ตอนที่ 16: แม่ของซูซุเนะมาแล้ว!!
*สำหรับเรื่อง ผมจีบสาวสวยอันดับหนึ่งของโรงเรียนโดยไม่รู้ตัว มี LC เลยลบนะครับ**
สุดท้าย ฉันก็ต้องยอมทำตามคำสั่งของแม่ซูซุเนะ ทั้งๆ ที่อยากจะร้องไห้ ก็ต้องก้มหน้าก้มตาเก็บโทรฟี่ที่เธอทำหล่นกระจายเต็มพื้น แล้วอุ้มมาทั้งแขนตามหลังซูซุเนะจังไปยังห้องของเธอ
『ดีใจจังที่รุ่นพี่สาวชมว่าน่ารัก』
『เกือบหายใจไม่ออกเพราะโดนหน้าอกใหญ่ๆ กอดแน่น』
『รุ่นพี่สาวชมว่าน่ารักแล้วก็พูดจาแปลกๆ ใส่ ดีใจจนใจเต้นเลย』
โทรฟี่พวกนี้หนักจริงๆ นะ… ถ้าถือไว้นานๆ คงปวดหลังแน่
ฉันเดินตามซูซุเนะจังไปด้วยความลำบาก แต่จู่ๆ เธอก็หยุดกะทันหันแล้วหันกลับมามอง
“รุ-รุ่นพี่…”
เธอเรียกฉันด้วยสีหน้าเศร้าเล็กน้อย แล้วก็รีบยกมือขึ้นปิดปากเหมือนกลัวฉันจะจับความรู้สึกออก ก่อนจะเงยหน้ามองฉันด้วยแววตาลังเล
“เอ่อ… รุ่นพี่ชอบผู้หญิงที่โตกว่าหรือเปล่าคะ…?”
หะ? อยู่ๆ มาถามอะไรแบบนี้เนี่ยนะ?
“หะ? ท-ทำไมถามแบบนั้นล่ะ?”
“ก็ตอนที่รุ่นพี่โดนคุณแม่กอด… รุ่นพี่ดูมีความสุขมากเลย…”
“ม-ไม่ใช่นะ… นั่นมันก็แค่…”
“แถมตอนที่คุณแม่ชมว่ารุ่นพี่น่ารัก… รุ่นพี่ก็ดูดีใจมากเลยด้วย…”
เอาจริงดิ… เธอสังเกตได้ขนาดนั้นเลยเหรอ… แถมรู้ด้วยว่าฉันโดนแม่เธอแกล้งจนโทรฟี่กระจายหมด…
ฉันไม่รู้จะตอบยังไงดี จะให้พูดว่า “แม่ของเธอกอดแล้วฉันดีใจมากเลย” ก็พูดไม่ออกอยู่ดี…
“…………”
ฉันเงียบไป ซูซุเนะจังก็ถอนหายใจเบาๆ
“ซูซุเนะจัง?”
“คือ… ฉันอยากช่วยรุ่นพี่แต่งนิยายให้มากกว่านี้น่ะค่ะ…”
เธอจู่ๆ ก็พูดถึงนิยายของฉันขึ้นมาเฉยเลย
“ไม่นะ เธอช่วยฉันเยอะมากแล้วจริงๆ ที่เขียนได้ดีแบบนี้ก็เพราะซูซุเนะจังแทบจะทั้งหมดเลยล่ะ”
ไม่ได้พูดเอาใจเลยนะ ความจริงก็คือ ผลงานของฉันตอนนี้ติดอันดับแรงขึ้นเรื่อยๆ และตอนล่าสุดสองตอนที่เขียนหลังจากเริ่มสนิทกับซูซุเนะจัง ก็มีคอมเมนต์ดีๆ เพียบ
『ฮารุกะจัง… เก่งมากเลย…』
『ความเพี้ยนของฮารุกะจังนี่สุดยอด ฮ่าๆๆ』
『อยากแกล้งฮารุกะจัง แล้วก็อยากโดนเธอแกล้งกลับด้วย…』
ถึงจะมีบางคอมเมนต์แปลกๆ แต่สำหรับแนวนี้ก็นับว่าเป็นคำชมชั้นยอดเลยล่ะ
ทั้งหมดนี้ต้องยกเครดิตให้ซูซุเนะจังจริงๆ
แต่ถึงฉันจะพูดแบบนั้น สีหน้าเธอก็ยังดูไม่ดีขึ้น
“ฉันไม่มีเสน่ห์แบบผู้ใหญ่เหมือนคุณแม่หรอกค่ะ… แต่ฉันก็อยากช่วยให้รุ่นพี่เขียนเนื้อหาหลากหลายขึ้นนะ… ก็เลย… อยากช่วยให้รุ่นพี่ค้นหาความชอบอีกด้านของตัวเองให้ได้ค่ะ…”
เอ๊ะ… ยังไม่พออีกเหรอ? ทั้งๆ ที่เพิ่งโดนแม่เธอแกล้งมาหนักขนาดนั้น ยังจะให้ฉัน “ปล่อยโทรฟี่” อีกเหรอเนี่ย?
