หลังจากที่เราหัวเราะกันจนน้ำตาเล็ดเพราะใบหน้าที่ประหลาดของกันและกัน…
เราทั้งคู่รีบวิ่งออกจากตู้ถ่ายสติ๊กเกอร์เงียบ ๆ แล้วพุ่งตรงไปยังทางออกของเกมเซ็นเตอร์ทันที
ระหว่างทางที่วิ่ง ผมก็เหลือบไปมองทางพวกอันธพาล แต่ดูเหมือนพวกเขาจะยังไม่รู้ตัว
พวกเขาไม่แม้แต่จะหันมามองทางเราเลย
เรื่องบังเอิญนี่น่ากลัวจริง ๆ
แต่ยังไงก็ตาม ดูเหมือนว่าเราจะเอาตัวรอดจากสถานการณ์อันตรายมาได้แล้ว
「อันตรายชะมัดเลยเนอะ เรียวคุง! ฮาー ฮาー」
พอพ้นจากเกมเซ็นเตอร์ได้ทันที คุโจที่หอบแฮ่ก ๆ ก็หันมามองผม
ใบหน้าของคุโจตอนนี้ ไม่เหมือนรอยยิ้มในตู้ถ่ายสติ๊กเกอร์เมื่อกี้ มันเป็นรอยยิ้มอีกแบบที่แตกต่างออกไป
เหมือนเธอได้ลิ้มรสความสนุกแบบลับ ๆ แล้วติดใจ รู้สึกผิดนิดหน่อยเลยแฮะ ไม่สิ ผมก็ไม่ได้ทำอะไรผิดนี่นา?
「อ้อ จริงสิ เรียวคุง ก่อนจะลืม ขอฝากนี่ไว้ให้หน่อย」
คุโจยื่นรูปถ่ายสติ๊กเกอร์สองสามใบใส่มือผม เป็นรูปที่เราถ่ายกันเมื่อกี้นี่เอง
「จริง ๆ แล้วก็สามารถส่งภาพลงมือถือได้ด้วยนะ แต่คิดว่าเรียวคุงอาจจะอาย… จะให้เก็บรูปคู่กับคนที่ไม่ใช่แฟนมันก็ดูยังไง ๆ อยู่เนอะ แต่ก็อยากให้เก็บไว้อย่างน้อยเป็นความทรงจำของวันนี้…นะ」
คุโจพูดพลางหน้าแดงเป็นหมึกต้ม แต่ก็มองผมด้วยสายตาเว้าวอน
จะให้ผมปฏิเสธยังไงลงล่ะเนี่ย
「อะ…อา ขอบคุณนะ จะเก็บไว้อย่างดีเลย」
「อื้อ ถ้าเป็นแบบนั้นก็ดีใจจัง ฉันเองก็จะเก็บไว้อย่างดีเหมือนกัน」
พอลองมองดูรูปที่คุโจให้มาอีกที… โอ้โห หน้าผมนี่มันอะไรเนี่ย
แวบแรกผมยังจำตัวเองไม่ได้เลย
หน้าขาวเป็นจูออน แถมตาโตเว่อร์เกินจริง
ริมฝีปากก็สีม่วงแปลก ๆ ไม่เข้ากับสีผิวเลย แล้วบนหัวผมยังมีทิวลิปบานอยู่อีกต่างหาก ไม่เข้าใจเลยจริง ๆ
ควรจะติดป้าย “โปรดใช้วิจารณญาณในการชม” ไว้ซะด้วยซ้ำ
แต่ก็ไม่ใช่แค่ผมที่หน้าตาหลุดโลก
คุโจก็เหมือนกัน
เมคอัพแบบคนบ้า และมีดาวในดวงตาเหมือนการ์ตูนผู้หญิง
แค่ตาดูเหมือนนางเอกการ์ตูน แต่หน้าทั้งหมดคือสายฮาชัด ๆ
สภาพของเราทั้งคู่มันเละเทะจริง ๆ
แต่… ก็สนุกดีนะ
เราหัวเราะกันจนท้องแข็งตอนแต่งภาพพวกนั้นเลยนี่นา
「ถ้าภาพพวกนี้หลุดไปให้คนอื่นเห็นล่ะก็ จบแน่」
「นั่นสิ ต้องซ่อนไว้ในลิ้นชักลึก ๆ เลยล่ะ」
「เออ จริงด้วย งั้นพอเริ่มตั้งตัวได้แล้ว เราไปจากตรงนี้กันก่อนดีกว่า ถ้าเกิดเจอพวกนักเลงอีกจะยุ่งยาก」
ตอนนี้เราอยู่ด้านนอกของเกมเซ็นเตอร์ แต่อยู่ใกล้ประตูทางเข้าออกมาก ถ้ายังอยู่ตรงนี้อาจจะเจอพวกนั้นอีก
แล้วสีของท้องฟ้าก็กลายเป็นสีส้มจากพระอาทิตย์ที่กำลังจะตกไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ น่าจะใกล้เวลาอาหารเย็นแล้ว
ผมหยิบมือถือขึ้นมาดู ตอนนี้เวลา 17:30
