「ว้าว~ หนังสนุกมากเลยเนอะ〜 ตอนฉากสารภาพรักตอนจบนั่นสุดยอดมากเลย!」
「ใช่เลย! ไม่ได้ดูหนังรักมานานแล้ว แต่เรื่องนี้สนุกมากเลยเนอะ!」
หลังจากหนังจบ ฮินามิกับยูริก็พูดคุยกันถึงความรู้สึกที่มีต่อหนังขณะเดินไปยังทางออกของโรงภาพยนตร์ ผมกับโคอิซังเดินตามหลังพวกเธอไป
แม้หนังจะยาวประมาณสองชั่วโมง แต่เนื้อเรื่องกลับสนุกกว่าที่คิด ทำให้ไม่รู้สึกเบื่อเลย
ยูริที่นั่งดูอยู่ข้าง ๆ ถึงกับหลั่งน้ำตาในฉากที่พระเอกสารภาพรักกับคนที่ชอบ
ส่วนผม… ก็ยังทำหน้านิ่งอยู่… ถึงจะสนุกก็เถอะ แต่ก็ไม่ได้ซึ้งจนต้องร้องไห้อะไรขนาดนั้น…
คงเพราะเป็นหนังที่เหมาะกับผู้หญิงมากกว่า เลยไม่ค่อยโดนใจสักเท่าไหร่…
อีกอย่าง เราดูที่โรงที่สาม แต่ก็ไม่พบใครน่าสงสัยเลย เพราะเป็นหนังที่ได้รับการรีวิวดี คนเลยค่อนข้างเยอะ
แต่ในบรรดาคนเหล่านั้น ก็ไม่มีใครดูมีพิรุธ ส่วนใหญ่เป็นคู่รักหรือไม่ก็กลุ่มเพื่อนที่มาด้วยกัน
ไม่มีใครมาคนเดียวเลย และจากการดูภายนอก ผู้ชมส่วนมากก็ดูจะเป็นพวกนักเรียนมัธยมปลายถึงมหาวิทยาลัย มีความเป็นพวกเข้าสังคมสูง ไม่มีใครดูเหมือนจะเป็นพวกโรคจิตหรือพวกตามตื้อเลย
「ดูเหมือนไม่มีใครน่าสงสัยเลยนะ」
ผมพูดกับโคอิซังที่เดินอยู่ข้าง ๆ
「นั่นสิ ส่วนใหญ่เป็นนักเรียน และมีเพื่อนหรือแฟนมาด้วยกันทั้งนั้น ไม่มีใครที่ดูเหมือนจะเป็นพวกตอแยเลย」
「งั้นสุดท้ายแล้ว ที่จริงก็ไม่มีสตอล์กเกอร์ตั้งแต่แรกแล้วรึเปล่า…?」
「ยังบอกไม่ได้หรอก อย่าเพิ่งรีบสรุปไป บางที สตอล์กเกอร์อาจจะไม่ได้มาที่นี่ในวันนี้ก็ได้」
「ทำไมถึงคิดแบบนั้นล่ะ…?」
โคอิซังหยิบสมาร์ทโฟนจากกระเป๋า แล้วเปิดหน้าแอคเคาท์ X ขึ้นมา เป็นบัญชีของสตอล์กเกอร์คนนั้นนั่นเอง
「คนคนนี้ยังไม่ได้โพสต์อะไรในวันนี้เลย ถ้าเขาอยู่ใกล้ฮินามิ ก็น่าจะโพสต์อะไรสักอย่างไปแล้วล่ะ เพราะงั้นฉันเดาว่าวันนี้เขาน่าจะไม่มา」
「งั้นทำไมเขาถึงอยู่ ๆ ก็เลิกมาตามล่ะ?」
「ถึงจะไม่คิดว่าเขารู้เรื่องพวกเราหรอกนะ แต่บางทีเขาอาจจะระวังตัวขึ้นมาหน่อย แล้วก็ไม่กล้าเข้าใกล้ในวันนี้ก็ได้ อย่างเช่น คิดว่าฮินามิจะมาอยู่คนเดียว แต่พอเห็นฉันอยู่ข้าง ๆ ก็เลยเปลี่ยนใจ」
