———— ก่อนหน้านี้เล็กน้อย
หลังระฆังบอกเวลาเลิกเรียนดังขึ้น นักเรียนส่วนใหญ่ต่างก็แยกย้ายกันในทันที
กรณียกเว้นคงมีเพียงคนที่ได้รับหน้าที่พิเศษอย่างชินและซูซาน (ชงหยวน) ที่ต้องจัดการธุระของโรงเรียนต่อให้เสร็จ ส่วนคนที่เหลือก็จำต้องแยกย้ายดังว่า
…แต่ข้อยกเว้นเองก็มีอยู่
“เฮ้อ…”
เกวนที่กำลังเดินถอนหายใจบนโถงทางเดินคือหนึ่งตัวอย่าง
เธอเดินคอตกออกมาจากห้องได้สักพักใหญ่แล้ว แต่ความกระวนกระวายใจยังไม่ได้หายไปไหนไกล
วันนี้ควรจะได้เป็นอีกวันที่เธอและชิน (บวกกับเพื่อน ๆ) ได้ใช้เวลาหลังเลิกเรียนด้วยกันอย่างสนุกสนาน
แต่วันนี้ชินดันติดประชุมก็เลยไปด้วยไม่ได้ พอเป็นแบบนั้นเกวนเลยไม่รู้สึกอยากไปเที่ยวเท่าไรนักด้วยเหตุผลที่ขอละไว้ในฐานที่เข้าใจ
แค่นั้นว่าทำจิตใจห่อเหี่ยวแล้ว แต่ซ้ำร้ายยิ่งกว่าคือการได้เห็นชินกับซูซานใช้เวลาด้วยกันสองต่อสองเป็นอย่างสุดท้ายก่อนจาก
ตรงจุดนั้นแหละที่ทำเกวนรู้สึกกระอักกระอ่วนร้อนใจเป็นที่สุด
อือ… รู้งี้ไม่น่ายกตำแหน่งตัวแทนให้ซูซานไปเลยอ่ะ
เกวนครางผ่านลำคอนึกเสียใจทีหลัง คิดว่าถ้าตอนนั้นดื้อดึงเสียหน่อยที่ตรงนั้นคงกลายเป็นของเธอ
และความเสียดายก็จุดติดกับความอิจฉาได้ง่ายเสียด้วย
จะว่าไป… ทำไมซูซานถึงต้องพยายามทำตัวติดกับชินขนาดนั้นด้วยเนี่ย!
เป็นนักเรียนใหม่ไม่ใช่เหรอ? แบบนั้นมันไม่แปลกไปหน่อยรึไง? น่าสงสัยจะตายไป?!
เกวนทำแก้มป่องแง่งอนอยู่คนเดียว กุมหัวส่ายไปส่ายมาจนคนที่เดินสวนต้องเหล่มอง
จะว่าน่าสงสัยก็ใช่ แต่พอคนทำเป็นเกวนแล้วทุกคนกลับคิดว่าน่ารักมากกว่า
แม้เรื่องที่เกวนกำลังคิดกังวลในหัวจะเป็นคนละอารมณ์เลยก็ตาม
สำหรับเกวน… การไม่รู้ว่าชินกับซูซานกำลังทำอะไรด้วยกันอยู่นั้นเป็นความร้อนใจอย่างที่สุด
ทำไมถึงพยายามเข้าหาชิน? ทำไมถึงทำตัวสนิทสนมด้วย? เกวนอยากรู้เรื่องนั้นแทบใจจะขาด มือไม้ตัวก็สั่นไปหมดหยุดนิ่งไม่ไหว
ใบหน้าเธอหมองลงตามความกังวลนั้น
เอาจริง ๆ… รู้สึกเหมือนชินสนิทกับเธอมากกว่าเพื่อนซี้อย่างเราอีก
ระหว่างทั้งสองคนมันดูมีอะไรมากกว่าที่เห็นยังไงไม่รู้
ตอนโรงยิมก็ดูเหมือนจะรู้จักกับคุณโอลิเวียมาก่อนด้วย
แต่…ชินก็ส่งสัญญาณว่าไม่ไว้ใจซูซานอีก สรุปแล้วมันยังไงกันเนี่ย!?
