บทที่ 64 เปลี่ยนร้ายกลายเป็นดี
แม้หลี่จ้านจะได้รับความเคารพอย่างสูงในพระราชวัง แต่เขาก็เป็นเพียงขันที การแสดงความเห็นทางการเมืองต่อหน้าฮ่องเต้อย่างเมื่อครู่ หากไม่ใช่ว่าเป็นคนเก่าคนแก่ในวัง สิ่งที่ชายชราเอ่ยออกมาก็เพียงพอจะต้องโทษฐานละเมิดหน้าที่แล้ว
ฮ่องเต้แคว้นต้าเหลียงมองผู้ที่ถูกเรียกว่าขุนนางใหญ่ในราชสำนักคุกเข่า แต่ไม่ตรัสสิ่งใด บรรยากาศเงียบสงบนี้ทำให้บรรดาขุนนาง ณ ที่นั้นรู้สึกหวั่นกลัว บรรยากาศทั่วทั้งจวนจี้อ๋องเย็นยะเยือกอยู่ครู่หนึ่ง เหลือเพียงฉินเฟิงที่ส่งเสียงหาว บางครั้งก็ฮึมฮัมประโยค ‘ยังจะแข่งอยู่ไหม’ เป็นทำนองออกมา
เซี่ยอวิ๋นเอ๋อร์ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุของการประลองครั้งนี้ ไม่ได้เข้าร่วมวงพนัน นางจึงเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่ยังยืนอยู่ได้
เมื่อเห็นฉินเฟิงยืนพิงหอคอยอยู่ไกล ๆ เดี๋ยวก็เอามือเกาก้นเกาหัวราวกับเป็นคนอยู่ไม่สุข คุณหนูเซี่ยก็บ่นอยู่ในใจ ‘เจ้าหมอนี่แค่โชคดีที่เอ่ยออกมาตรงกับเจตจำนงของฮ่องเต้ หรือว่า… ฉลาดแต่แกล้งโง่ และเข้าใจสถานการณ์ทั้งหมดอยู่แล้วกันแน่?’
ราวกับรับรู้ได้ถึงสายตาของเซี่ยอวิ๋นเอ๋อร์ ฉินเฟิงหันกลับมาอย่างเชื่องช้า
เมื่อดวงตาสองคู่สบกัน เซี่ยอวิ๋นเอ๋อร์แอบตกใจอยู่นิด ๆ ภายใต้สายตาทั้งอายทั้งขุ่นเคืองของนาง ฉินเฟิงกลับโบกมือไปมาโดยไม่สนใจบรรยากาศเยือกเย็นโดยรอบ เขาตะโกนเสียงดัง “อวิ๋นเอ๋อร์ไม่ต้องกังวล ข้าจะชนะการแข่งขันครั้งนี้! ไม่ต้องห่วงข้า”
แก้มของเซี่ยอวิ๋นเอ๋อร์กลายเป็นสีแดงปลั่งทันที นางกัดริมฝีปากบางของตนเอง แล้วเอ่ยเสียงเบา “ให้ตายเถอะ ใครเป็นห่วงเจ้ากัน ไร้ยางอายจริง ๆ!”
ไม่มีใครรู้ว่าเสียงที่ไร้ยางอายของฉินเฟิง ขัดจังหวะบรรยากาศอันเยือกเย็นได้อย่างพอดิบพอดี
ฮ่องเต้แคว้นต้าเหลียงกำลังคิดอยู่ว่าจะหาทางลงอย่างไร จึงเอ่ยด้วยน้ำเสียงทุ้มลึก “การประลองยังไม่จบ ทุกท่านลุกขึ้นเถิด”
ขุนนางทุกคนถอนหายใจด้วยความโล่งอก ลุกขึ้นคำนับขอบคุณ แล้วถอยกลับไปยังตำแหน่งของตน
ครู่หนึ่ง ดวงตาเชือดเฉือนนับไม่ถ้วนก็จับจ้องมาที่ฉินเฟิงจากทั่วทิศทาง แต่พริบตาต่อมาดวงตาที่ร้ายกาจเหล่านี้ก็ถูกแทนที่ด้วยความสิ้นหวัง ต่อหน้าฮ่องเต้และขุนนางทั้งฝ่ายบุ๋นฝ่ายบู๊ ฉินเฟิงเอามือหนึ่งยันกำแพงหอคอย อีกมือหนึ่งเท้าสะโพกทำท่าทางเหลาะแหละ พลางยังขยิบตาส่งให้เซี่ยอวิ๋นเอ๋อร์ไม่หยุด
แม้แต่เซี่ยอวิ๋นเอ๋อร์สตรีที่ได้ชื่อว่านิยมความรุนแรง ก็อดไม่ได้ที่จะก้มศีรษะหน้าแดงต่อหน้าฉินเฟิง
แม้ฮ่องเต้แคว้นต้าเหลียงจะรู้ว่าฉินเฟิง ‘หน้าด้านและไร้ยางอาย’ แต่บุรุษผู้นี้ก็สามารถทลายขีดจำกัดความหน้าหนาได้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ฝ่าบาทอดไม่ได้ที่จะส่ายหัวและกระแอมไอเบา ๆ เพื่อบรรเทาความลำบากพระทัย
ฉินเทียนหู่รีบเข้าไปคว้าคอเสื้อของฉินเฟิง แล้วตะโกนด้วยความโกรธ “เจ้าเด็กตัวเหม็นทำหน้าทำตาดี ๆ หน่อย ถ้าเจ้าอยากแต่งภรรยา กลับจวนไปบิดาจะไปสู่ขอให้ ตอนนี้ใส่ใจกับการแข่งขันซะ! หากเจ้าแพ้ขึ้นมาจะทำให้ฮ่องเต้ไม่พอพระทัย และทุกคนในตระกูลฉินจะถูกฝังให้พร้อมกับเจ้า!”
