ในช่วงชีวิตมัธยมปลายของผมที่เพิ่งเริ่มต้นได้ไม่นาน ผมก็ตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากเสียแล้ว
เหตุการณ์หายนะที่ทำให้ตัวตนของฉผมถูกเปิดเผยต่อเพื่อนร่วมชั้นเกิดขึ้น
และที่แย่กว่านั้น คนที่รู้ความลับของผมกลับเป็นโคอิซัง—คนที่ขึ้นชื่อเรื่องนิสัยโหดเหี้ยมระดับสุดขั้ว
โดยปกติ ผมอยากจะหาทางแก้ตัวอยู่หรอก แต่กับคนแบบนี้ ไม่แน่ใจเลยว่าคำโกหกจะได้ผลหรือเปล่า…
เธอเป็นคนที่สังเกตเห็นตัวตนของผมได้เร็วที่สุดแน่ๆ แถมยังต้องมีหลักฐานแน่นหนาที่ทำให้เธอมั่นใจว่าคนคนนั้าคือผมอีกด้วย
แต่เดี๋ยวก่อน… เธอรู้ได้ยังไง?
ขนาดชาวเน็ตยังตามหาตัวผมไม่เจอเลย
นี่มันเรื่องอะไรกัน…?
ความคิดของผมสับสนไปหมดจนไม่อาจเรียบเรียงได้
「อ้าว? ไม่ตอบเหรอ? หรือว่านายกำลังตกใจจนลืมวิธีพูดไปแล้วกันแน่ล่ะ?」
「อ-อา… ขอโทษที ฉันแค่ตกใจที่เธอพูดขึ้นมาแบบนี้กะทันหัน…」
「อย่างงั้นเหรอ? แต่ก็ไม่เห็นนายจะปฏิเสธเลยนี่? งั้นก็เหมือนว่านายยอมรับแล้วไม่ใช่รึไง?」
「ม-ไม่ ไม่ใช่สักหน่อย! ฉันไม่ได้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นั้นเลยนะ! โคอิซัง อยู่ดีๆ เธอก็พูดอะไรแปลกๆ ออกมา ฉันก็แค่ไม่รู้จะตอบยังไงเท่านั้นเอง!」
「หืม… อย่างนั้นเหรอ? งั้นฉันพูดถึงหลักฐานที่ทำให้ฉันสงสัยว่านายคือคนคนนั้นได้ไหมล่ะ?」
「…เอ๊ะ? ก็ได้ ลองเล่าดูหน่อยสิ」
หลังจากที่ผมตอบออกไป
คำวิเคราะห์ที่แม่นยำเกินไปของโคอิซังทำให้หัวใจของฉันเต้นรัว
「ในบัตรนักเรียนที่อยู่ในสมุดพกของนาย มีที่อยู่ของนายระบุไว้อยู่ ฉันก็เลยรู้ว่าสถานีที่ใกล้บ้านนายที่สุดก็คือ ○○ ซึ่งก็คือสถานีที่เด็กผู้ชายคนนั้นหายตัวไปพอดี แล้วหลังจากสอบเข้าที่โรงเรียนโทคิโนะซาวะ นายก็ไปเล่นเกมเซ็นเตอร์กับยูริใช่ไหม? ถ้าประมาณเวลาที่เล่นว่าใช้ไป 1 ชั่วโมง เวลานั้นก็ดันไปตรงกับช่วงที่คนร้ายขึ้นรถไฟใต้ดินพอดี นั่นหมายความว่า หลังจากสอบเสร็จ นายอาจจะขึ้นรถไฟขบวนเดียวกับคนร้ายก็เป็นได้」
ผมเผลอกลั้นหายใจไปกับตรรกะที่สมบูรณ์แบบนี้
…ไม่นะ เรื่องนี้มันบ้าเกินไปแล้ว!
สมองของเธอทำงานยังไงกันแน่?
แค่จากสมุดพก ก็สามารถวิเคราะห์ออกมาได้ถึงขนาดนี้ ขนาดยอดนักสืบคันโนก็คงต้องยอมแพ้ให้เธอเลย
「ว่าไง? นี่เป็นแค่สมมติฐานของฉันนะ แต่ว่ามันถูกต้องไหม?」
ถ้าผมตอบว่า 「ใช่」 ไปตรงๆ มีหวังหนีไม่รอดแน่
ถ้าผมยังปล่อยให้เธอวิเคราะห์ต่อไปแบบนี้ ผมคงหมดทางเถียงแน่ๆ
ต้องเปลี่ยนหัวข้อสนทนาเดี๋ยวนี้!