สัญชาตญาณผู้หญิงของเกวนช่างเฉียบคม แต่ก็ทำได้แค่เพิ่มความสงสัยให้ตัวเอง ยิ่งคิดเกวนเลยยิ่งสับสน
แต่ไม่สิ! เรื่องนั้นมันไม่เกี่ยวนี่นา!
เกวนเริ่มรู้สึกว่าตนคิดมากไป การคิดหาเหตุผลจนลืมความรู้สึกตัวเองไม่ได้ทำให้เธอสบายใจขึ้นเลย
นึกขึ้นได้ดังนั้นเกวนจึงพยายามกลับมาเหยียดหลังตรงตั้งหลักใหม่
นั่นสิ! ชินกับซูซานจะสนิทกันยังไงก็ไม่เกี่ยวนี่!
ไม่ว่าเรื่องเมื่อก่อนของทั้งสามคนจะเป็นยังไง แต่ถ้าชินกำลังลำบากเราก็ต้องหาทางช่วยสิ!
นะ ในฐานะเพื่อนสนิทไง อื้ม! แบบนั้นก็ดูไม่น่าเกลียดเกินด้วย! ถึงเป็นซูซานก็ว่าอะไรไม่ได้แน่!
เพื่อนกันช่วยเหลือกันมันก็ธรรมดาออกจะตาย!
แล้วหลังจากนั้น ถ้าความสัมพันธ์ของเราพัฒนาขึ้นมากกว่ามันก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้อ่ะเนาะ!
ถึงตอนนั้นซูซานกับชินจะเคยสนิทกันยังไงก็ไม่เกี่ยวหรอก! อื้ม!
แทนที่จะหดหู่กับอดีตที่แก้ไขอะไรไม่ได้ สู้คิดในแง่บวกแล้วตะลุยไปทั้งอย่างนี้ดีกว่า
เกวนคิดได้ดังนั้นจึงกำหมัดฮึดให้กำลังใจตัวเอง คิดว่าต่อให้สถานการณ์ของทุกคนซับซ้อนแค่ไหนแต่มันก็ไม่ได้ทำให้ความรู้สึกของเธอที่มีต่อชินเปลี่ยนไปอยู่ดี
อันที่จริง… ความรู้สึกเธอค่อนข้างรุนแรงขึ้นเสียด้วยซ้ำ
แต่… ความลำบากคือการได้รู้ว่าต้องทำอะไร แต่ไม่รู้จะทำอย่างไรนี่แล
ความรู้สึกผิดหวังเลยกลับมากวนใจ จากความไร้พลังและขาดข้อมูลของตัวเอง
ความคิดเหล่านั้นเริ่มทำเกวนคิ้วตกคอหดหงอยไปหมด ทั้งที่เธอเพิ่งเยียวยาใจตัวเองกลับมาได้แท้ ๆ
ถ้าทำได้… เราก็อยากจะคอยช่วยชินจริง ๆ นั่นแหละ
แต่เราไม่รู้เรื่องอะไรเลย…
จะให้เข้าไปช่วยแบบไม่ดูตาม้าตาเรือก็อาจจะทำให้ชินลำบากกว่าเดิมก็ได้
แต่จะรอให้ชินขอ… ชินเค้าก็คงไม่ขอให้เราช่วยหรอก
ก็เค้าเป็นคนดีออกจะตายนี่นา
“อือ……”
หญิงสาวผู้ว้าวุ่นใจทำได้แค่ครางเสียงในลำคอ สุดท้ายความคิดเธอก็วนกลับมาจุดเดิมตรงที่ไม่รู้จะเข้าหาชินด้วยวิธีไหนดี
“งั้นผมไปรอห้องประชุมก่อนนะ”
“!?”