「เข้าใจละ การที่โคอิซังอยู่ด้วย ก็เลยกลายเป็นเหมือนแรงกดดัน ทำให้เขาไม่กล้าทำอะไรสุ่มเสี่ยง」
「ก็อาจจะใช่ อย่างน้อยวันนี้คงไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้วล่ะ」
「โอเค ก็หวังว่าจะได้เบาะแสอะไรสักอย่างในวันนี้ แต่ดูเหมือนไม่ได้ผล」
「เรื่องมันไม่ได้ง่ายขนาดนั้นหรอก เอาเถอะ วันนี้ก็เหนื่อยแล้วนะ กลับบ้านไปพักผ่อนเถอะ」
「จะทำแบบนั้นล่ะ ในที่สุดก็ได้ผ่อนคลายบ้างซักที!」
ผมสูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วผ่อนออกยาว ๆ
เพราะไม่รู้ว่าสตอล์กเกอร์จะโผล่มาเมื่อไหร่ เลยต้องเกร็งไว้ตลอดเวลา แต่ตอนนี้ถึงได้ผ่อนคลายจริง ๆ
ก็อยากได้เบาะแสบ้างแหละ แต่ถ้าเขาไม่มาจริง ๆ ก็ช่วยไม่ได้
ถึงจะไม่มีผลลัพธ์อะไร แต่ก็ไม่มีเหตุร้ายอะไรเกิดขึ้นต่อหน้าฮินามิ อย่างน้อยก็ถือว่าผ่านไปได้ด้วยดี
「อ๊ะๆ! โคอิจจิ กับเรียว กำลังคุยอะไรกันอยู่น้า~?」
พอผมกับโคอิซังคุยกันจบ ยูริก็โผล่มาแทรกทันที
「เอ่อ ก็แค่คุยกันเรื่องหนังน่ะ…」
เพราะยังไม่ได้บอกยูริเรื่องสตอล์กเกอร์ ผมเลยตอบแบบหลบ ๆ เลี่ยง ๆ (แกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง)
「เหรอ~ เข้าใจละ แล้วจากมุมมองของผู้ชายอย่างเรียว หนังเรื่องนั้นเป็นยังไงบ้างเหรอ~?」
「เอ่อ คือว่า…」
ตอนที่ผมกำลังคิดว่าจะตอบยังไงดี
「เมื่อกี้เขาบอกฉันว่า ‘อ้า~ ฉันก็อยากมีความรักที่ร้อนแรงเร่าร้อนแบบนั้นบ้าง! แล้วก็อยากให้สาวนมโตมาตามจีบ!’ พูดด้วยความกระตือรือร้นเลยแหละ ฟังแล้วฉันก็แอบตกใจนิดหน่อยนะ」
「โคอิซังงงง! ฉันไม่เคยพูดประโยคอะไรโรคจิตแบบนั้นเลยนะ!!」
ถึงจะอยากเบี่ยงเบนประเด็นก็เถอะ แต่ช่วยเลือกคำพูดที่ดีกว่านี้หน่อยไม่ได้เหรอ! แบบนี้ฉันก็กลายเป็นพวกโรคจิตไปเลยน่ะสิ!
แค่พูดว่า “อยากมีความรักที่เร่าร้อน” ยังพอเข้าใจได้ แต่ “อยากให้สาวอกโตมาตามจีบ” นี่มันไม่ใช่ละ! ผมไม่เคยพูดอะไรแบบนั้นเลยนะ!
