ตอนที่ 13 ความเป็นจริงค่อย ๆ ถูกแง้มให้เห็น ตอนจบ
เอาล่ะ… ทีนี้ก็เข้าใจสถานการณ์ของอีกฝ่ายแล้ว
แต่ก็ในกรณีที่อีกฝ่ายพูดความจริงล่ะนะ ถึงฟังจากที่เล่าจะไม่มีเหตุผลให้โกหกก็เถอะ
ดังนั้นเชื่อได้ 90% ว่าอีกฝ่ายพูดความจริง แต่เรื่องที่อีกฝ่ายยังพูดความจริงไม่หมดนั้นเป็นเรื่องที่มองข้ามไม่ได้ ต้องระวังจุดนั้นไว้
แล้วก็… จะปล่อยให้ความโกรธของตัวเองครอบงำไปมากกว่านี้ก็ไม่ได้ด้วย
ชินพินิจพิเคราะห์สถานการณ์อีกรอบหลังได้รับคำเชื้อเชิญจากอัลเฟรดอย่างเป็นทางการ
เขาบังเอิญเหลือบตามองโอลิเวียที่อยู่ข้างและสบตากับเธอ โอลิเวียเองก็อยากรู้การตัดสินใจของชินเช่นกัน
ชินจึงสูดลมหายใจเข้าปอดตัวเองจนสุด เป็นครั้งแรกที่ชินพยายามเรียกความเยือกเย็นออกมาอย่างโจ่งแจ้ง ดวงตาสีแดงฉานจึงกลับไปเป็นปกติ
และแน่นอน อีกฝ่ายเองก็เช่นกัน
พอใจเย็นลงทั้งสองฝ่าย ชินหันไปมองอัลเฟรดอีกครั้ง
“ฉันเข้าใจสถานการณ์โดยรวมของ ‘นาย’ แล้ว… แต่คนอื่นล่ะ? ฉันเดาว่าพวกเขาคงไม่ได้มีเหตุผลเดียวกับนายหรอกใช่ไหม?”
“สมแล้วล่ะนะครับ”
อัลเฟรดเผยยิ้มพอใจ รอยยิ้มแสดงให้เห็นถึงความเคารพในตัวชินมากกว่าก่อนหน้านี้
ในทางกลับกันชินก็เหลือบไปมองเกวนด้วย สายตาราวตั้งคำถามทำเอาเกวนถึงกับไหล่กระตุกและต้องหลบหน้าชินโดยไม่รู้ตัว
อย่างไรก็ดี… คำถามของชินก็เป็นสิ่งที่อัลเฟรดมองข้ามไม่ได้ เพราะถ้าแรงจูงใจมาจากอัลเฟรดแค่คนเดียว มันก็ไม่มีเหตุผลที่สหายของเขาจะร่วมมือในแผนที่ชินกับอัลเฟรดจะได้ประโยชน์กันแค่สองคน
“ที่คุณชินพูดถูกแล้วครับ พวกเขามีเหตุผลที่ต้องต่อสู้แตกต่างจากเราสองคน แต่เส้นทางที่เดินไปด้วยกันนั้นไม่ต่างกันครับ พวกเราทุกคนจำเป็นต้องพึ่งพากันเพื่อไปให้ถึงเป้าหมายของตัวเอง น้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่า… อะไรประมาณนั้นแหละครับ”
เอาเถอะ จริง ๆ ก็พอเดาได้อยู่แล้วล่ะนะ
ที่ถามไปเพราะอยากได้ยินคำตอบของแต่ละคนต่างหาก… แต่คงเป็นไปไม่ได้ในสถานการณ์ที่ยังไม่รู้จักกันดีแบบนี้หรอก
ชินเริ่มขมวดคิ้วแน่นด้วยความกังวลกับการตัดสินใจในครั้งนี้เพราะข้อมูลมีไม่เพียงพอ
สายตาเชิญชวนและคาดหวังมาจากทุกคนยกเว้นชายผู้ใช้หอกนามว่าริวคนนั้น แต่แม้สายตาจะดูดุดันเขาก็ยังมองมาทางชินด้วยสายตาคาดหวังไม่ต่างกัน
“โอลิเวีย” ชินหลบสายตาเหล่านั้นไปมองโอลิเวียที่อยู่ข้าง ๆ เพื่อหวังความเห็น ทว่า…
“ดิฉันจะตามคุณไปทุกที่ค่ะชิน ไม่ว่าจะที่ไหนก็ตาม”
โอลิเวียยิ้มออกมาเล็ก ๆ เหมือนอย่างเคย สีหน้านั่นราวกับจะสามารถโอบรับทุกอย่างของชินเอาไว้ได้ ไม่สิ… เธอคงยอมโอบอ้อมรับทุกอย่างของชินได้จริง ๆ นั่นแหละ
แต่การยอมรับอย่างง่ายดายนั้นใช่ว่าจะไม่มีนัยยะอะไรแฝงอยู่เลย
สำหรับโอลิเวียที่มองว่าเรื่องของชินเป็นอันดับหนึ่ง… การที่เธอยอมรับการกระทำของชินในทุกทางนั้น หมายความว่าเธอเองก็มองว่าการร่วมมือกับคนที่มีเป้าหมายเดียวกันเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพมากกว่าที่เป็นอยู่ และอย่างน้อยก็มีผลดีมากกว่าผลเสีย
ซึ่งชินเองก็คิดแบบเดียวกันอยู่ เขาจึงหันกลับไปเผชิญหน้าสายตาเหล่านั้นอีกครั้งด้วยแววตาไร้ความลังเล
“เข้าใจแล้ว ฉันเอาด้วย”
พอชินพูดแบบนั้นออกมา สายตาของอัลเฟรดและไดอาก็เป็นประกายในทันที
ริวยังคงนิ่ง ส่วนหมิงเซียนพยักหน้าให้ชินเบา ๆ ราวกับขอบคุณ
และสุดท้ายคือเกวนที่ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกและสบายใจหลังจากที่เกร็งมานาน
“ดีจังเลยนะ”
ไดอาปลอบใจเกวนเสียงเบาราวกระซิบ แต่ชินที่สัมผัสปกติดีกว่ามนุษย์ทั่วไปนั้นได้ยินอย่างไม่ยากเย็น
สถานการณ์ผ่อนคลายลงมาก นั่นน่าจะเป็นจุดที่ชินพอจะตั้งเงื่อนไขบางอย่างกับพวกเขาได้
“แต่ว่าฉันมีเงื่อนไขอยู่… ฉันจะร่วมมือกับพวกนายในกรณีที่เห็นว่าจำเป็นต้องช่วย โดยเฉพาะพวกสถานการณ์ที่เป็นอันตรายกับพวกนาย แต่ไม่ว่ากรณีไหน ฉันกับโอลิเวียก็จะไม่รับคำสั่งจากพวกนายในฐานะลูกน้อง อยากให้คิดว่าสถานภาพของเราเท่าเทียมกันด้วย”
“เรื่องนั้นไม่มีปัญหาครับ นั่นนับเป็นการช่วยเหลือที่พวกเราต้องการแล้วครับ”
อัลเฟรดรับคำขอชินอย่างง่ายดาย คนอื่นเองก็เช่นกัน ยกเว้นริวเท่านั้นที่แสดงท่าทีไม่พอใจเป็นปกติ
เจ้าพวกนี้กะให้เราเป็นบอดี้การ์ดให้รึไง?