ระหว่างที่กำลังเดินผ่านห้องเรียน นักเรียนชายคนนึงเดินออกมาจากห้องข้างหน้าเกวนพอดี
เผอิญ… เขาเป็นคนเดียวกับที่เคยนั่งกินข้าวด้วยกันตอนเที่ยงเมื่อหลายวันก่อน สายตาเธอเลื่อนขึ้นไปมองป้ายห้องดังกล่าวด้วยความสงสัยอัตโนมัติ
แล้วทันทีที่เห็นว่าเป็นห้อง ม.5/1 ตามคาด ดวงตาเกวนก็ย้อมกลับด้วยประกายแห่งความหวังทันที
นี่ไงล่ะ!?
กระแสไฟฟ้าวิ่งผ่านทั่วทั้งตัวเกวน เหมือนกระตุ้นให้เธอรีบเดินไปดูว่าคนที่นักเรียนชายคนนั้นคุยด้วยคือคนที่เธอหวังไว้หรือไม่
“อ้าว ตายจริง” และใช่… คนที่เหลืออยู่ในห้องคนเดียวคนนั้นหันมาสบตาเธอด้วยความแปลกใจ
“มีธุระอะไรรึเปล่าคะเกวน?”
นักเรียนสาว… โอลิเวียเอ่ยทักจากในห้องใกล้กับประตู เป็นดังที่เกวนหวังไว้
ทางเอลฟ์สาวเอ่ยอย่างสุภาพชนพร้อมกับเลื่อนเรือนผมทัดหูโดยมีฉากหลังเป็นท้องฟ้าสีแสดราวกับภาพวาด
ความงามนั่นทำเอาเกวนเองยังเผลอหลงใหลไปชั่วขณะ
ดูกี่ทีก็สวยไม่เปลี่ยนจริง ๆ เลย คุณโอลิเวีย
เกวนได้ยลโฉมโอลิเวียใกล้ ๆ แล้วถึงกับเหงื่อตก ความกลัวพ่ายทำเธอแอบคิดว่ามาปรึกษาเรื่องชินผิดคน
แต่… คนที่น่าจะรู้เรื่องของชินที่สุดก็มีแต่โอลิเวีย
ถ้าไม่ถามเธอ เกวนก็จะไม่มีทางคืบหน้าไปมากกว่าที่เป็นอยู่
นอกจากนี้… ในส่วนลึกของจิตใจ เกวนกลับรู้สึกว่าโอลิเวียไว้ใจได้ทั้งที่มีสถานะเป็นคู่แข่ง
หากเธอแสดงความปรารถนาดีต่อชินออกมาตามตรง เกวนเชื่อว่าโอลิเวียจะเป็นคนเดียวที่เข้าใจ
…นั่นเพราะสายตาที่เธอมองชิน มันเป็นแบบเดียวกับของเธอ
เกวนทำหันซ้ายทีขวาที แล้วพอเห็นว่าไม่มีใครอยู่รอบ ๆ เธอก็ยื่นหน้าเข้าไปหาโอลิเวีย
“แบบว่า… ขอคุยด้วยหน่อยได้ไหมคะ?”
“…ได้สิคะ”
สายตาของโอลิเวียคมกริบขึ้นมา แต่ก็ตอบรับคำขอของเกวนด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย
ตอนแรกเกวนเองก็กังวล เพราะเธออ่านอารมณ์จากสีหน้าและน้ำเสียงของโอลิเวียผู้เป็นหญิงสาวหน้าตายไม่ออก
แต่โอลิเวียตอบรับแทบจะทันทีแบบนี้เกวนก็ใจชื้นเหมือนกัน
“อย่าลืมล็อคประตูด้วยนะคะ”
“เอ๊ะ? อื้ม!”
ถูกโอลิเวียชี้นิ้วย้ำเกวนก็ทำตามอย่างว่าง่าย
คุณโอลิเวียนี่รอบคอบจริงแฮะ
เกวนแอบชมโอลิเวียในใจ เธอรีบลงกลอนประตูตามคำแนะนำ
…แต่พอหันกลับไปหาโอลิเวีย จู่ ๆ เจ้าตัวก็ตั้งท่ายืนตรงแบบไม่มีช่องว่าง
ท่าทางเหมือนจะเริ่มสู้นั่นทำเอาเกวนรู้สึกกดดันขึ้นมา
“แล้ว… จะเริ่มยังไงดีคะ?”