(ถึงจะสารภาพว่าในใจลึก ๆ ก็แอบคิดอยู่นิดหน่อยก็เถอะ…)
「อะฮะฮะฮะ! ความเห็นของเรียวนี่ตลกจริง ๆ เลย!」
ยูริที่รู้ว่าเป็นเรื่องล้อเล่นก็หัวเราะตามไปด้วย
ถ้าไม่ใช่ยูรินะ มีหวังโดนเกลียดไปแล้วแน่ ๆ! เฮ้อ โคอิซังนี่นะ…
「ฉันก็อยากฟังความเห็นของเรียวบ้างนะ เรียวคงไม่ค่อยได้ดูหนังรักเท่าไหร่สินะ เลยอยากรู้จังว่าเรียวอยากมีความรักแบบไหน…」
ฮินามิที่อยู่ข้าง ๆ พูดพลางมองผมด้วยสายตาเว้าวอน
แล้วเธออยากรู้เรื่องความรักของผมไปทำไมกันเนี่ย…?
「เอ่อ… ฉันแค่คิดว่า ถ้าได้มีความรักแบบปกติธรรมดา ก็คงพอแล้วล่ะ」
「ปะ…ปกตินี่แบบไหนเหรอ? แบบไหนที่ทำให้รู้สึกเขิน ๆ แล้วชอบผู้หญิงแบบไหนเหรอ?」
เมื่อกี้ยังทำท่าเขินอายอยู่เลย อยู่ดี ๆ ฮินามิก็เข้ามาถาม เหมือนจะสนใจในมุมมองความรักของผมเอามาก ๆ
เอ่อ…แต่ทำไมล่ะ? ทำไมคนสวยระดับ “สาวสวยในรอบพันปี” ถึงได้มาสนใจความรักของคนอย่างผม…
หรือว่า…ฮินามิชอบผม…?
ไม่ ๆ ๆ คิดมากไปแน่ ๆ เธอแค่สนใจในฐานะเพื่อนธรรมดานั่นแหละ
ก็อย่างที่เธอเคยบอกที่ค่ายพักแรม ว่ามีคนที่แอบชอบอยู่แล้ว
คงแค่อยากฟังความคิดเห็นของผู้ชายเฉย ๆ ล่ะมั้ง
「ฉันก็อยากรู้นะ~ เรียวน่ะ จะรู้สึกเขิน ๆ ในสถานการณ์แบบไหนเหรอ~? แล้วอยากมีความรักแบบไหนกันน้า〜」
คราวนี้ไม่ใช่แค่ฮินามิ ยูริก็ร่วมวงมาถามผมด้วย
นี่มันอะไรกัน…? ทำไมสองคนนี้ถึงสนใจเรื่องความรักของผมกันนะ…?
「พอแล้วทั้งสองคน เดี๋ยวจะยาวเอาเปล่า ๆ ไปคาเฟ่กันเถอะ ค่อยคุยกันต่อเรื่องหนังกับเรื่องพวกนั้น」
เพราะฉันเริ่มพูดอะไรไม่ออกจากความสับสน โคอิซังจึงรีบช่วยเบี่ยงประเด็นให้
ถึงจะชอบแกล้งก็เถอะ แต่เวลาจะช่วยก็คือช่วยจริง ๆ นี่แหละโคอิซัง
「อืม จริงด้วย งั้นไปหาที่นั่งกันเถอะ」
「ไปกันเลย! อยากคุยต่อทั้งเรื่องหนังกับเรื่องเมื่อกี้อีก!」
ฮินามิกับยูริก็ตอบรับอย่างร่าเริง
พวกเราจึงออกจากโรงหนังแล้วมุ่งหน้าไปยังคาเฟ่แห่งหนึ่ง เพื่อพูดคุยแลกเปลี่ยนความเห็นกันต่อ
◇◇◇◇
หลังจากออกจากโรงภาพยนตร์ พวกเราก็เดินเล่นไปทั่วห้างสรรพสินค้าเพื่อหาคาเฟ่ที่ยังมีที่ว่าง