ชินแอบคิดแบบนั้น แต่แน่นอนว่าไม่ได้พูดออกมา
“งั้นก่อนอื่น ช่วยอธิบายเกี่ยวกับศึกชิงดินแดนที่ว่ามาก่อน ตามด้วยสถานการณ์ปัจจุบันรวมถึงภาพรวม แล้วสุดท้ายก็คือการเคลื่อนไหวต่อจากนี้ของพวกนาย”
ชินชูสามนิ้วไล่ลำดับเรื่องที่ต้องรู้เพื่อตามพวกเขาให้ทัน อย่างน้อยการจะร่วมมือกันก็ควรจะรู้ข้อมูลหลัก ๆ สามอย่างนี้
“นำประชุมคล่องเชียวนะ น่ารำคาญชะมัด”
แต่ก็ไม่แคล้วโดนริวพูดประชดประชันใส่ ดูเหมือนเขาคงมองชินไปในทางเป็นอริไปแล้ว แต่ทางชินนั้นไม่ได้ใส่ใจ
“เสียมารยาทน่าริว! โมโหอะไรของนายเนี่ย”
“ชิ”
เกวนชี้นิ้วต่อว่าทันที ท่าทางโกรธของเธอจริงจังมากจนริวทำได้แค่เดาะลิ้นกลับมา
และต้องขอบคุณที่เกวนออกตัวให้ก่อนโอลิเวียเลยไม่ต้องลงมือเอง แล้วพอคิดว่าเธอจะทำอะไรชินก็เริ่มเสียวสันหลังวาบขึ้นมา
“แต่ก็เหมือนการนำประชุมจริง ๆ ล่ะน้า… ชินเนี่ยเป็นพวกเก่งทั้งบู๊ทั้งบุ๊นอย่างที่คนเขาลือกันจริง ๆ สินะ”
พอสถานการณ์ผ่อนคลายลงไดอาก็แสดงความเป็นมิตรออกมาเต็มที่ นั่นคงเป็นบุคลิกปกติของเธอที่เข้ากับคนแปลกหน้าได้ง่าย
คำนึงจากบทสนทนาภายในกลุ่ม ดูแล้วคงไม่ใช่กลุ่มที่ใช้อำนาจในการขับเคลื่อนแต่ใช้ความสนิทสนมมากกว่า เรื่องนั้นทำให้สบายใจขึ้นระดับนึง
แต่ในระหว่างที่ชินคิดเรื่องแบบนั้นอยู่ โอลิเวียก็…
“แน่นอนอยู่แล้วค่ะ… แถมนอกจากเรื่องบู๊กับบุ๋นนั้น เทคนิคเรื่องบนเตียงของชินเองก็ไม่เป็นสองรองใครด้วยนะคะ”
“เอ๊ะ?” “แหง่ะ!?” “อุฟ!”
โอลิเวียพูดออกมาด้วยสีหน้าราวกับเป็นเรื่องธรรมดา แต่ด้วยเนื้อหาที่ไม่ธรรมดาทำเอาคนตกใจกันเป็นแถบ ๆ
ทั้งเกวนที่หน้าซีด ไดอาที่เสียศูนย์ ริวที่หลุดหัวเราะ หรืออัลเฟรดที่ยิ้มแห้ง กับหมิงเซียนที่ไม่ได้สนใจเหมือนเคย
ส่วนชินที่เป็นจำเลยนั้นได้แต่เหนื่อยใจแทน ทั้งหมดต่างเป็นปฏิกิริยาที่น่าดูชม ทั้งที่โอลิเวียยังแกล้งไม่ครบจบกระบวนการ
“ล้อเล่นค่ะ”
“เอ๊ะ?” เกวนส่งเสียงพลางเอียงคอ
“แค่ล้อเล่นค่ะ”
โอลิเวียย้ำถึงสองรอบด้วยสีหน้าเรียบเฉย แต่ภายในใจคงพึงพอใจเป็นอย่างมากเพราะอย่างน้อยก็ตกเหยื่อได้หนึ่งคน
ส่วนเหยื่ออย่างเกวนเป็นคนเดียวที่ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก ต่างจากคนอื่นที่ยิ้มแห้ง ทางชินเห็นเกวนแล้วก็ไม่ค่อยเข้าใจเหมือนกันว่าทำไมเธอถึงโล่งใจขึ้นมา
และต้องขอบคุณโอลิเวีย บรรยากาศเลยดีขึ้นไปอีก
อัลเฟรดฉีกยิ้มกว้างกับเรื่องเมื่อคู่ เริ่มมองชินและโอลิเวียด้วยความโล่งใจ
“พวกคุณสองคนนี่เกินความคาดหมายอยู่เรื่อยเลยนะครับเนี่ย” อัลเฟรดถอดแว่นตาออก เช็ดน้ำตาที่เล็ดเปื้อนแว่นเพราะหลุดหัวเราะไปก่อนหน้า
เขาเริ่มจัดท่าทางตัวเองใหม่ ชินกับโอลิเวียเองก็เดินเข้ามาใกล้พวกเขามากขึ้นเช่นกัน
ระยะห่างที่น้อยลงนั่นเป็นสัญญาณว่าชินเปิดใจให้แล้ว แม้จะเล็กน้อยแต่ก็เป็นการเริ่มต้นที่ดีมากในมุมมองของทั้งสองฝ่าย
อัลเฟรดกระแอมเสียงดังเป็นสัญญาณเริ่มมอบสิ่งที่ชินต้องการ นั่นคือข้อมูลของศึกที่ชินต้องเข้าร่วม
“งั้นเริ่มจากเรื่องของศึกชิงดินแดนก่อนนะครับ”
“อา…”
ชินพยักหน้าให้เบา ๆ อัลเฟรดก็ปรับสีหน้าตัวเองให้จริงจังขึ้นไปอีกระดับ บรรยากาศของทุกคนพลอยจริงจังขึ้นด้วย
“สำหรับศึกชิงบัลลังก์ปกครองโลก… ก็อย่างที่เล่าไปก่อนหน้านี้ครับว่าเป็นศึกที่ผู้ท้าชิงตำแหน่งราชาได้รับเลือกจากโลกใบนี้แล้วต่อสู้กันจนเหลือคนสุดท้าย นอกจากนี้ยังต้องชิงดินแดนทั้งหมดบนโลกด้วย ซึ่งวิธีการชิงดินแดนมีอยู่อย่างเดียวครับ นั่นคือต้องเข้าไปอยู่ในเขตประเทศนั้น ๆ แล้วทำสัญญากับพื้นที่โดยใช้ตราสัญลักษณ์ราชันย์หรืออัศวิน”
อัลเฟรดพลิกหลังมือขวาให้ชินเห็น เช่นเดียวกับไดอาที่อยู่ข้าง ๆ ก็ทำแบบเดียวกันแต่เป็นมือซ้าย
…แล้วแสงสว่างก็ปรากฏขึ้นพร้อมสัญลักษณ์
ของไดอาเป็นสัญลักษณ์รูปโล่และดาบไขว้ซ้อนอยู่ด้านหน้า แบบเดียวกับชายสวมหน้ากากเสือโคร่งที่ชินโค่นไปเมื่อวาน
ส่วนที่น่าสนใจคือของอัลเฟรดเป็นตรามงกุฎอันน่าชิงชังที่ชินไม่มีวันลืม เป็นแบบเดียวกับที่เจ้าตัวตลกคู่อาฆาตของชินมี และเป็นแบบเดียวกับที่ชินเพิ่งได้รับมาเมื่อวันก่อนไม่มีผิดเพี้ยน
แต่จุดแตกต่างที่เห็นได้ชัดกับของตนก็มีอยู่… เพราะบนสัญลักษณ์มงกุฎของอัลเฟรดมีเลขโรมันที่เขียนแสดงไว้ว่า II อยู่ด้วย ซึ่งแตกต่างจากของชินที่เป็นตราเปล่า ๆ ไม่มีเลขอะไรประดับ
พอมานึกดู… ของไอ้ตัวตลกก็ไม่มีหมายเลขเหมือนกันกับของเรา
นี่มันหมายความว่ายังไงกันนะ?