“เอ๊ะ!? เริ่มอะไรคะ?”
เกวนยิ่งสับสนไปใหญ่กับคำพูดที่ดูจริงจังของโอลิเวีย เธอรู้สึกว่าสถานการณ์มันชักจะแปลก ๆ เข้าไปทุกที
“จะประกาศสงครามไม่ใช่เหรอคะ?”
“สงคราม!?”
เกวนถึงกับไหล่สะดุ้ง ยิ่งได้เห็นโอลิเวียพูดด้วยสีหน้านิ่งยิ่งกังวล เพราะไม่รู้ว่าเธอพูดจริงหรือพูดเล่น
“แหม ๆ… ความรักนี่แหละค่ะคือสงครามที่ยิ่งกว่าสงคราม ไม่คิดอย่างนั้นเหรอคะ?” โอลิเวียพูดฉีกยิ้มดูขี้แกล้งมากกว่าปกติ
…ถึงสายตาคมกริบที่โอลิเวียมองมาจะดูค่อนไปทางเอาจริงก็เถอะ แถมยังไม่นับเรื่องที่โอลิเวียเดาออกว่าเกวนจะมาคุยเรื่องของชินด้วยอีก
ความเฉียบคมนั่น เกวนสัมผัสแล้วถึงกับเหงื่อตกเลยทีเดียว
“มะ ไม่ใช่นะ! ฉันไม่ได้จะสู้กับคุณโอลิเวียซะหน่อย!”
เกวนปฏิเสธเสียงแข็ง ไม่เห็นด้วยกับความรุนแรงเต็มประตู
แต่ตรงข้าม… พอโดนถามกลับ โอลิเวียก็ดันเอียงคอสงสัยกลับมาเหมือนจะพูดว่า ‘อ้าว? ไม่ใช่เหรอคะ?’ เสียอย่างนั้น
ถ้าไม่นับเรื่องรุนแรงที่พูดออกมา ท่าทางแบบนั้นก็คงน่ารักน่าชังอยู่หรอก
เกวนเลยได้แต่ยิ้มแห้งกับท่าทางทีเล่นทีจริงของโอลิเวีย เพราะสุดท้ายนั่นคงเป็นการแกล้งกันมากกว่า
แต่… นั่นก็จนกว่าโอลิเวียจะเปิดปากอีกหน
“แต่ถ้าคุณชนะ ดิฉันจะยอมแพ้เรื่องชินให้ก็ได้นะคะ”
“เอ๊ะ!?”
เกวนเบิกตาโพลงขึ้นมา คำเชิญของโอลิเวียกระตุกต่อมบางอย่างในตัวเธออย่างแรง
เกวนถึงกับรู้สึกเหมือนเลือดในกายกำลังสูบฉีดเลยทีเดียว
แต่หลังจากนั้นโอลิเวียก็ฉีกยิ้มออกมา
“ล้อเล่นค่ะ”
ความหวังถูกทำลายในบัดดลทำเอาเกวนตาค้าง
แล้วเกวนก็ต้องกลับมาหงุดหงิดตัวเอง เธอรู้สึกอยากจะเขกกบาลตัวเองที่ถูกโอลิเวียแกล้งซ้ำแล้วซ้ำเล่าแต่ไม่ยักจะทันเกมเสียที
“…งืมมมมมม” สุดท้ายเกวนก็ได้แต่ทำแก้มป่อง ครางเสียงเหมือนสัตว์ตัวเล็ก ๆ
โอลิเวียเห็นแล้วก็เผลออมยิ้มให้กับความใสซื่อและเถรตรงของเกวน เธอพอจะเข้าใจแล้วว่าทำไมชินถึงได้ไว้ใจเกวนนัก
ถ้าไม่นับท่าทางที่ดูมั่นใจว่าจะชนะดิฉันได้ล่ะก็นะ
โอลิเวียแอบรู้สึกติดใจในเรื่องนั้น แต่คิดว่าความรักคงทำให้คนตาบอดเกวนเลยประเมินพลังตัวเองผิดไปมากกว่า
…แม้สำหรับเกวนแล้ว มันอาจไม่ใช่การประเมินที่ผิดพลาดก็ตาม
“แกล้งฉันเนี่ย… สนุกเหรอคะ” เกวนยังบ่นอุบแก้มป่องไม่หาย
ปกติเกวนคงไม่กล้าถามโอลิเวียตรง ๆ