ผมเอ่ยปากคุยกับฮินามิที่เดินอยู่ข้างๆ
「ฮินามิ ช่วงนี้เป็นยังไงบ้าง? เรื่องที่เคยเล่าก่อนหน้านั้นยังโอเคอยู่ไหม?」
「เอ๊ะ? อ-อืม สบายดี ไม่เป็นไรแล้วล่ะ」
「งั้นก็ดีแล้วล่ะ ไปช้อปปิ้งกับโคอิซังสนุกไหมล่ะ?」
ฮินามิยิ้มและพยักหน้า
「อื้ม! ฉันซื้อเสื้อผ้าน่ารัก ๆ ที่เหมาะกับโคอิจังได้เยอะเลย! แล้วฉันเองก็ได้เสื้อผ้าใหม่มาเยอะเหมือนกัน」
ฮินามิยกถุงกระดาษที่ถืออยู่ขึ้นมาอย่างดีใจ
ถึงจะไม่รู้ว่าเธอซื้ออะไรนอกจากชุดว่ายน้ำ แต่จากท่าทีแบบนี้ก็คงสนุกมากจริงๆ
「อย่างนั้นก็ดีแล้วล่ะ พักหลังดูเธอจะซึม ๆ ไปหน่อย พอเห็นเธอกลับมายิ้มได้แบบนี้ฉันก็โล่งใจเลย ถ้ามีอะไรอีกก็บอกฉันได้นะ」
「อืม ขอบคุณนะ เรียวคุง แต่…ทำไมเรียวคุงถึงเป็นห่วงฉันขนาดนี้ล่ะ…?」
กับคำถามของฮินามิ ผมต้องใช้เวลาคิดหาคำตอบเล็กน้อย
ตอนนี้ฮินามิกำลังถูกคนสะกดรอยตาม ผมก็เลยเป็นห่วงเธอ แต่พอคิดย้อนกลับไป ผมก็รู้ตัวว่าผมมักจะคอยเป็นห่วงเธออยู่ตลอด
พอแค่คิดว่า ถ้าฮินามิโดนใครทำร้ายและต้องเจ็บปวดขึ้นมา…
หัวใจก็เจ็บปวดขึ้นมาเหมือนถูกบีบแน่นจนหายใจไม่ออก
แน่นอนว่าถ้าเป็นคนอื่นอย่างยูริหรือโคอิซัง ฉันก็คงรู้สึกเหมือนกัน
แต่ทำไมกับฮินามิเท่านั้น…ถึงได้รู้สึกแบบนี้…
「ฉะ-ฉันก็แค่…ไม่อยากเห็นฮินามิเจ็บปวดก็เท่านั้นเอง จริงๆ ก็แค่นั้นแหละ ถ้าเธอลำบากเมื่อไหร่ ฉันจะช่วยเสมอ」
「เรียวคุง…………」
「ถ้ามีอะไรก็มาปรึกษาฉันได้นะ ฮินามิ ฉันอยากเป็นกำลังใจให้ อยากปกป้องเธอ」
「ข-ขอบคุณนะ……」
พอผมพูดแบบนั้น ฮินามิก็ก้มหน้าลงแล้วพึมพำเสียงเบา
ถึงจะไม่เห็นหน้า แต่หูของเธอก็แดงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
เอ๊ะ…เกิดอะไรขึ้นนะ อยู่ ๆ ทำไมถึง…หรือว่าผมพูดอะไรแปลกๆ ไปงั้นเหรอ?
「ฉันดีใจจริงๆ ที่ได้เจอกับรียวคุง」
「หือ? กับฉันเหรอ?」
「อืม ก็เพราะว่า…」
ฮินามิเงียบไปชั่วครู่ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นช้า ๆ แล้วมองตาผมพร้อมกับพูดว่า
「เพราะรียวคุงเป็นคนแรก…ที่อยู่ด้วยแล้วทำให้ฉันรู้สึกสงบใจขนาดนี้เลย……」
ตึกตัก!