ไม่สิ… จุดที่แตกต่างไม่ใช่แค่นั้น
ชินสังเกตแสงที่แผ่ออกมาจากสัญลักษณ์ พอได้เห็นใกล้ ๆ และมีเวลาสังเกตนานกว่าปกติ ชินก็แยกความแตกต่างออก
“ดูเหมือนจะสังเกตเห็นแล้วสินะครับ… สีของแสงที่เปล่งออกมาจาก ‘ตราราชันย์’กับ ‘ตราอัศวิน’ ของแต่ละกลุ่มนั้นมีลักษณะต่างกัน”
อัลเฟรดช่วยขยายความเข้าใจของชินให้โดยไม่ต้องให้ชินเอ่ยปากถามเอง นั่นอำนวยความสะดวกให้ชินมากทีเดียว
นั่นสินะ… ถึงจะสีโทนร้อนเหมือนกันก็เถอะ แต่มันก็เป็นคนละสีกันอย่างชัดเจน
ของหมอนี่กับไดอาเป็นสีแดงเลือด ส่วนของชายสวมหน้ากากเสือโคร่งเมื่อวานเป็นแดงเพลิง
ส่วนของเรา… เป็นสีแดงสด
พวกนี้เกี่ยวข้องอะไรกันรึเปล่านะ?
ชินครุ่นคิดด้วยความสงสัย แต่นั่นยังไม่ใช่ประเด็นที่อยากรู้ที่สุดเลยหันไปมองอัลเฟรด คะยั้นคะยอให้เขาพูดต่อ
“งั้นต่อมาก็คือสิทธิพิเศษของพวกเราที่เป็นผู้ปกครองบ้างล่ะนะครับ… คุณชินเองก็คงสงสัย ว่าทำไมผู้มีสิทธิทุกคนถึงได้กระหายที่จะขยายอำนาจ ทั้งที่แค่มีสิทธิปกครองเฉย ๆ มันก็ฝังดูเป็นนามธรรมเกินไป แถมเอามาใช้สั่งการประเทศที่ตัวเองยึดครองแล้วก็ไม่น่าจะได้ด้วย”
“อา…” ชินเห็นด้วย โอลิเวียเองก็พยักหน้าให้เบา ๆ ตาม
นั่นแหละคือจุดที่เราสงสัยว่าคนพวกนี้สู้ไปแล้วจะได้ประโยชน์อะไร
เพราะตอนนี้ทุกประเทศก็มีรูปแบบการปกครองและผู้นำเป็นของตัวเอง ทั้งประธานาธิบดี นายกรัฐมนตรีและราชา
ถึงยึดครองประเทศเขตนั้น ๆ ได้ แต่กลายเป็นผู้นำไม่ได้แล้วมันจะมีประโยชน์อะไรกันล่ะ
คำถามผุดขึ้นในใจชิน ถ้าเคลียร์ตรงนั้นได้ภาพของศึกคงจะชัดเจนขึ้น
และอัลเฟรดเองก็รู้เรื่องนั้น
“คำตอบของคำถามนั้นก็คือสิทธิพิเศษที่ผมจะบอกนี่แหละครับ” อัลเฟรดลดแสงที่สัญลักษณ์ของตัวเองลงก่อนจะอธิบายต่อ ไดอาเองก็ทำเหมือนกัน
“เริ่มที่ตรามงกุฎผู้เปรียบเสมือนราชา… ผู้ถือครองตรานี้จะได้รับสิทธิในการถูกปกป้องเมื่ออยู่ในอาณาเขตของตัวเอง หากอีกฝ่ายไม่ใช้ตราราชันย์หรืออัศวินก็ไม่อาจทำร้ายราชาได้ ซึ่งในจุดนี้คุณชินเองก็เห็นกับตาไปเมื่อครู่แล้วนะครับ”
อัลเฟรดยิ้มแหย ๆ ทำชินนึกถึงเรื่องก่อนหน้านี้ที่เขาคิดสังหารอัลเฟรด แต่กลับล้มเหลวเพราะมีกำแพงปริศนาก่อขึ้นมาบังตัวเขา
งั้นนั่นก็ไม่ใช่ ‘ไนท์’ หรือพลังพิเศษประจำเผ่า แต่เป็นพลังจากตราราชันย์นี่เองสินะ
คำตอบของสถานการณ์นั้นก็คือสิทธิพิเศษของราชาอย่างที่อัลเฟรดบอก แม้ใจจริงชินจะเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งแต่คงต้องเชื่อไปก่อน
ทางอัลเฟรดชูสองนิ้วขึ้นราวกับทำท่า Victory แต่นั่นหมายถึงสิทธิพิเศษอีกข้อของราชา
“และสำหรับราชายังสามารถสร้างข้ารับใช้ด้วยการมอบสัญลักษณ์ตราอัศวินให้ได้ด้วยครับ แต่มีข้อจำกัดคือจำนวนมากสุดที่มอบให้ได้คือจำนวนของเขตที่ครอบครองบวกด้วยสอง นั่นคือหากคุณชินครอบครองซัก 1 เขตประเทศ คุณชินก็สามารถสร้างข้ารับใช้ได้ 3 คนนั่นเองครับ”
อัลเฟรดว่าจบก็ชูนิ้วกลางเพิ่มเป็นสามนิ้วอย่างไม่รีรอเพราะเห็นว่าชินตามเรื่องที่ตนพูดทัน
“อย่างต่อมาที่ร้ายไม่แพ้กันคือการเพิ่มความสามารถในการดูดซับ ‘จิต’ ครับผม ซึ่งความสามารถนี้ ‘ตราอัศวิน’ เองก็สามารถใช้ได้เช่นกัน ส่วนผลลัพธ์ ถึงไม่ต้องบอกแต่ก็คงทราบดีอยู่แล้วสินะครับ… มันจะช่วยเพิ่มความสามารถทางกายภาพและพื้นฐานของแต่ละเผ่าขึ้นได้อย่างมากมายมหาศาล”
เพิ่มอัตราการดูดซับจิต… เข้าใจล่ะว่าทำไมริวกับคนสวมหน้ากากเสือโคร่งเมื่อวานถึงแข็งแกร่งนัก