แต่สีหน้าของเธอดูจริงจังมาก
เธอดูตั้งใจสุดๆ กับเรื่องรสนิยมของฉันเลยแฮะ…
“ม-ไม่หรอก ซูซุเนะจังก็มีเสน่ห์ในแบบของตัวเองอยู่แล้วนะ… เธอช่วยฉันได้มากเลยจริงๆ…”
ฉันพยายามปลอบ แต่ดูเหมือนเธอก็ยังไม่สบายใจ
“…………”
“…………”
ความเงียบปกคลุมไปทั่ว เราสองคนต่างก็ไม่พูดอะไร
จนกระทั่งซูซุเนะจังเป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นก่อน
“รุ่นพี่… รอฉันในห้องแป๊บนึงได้ไหมคะ? ฉันจะไปชงชามาให้…”
พูดจบ เธอก็รีบวิ่งออกไปทันที กระโปรงพลิ้วตามแรงวิ่ง
※ ※ ※
สุดท้ายฉันก็ได้แต่นั่งรอเธอในห้อง ห้องของซูซุเนะจังดูเป็นระเบียบมาก ต่างกับห้องของฉันโดยสิ้นเชิง มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ลอยอบอวลอยู่ในห้อง น่าจะเป็นกลิ่นจากน้ำหอมแบบแท่งบนโต๊ะเขียนหนังสือ
นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้เข้ามาในห้องของเธอ ก็เลยรู้สึกประหม่าไม่น้อย ได้แต่นั่งกระสับกระส่ายอยู่หน้าชั้นวางของ
ว่าแต่… ทำไมนานจังนะ…
ผ่านไปเกินสิบแล้วแต่ซูซุเนะจังก็ยังไม่กลับมา หรือว่าเธอกำลังมีปัญหากับการชงชากันนะ?
ระหว่างที่กำลังคิดแบบนั้น ก็มีเสียงเคาะประตูเบาๆ แล้วประตูก็เปิดออก
ฉันหันไปมอง… แล้วก็ต้องตะลึงทันที
“หะ? อะไรเนี่ย?”
คนที่ยืนอยู่ตรงหน้าประตูคือซูซุเนะในชุดสูทผู้หญิงสุดหรู เธอถือถาดชาพร้อมถ้วยชา เดินเข้ามาด้วยท่าทีจริงจัง
แจ็กเก็ตเข้ารูปเน้นสัดส่วนชัดเจน ด้านในเป็นเสื้อเชิ้ตสีขาวที่แน่นบริเวณอกเล็กน้อย กระโปรงทรงสอบที่มีรอยผ่าด้านข้างเผยให้เห็นต้นขาผ่านถุงน่องบาง ๆ
ซูซุเนะในเวอร์ชันผู้หญิงเต็มตัว… กำลังยืนอยู่ตรงหน้าฉัน
ฉันอึ้งจนพูดไม่ออก แต่เธอก็ไม่สนใจ เดินเข้ามาวางถาดชาบนโต๊ะอย่างใจเย็น
“ย… ยินดีต้อนรับค่ะ… ค… คุณโคโนะ…”
ค… คุณโคโนะ!?
“ซูซุเนะ!? ทำไมจู่ ๆ ถึงแต่งตัวแบบนี้ล่ะ!?”