หัวใจของผมเต้นแรงอย่างกับจะหลุดออกมา ใจเต้นเร็วขึ้นอย่างไม่สามารถควบคุมได้
รู้สึกอุ่นขึ้นจากภายในร่างกายไปจนถึงหัวใจ ริมฝีปากแทบจะเผลอยิ้มออกมา แต่ก็พยายามห้ามไว้
คำพูดของฮินามิทำให้ผมดีใจจนเก็บอาการไม่อยู่
ถูกเธอพูดแบบนั้นพร้อมกับมองขึ้นมาด้วยแววตาแบบนั้น ใครจะไปรับมือไหวล่ะ……
ผมดีใจเกินไปจนเผลอหันหน้าหนี
「อืม ข-ขอบคุณนะ……ฮินามิ」
「เอ๊ะ? มะ-ไม่หรอก ฉันต่างหากที่ต้องขอบคุณเรียวคุงตลอดเลย… ฉันมักจะได้รับความช่วยเหลือจากเรียวคุงเสมอเลยเนอะ」
「ไม่หรอก ถ้าฮินามิอยู่ข้าง ๆ ฉันก็สนุกและดีใจเหมือนกัน」
「ขอบคุณนะ………」
เราทั้งคู่หน้าแดงจนไม่กล้าสบตากัน
บรรยากาศเขิน ๆ แต่น่ารักลอยปกคลุมระหว่างเรา
ถูกฮินามิพูดแบบนั้น…หรือว่า คนที่ฮินามิชอบคือ…ผม?
—หรือเราคิดมากไปเองกันนะ
อีกฝ่ายเป็นถึงสาวงามระดับ “พันปีจะมีสักครั้ง” ทั้งหน้าตาเกินใคร เรียนเก่ง แถมยังจริงใจและจิตใจดี
ผู้หญิงแบบนั้นจะมาชอบคนอย่างผมได้ยังไง…
มันไม่สมดุลกันเลยสักนิด เป็นไปไม่ได้หรอก
ต่อให้ผมชอบฮินามิขึ้นมาจริง ๆ ก็คงต้องเก็บความรู้สึกนี้เอาไว้…
ขณะที่ผมกำลังคิดแบบนั้น—
「อ๊ะ! เจอคาเฟ่ที่ยังว่างแล้ว! นี่ๆ ไปที่นั่นกันเถอะ?」
เมื่อหันไปทางที่ยูริชี้ ก็พบว่ามีคาเฟ่บรรยากาศดีที่ยังพอมีโต๊ะว่างอยู่
ดูเหมือนโต๊ะสำหรับสี่คนยังเหลืออยู่หลายโต๊ะ คงเข้าไปนั่งได้เลยไม่ต้องรอ
「ดูดีเลยนะ งั้นไปที่นั่นกันเถอะ」
「ช่ายๆ! พวกเธอสองคนโอเคไหม?」
ยูริหันมาถามผมกับฮินามิ
「ฉันโอเคนะ ที่ไหนก็ได้ถ้ามีที่นั่ง」
「อืม ฉันก็ไม่เป็นไร… อ๊ะ แต่ขอแวะเข้าห้องน้ำก่อน ไปก่อนเลย」
「จ้า~ อย่าหลงทางนะ ฮินามิ~!」
「อืม เดี๋ยวตามไปนะ」
ฮินามิโบกมือลาพวกเรา ก่อนจะวิ่งไปทางห้องน้ำ
ดูจากป้ายแล้ว ห้องน้ำอยู่ไม่ไกล คงกลับมาเร็ว
หลังจากส่งฮินามิแล้ว พวกเราสามคนก็เข้าไปในร้านคาเฟ่
◇◇◇◇
หลังจากแยกกับเรียวคุง ฉันรีบเข้าไปในห้องน้ำหญิงแล้วมายืนอยู่หน้ากระจก
จากนั้นก็เริ่มนึกถึงบทสนทนาเมื่อครู่… คำที่พูดกับเรียวคุงไป
—เพราะเรียวคุงเป็นคนแรก…ที่อยู่ด้วยแล้วทำให้ฉันรู้สึกสงบใจขนาดนี้เลย……
พูดไปแล้ว!!!!!!