เพราะถึงจะใช้เทคนิคอย่างการ ‘ผสานจิต’ เข้ากับร่างกาย แต่มาตรฐานส่วนใหญ่จะเพิ่มความแข็งแกร่งได้ไม่ถึง 50% ตามข้อจำกัดของแต่ละเผ่าพันธุ์
คำนึงจากตัวเลขนั้นยังไงก็ไม่น่าแข็งแกร่งพอที่จะจัดการโอลิเวียได้
แต่ที่ทำได้… ก็คงเพราะสิ่งที่อัลเฟรดพูดเป็นความจริง
ชินยอมรับเนื้อหาส่วนนี้ อย่างน้อยก็แถลงไขข้อสงสัยเขาได้อย่างนึงแล้ว
“ส่วนปัจจัยในการเพิ่มอัตราการดูดซับจิตก็ขึ้นอยู่กับประเภทของตราและสถานที่ครับ โดยปกติตราราชันย์จะดูดซับได้เร็วและมากกว่า นอกจากนี้หากดูดซับจิตในอาณาเขตของพวกเดียวกัน การดูดซับก็จะทำได้เร็วและมากขึ้นตามไปด้วยครับ”
อัลเฟรดว่าต่อ แล้วชูนิ้วนางเพิ่มเป็นสี่นิ้ว
“สิทธิพิเศษอย่างต่อมาก็คือความสามารถในการตรวจจับมิตรและศัตรู… หากอยู่ในอาณาเขตล่ะก็ ทั้งราชาและอัศวินของกลุ่มเดียวกันสามารถรับรู้ตำแหน่งของตราราชันย์หรืออัศวินกลุ่มอื่นที่ลอบเข้ามา รวมถึงตำแหน่งของคนธรรมดาทั่วไป แถมยังสามารถแยกแยะเจตนาดีร้ายได้ด้วยครับ”
ข้อสี่นี้ทำให้ชินเริ่มขมวดคิ้ว เขาเริ่มคำนวณความเป็นไปได้ที่ศัตรูในเขต 855 อย่างชายสวมหน้ากากเสือโคร่งจะรู้ตัวจริงของเขา
แต่จากที่อัลเฟรดอธิบาย… ดูเหมือนขอบเขตของพลังนี้ทำได้แค่ตรวจจับเท่านั้น ไม่สามารถแยกแยะรายบุคคลได้ว่าใครเป็นใคร นั่นทำชินโล่งอกไปอีกเปราะ
“และอย่างสุดท้ายที่เป็นพลังค่อนข้างจะพิศวงอยู่หน่อย… ดูเหมือนว่าราชาและอัศวินจะสามารถโน้มน้าวหรือบังคับให้ผู้คนในอาณาเขตทำตามที่ตัวเองต้องการได้ในระดับนึงด้วยครับ” อัลเฟรดว่าแบบนั้นแต่ไม่ได้นับนิ้วโป้งเพิ่มขึ้นมาเป็นนิ้วที่ห้า
นั่นแสดงให้เห็นว่าพลังอย่างที่ห้านี้ใกล้เคียงข้อสังเกตมากกว่าข้อเท็จจริงแม้แต่ในมุมมองของอัลเฟรดก็ตาม
“ ‘ดูเหมือนว่า’ งั้นเหรอ? งั้นแสดงว่าไม่มีข้อพิสูจน์ว่าพลังนี้มีอยู่จริงสินะ”
“ต้องเรียนอย่างนี้ครับคุณชิน… พลังนี้มีอยู่จริงไม่ผิดแน่นอน ทว่าเงื่อนไขในการใช้งานนั้นไม่ 100% กล่าวคือไม่รู้วิธีทำให้เกิดผลลัพธ์ได้ 100% ผมถึงได้ไม่อยากนับยังไงล่ะครับ ซึ่งหากมองในจุดนี้เราก็มองตรงกันล่ะนะครับว่ามันไม่นับเป็นข้อพิสูจน์ว่าพลังนี้มีอยู่จริง”
ชินถามย้ำแต่คำตอบที่ได้มากลับยิ่งทำให้ปวดหัว
พูดง่าย ๆ… พลังที่สามารถควบคุมพสกนิกรให้ทำตามได้นั้นมีอยู่จริง
แต่ตัวแปรที่ใช้สั่งการให้พลังนี้ทำงานได้ยังมีไม่พอสินะ ผลลัพธ์เลยสั่งได้บ้างสั่งไม่ได้บ้าง
เข้าใจล่ะ
ชินพยักหน้ารับแบบไม่ค่อยเต็มใจ ต่อด้วยหันไปมองอัลเฟรดอีกรอบ
“มีเท่านี้ใช่ไหม?”
“ผมเองก็หวังให้มีเท่านี้ครับ”
คำตอบกลับมาเป็นที่ยืนยัน แต่ชินยังไม่ปักเชื่อกับพลังปริศนานี้เท่าไหร่นักว่ามันทำได้แค่นี้
ชินสูดหายใจเข้าลึกเพื่อเรียกสติทำให้เลือดไหลเวียนจนสมองปลอดโปร่ง แล้วเริ่มประเด็นต่อไปอย่างไม่รอรี
“พอจะเข้าใจกฎเกือบทั้งหมดแล้ว… ดูเหมือนในกรณีปกติการจะเข้ายึดเขตของคนอื่นนั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยนะ”
“ใช่ครับ… เอาจริง ๆ ก็ตามนั้นเลย”
อัลเฟรดตอบกลับชินทันทีเพราะเขาเองก็เห็นด้วย
กับศัตรูที่สามารถเพิ่มพลังได้ แถมราชายังไม่สามารถโค่นได้อีก เพราะถึงตราอัศวินจะทำร้ายตราราชาของศัตรูได้ แต่ด้วยการดูดซับจิตที่ต่างกัน พลังย่อมห่างชั้นกันจนอัศวินสู้กับราชาไม่ได้อยู่แล้ว
เป็นแบบนี้จะยึดอาณาเขตที่มีราชาปกครองอยู่ยังไงกันล่ะ?
