ตอนที่ 132 เทวทูต
「――ขอโทษนะเจ้าคะ」
นั่นคือสิ่งที่โซลเซียลาพูดเป็นคำแรก
ที่ใจกลางวงเวทย์、เหล่าเด็กสาวกำลังเอาหน้าผากชนกัน
ตอนแรกเด็กสาวคนหนึ่งดูไม่เข้าใจอะไรเลย และได้แต่ทำตาม、แต่ไม่นานเธอก็รู้ว่ามันจำเป็นสำหรับเทเลพาธี*
(*การสื่อสารทางจิต)
คำขอโทษไหลเข้ามาในหัวของครัม
นอกจากนี้、บางทีอาจจะเพราะว่าเป็นคำพูดที่เข้ามาในหัวโดยตรง、มันจึงฟังดูมีอารมณ์อ่อนไหวมากกว่าโซลเซียลาตามปกติ
ครัมเปิดและปิดปากเพื่อพูดอะไรบางอย่างกับโซลเซียลา แต่กลับไม่มีเสียงใด ๆ ออกมาเลย
(นี่……ไม่มีเสียง?)
สภาพแวดล้อมถูกปกคลุมไปด้วยความเงียบ
ไม่ใช่เพียงแค่เสียงพูด、แม้ว่าพวกเธอจะกอดแนบชิดกัน แต่ก็ไม่ได้ยินแม้แต่เสียงเสื้อผ้าที่ขยับไปมา
ราวกับว่าพวกเธอทั้งสอง、ถูกทิ้งให้อยู่ตามลำพังในโลกที่เงียบสงบและถูกปิดกั้น
「ฉันมองโลกในแง่ดีเกินไป เทวทูตตนนั้น、ไม่ใช่สิ่งที่เราควรสู้ด้วยตอนนี้」
เสียงที่ฟังดูคร่ำครวญตื่นตระหนก、ดังขึ้นในหัวโดยตรง
นั่นเป็นความรู้สึกแปลก ๆ、ราวกับว่าได้รวมร่างกับโซลเซียลา
(บางทีฉันอาจจะพูดอะไรไม่ได้เหมือนกันสิน๊า แล้วแบบนี้จะคุยกันยังไงล่ะ)
เธอไม่อยากปล่อยให้โซลเซียลาพูดอยู่ฝ่ายเดียว
เพราะถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป ความเกลียดตัวเองจะยิ่งรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ขณะที่อีกฝ่ายยังคงขอโทษอยู่
ครัมตระหนักถึงสิ่งนี้และพยายามพูดออกมาอย่างสิ้นหวัง
และจากนั้น――
「รักนะคะ」
นั่นคือ、ความผิดพลาดของมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่งที่ไม่คุ้นเคยกับการเทเลพาธี
คำพูดที่ล่องลอยอยู่ในหัวถูกพูดออกมาโดยตรงกับโซลเซียลาทั้งแบบนั้น
「「………………!?」」
ทั้งคนที่พูด、ทั้งโซลเซียลาต่างก็นิ่งอึ้งไปชั่วขณะ
ความเงียบที่ควรอยู่เพียงชั่วขณะกลับกลายเป็นเหมือนชั่วนิรันดร์
「ดะ、เดี๋ยวก่อน! เอ๊ะโตะ、นี่ไม่ใช่นะ!」
จากนั้นในทันใด、ครัมก็รีบปฎิเสธสิ่งที่พูดไป
เธอมีทักษะในการควบคุมในระดับหนึ่งโดยธรรมชาติอยู่แล้ว、การพูดรอบที่สองของการเทเลพาธี เธอจึงเริ่มใช้คำพูดได้อย่างอิสระในระดับหนึ่ง
แม้ว่า、คำแรกจะอิมแพคเกินไปหน่อย
「ฉัน、เอ๋ーโตะ ความหมายของสิ่งที่ฉันเพิ่งพูดไปเน๊ะ、อืーอ……」
「ขอบคุณ」
ในทันใดนั้น、เธอก็สัมผัสได้ว่ามีคนมาลูบหลังหัว
เป็นโซลเซียลา、ที่กำลังหลับตาและดูไร้ความรู้สึกเช่นเคย
ทว่า、ความรู้สึกขอบคุณของเธอมีส่วนผสมของอารมณ์ต่าง ๆ มากมาย
เริ่มต้นด้วยความรู้สึกขอบคุณอย่างบริสุทธิ์ใจ、ความคาดหวัง、ความปิติยินดี、ความยอมแพ้、ความเสียใจ、และความรู้สึกผิด
อารมณ์ที่ซับซ้อน ซึ่งแตกต่างไปจากปฏิกิริยาของหญิงสาวที่ได้รับความรัก、ทำให้ครัมอยากจะร้องไห้