「แต่ว่า… แค่เรื่องพวกนี้ มันจะใช้ตัดสินได้จริงหรอ? เพราะว่าตอนเกิดเหตุ ก็มีเด็กผู้ชายอยู่หลายคนนี่นา」
แบบนี้ล่ะ เป็นไงล่ะ?
แม้ว่าการวิเคราะห์ของโคอิซังจะเฉียบแค่ไหน แต่เธอก็ยังไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนพอจะบอกว่าเป็นฉัน
เอาล่ะ โคอิซัง เธอจะมาไม้ไหนต่อกันแน่?
เมื่อกี้เธอเป็นฝ่ายคุมเกม แต่ฉันจะไม่ปล่อยให้เป็นแบบนั้นอีก!
「ก็จริง… ฉันยังขาดหลักฐานที่จะใช้ยืนยันได้อย่างชัดเจน」
「เห็นไหมล่ะ!」
「แต่ขอถามอะไรอย่างหนึ่งได้ไหม?」
「เอ๊ะ? คำถามเหรอ?」
「ใช่… ทำไมนายถึงทำหน้าตึงเครียดทุกครั้งที่ฮินามิอยู่ใกล้ล่ะ? เหมือนกับว่ากำลังบอกว่าห้ามอยู่ใกล้กันอย่างนั้นแหละ โดยเฉพาะตอนกลางวัน นายดูอึดอัดมากเลยนะ?」
「!!!」
「มันอาจจะไม่ใช่เรื่องของฉันที่จะพูดแบบนี้ แต่ฮินามิเป็นคนที่โด่งดังมากเลยนะ ตั้งแต่ที่เธอให้สัมภาษณ์เรื่องเหตุการณ์ครั้งนั้น ยอดผู้ติดตามใน SNS ของเธอก็พุ่งทะลุ 100,000 คนไปแล้ว แถมยังมีโมเดลลิ่งหลายแห่งมาติดต่อเธออีกด้วย ถึงขนาดถูกเรียกว่า 『สาวงามแห่งสหัสวรรษ』เลยทีเดียว ไม่ว่าใครก็ดูออกว่าเธอน่ารักมาก แต่ทำไมนายกลับหลบหน้าเธอล่ะ? นั่นเป็นจุดที่ฉันสงสัยมากที่สุด มันดูเหมือนว่านายกำลังพยายามซ่อนอะไรบางอย่างอยู่」
แย่แล้ว!
ผมพลาดแล้ว!
ผมแสดงมะนออกไปโดยไม่รู้ตัวสินะ!
ก็ใช่… ผมพยายามหลบหน้าเธอ แต่ผมไม่คิดว่าเธอจะสังเกตเห็นได้ขนาดนี้
การสังเกตของโคอิซังนี่เกินไปจริง ๆ …
ผมจะอธิบายยังไงดี? จะแก้สถานการณ์นี้ยังไง!?
ไม่ไหวแล้ว!
ผมคิดอะไรไม่ออกเลย!
「อะ-เอ่อ… คือว่า…」
「เหตุผลที่นายหลบเลี่ยงฮินามิ ก็เพราะไม่อยากเปิดเผยตัวตนที่แท้จริง ถูกต้องไหม? ด้วยกระแสของสังคมที่คาดหวังต่อตัวนาย ทำให้นายไม่กล้าเปิดเผยว่าเป็นคนช่วยเธอ แล้วอีกอย่าง ฮินามิเองก็บอกฉันถึงลักษณะของเด็กผู้ชายที่ช่วยเธอเอาไว้แล้วนะ สูงประมาณ 170 ซม. ผอมเพรียว ผมดำ และมีดวงตาที่คมเข้ม… ทุกอย่างตรงกับนายเลย ถึงแม้ว่าเธอเองจะยังไม่รู้ตัวเลยก็ตาม」
เพอร์เฟ็กต์
เธอเดาเหตุผลที่ผมหลบหน้าได้เป๊ะเลย
ไม่ว่าจะพยายามแก้ตัวยังไง เธอก็หาทางต้อนผมจนจนมุมได้เสมอ
ผมควรพูดความจริงไปเลยดีไหม?
แต่เธอคนนั้นคือโคอิซังนะ… เธอต้องวางแผนอะไรไว้แน่ ๆ
ผมควรทำยังไงดี!?