“วิธีจัดการราชาคืออะไร” ชินจึงถามสิ่งที่คิดไปในทันที อัลเฟรดที่ได้ยินแบบนั้นยิ้มออกมาด้วยความพอใจ
“หัวไวมากครับท่านชิน… วิธีเดียวที่จะสามารถโค่นราชาได้ก็คือการใช้พลังของราชาโค่นครับ… ต่อให้ส่งอัศวินไปมากแค่ไหน แต่ถ้าพลังไม่มีความสำคัญในเชิงยุทธศาสตร์หรือไม่ใช่พลังที่จัดการศัตรูได้แบบไม่สนความแข็งแกร่ง ยังไงปริมาณก็เอาชนะคุณภาพพลังของราชาไม่ได้ครับ”
ชินได้ยินคำตอบตามที่คิดไว้ เขาเริ่มกุมคางครุ่นคิดต่อ
เข้าใจล่ะ… งั้นยุทธวิธีคร่าว ๆ ก็คงราว ๆ นี้
ใช้อัศวินในการบุกยึดเมืองลูกรอบ ๆ และเมื่อยึดจนเหลือแต่เมืองหลวงที่ราชาเป็นเจ้าของอาณาเขต ทุกคนก็จะทำการโจมตีทำลายราชาในครั้งเดียว
เพราะว่าพอถึงเวลานั้น ยังไงฝ่ายที่โจมตีย่อมได้เปรียบมากพอให้ราชาของตัวเองเคลื่อนไหวโดยไม่เสี่ยงแล้ว
“คิดว่าไงโอลิเวีย” ชินหันหน้าไปถาม สบตากับโอลิเวียที่หันมาในจังหวะเดียวกัน
“ดิฉันคิดว่าเป็นศึกที่เข้าใจง่ายกว่าที่คิดค่ะ… ตีหัวเมืองให้หมด เสร็จแล้วก็ยึดเมืองหลวงด้วยการเอาชนะราชาเสีย”
“นั่นสินะ”
ชินกับโอลิเวียพยักหน้าให้กัน แต่นั่นกลับทำให้พวกอัลเฟรดทุกคนยกเว้นหมิงเซียนยิ้มแหย ๆ ออกมา
“พวกแก… พูดแบบนั้นออกมาง่าย ๆ เลยนะเฮ้ย” ริวพูดออกมาด้วยความเหนื่อยใจเป็นครั้งแรก เขาได้แต่เกาหัวแกรก ๆ เหมือนว่าพวกชินไม่รู้อะไร
“แล้วมันมีอะไรผิดรึเปล่าล่ะ?”
ชินเอียงคอสงสัย แต่กลับได้รอยยิ้มอ่อนโยนมาจากไดอาแทน
รู้สึกเหมือนถูกมองเป็นเด็ก ๆ ไร้ประสีประสาเลยแฮะ
ชินแอบคิดกับตัวเอง
“ก็แหม… อย่างที่บอกไปไงล่ะว่าการต่อสู้ตรง ๆ มันทำได้ยากเพราะมีความแตกต่างของอัตราการดูดซับอยู่ ส่งอัศวินของตัวเองไปสู้ในแดนศัตรูอัตราการดูดซับก็ยังน้อยกว่ามากจนเสียเปรียบเลย เพราะงั้นเลยต้องวางแผนอะไรหลาย ๆ อย่าง เช่นสู้เพื่อหลอกล่อตัดกำลังบ้าง หรือลอบเข้าไปเพื่อก่อเหตุจลาจลบ้างอะไรทำนองนั้นเพื่อให้ศัตรูสับสน แถมศัตรูเองก็ไม่ได้มีแค่พวกเดียว เลยต้องคำนวณเผื่อถึงเรื่องการกระจายกำลังไปโจมตีเขตอื่นด้วย… วิธีแบบนั้นมันให้ผลลัพธ์ดีกว่าเสี่ยงไปสู้ตรง ๆ นะ”
ไดอายิ้มแห้ง ๆ ใส่ชินอีกครั้งราวกับจะบอกชินว่า ‘ลืมเรื่องสามัญสำนึกปกติไปรึเปล่า?’
ซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่อย่างนั้น เพียงแต่สามัญสำนึกปกตินั่นไม่นับเป็นเรื่องยากลำบากสำหรับชินต่างหาก
“สู้ตรง ๆ ลำบาก? ล้อเล่นรึเปล่า อัศวินคนเมื่อวานฉันยังโค่นมันมาแล้วง่าย ๆ เลย”
“ “เอ๊ะ!?” ”
ชินเอียงคอด้วยความแปลกใจ ทำให้ไดอากับเกวนเอียงคอกลับมาเป็นภาพที่ขบขันใช้ได้ แต่ปากพวกเธอนี่อ้ากว้างค้างตะลึงไปเป็นที่เรียบร้อย
แม้แต่หมิงเซียนที่นิ่งมาตลอดก็ยังถึงกับคิ้วกระตุกเลยทีเดียว
“เฮ้ย ๆ… ก็เห็นอยู่หรอกว่าเอ็งได้เปรียบ แต่ชนะเลยนี่มัน…” ริวไม่อยากจะเชื่อแม้เห็นด้วยตาตัวเองมาแล้วเมื่อวาน แต่ความมั่นใจของชินไม่ลดลงเลยแม้แต่น้อย
“ฉันไม่มีเหตุผลให้โกหกหรอกนะ แล้วที่ฉันมาอยู่นี่ก็แปลว่าฉันเอาชนะมันมาได้ไม่ใช่เหรอ?”
“เออ… จะว่าไปมันก็ใช่นี่หว่า”
ริวอ้าปากค้างตามทุกคนไปอีกราย เขาเถียงความจริงข้อนั้นไม่ออกเลย นั่นยิ่งทำให้ทุกคนตะลึงไปกันใหญ่
“อีกฝ่ายแข็งแกร่งเหรอคะ?” โอลิเวียสังเกตท่าทีของทุกคนจึงอยากวัดสเกลพลังของศัตรู เพราะมันเกี่ยวเนื่องกับความปลอดภัยของชิน
ในอีกแง่นึง… โอลิเวียเองก็เคยถูกชายคนนั้นสังหารมาแล้วเลยพอจะคิดได้ว่าอีกฝ่ายแข็งแกร่ง
แต่หากรู้ข้อมูลก่อนล่วงหน้า โอลิเวียกล้าพูดได้เต็มปากว่าสามารถเอาชนะชายคนนั้นได้ด้วยทุกอย่างที่มี เมื่อวานไม่ใช่หนแรกที่เธอตายเพราะขาดข้อมูลเสียด้วย
และหากว่ากันตามตรง… หากเปรียบเทียบกับชายผู้สวมหน้ากากเสือโคร่งคนเมื่อวาน เธอกับชินเคยเผชิญหน้ากับศัตรูที่แข็งแกร่งกว่านี้หลายเท่ามาแล้ว แถมยังหลายคราเสียจนนับไม่ได้อีกในตอนที่ล่าค่าหัว
ประเด็นจึงไม่อยู่ที่ความแข็งแกร่งอย่างเดียว แต่เป็นข้อมูลต่างหากที่จะทำให้คว้าชัย
อัลเฟรดเองก็คิดว่าเป็นข้อมูลสำคัญที่ควรจะแลกเปลี่ยน
“เขาเป็น 1 ใน 12 อัศวินของราชาที่มีเมืองหลวงอยู่ที่เขต 86… เป็นกลุ่มอัศวินชื่อดังที่เรียกว่า ‘นักษัตร’ และใช่ครับ เขาแข็งแกร่งเป็นอันดับ 2 ของกลุ่มเลย”
เป็นอัศวินของราชาเขตที่ 86… ประเทศ ‘ฉิน’
มหาอำนาจของฝั่งเอเชียที่มีจำนวนประชากรและพื้นที่มากเป็นอันดับ 2 ของทวีปงั้นสินะ และเป็นสามัญสำนึกอีกเช่นกันว่าประเทศใหญ่ย่อมมีผู้ที่แข็งแกร่งปกครอง
เพราะไม่เช่นนั้นก็คงยึดครองประเทศใหญ่แบบนั้นไม่ได้
เจ้าหมอนั่นเก่งขนาดนั้นเชียว?