ดูยังไงเธอก็ชัดเจนว่ากำลังเลียนแบบแม่ตัวเอง แต่ท่าทางยังดูเก้ ๆ กัง ๆ ไม่มั่นใจนัก ต่างจากแม่ที่มักทำอะไรอย่างมั่นใจ เธอย่อตัวลงตรงหน้าฉัน กอดถาดไว้แน่น หน้าแดงก่ำแล้วเงยหน้ามองฉันอย่างเขินอาย
“ฉันก็… อายเหมือนกันนะคะ… แต่ว่า… เพื่อให้รุ่นพี่เขียนนิยายให้โด่งดังมากขึ้น… ฉันคิดว่าต้องทำแบบนี้เท่านั้น…”
เข้าใจแล้ว… เธอกำลังพยายามเป็นแม่ เพื่อปลุกความชอบเฉพาะทางของฉัน
“อย่ามองฉันด้วยสายตาสงสารแบบนั้นเลยค่ะ… ฉัน… พยายามสุดความสามารถแล้วนะ…”
เธอพูดเสียงสั่น น้ำตาคลอเหมือนจะร้องไห้
น่ารักเกินไปแล้ว… เธอยอมทุ่มเทขนาดนี้เพื่อช่วยให้ผลงานของฉันไปได้ไกล ฉันแทบจะน้ำตาซึม
ซูซุเนะฝืนยิ้ม พยายามแสดงบทบาทแม่อย่างสุดความสามารถ
“ค… คุณโคโนะ… ว… วันนี้พักผ่อนให้สบายเลยนะคะ…”
พูดด้วยน้ำเสียงที่ยังไม่ชินกับการใช้คำกันเอง แล้วก็นั่งลงตรงหน้าฉัน มองหน้าฉันจากมุมต่ำเหมือนพยายามทำตัวให้ดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้น
แต่ดูยังไงก็ฝืนชัด ๆ… ท่าทางหอบหายใจถี่ ๆ แบบเซ็กซี่นั่นยิ่งทำให้รู้สึกว่ามันไม่เป็นธรรมชาติเลย
…และจากตรงนี้ บทบาทสมมติระหว่างฉันกับซูซุเนะก็เริ่มต้นขึ้น
“ค… โคโนะคุง…”
“ค… ครับ มีอะไรหรือเปล่าครับ…?”
“โคโนะคุง…. อยากให้ ‘ป้า’ ทำอะไรให้เหรอคะ…?”
อะไรกันเนี่ย… คำถามกว้างขนาดนั้นจะให้ตอบยังไง…
ฉันยกมือขึ้นปิดหน้า
นี่มันทรมานชัด ๆ… เหมือนโดนลงโทษเลย…
“ร… รุ่นพี่… ม… มองตาฉันหน่อยได้ไหมคะ… ฉันจะพยายามเต็มที่เลยนะ…”
เมื่อเธอพูดแบบนั้น ฉันก็ต้องยอมลดมือลงแล้วมองเธอตรง ๆ
…ไม่ได้เลย… อายจนหัวใจจะระเบิดอยู่แล้ว…
“โคโนะคุง… อยากให้ป้าทำอะไรให้เหรอคะ…?”
เธอถามซ้ำอีกครั้งด้วยเสียงสั่น ๆ
“อะ… เอ่อ… คือว่า…”
ไม่ไหวจริง ๆ… พูดอะไรไม่ออกเลย สิ่งเดียวที่ฉันอยากจะพูดคือ…
พระเจ้า… ช่วยปลดปล่อยซูซุเนะด้วยเถอะ…
แต่ซูซุเนะยังไม่ยอมแพ้ เธอยิ้มอ่อน ๆ แล้วเอื้อมมือขวาขึ้นมาลูบหัวฉันเบา ๆ
“โคโนะคุง… ชอบให้ป้าลูบหัวแบบนี้เหรอคะ…?”
ทั้งเศร้า… ทั้งดีใจ…
เธอพยายามยิ้มอย่างสุดความสามารถ พลางลูบหัวฉันเบา ๆ รอยแยกที่เสื้อเชิ้ตเผยให้เห็นร่องอกชัดเจน
“คุ… คุโนะคุงนี่นะ… โตเป็นหนุ่มม.ปลายแล้วแท้ ๆ ยังดีใจที่โดนป้าลูบหัวอีกเหรอคะ… น่ารักจังเลย…”
อา… ไม่ไหวแล้ว… ถึงจะแอบเก้ ๆ กัง ๆ แต่ก็แทงใจดำเข้าเต็ม ๆ
ฉันรู้สึกได้เลยว่า “ถ้วยรางวัลบนหัว” ที่ได้จากแม่ซูซุเนะ กำลังหนักขึ้นเรื่อย ๆ
“ต… ต่อจากนี้ ป้าจะ… จะเอ็นดูโคโนะคุงให้มาก ๆ เลยนะคะ…”
พูดจบ ซูซุเนะก็ใช้นิ้วชี้ลูบปลายคางฉันเบา ๆ พร้อมส่งรอยยิ้มที่ดูอ่อนโยนที่สุดเท่าที่เธอจะทำได้
MANGA DISCUSSION