เผลอแป๊บเดียวเวลาก็ผ่านไปเยอะเลย
นานแล้วนะที่รู้สึกว่าเวลาผ่านไปเร็วขนาดนี้
「อีกแค่ 30 นาทีก็จะหกโมงแล้ว เอาไงดี? กินข้าวเย็นก่อนกลับมั้ย?」
ผมลองเสนอแผนถัดไป แต่คุโจก็ทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก
เหมือนเธอกำลังสิ้นหวังอยู่เล็ก ๆ
「เอ๋… นี่มันเย็นขนาดนั้นแล้วเหรอ… ขอโทษนะ เรียวคุง ฉันบอกแม่ไว้ว่าจะกลับไปกินข้าวเย็นที่บ้านน่ะ」
「อา… งั้นเหรอ ตอนนี้แม่คุโจคงกำลังทำอาหารอยู่สินะ งั้นเราก็แยกกันตรงนี้แหละ」
จะไปฝืนรั้งตัวไว้ก็คงไม่ดี
ปล่อยให้เธอกลับดีกว่า
「อื้อ งั้นไปที่สถานีด้วยกันเถอะ เรียวคุง!」
ทันทีที่เธอพูดแบบนั้น
รอยยิ้มของคุโจกับแสงอาทิตย์ยามเย็นก็ทาบทับกันอย่างพอดี สายตาผมพลันเห็นภาพที่สวยงามจับใจ
ท้องฟ้าสีส้มและรอยยิ้มที่เปล่งประกาย การผสมผสานของทั้งสองสิ่งมันเกินจินตนาการ
สวยงาม…
ไม่มีคำไหนจะบรรยายได้ดีกว่านี้อีกแล้ว
สมกับฉายา “สาวงามในรอบพันปี” จริง ๆ
〇〇〇〇
เวลาผ่านไปอีกนิด เราก็มาถึงสถานีที่ใกล้ที่สุด
ตอนเกิดเหตุในรถไฟใต้ดิน ผมกับคุโจนั่งรถไฟขบวนเดียวกัน เลยคิดว่าเราน่าจะกลับบ้านทางเดียวกัน แต่จริง ๆ แล้วไม่ใช่
บ้านของคุโจอยู่คนละทิศกับผม
คงมีเหตุให้เธอแวะมาทางนี้พอดีในวันนั้น
「เรียวคุง ขอบคุณมากนะ วันนี้สนุกสุด ๆ ไปเลย!」
คุโจยืนอยู่หน้าประตูทางเข้า ร่ำลา
ดวงตาเธอยิ้มอยู่จริง ๆ ดังนั้นเธอคงสนุกมากจริง ๆ
เป็นครั้งแรกที่ผมได้ออกเดตกับผู้หญิง แต่ก็สนุกกว่าที่คิดแฮะ
ตอนนี้ผมเริ่มเข้าใจแล้วว่าทำไมบางคนถึงอิจฉาพวกรักสมหวังกัน
「อืม ฉันก็สนุกมากเหมือนกัน ระวังตัวตอนขากลับด้วยล่ะ คุโจ」
「อื้อ เรียวคุงก็เหมือนกันนะ」
หลังจากที่คุโจพูดจบ
『ขบวนรถไฟไปยังสถานี□□ จะเข้าสู่ชานชาลาหมายเลข 3 ในไม่ช้า』
เสียงประกาศก็ดังขึ้นพอดี รถไฟที่คุโจจะขึ้นกำลังจะมา
「อ๊ะ รถมาแล้ว งั้นฉันไปก่อนนะ!」
「อื้ม!」
คุโจหันหลังให้ผมแล้วเริ่มจะวิ่งไปที่ชานชาลา
แต่ขาของเธอกลับหยุดนิ่ง
ทั้งที่รถไฟกำลังจะมาถึงอยู่แล้ว เธอหยุดทำไมกัน?
ขณะที่ผมกำลังสงสัย คุโจก็หมุนตัวกลับมา แล้วจ้องมองมาทางผมตรง ๆ
「คะ…คือว่า เรียวคุง… ขออะไรอย่างหนึ่งได้ไหม…」
เสียงเธอเบาจนแทบไม่ได้ยิน แต่ผมก็ยังจับได้
「อ๊ะ… อะไรเหรอ?」
「มะ…คือ… นั่นน่ะ…」
อะไรของเธอ…?
ดูเธออ้ำอึ้งเหมือนจะพูดอะไร แต่ก็ไม่มีความกล้าพอจะพูดออกมา
ท่าทางของเธอแปลกไป
เธอจะพูดอะไรออกมากันนะ?
ผมเดาใจเธอไม่ออก จนต้องเอียงคอสงสัย
หลังจากเงียบไปไม่กี่วินาที
คุโจก็เปิดปากพูดออกมาในที่สุด
「อยากให้เรียกด้วยชื่อ ไม่ใช่นามสกุล…」
「ห้ะ? ชื่อเหรอ?」
ข้อเสนอที่ผมไม่คาดคิด ทำให้เผลออุทานออกมาทันที
MANGA DISCUSSION