ชินขมวดคิ้วเล็ก ๆ เพราะรู้สึกว่าศัตรูได้รับการประเมินสูงกว่าความเป็นจริง
แต่แน่นอนว่าการเผชิญหน้ากับศัตรูคนเดียวยังประเมินสถานการณ์โดยรวมไม่ได้
“งั้นแสดงว่าแบบนี้เขต 855 ก็ไม่มีใครปกครองแล้วสิคะ… ก็เพราะชินโค่นไปแล้วนี่นา”
“….”
คำพูดง่าย ๆ ของโอลิเวียทำทั้งกลุ่มของอัลเฟรดถูกแช่แข็งไปแวบนึง เรื่องที่ยากของพวกเขาถูกทำให้เป็นเรื่องง่ายสำหรับพวกชิน พูดตรง ๆ ว่าทำเอาเสียความมั่นใจ
แต่ในขณะเดียวกันก็รู้สึกใจชื้นขึ้นเยอะเมื่อได้เป็นพันธมิตรกัน
“แบบนี้แผนจะเป็นยังไงต่อล่ะเนี่ยจ๊ะอัลเฟรด” ไดอายิ้มแห้งถาม
“คงต้องวางแผนใหม่แล้วล่ะครับ ไม่คิดเลยว่าอีกฝ่ายจะถูกโค่นไปแล้วแบบนี้ …แต่เป็นเรื่องดีนะครับคุณชินไม่ต้องห่วง!”
อัลเฟรดเผลอผลุดบ่นเลยรีบหันมาเอาใจชินทันที
แต่น่าเสียดาย ชินไม่ได้รู้สึกผิดที่ไปทำให้อัลเฟรดผิดแผนเลยแม้แต่นิดเดียว
จะว่าดีก็ดีแล้วที่ชินไม่ว่าอะไร แต่อัลเฟรดก็แอบน้อยใจเหมือนกันที่ชินไม่รู้สึกรับผิดชอบอะไรเลย อัลเฟรดยิ้มแห้งไม่รู้เป็นครั้งที่เท่าไรแล้วของวัน
แต่อย่างไรก็ดี เรื่องที่แผนการมีอันต้องเปลี่ยนแปลงก็เป็นเรื่องจริง
อัลเฟรดเปลี่ยนท่าทีเป็นจริงจังแล้วเริ่มคิดบางอย่างอยู่ในหัวคร่าว ๆ แต่จะให้ชินมาร่วมธุระของเขาด้วยมันก็อาจจะรบกวนเกินไป
“คุณชินครับ วันนี้ต้องขอบคุณที่สละเวลามานะครับ แต่ดูท่าพวกผมคงต้องวางแผนอะไรใหม่ซะหน่อย แล้วเราก็ไม่อยากรบกวนเวลาพวกคุณมากกว่านี้ด้วยสิ”
“…จะบอกว่าวันนี้เอาไว้แค่นี้สินะ เข้าใจแล้ว แต่ก็อย่างที่บอก… ฉันจะทำตามเฉพาะตอนที่เห็นด้วยเท่านั้นนะ”
ชินเข้าใจเจตนาอัลเฟรด ทางนั้นคงเกรงว่าการบอกให้ชินกลับไปก่อนเป็นการเสียมารยาท
ซึ่งชินก็รับความเป็นห่วงตรงนั้นไว้แล้วขอตัวจากไปเอง อัลเฟรดรู้สึกขอบคุณจุดนั้นมากจนก้มหัวให้ชิน
“รับทราบแล้วครับผม… สำหรับวันนี้ขอบคุณมากจริง ๆ นะครับ แล้วก็ขอโทษด้วยที่สร้างภาระให้”
อัลเฟรดก้มหัวให้ชินอีกรอบก่อนจาก ท่าทางเขาไม่ได้ขอบคุณหรือขอโทษเป็นพิเศษ คงเพราะในหัวกำลังเริ่มวางแผนต่อจากนี้ไปแล้วกระมัง
เอาเถอะ… จะวางแผนกันลับหลังหรือรอจังหวะพรุ่งนี้ยังไงก็แล้วแต่ ขอแค่อย่าหักหลังกันเป็นพอ
เพราะถ้าเป็นแบบนั้นฉันคงลำบากใจแย่ที่ต้องสังหารเพื่อน?ของเกวนล่ะนะ
ชินหวังไม่ให้เรื่องนั้นเกิดขึ้น เขาหันหลังกลับพร้อมโอลิเวียเพราะไม่มีเหตุอันใดให้อยู่ต่อ
กลุ่มอัลเฟรดมองแผ่นหลังของทั้งสองคนเดินลงบันไดไปด้วยความรู้สึกหวั่นใจและโล่งอกในเวลาเดียวกัน
“เป็นบุคลากรล้ำค่าเลยนะ” หมิงเซียนเผยน้ำเสียงชื่นชมลับหลังชิน
ดูเหมือนแท้จริงแล้วเธอจะไม่ได้เกลียดอะไรชิน ก็แค่ไม่ได้แสดงออกเท่านั้นเอง
“ชิ… ถึงไม่อยากจะยอมรับ แต่แม่งเจ๋งเป็นบ้าเลย” ริวเองก็เป็นอีกคนนึง พอลับหลังชินเขาก็พอจะลดทิฐิตัวเองลงแล้วกล่าวชมออกมาตรง ๆ ได้
แต่หากเจอกันต่อหน้าอีกหน ยังไงก็คงไม่พ้นต้องแสดงท่าทีก้าวร้าวใส่เช่นเดิมอยู่ดี ลึก ๆ แล้วริวคงรู้สึกไม่อยากจะแพ้ให้กับชินจึงไม่ยอมลดทิฐิลงต่อหน้าเขา
“แต่แบบนี้แผนตัวล่อของเราก็ไร้ประโยชน์หมดน่ะสิ” ไดอาทำสีหน้าเป็นห่วง เธอวางมือขวาบนไหล่อัลเฟรดเหมือนดึงเขากลับมายังเรื่องสำคัญ
“ไม่ต้องห่วงครับ… ผมว่าเราพลิกวิกฤติเป็นโอกาสได้นะ เพราะอย่างน้อยผมว่าอีกฝ่ายต้องยังไม่รู้แน่ ๆ ว่าคุณชินที่เป็น Angry Clown อยู่ฝ่ายใคร”
อัลเฟรดพูดอย่างไร้ความกังวลตามเคย ดูเหมือนเขาจะคิดอะไรไว้หลายอย่างโดยแม้แต่พรรคพวกก็ยังนึกตามไม่ทันนัก ตรงจุดนั้นนี่แหละที่ทำให้ทุกคนไว้ใจเขา
…เว้นแต่คนนึงที่ตอนนี้ไม่ได้มีเรื่องของแผนการอยู่ในหัว
“ทุกคน ขอโทษนะ ฉันขอตัวกลับก่อน!”