「เงียบไปแบบนี้ แปลว่านายกำลังพยายามหาข้อแก้ตัวอยู่ แต่คิดไม่ออกจนเริ่มตื่นตระหนก ใช่ไหมล่ะ?」
…ไม่ไหวแล้ว
ถ้าผมยังพยายามดิ้นรนไปมากกว่านี้ คงแย่แน่ ๆ
ผมยอมแพ้… ไม่คิดเลยว่าความลับของผมจะถูกเปิดเผยตั้งแต่วันแรกของชีวิตมัธยมปลาย
「อา… ใช่แล้ว โคอิซัง ฉันคือเด็กผู้ชายคนนั้นเอง ได้โปรด อย่าบอกเรื่องนี้กับใครเลยนะ ฉันไม่อยากให้มันกลายเป็นเรื่องใหญ่」
เมื่อผมพูดความจริงออกไป โคอิซังกลับเงียบไปครู่หนึ่ง
พอเป็นการคุยโทรศัพท์ ผมจึงไม่รู้เลยว่าตอนนี้เธอมีสีหน้าแบบไหน
เธอกำลังคิดอะไรอยู่นะ…?
「……อ่า โคอิซัง? เป็นอะไรไปเหรอ? หรือว่าสัญญาณไม่ดีจนฟังไม่ได้ยิน?」
เมื่อผมพูดแบบนั้น โคอิซังก็กลับมาพูดอีกครั้งด้วยท่าทีเหมือนพึ่งหลุดออกจากภวังค์
「อา ขอโทษทีนะ แค่กำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่ ไม่อยากเชื่อเลยว่านายจะเป็นเด็กหนุ่มคนนั้นจริง ๆ พูดแบบนี้อาจจะแปลกไปหน่อย แต่ถึงฉันจะเป็นคนเดาเองก็เถอะ มันก็ยังรู้สึกไม่จริงอยู่ดี แล้วก็นะ… นายโกหกไม่เก่งเอาซะเลย ตอนแรกฉันก็แค่พูดไปแบบครึ่ง ๆ กลาง ๆ แต่ไม่คิดเลยว่าจะเดาถูกเป๊ะขนาดนี้」
「ใครจะโกหกเธอได้กันเล่า โคอิซัง…」
「นั่นสินะ เอาเถอะ สบายใจได้ ฉันพอจะเข้าใจเหตุผลที่นายไม่ยอมเปิดเผยตัวตนเหมือนกัน การจะออกมายอมรับอะไรแบบนั้นในฐานะ ‘ฮีโร่ของประเทศ’ มันต้องใช้ความกล้ามากเลยล่ะ งั้นก็เอาเป็นว่าฉันจะไม่บอกใคร… ถ้าหากว่านายทำตามเงื่อนไขของฉัน」
「เข้าใจอะไรแบบนี้ก็ดีอยู่หรอก… เดี๋ยวนะ? เมื่อกี้เธอว่าอะไรนะ?」
「ไม่ได้ยินเหรอ? ฉันบอกว่า ถ้านายทำตามเงื่อนไขของฉัน ฉันก็จะปิดปากเรื่องนี้ให้」
——หา?
ผมนึกว่าเธอจะใช้เรื่องนี้มาควบคุมผมซะอีก แต่ดูเหมือนว่าเธอจะเข้าใจสถานการณ์ของผมอยู่พอสมควร
ถึงอย่างนั้น… เงื่อนไขที่ว่า มันอะไรกันแน่?
คนที่รู้คือโคอิซัง… เป็นไปไม่ได้ที่เธอจะตั้งเงื่อนไขแบบง่าย ๆ สบาย ๆ แน่ ๆ
ถ้าผมทำตัวไม่ถูก อาจโดนเอาเรื่องนี้ไปเปิดเผยก็ได้… งั้นก็คงต้องทำตามเงื่อนไขของเธอสินะ
ตราบใดที่ผมทำตามนั้น เธอก็จะช่วยปิดเรื่องนี้ให้
ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว…!