จะทำยังไงดีเนี่ยยยยย!
มันแทบไม่ต่างจากสารภาพรักเลยใช่ไหม!?
อ๊าาาาา……ก็แค่รู้สึกดีใจที่ได้คุยกับเรียวคุง เลยเผลอพูดออกไป
แค่คิดย้อนกลับไป ใจฉันก็ปวดร้าวจนทนไม่ไหวแล้ว…
หลังจากถอนหายใจยาว ฉันก็หันไปมองใบหน้าของตัวเองในกระจก
ใบหน้าของฉันแดงจนเหมือนถูกทาสีแดงทับไว้เลย
「ฉันนี่มัน…ทำไมถึงได้ซื่อบื้อแบบนี้นะ ควรเลือกสถานที่กับเวลามากกว่านี้สิ… เรียวคุงก็ดูงง ๆ อยู่ด้วย」
เรียวคุง…จะคิดยังไงกับฉันกันนะ
ที่ผ่านมา ฉันสร้างความลำบากใจให้เขาตั้งเยอะ… หรือว่าเขาจะมองว่าฉันเป็นผู้หญิงน่ารำคาญกันนะ…
มะ-ไม่หรอก! อย่างน้อยถ้าเป็นเรียวคุงก็คงไม่คิดอะไรขนาดนั้น
แต่ถ้าเทียบกับยูริ ฉันก็คงไม่ดูดีเท่าเธอเลย…
ไม่ได้รุกแรงแบบยูริ แถมก็ไม่ได้มีงานอดิเรกเหมือนกันด้วย
พอเรียนจบประถม ฉันก็เข้าโรงเรียนหญิงล้วนแบบต่อเนื่อง เลยไม่ค่อยได้พูดคุยกับผู้ชายเท่าไหร่
แม้ปีนี้จะเปลี่ยนเป็นโรงเรียนสหศึกษาแล้วก็เถอะ แต่ฉันก็ยังไม่ชินกับการคุยกับผู้ชาย
ตรงข้ามกับยูริ ที่มีทักษะการเข้าสังคมสูง เลยคุยกับผู้ชายได้อย่างสบายๆ
แต่สำหรับฉัน มีแค่เรียวคุงเท่านั้น…
ฉันทำให้เรียวคุงสนุกได้บ้างไหมนะ… ถ้าเขาคิดว่าฉันเป็นผู้หญิงที่น่าเบื่อจะทำยังไงดี…
ความรักนี่มันยากจังเลย
ฉันไม่เคยมีคนที่ชอบจริง ๆ มาก่อนเลย ไม่เข้าใจอะไรสักอย่างเลย
「ต้องพยายามให้มากกว่านี้สิ……………!」
ฉันเตรียมตัวมุ่งหน้าไปที่ร้าน
ต้องเปลี่ยนความรู้สึกใหม่ ต้องพยายามแสดงออกให้รียวคุงเห็นมากกว่านี้
ฉันจัดเสื้อผ้าหน้าผมหน้ากระจก แล้วก็ออกจากห้องน้ำหญิง
ต้องพยายามมากกว่านี้ ถึงจะเขิน ถึงจะไม่เก่ง แต่ก็จะไม่ยอมแพ้!
คิดได้แบบนั้นไม่นาน
「อะ-เอ่อ… นะ นี่ ใช่… คุโจซังหรือเปล่าครับ…?」
เสียงแปลกหน้าที่เรียกชื่อฉันดังขึ้นมาจากด้านหลัง
พอหันกลับไปดู—
มีผู้ชายสวมหมวกแก๊ปสีดำสนิทยืนอยู่ข้างหลังฉัน
ผะ-ผู้ชายคนนี้…ใครกัน…?
MANGA DISCUSSION