แต่เพราะชินไม่อยู่ด้วยเธอเลยกล้าลดความเรียบร้อยลงแล้วแสดงออกมากกว่าปกติ
…หรือไม่งั้น ก็คงเพราะเกวนโดนแกล้งบ่อยจนรู้สึกว่าต้องพูดอะไรบ้าง
ถึงสำหรับโอลิเวีย การได้เห็นเกวนหรือใครต่อใครโดนแกล้งจะเป็นเรื่องที่ทำให้พอใจก็เถอะ
“ขออภัยด้วยค่ะ คุณตอนโดนแกล้งมันน่ารักดีน่ะค่ะ… เห็นแล้วนึกถึงตอนที่หยอกชินบ่อย ๆ เลย”
“หะ!!?”
โอลิเวียทำคิ้วเกวนกระตุกอย่างแรง ความใกล้ชิดของชินกับโอลิเวียทำเธอปากพะงาบไปไม่เป็น
โอลิเวียก็ช่างสุมไฟเก่ง… เธอเผยรอยยิ้มเหนือกว่าออกมา ยิ่งทำให้เกวนร้อนใจเข้าไปใหญ่
ทำเสียจนเกวนมือไม้สั่นหน้าแดงก่ำไปหมด
หยอกชินเหรอ? หยอกแบบไหนอ่ะ?
แล้วบ่อย ๆ ด้วยเหรอ!? สองคนนี้สนิทกันถึงขั้นนั้นจริง ๆ ด้วย!?
ความสงสัยก่อตัวในหัวเกวนอีกครั้ง ความร้อนรุ่มเองก็ก่อขึ้นในอกของเธอ
ถ้าไม่นับเรื่องของซูซาน เกวนก็แอบคิดเรื่องของโอลิเวียมาตลอดว่ามีความสัมพันธ์กับชินไปถึงขั้นไหน
แต่ตอนนี้ชินมีอันตรายมากกว่าจะคิดเรื่องนั้น และเกวนก็พอจะรู้อยู่ว่าโอลิเวียปรารถนาดีกับชิน เกวนเลยมองข้ามเรื่องนี้ไปก่อนแล้วให้ความสำคัญกับซูซาน เพราะมันเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของชินโดยตรง
แต่… โอลิเวียก็ดันมาจุดไฟริษยาในตัวหญิงสาวอันยากจะดับได้เสีย
ความกังวลเรื่องของซูซาน ความอิจฉาเรื่องความใกล้ชิดของโอลิเวีย
ภายในอกเกวนที่มีไฟติดกองนึงอยู่แล้วเลยเหมือนถูกราดด้วยน้ำมันเบนซินเข้าไปอีก
จากที่จะมาทำความเข้าใจเรื่องของซูซาน เลยกลายเป็นสร้างความร้อนรุ่มให้เกวนจนเธอไม่สามารถปล่อยผ่านเรื่องของโอลิเวียได้แทน
และที่สำคัญ…
การมาอวดกันโต้ง ๆ ว่า ‘ฉันเป็นคนที่สนิทกับชินมากกว่าเธอ’ แบบนี้ ใครเล่าจะทนได้
“…จะข่มกันเหรอคะ?” เกวนถามโอลิเวียตรง ๆ
“ใช่ค่ะ”
โอลิเวียตอบกลับแทบจะทันที
แม้เธอจะยืนประสานมือไว้ข้างหน้าอย่างเรียบร้อย แต่คำตอบก็ช่างยั่วยุเสียจนคิดว่าอยากจะมีเรื่องเสียให้ได้
นั่นทำคิ้วของเกวนกระตุกเป็นครั้งที่สิบของวันแล้วกระมัง ความโกรธของเธอแทบจะหยุดไม่อยู่ไปทุกทีแล้ว
คุณโอลิเวียเป็นคนสำคัญของชิน
ถ้าทำให้เธอไม่พอใจชินก็จะไม่ชอบเราไปด้วย
แล้ว… เราเองก็ไม่อยากให้ชินรู้สึกไม่ดีด้วย
แต่… เล่นมายั่วกันขนาดนี้ ฉันเองก็มีน้ำโหเป็นนะ!