「อะ-เอ่อ… ขอบคุณนะ โคอิซัง แล้วเงื่อนไขที่ว่าคืออะไรเหรอ?」
「ไม่ได้มีอะไรซับซ้อนหรอก พรุ่งนี้—หรือก็คือวันเสาร์ ฉันมีธุระต้องออกไปข้างนอก อยากให้นายไปด้วยกัน」
「…หา? แค่นั้นน่ะเหรอ?」
「ใช่ แค่นั้นแหละ」
「เงื่อนไขของเธอมันดูง่ายไปหน่อยไหมนะ? นึกว่าเธอจะให้ฉันทำอะไรหนักกว่านี้ซะอีก」
「อุ๊ย? งั้นเปลี่ยนเป็นแบบนั้นดีไหมล่ะ? ฉันไม่ติดอะไรนะ แถมถ้ามีเบ๊เพิ่มขึ้นอีกคนก็คงสะดวกดีด้วย」
「อะ-ไม่เป็นไรครับ! ขอเป็นเงื่อนไขเดิมก็พอ!」
「หึหึ เป็นเด็กดีนี่ งั้นเดี๋ยวฉันจะบอกเวลานัดกับสถานที่ให้นะ ห้ามมาสายเด็ดขาด ถ้ามาช้าล่ะก็… ฉันไม่เอาไว้แน่」
「คะ-ครับ! จะไม่มาสายแน่นอน!」
หลังจากนั้น โคอิซังก็บอกกำหนดการของวันพรุ่งนี้ให้ผมฟังทั้งหมด
ดูเหมือนว่าเราจะไปที่ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ใกล้โรงเรียนโทคิโนะซาวะ แล้วผมก็ต้องไปกับเธอด้วย ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน
แต่เอาเถอะ แค่ไปช้อปปิ้งด้วยกันแล้วเธอยอมเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ ก็นับว่าเป็นข้อตกลงที่แฟร์อยู่นะ
…หรือเดี๋ยวนะ? เธออาจจะให้ผมเลี้ยงข้าวก็ได้
อึก… เอาเถอะ ถ้าจ่ายเงินแล้วเรื่องจบได้ ก็คงไม่แย่เท่าไหร่
ยังไงซะ ผมก็เพิ่งได้เงินฉลองสอบผ่านจากปู่ย่ามาก้อนหนึ่งอยู่พอดี
「กำหนดการก็มีเท่านี้ นายมีคำถามอะไรอีกไหม?」
「เปล่าหรอก… แต่จริง ๆ แล้ว แค่ไปช้อปปิ้งด้วยกันเท่านั้นเองหรอ?」
「ใช่ แล้วก็แต่งตัวดี ๆ ด้วยล่ะ ถ้านายใส่อะไรเชย ๆ มาล่ะก็ ฉันไล่กลับแน่」
「อะ-เข้าใจแล้ว…」
「โอเค งั้นจบเรื่องแล้ว ฉันต้องไปกินข้าวละ ขอตัวก่อน」
「รับทราบ… อ้อ เดี๋ยวสิ ขอถามอะไรอีกข้อได้ไหม?」
「อะไรล่ะ? รีบ ๆ พูดมาเลย ฉันหิวแล้วนะ」
「โคอิซัง…เธอมีไอคิวประมาณเท่าไหร่หรอ?」
ผมเผลอถามอะไรไร้สาระออกไปเพราะความอยากรู้
แต่ก็นั่นแหละ โคอิซังสามารถระบุตัวตนของผมได้จากข้อมูลแค่เล็กน้อย มันแสดงให้เห็นว่าเธอเป็นคนฉลาดมาก ๆ
ผมเลยสงสัยว่าเธอเป็นแค่คนชอบไขปริศนาเฉย ๆ หรือว่าเป็นอัจฉริยะกันแน่
มันน่าคิดอยู่นะ…
「อืม… ฉันไม่ชอบอวดตัวเท่าไหร่หรอกนะ แต่ตอนม.3 ฉันเคยลองทำข้อสอบระดับม.6 แล้วได้คะแนนสูงสุดถึง 73 น่ะ ส่วนไอคิวไม่เคยวัด ก็เลยไม่รู้เหมือนกัน งั้นแค่นี้นะ ไว้เจอกันพรุ่งนี้」
พูดจบ เธอก็วางสายไป
หลังจากได้ยินเรื่องคะแนนเมื่อกี้ ฉันก็อดรู้สึกทึ่งไม่ได้เลย
โคอิซัง… ไม่ใช่แค่ซาดิสม์สุด ๆ แต่ยังฉลาดสุด ๆ ด้วย
การที่เด็กม.3 ไปทำข้อสอบของม.6 ว่าหลุดโลกแล้ว แต่การที่ทำได้คะแนนสูงขนาดนั้น… นี่มันเหนือมนุษย์เกินไปแล้ว!
มีอัจฉริยะระดับนี้นั่งอยู่ข้างหลังผมในห้องเรียน… มิน่าล่ะ ถึงโดนจับได้อย่างรวดเร็ว
——วันแรกของชีวิตมัธยมปลาย ผมได้เจอผู้คนมากมาย แต่ในขณะเดียวกัน…
ผมก็เจออีเวนต์แห่งหายนะและปัญหาอีกเพียบ จนสุดท้ายก็โดนเพื่อนร่วมห้องจับได้ว่าเป็นใคร
มันเป็นวันที่โชคร้ายสุด ๆ แต่…
อย่างน้อยวันต่อ ๆ ไป ก็น่าจะดีกว่าวันนี้แหละ
ผมตั้งความหวังเอาไว้แบบนั้น แล้วเริ่มเตรียมตัวสำหรับวันพรุ่งนี้
ขอร้องล่ะ พรุ่งนี้อย่าเกิดอะไรขึ้นเลยนะ…
ได้โปรดเถอะ!
MANGA DISCUSSION