ระหว่างที่ทุกคนคุยกันเรื่องแผนการต่อจากนี้ เกวนก็พูดขัดขึ้นมาแล้ววิ่งโฉบออกไปจากกลุ่มแบบไม่รอคำตอบจากเพื่อน
ริวเห็นแล้วก็ได้แต่ยักไหล่ให้ กับพรรคพวกที่เหลือก็ยิ้มแห้งตาม ๆ กัน เพราะรู้สึกผิดที่อาจมีส่วนทำให้ความสัมพันธ์ของเธอกับชินเปลี่ยนไป
ซึ่งแน่นอนว่ามันเปลี่ยนไปแล้ว… แต่จะเป็นในแง่ไหนนั้น คงมีแต่ชินกับเกวนเท่านั้นที่รู้
❖❖❖❖❖
“คิดว่าไงบ้างโอลิเวีย”
“ก็เกินความคาดหมายในหลาย ๆ เรื่องค่ะ”
ชินชวนโอลิเวียคุยขณะเดินกลับหอ ตอนนี้ทั้งสองคนไม่รีบร้อนอีกแล้ว เรียกว่าเดินกลับบ้านอย่างสบายใจในรอบหลายปีก็ไม่ผิดเสียด้วยซ้ำ นั่นเพราะตอนนี้ทั้งสองคนได้รับข้อมูลอันมีค่าที่ตามหามานานแล้ว
ถึงแบบนั้น… เรื่องราวส่วนใหญ่ก็ยังน่าแปลกประหลาดจนทำใจยอมรับทั้งหมดไม่ได้อยู่ดี
“แต่นั่นหมายถึงกรณีที่อีกฝ่ายพูดความจริงล่ะนะคะ”
“ก็จริง… เรื่องแบบนี้คงต้องดูกันต่อไปนั่นแหละ”
ชินพยักเห็นด้วยกับโอลิเวีย จะให้เชื่อคำพูดของคนที่เพิ่งเจอกันครั้งแรกก็ดูจะเป็นการประมาทเกินไป
แต่ถ้าจะพูดถึงสาเหตุที่มีน้ำหนักให้ชินเชื่อเพิ่ม ก็คงไม่พ้นเรื่องที่มีเกวนอยู่ในหมู่พวกอัลเฟรดด้วยนี่แหละ
ชินเองก็แอบคิดว่าตัวเองใจอ่อนเช่นกัน เพราะลึก ๆ เขาก็รู้สึกว่าเกวนไม่น่าประสงค์ร้ายกับเขา แถมยังมีเรื่องความเป็นเพื่อนระหว่างตัวเองกับเกวน หากมองข้ามมันไปคงเสื่อมเกียรติแน่
“ชิน! รอก่อน!!!”
ชินสงสัยเรื่องของเกวนไม่ทันคลาย เสียงตะโกนของเจ้าตัวก็ไล่ตามหลังมาติด ๆ ทำทั้งชินและโอลิเวียหันขวับกลับไปหา
ชินเลิกคิ้วขึ้นด้วยความแปลกใจ แต่สายตาของโอลิเวียกลับเป็นประกายขึ้นมาด้วยความสนอกสนใจ (แม้ใบหน้าจะนิ่งขรึมเหมือนทุกทีก็ตาม)
“ชิน… คือว่า…”
“…”
เกวนที่วิ่งตามมาไม่ได้แสดงอาการเหนื่อยหอบ ที่เธอหลบตาชินไปแล้วหันมามองใหม่น่าจะเกิดจากความกังวลมากกว่า
ชินจึงตัดสินใจรอฟังคำพูดเธอแทนที่จะแทรก เพราะเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทำไมเกวนถึงต้องตามมาคุยกับตัวเขาลับหลังเพื่อนแบบนี้
“ฉัน… ฉันไม่รู้มาก่อนเลยนะ เรื่องตัวตนอีกด้านของชินน่ะ เพิ่งจะรู้เมื่อเย็นนี้เอง”
“…อ๋อ เรื่องนั้นเองหรอกเหรอ” ชินที่ตอบกลับมาแบบไม่คิดอะไร ทำเอาเกวนยิ่งกลัวกว่าเดิม
“…ไม่โกรธเหรอ”
“แทนที่จะถามว่า ‘เชื่อฉันได้ไหม’ แต่ถามออกมาว่า ‘ไม่โกรธเหรอ’ แทนเนี่ย ก็สมเป็นเธอจริง ๆ ล่ะนะ”
ชินไม่ได้คิดเลยสักนิดว่าเกวนกำลังหลอกอยู่ ส่วนนึงเพราะผ่านการวิเคราะห์มาอย่างดีในหัวของตัวเองแล้ว แต่ที่ทำให้ตัดสินใจแบบนั้นได้ ก็คงเพราะเกวนแสดงความห่วงใยกับชินมากกว่าเรื่องที่ชินมองตัวเอง
เกวนไม่สนด้วยซ้ำว่าชินจะเชื่อสิ่งที่เธอพูดไหมแต่กลับห่วงใยว่าชินจะรู้สึกอย่างไรมากกว่า
เห็นแบบนั้นแล้ว… จะมองยังไงก็อดคิดไม่ได้ว่าเกวนยังคงเป็นเพื่อนสนิทที่ใจดีกับเขาเหมือนเคย
“แน่นอน ไม่โกรธหรอก”
“…จริงเหรอ” เกวนน้ำตาคลอเบ้า เริ่มใช้น้ำเสียงออดอ้อนที่แม้แต่ตัวเธอเองยังไม่รู้ตัว
“อา ฉันไม่โกหกหรอก”
ชินย้ำสองหนก่อนจะยิ้มอ่อนออกมา ค่อยทำให้เกวนใจชื้นขึ้นจนยิ้มแก้มปริ
ดูเหมือนสาวน้อยคนนี้จะได้สิ่งที่ต้องการแล้ว สีหน้าของเกวนดีใจจนแทบจะร้องไห้ แต่ถ้าจะร้องไห้ออกมาจริง ๆ ก็คงไม่เหมาะเท่าไร
“ขอบคุณนะชิน งั้นเจอ… กันพรุ่งนี้นะ” เกวนว่าอย่างเอียงอาย เธอโบกมือลาชินแล้วออกวิ่งไปทิศตรงข้ามด้วยท่าทางร่าเริง
ท่าทางแบบนั้นเป็นที่เคลือบแคลงของชิน แต่เขาก็ตัดสินไปแล้วว่าเกวนดีใจที่แก้ความเข้าใจผิดและรักษาความเป้นเพื่อนไว้ได้
เขาไม่คิดว่าน่าจะมีอะไรซับซ้อนกว่านี้
…แต่ถ้าจะมีคนคิด ก็คงเป็นโอลิเวียที่ยืนดูเหตุการณ์อยู่ข้าง ๆ มาตลอด
“…ต้องระวังเธอคนนั้นให้ดีแล้วสินะคะ” ลางสังหรณ์ของโอลิเวียร้องตะโกนจนเผลอหลุดปากออกมา
“ระวังอะไรเหรอ?”