ความหงุดหงิดของเกวนมาถึงจุดที่ต้องแสดงออก
แน่นอนว่าความรุนแรงไม่ใช่คำตอบ สิ่งนั้นเป็นอย่างสุดท้ายที่เกวนนึกออก
แต่เป็นโชคดี… ที่การตอบโต้แบบที่สมควร ไม่รู้สึกเสียใจทีหลัง และไม่เดือดร้อนชินนั้นมีอยู่
นั่นคือวิถีทางแห่งปัญญาชน
“งั้นเหรอคะ… แต่ก็ใช่ว่าฉันจะไม่เข้าใจหรอก” เกวนเผยยิ้มของตัวเองออกมาบ้าง ทำโอลิเวียหรี่ตามอง
“ตอนที่นั่งเรียนอยู่ข้าง ๆ ฉัน เวลาตัวเราสัมผัสกันทีไรชินก็ประหม่าทุกที… แต่เขาก็จะคอยดูฉันตลอดเพราะกลัวฉันจะคิดมาก เห็นความเป็นสุภาพบุรุษของชินแล้วก็รู้สึกว่าเขาน่ารักจริง ๆ นั่นแหละ”
เกวนพูดไปหลับตาครุ่นคิด ความทรงจำและสัมผัสของช่วงเวลานั้นสร้างรอยยิ้มกว้างให้กับเธอ
สีหน้าเป็นสุขนั่นแลคือหอกอันแหลมคม ถูกพุ่งเป็นดาเมจอันรุนแรงใส่โอลิเวียจนไหล่กระตุกแรง
ท่าทางเหมือนกับนางร้ายเล่นลิ้น แต่ความใสซื่อเถรตรงถูกทำให้มองเห็นเป็นความขี้เล่น ช่างดูน่ารักน่าชังสมเป็นเกวนตามเคย
“…”
ถึงสำหรับโอลิเวีย เธอจะเห็นเป็นแบบแรกก็ตาม
โอลิเวียคิ้วกระตุกอย่างแรง แม้จะไม่หงุดหงิดเหมือนตอนทะเลาะกับชงหยวน แต่ความร้อนภายในอกนี่คือความรู้สึกเดียวกันไม่ผิดแน่
ผู้หญิงคนนี้เป็นเพื่อนสนิทของชิน
ถ้ากระทบกระทั่งกัน… ถึงเป็นเรา ชินก็คงจะโกรธแน่
…ไม่อยากให้ชินรู้สึกไม่ดีเพราะเราด้วย
แต่… เล่นมายั่วกันขนาดนี้ ก็คงต้องสู้กันสักตั้งสินะคะ
โอลิเวียรับคำท้า …โดยลืมไปเสียสนิทว่าตัวเองเป็นคนเริ่ม
สายตาของทั้งสองผสานกันจนเหมือนมีประกายไฟฟ้าอันรุนแรงกระแทกกระทั้นกัน
ภายในอกร้อนระอุเดือดไปถึงเลือดถึงเนื้อ
คิ้วขมวดแน่นจ้องอีกฝ่ายประหนึ่งคาวบอยดวลปืน สะท้อนความนึกคิดถึงสิ่งเดียวกัน
นี่คือสงคราม!!!
❖❖❖❖❖
MANGA DISCUSSION