โซลเซียลาไม่สามารถยอมรับความรักนั้นได้อย่างซื่อตรง
นั่นคือชีวิตของเธอจนถึงตอนนี้
และ、นั่นคือสิ่งที่จะเป็นเช่นนั้นต่อไป
(นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเธอถึงพูดว่า「ขอบคุณ」สินะ เธอไม่ได้ปฏิเสธ、หรือยอมรับ เพราะนั่นเป็นคำตอบที่ดีที่สุดที่เธอให้ได้แล้ว)
โซลเซียลาบิดเบี้ยว
แต่、ในขณะเดียวกัน เธอก็มีความไร้เดียงสา
แม้ว่าเธอจะมีความปรารถนาที่จะจมดิ่งลงไปในความมืดมิดอันไม่มีที่สิ้นสุดกับใครสักคน、แค่เธอก็มีความคิดอันไม่เห็นแก่ตัวว่าเธอควรเป็นคนเดียวที่ต้องทนทุกข์
ระหว่างอารมณ์ที่ขัดแย้งกันสองอย่างนี้、เธอคงจะต้องทนทุกข์ทรมานมากกว่าใคร ๆ
เพราะเข้าใจเรื่องนี้ดี、ครัมจึงไม่สามารถพูดอะไรกับโซลเซียลาได้
เธอรู้ดีว่าหากพูดอะไรออกไป、ก็จะกลายเป็นภาระของโซลเซียลาเท่านั้น
「……เทวทูตนั่น、เป็นหนึ่งในเทวทูตที่จะนำมาซึ่งการทำลายล้าง」
โซลเซียลาพูดเรื่องนั้นราวกับต้องการขัดจังหวะความคิดของครัม
หรือว่าบางที、โซลเซียลาอาจอ่านความคิดของครัมได้ผ่านการแทรกแซง
「สิ่งนั้นควรจะปรากฏตัวเมื่อโครงการดาวประกายพรึกเริ่มต้นขึ้น ขอโทษนะเจ้าคะ、ฉันคิดผิดอย่างสิ้นเชิงจนทำให้พวกเรามาพบกับเทวทูตนั้นที่นี่ เป็นเพราะฉันไม่ระวังเองเจ้าค่ะ」
「โซลเซียลาไม่ผิดสักหน่อย! โรงเรียนคิโซอาจเรียกมันออกมาโดยไม่ตั้งใจก็ได้ ไม่ใช่ความผิดของเธอเลยน๊ะ!」
「ไม่หรอกเจ้าค่ะ、เป็นความผิดของฉันเอง ……ฉันทำให้คุณตกอยู่ในอันตราย」
เธอพูดเหมือนจะร้องไห้ออกมา
ในความเป็นจริง เธอมีสีหน้าสงบนิ่ง、แต่คำพูดของเธอที่พูดออกมาจากใจกลับแสดงอารมณ์ของเธอออกมาอย่างชัดเจน
「ไม่ต้องห่วงนะเจ้าคะ、แค่ดูอยู่ที่ตรงนี้ ฉันจะสังหารเทวทูตตนนั้นให้ได้」
ระหว่างที่พูดแบบนั้น、โซลเซียลาก็โอบกอดครัมเล็กน้อย
(ได้แต่ดู……ฉันทำได้แต่ดูอีกแล้ว)
ครัมสัมผัสได้ถึงมือที่กำลังลูบหัวของเธอ
จากนั้น、เธอก็ตระหนักถึงบางสิ่ง
(มือ……กำลังสั่น)
ถึงแม้จะเพียงเล็กน้อย、แต่มือของโซลเซียลากำลังสั่นอยู่
ความอยู่รอดของมนุษยชาติ、กำลังตกอยู่ในมือของเด็กสาวเพียงคนเดียว
หากปล่อยให้เทวทูตหลบหนีออกไปจากที่นี่ได้、มันจะหนีออกไปสู่โลกภายนอกและสร้างความสูญเสียมากมาย
ในช่วงเวลานี้、มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่สามารถสังหารเทวทูตได้ นั่นคือโซลเซียลา
เมื่อเทวทูตชั้นสูงปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหัน、ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องต่อสู้
โซลเซียลาข่มความกลัวของเธอ、และเลือกที่จะต่อสู้
「เพียงแค่ได้ยินเสียงที่เปล่งออกมาก็จะนำมาซึ่งความตาย เพราะอย่างงั้นแล้ว、คุณไม่สามารถออกไปจากที่นี่ได้เจ้าค่ะ」
โซลเซียลาพูดแบบนั้น、แล้วผละหน้าผากจากไป