“เปล่าค่ะ… ไม่มีอะไร” โอลิเวียบ่ายเบี่ยงสิ่งที่ชินถาม ได้แต่ปล่อยให้ชินเอียงคอสงสัย
และไม่รู้ทำไม… แต่ชินรู้สึกว่าในน้ำเสียงของโอลิเวีย กลับมีความเหงาหงอยปนออกมาด้วย
❖❖❖❖❖
Chapters
Comments
- ตอนที่ 70 ชัยชนะย่อมเกิดแก่ผู้ที่เป็นตัวของตัวเองถึงที่สุด พฤษภาคม 16, 2025
- ตอนที่ 69 มังกรหนุ่ม อย่างไรก็เป็นมังกร พฤษภาคม 16, 2025
- ตอนที่ 68 แผนซ้อนแผน พฤษภาคม 16, 2025
- ตอนที่ 67 ของอร่อยต้องเก็บไว้กินทีหลัง พฤษภาคม 16, 2025
- ตอนที่ 66 ถ่านไฟเก่า พฤษภาคม 16, 2025
- ตอนที่ 65 ชัยชนะที่โอ้อวดไม่ได้ ไม่เรียกว่าชัยชนะ พฤษภาคม 16, 2025
- ตอนที่ 64 สัญชาตญาณของผู้หญิง พฤษภาคม 16, 2025
- ตอนที่ 63 บางครั้งเรื่องง่ายก็กลายเป็นเรื่องยาก พฤษภาคม 16, 2025
- ตอนที่ 62 ความเชื่อใจ สร้างจากความไร้ลับลม พฤษภาคม 16, 2025
- ตอนที่ 61 สถานการณ์ที่ผิดปกติยิ่งขึ้น พฤษภาคม 16, 2025
- ตอนที่ 60 ความระแวงคือความไม่รู้ พฤษภาคม 16, 2025
- ตอนที่ 59 สถานการณ์ที่เริ่มผิดปกติ พฤษภาคม 16, 2025
- ตอนที่ 58 เริ่มต้นทัศนศึกษา พฤษภาคม 16, 2025
- ตอนที่ 57 ปณิธานของชงหยวน ตอนจบ พฤษภาคม 16, 2025
- ตอนที่ 56 ปณิธานของชงหยวน ตอนแรก พฤษภาคม 16, 2025
- ตอนที่ 55 การโหวดเลือก ตอนจบ พฤษภาคม 16, 2025
- ตอนที่ 54 การโหวตเลือก ตอนแรก พฤษภาคม 16, 2025
- ตอนที่ 53 ความรักเปรียบดั่งสงคราม ตอนจบ พฤษภาคม 16, 2025
- ตอนที่ 52 ความรักเปรียบดั่งสงคราม ตอนแรก พฤษภาคม 16, 2025
- ตอนที่ 51 ความเข้าใจผิด พฤษภาคม 16, 2025
- ตอนที่ 31 ภาค 2 เป็นต้นไปเป็นแบบขายรายตอนนะครับ พฤษภาคม 16, 2025
- ตอนที่ 30 ก่อนรุ่งสางของคืนวันที่จะเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล ตอนจบ (จบ Prologue) พฤษภาคม 16, 2025
- ตอนที่ 29 ก่อนรุ่งสางของคืนวันที่จะเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล ตอนต้น พฤษภาคม 16, 2025
- ตอนที่ 28 Overlord พฤษภาคม 16, 2025
- ตอนที่ 27 ผีดูดเลือดผู้คลุ้มคลั่งจากโลหิต พฤษภาคม 16, 2025
- ตอนที่ 26 แองกริคราวน์หลั่งเลือด พฤษภาคม 16, 2025
- ตอนที่ 25 รังแกเด็ก พฤษภาคม 16, 2025
- ตอนที่ 24 วลาดจอมเสียบ ตอนจบ พฤษภาคม 16, 2025
- ตอนที่ 23 วลาดจอมเสียบ ตอนต้น พฤษภาคม 16, 2025
- ตอนที่ 22 ข่าวร้ายกลายเป็นจริง ตอนจบ พฤษภาคม 16, 2025
- ตอนที่ 21 ข่าวร้ายกลายเป็นจริง ตอนต้น พฤษภาคม 16, 2025
- ตอนที่ 20 สถานการณ์คู่ขนาน พฤษภาคม 16, 2025
- ตอนที่ 19 ผู้ (ถูก) พิพากษา พฤษภาคม 16, 2025
- ตอนที่ 18 ศึกแรก พฤษภาคม 16, 2025
- ตอนที่ 17 หลังเลิกเรียนที่ไม่เหมือนเดิม ตอนจบ พฤษภาคม 16, 2025
- ตอนที่ 16 หลังเลิกเรียนที่ไม่เหมือนเดิม ตอนต้น พฤษภาคม 16, 2025
- ตอนที่ 15 ความสัมพันธ์ที่ไม่อยากให้เปลี่ยนแปร พฤษภาคม 16, 2025
- ตอนที่ 14 ยามเช้าที่ไม่อยากให้แปรเปลี่ยน พฤษภาคม 16, 2025
- ตอนที่ 13 ความเป็นจริงค่อย ๆ ถูกแง้มให้เห็น ตอนจบ พฤษภาคม 16, 2025
- ตอนที่ 12 ความเป็นจริงค่อย ๆ ถูกแง้มให้เห็น ตอนกลาง พฤษภาคม 16, 2025
- ตอนที่ 11 ความเป็นจริงค่อย ๆ ถูกแง้มให้เห็น ตอนแรก พฤษภาคม 16, 2025
- ตอนที่ 10 เค้าลางก่อนพายุ พฤษภาคม 16, 2025
- ตอนที่ 9 ลมสงบหลังพายุ พฤษภาคม 16, 2025
- ตอนที่ 8 ตกกระไดพลอยโจน พฤษภาคม 16, 2025
- ตอนที่ 7 เขตที่ 855 พฤษภาคม 16, 2025
- ตอนที่ 6 ฝันกลางวัน พฤษภาคม 16, 2025
- ตอนที่ 5 ยามเช้าดังเช่นทุกวัน พฤษภาคม 16, 2025
- ตอนที่ 4 ระเบิดกัมปนาท พฤษภาคม 16, 2025
- ตอนที่ 3 เส้นแบ่งของโลก พฤษภาคม 16, 2025
- ตอนที่ 2 ชีวิตประจำวันที่ควรจะเป็น พฤษภาคม 16, 2025
- ตอนที่ 1 ยามเช้าแสนธรรมดาดังเช่นทุกวัน พฤษภาคม 16, 2025
- ตตอนที่ 71 แผนซ้อนแผนซ้อนแผน มิถุนายน 4, 2025
MANGA DISCUSSION