ดั่งสุภาษิตที่ว่า ‘ยิ่งอยู่สูงตกลงมายิ่งเจ็บหนัก’ หากท้ายที่สุดต้องพ่ายแพ้ ฉินเทียนหู่ไม่กล้าแม้แต่จะจินตนาการว่าผลลัพธ์ที่รอคอยตระกูลฉินอยู่เป็นอย่างไร
เมื่อเห็นบิดาแทบจะกินหัวตน นายน้อยฉินจึงไม่กล้าเล่นหูเล่นตาอีก เขารีบยกมือขึ้นทำท่าเป็นเชิงยอมแพ้ จนกระทั่งฉินเทียนหู่หันหลังกลับไปนั่นแหละ ฉินเฟิงถึงได้รู้สึกโล่งใจ เมื่อหันกลับไปมองอีกด้านก็เกือบจะหลุดหัวเราะ หนิงหู่กำลังตัวสั่นด้วยความโกรธ ดวงตาของเขามีไฟลุกพรึ่บพรั่บ แต่ไม่สามารถทำอะไรฉินเฟิงในตอนนี้ได้ ใบหน้าของท่านโหวน้อยจึงแดงก่ำไปหมด
“คนแซ่ฉิน! เจ้ารอข้าก่อนเถอะ ไม่ช้าก็เร็วเจ้าจะต้องหมดแรงเป็นแน่ เมื่อเวลานั้นมาถึงก็ได้เวลาตายของเจ้า!” หนิงหู่เข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน ถือว่าฉินเฟิงเป็นศัตรูตัวฉกาจของเขาแล้ว
การประลองเริ่มต้นอีกครั้ง ฉินเฟิงและหนิงหู่ยืนอยู่ใต้หอคอย
ขุนนางรอบ ๆ ล้วนกลั้นหายใจกันไปทุกคน การแข่งขันครั้งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อขุนนางฝ่ายบุ๋นบู๊ในราชสำนัก มันไม่ใช่แค่การละเล่นอีกต่อไปแล้ว
ทันใดนั้นเอง เชือกเส้นหนึ่งก็ถูกโยนลงมาจากด้านบนของหอคอย และตกลงตรงหน้าฉินเฟิงพอดิบพอดี
จากนั้นทุกคนก็ตระหนักได้ว่า ก่อนหน้านี้นายน้อยฉินสั่งให้ทหารรักษาพระองค์ขึ้นไปบนหอคอย เพื่อผูกเชือก?
เมื่อรับรู้แผนการของฉินเฟิง เหล่าขุนนางก็อดไม่ได้ที่จะเยาะเย้ยเสียงต่ำ
“ข้าก็คิดว่าฉินเฟิงจะใช้กลอุบายอันชาญฉลาด เห็นเก็บงำไว้เสียนาน ที่แท้ก็แค่นี้เองรึ?”
“ฮะฮ่าฮ่า เจ้าเด็กตัวเหม็นคนนี้แพ้เป็นแน่! เมื่อกี้เราถูกมันหลอกเสียหมดสภาพ ข้าจดบัญชีเอาไว้แล้ว เมื่อถึงเวลาจะชำระความให้สิ้น!”
“ฮึ่ม! ตราบใดที่ฉินเฟิงแพ้ ฮ่องเต้ทรงพิโรธ ถึงตอนนั้นแม้จะไม่ลงมือฆ่าเขา แต่ขุนนางบุ๋นบู๊ในราชสำนักไม่มีทางปล่อยเขาไปแน่!”
