที
จุดที่ผิดปกติ คือข้างกายของหญิงสาวคนนี้ พานักบู๊หกดาวมาด้วย
นี่เป็นบอดี้การ์ดที่พละกำลังแข็งแกร่งที่สุด ที่เขาเคยเจอมาในตอนนี้
การที่ทำให้นักบู๊หกดาวมาเป็นบอดี้การ์ดได้ เดาจากแค่มุมนี้ อำนาจของตระกูล ซึ่งอยู่เบื้องหลังจานเฟยเอ๋อร์ ต้องอยู่เหนือตระกูลเย่เป็นอย่างมาก
ถ้าตระกูลเย่มีนักบู๊หกดาวคอยดูแล ตอนนั้นลู่เห้าเทียน สำนักว่านหลง คงไม่กล้าพาโลงศพ มาฆ่าถึงคฤหาสน์ตระกูลเย่หรอก
อีกทั้งยังมีจุดที่สำคัญมากจุดหนึ่ง นั่นก็คือจานเฟยเอ๋อร์ยังอายุน้อยมาก ไม่มีทางเป็นหัวหน้าตระกูลได้ ขนาดแค่เธอยังมีบอดี้การ์ดเป็นนักบู๊หกดาว งั้นยอดฝีมือที่ตระกูลนี้มีอยู่ในมือ คงไม่ใช่แค่นักบู๊หกดาวเพียงคนเดียวแล้วล่ะ
อาจมีนักบู๊หกดาวอีกหลายคน ไม่แน่อาจมีนักบู๊ระดับสูงกว่านี้ด้วย
อิงตามใบราคานักบู๊หกดาวของสำนักว่านหลง หนึ่งปีเริ่มต้นอย่างน้อย 200 ล้านดอลลาร์
อีกทั้งนักบู๊หกดาวของสำนักว่านหลง ล้วนเป็นแม่ทัพนำทัพต่อสู้ ไม่สามารถรับเงินค่าจ้างได้โดยลำพัง ดังนั้นไม่มีทางไปเป็นบอดี้การ์ดให้คนอื่นได้
ถ้าตระกูลหนึ่ง เลี้ยงนักบู๊หกดาว 3-5 คน งั้นค่าใช้จ่ายต่อปี ต้องเกินพันล้านดอลลาร์
นี่เป็นจำนวนเงินที่มีตัวเลขน่าตกตะลึง ตระกูลที่มีฐานะทางสังคมเป็นแสนล้านในประเทศ กำไรต่อปียังไม่ถึงพันล้านดอลลาร์เลย
อย่างเช่น ซ่งซื่อกรุ๊ป ถึงแม้มีมูลค่าทางตลาดเป็นแสนล้าน แต่กำไรต่อปี แค่ 3-5 พันล้านหยวนเท่านั้น นี่เป็นตอนที่สภาวะการตลาดดีด้วยนะ
ถ้าซ่งหวั่นถิงไปจ้างนักบู๊หกดาวมาหนึ่งคน งั้นค่าใช้จ่ายของคนๆ นี้ พอๆ กับกำไรครึ่งหนึ่งของซ่งซื่อกรุ๊ปเชียวนะ
เมื่อคิดได้เช่นนี้ เขารีบโทรหาว่านพั่วจวิน
เมื่อมีคนรับสาย เย่เฉินสั่งทันทีว่า “พั่วจวิน นายสืบให้ฉันหน่อยว่าประเทศฝรั่งเศส มีตระกูลชาวจีนโพ้นทะเลแซ่จานหรือเปล่า ถือโอกาสสืบหาว่าอำนาจของตระกูลนี้เป็นยังไงด้วย”