ในที่สุดหัวใจของเสนาบดีกรมคลังที่แขวนอยู่บนเส้นด้ายก็วางลงได้แล้ว
เมื่อเห็นกลอุบายของฉินเฟิง ความคับข้องใจที่พวกเขาสร้างขึ้นอย่างหนักหน่วงพังทลายลงทันที ตอนนี้สงครามกับเป่ยตี๋ไม่สามารถคืนคำได้แล้ว เสนาบดีกรมคลังจึงงำความโกรธอยู่ในใจ แต่เมื่อเห็นลูกไม้ตื้น ๆ ของฉินเฟิง แม้แต่เสนาบดีกรมคลังที่สุขุมที่สุดก็อดไม่ได้ที่จะเยาะเย้ย
“ทำมาครึ่งค่อนวัน สุดท้ายก็แค่หาเรื่องใส่ตัว? ดูสิ เมื่อใดที่เจ้าเด็กคนนี้แพ้ วันนี้ของปีหน้าก็จะเป็นวันครบรอบการตายของเขา”
ผู้ช่วยเสนาบดีกรมคลังที่อยู่ด้านข้างเองก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก “ฮ่องเต้วางเดิมพันกับเขาสูงมาก หาฝ่าบาทหาทางจบเรื่องนี้ไม่ได้ ด้วยลักษณะนิสัยที่เด็ดขาดของพระองค์ จะต้องชำระบัญชีทั้งเก่าและใหม่พร้อมกันเป็นแน่ เด็กก็คือเด็ก ย่อมไม่รู้ถึงความร้ายกาจของฮ่องเต้!”
ทุกคนรอเห็นความล้มเหลวของฉินเฟิงแทบไม่ไหว อยากเห็นนายน้อยผู้นี้ถูกฮ่องเต้พิโรธเต็มแก่!
“เริ่ม!”
สิ้นรับสั่งของฮ่องเต้แคว้นต้าเหลียง หนิงหู่ที่เตรียมพร้อมอยู่แล้วก็ใช้สองขากระโดดขึ้นไปสูงเกือบหนึ่งจั้ง ใช้ทั้งมือและเท้าราวกับตุ๊กแกที่เกาะกำแพง เขาปีนขึ้นไปบนยอดหอคอยด้วยความเร็วอันน่าอัศจรรย์
หนิงชิงเฉวียนถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอก ความโกรธในดวงตาถูกแทนที่ด้วยความหยิ่งผยอง “ชนะแล้ว ความเร็วระดับนี้ถือเป็นอันดับต้น ๆ ในกองทหารรักษาพระองค์ เร็วกว่านี้ไม่ได้แล้ว”
เมื่อขุนนางคิดว่าฉินเฟิงถึงคราวแพ้ เสียงคำรามของฉินเทียนหู่ก็ดึงดูดความสนใจของทุกคนอีกครั้ง
“เจ้าเด็กตัวเหม็นทำไมยังยืนบื้ออยู่ เจ้าอยากทำให้บิดาโมโหจนตายรึ!” ดวงตาของเสนาบดีกรมกลาโหมลุกเป็นไฟ แทบจะเดินไปบีบคอฉินเฟิงให้แหลกคามือ
จากนั้นทุกคนถึงเห็นว่าฉินเฟิงค่อย ๆ ผูกเชือกรอบเอวของเขา หลังจากผูกเสร็จก็ค่อย ๆ ยกมือขวาขึ้นเหนือหัว กำหมัดแน่นทำท่าทาง ‘พุ่งชน’
ขณะเดียวกัน หนิงหู่ได้มาถึงครึ่งทางของหอคอยแล้ว ท่านโหวน้อยห่างจากยอดหอคอยเพียงไม่กี่จั้ง
หนิงชิงเฉวียนอารมณ์ดี อดไม่ได้ที่จะเยาะเย้ย “ฉินเฟิง ต่อให้เจ้าจะใช้เชือกทุ่นแรง แต่ระยะทางแตกต่างกันมากเพียงนี้ เจ้าคงแพ้เป็นแน่ ให้ข้าแนะนำ เจ้าอย่าดิ้นรนหาความตายเลยดีกว่า!”
เสนาบดีกรมคลังหรี่ตาลง ดวงตาของเขาแผ่ไอสังหารรุนแรงออกมา “ข้าไม่เชื่อว่าเด็กสารเลวคนนี้จะเปลี่ยนร้ายกลายเป็นดีได้อีกครั้ง”
ภายใต้การจ้องมองของทุกคน ฉินเฟิงตะโกนลั่น “ไปเลย!”
สิ้นประโยคนั้น กระสอบใหญ่ก็ตกลงมาจากบนหอคอย กระสอบนั้นหนักหลายร้อยชั่ง ฉินเฟิงจึง ‘ลอย’ ขึ้นไปด้วยรอกอย่างง่ายที่อยู่บนหอคอยสูง
เหล่าบรรดาขุนนางบุ๋นบู๊ที่เคยผ่านเรื่องราวต่าง ๆ นานามานับไม่ถ้วนถึงกับต้องอ้าปากค้าง
MANGA DISCUSSION