และจากนั้น、เธอก็ลุกขึ้น ยิ้ม และเตรียมเคียวยักษ์
「――」
เสียงแห่งความเงียบงัน、ถูกสลายไปด้วยเวทมนตร์
ครัมยื่นมือออกไป、ทว่าโซลเซียลาก็กระโดดออกไปก่อนที่มือจะคว้าไว้ได้
■
สามครั้ง
ฉันเสร็จไปสามครั้งเลยเจ้าค๊า
ถึงฉันเป็นสาวสวยลึกลับ、ก็ถึงได้ตามที่คาดไว้
『เอ๋……』
การเทเลพาธีกับครัมจัง、สำหรับฉันพอตระหนักได้ว่าเป็นดั่งASMRก็แย่แล้วเน๊
ฉันคิดว่าสมองของฉันถูกทำลายไปแล้วล๊าเจ้าค๊า
เธอบอกว่าเธอรักฉันด้วยเน๊
ฟังอยู่ใช่ไหม、ไม้เท้าเสียงกระซิบแห่งดวงดาวคุง
การบอกว่าเธอรักฉันในขณะที่สัมผัสหน้าผากกัน、นั่นไม่ใช่อะไรอื่นนอกจากภาพประกอบของสาวยูริสาวสวย
แม้ความจริงที่ว่าที่นี่ไม่ใช่ทุ่งดอกไม้ที่สวยงาม แต่เป็นโลกรกร้างสีแดงฉานยิ่งทำให้ดีเข้าไปอีก
ไม้เท้าเสียงกระซิบแห่งดวงดาวคุง、นี่คือความรักและอีรอส*ไงล๊า
(*ความรักแบบลุ่มหลง ในบริบทของความรักแบบกรีกโบราณ)
ความรักที่แท้จริงไม่สามารถเกิดขึ้นได้ด้วยการเพียงเอาร่างกายแนบชิดกัน
เข้าใจใช่ไหมน๊า
『คู่หูทำให้ฉันทึ่งเสมอ เธอแสดงให้ฉันเห็นโลกที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อน……!』
หากฉันยังคงใช้พลังจิตเชื่อมต่อกับครัมจังต่อไปทั้งแบบนั้นฉันจะต้องหมดแรงอย่างแน่นอนเลยเจ้าค๊า、ดังนั้นฉันจึงรีบตัดบทเธอ
ฉันจะสังหารเทวทูตอย่างคูล、และแสดงให้เธอเห็นว่าฉันเจ๋งแค่ไหนค๊า!
『อย่าคิดว่าเป็นเครูบิมแล้วฉันจะสู้ไม่ได้เน๊!』
ฉันวิ่งด้วยความเร็วสูงสุดผ่านดินแดนที่เสียงแห่งความตายก้องกังวานอยู่ตลอดเวลา
ด้วยวงเวทย์ขนาดเล็กที่ปิดเสียงซึ่งติดตั้งไว้ที่หูทั้งสองข้าง、ฉันจึงสามารถเคลื่อนไหวได้โดยไม่ติดขัด
ม๊า、นี่เป็นเกมที่ห่วยมาก เพราะคุณคงไม่คิดว่ามันจะจบลงทันทีที่คุณได้ยินเสียงตั้งแต่เล่นครั้งแรก
ฉันจะใช้ความรู้จากงานต้นฉบับแล้วTUEEEEEมันซ๊า^^
『ฆ่าม๊านー^^』
ในบรรดาเทวทูตแห่งการทำลายล้างทั้งหก、เทวทูตตนนี้เป็นตัวที่รับมือได้ง่ายที่สุดแล้ว
แค่อย่าได้ยินเสียงของมันเท่านั้นเองค๊า
ตอนนี้สิ่งที่เหลืออยู่คือ、การเจาะผ่านคุณสมบัติทางกายภาพที่แข็งแกร่งจนไร้สาระ และผิวหนังที่ดูดซับแรงกระแทกนั้นได้!
「เสียงที่ไม่คุณภาพเน๊」
ฉันพุ่งเข้าไปหาเครูบิมและฟาดเคียวยักษ์ไปที่คอทันที
แต่、ฉันสัมผัสได้เพียงความรู้สึกราวกับกำลังตัดผ่านอากาศ
ระ、เร็ว!
เจ้านี้หลบการโจมตีของพวกฉันได้งั้นเหรอค๊า!
ยอมรับไม่ได้เจ้าค๊า! ฉันคือโซลเซียลา นักสำรวจ S แร๊งค์ที่แข็งแกร่งที่สุด!!
『มวยรองบ่อนล่ะมั้ง?』
ในขณะที่ฉันกำลังคิดถึงสิ่งที่ไร้สาระ、ก็รู้สึกว่ามีบางอย่างอยู่ข้างหลัง
ในจังหวะเดียวกันนั้นเอง、ฉันก็รู้สึกเหมือนมีเกราะเวทมนตร์กำลังถูกใช้งาน
『ฮ่าๆๆๆ、การโจมตีแบบไม่ทันตั้งตัวจากด้านหลังไม่ได้น่ากลัวเลยเน๊』
ขณะที่ยังหันหลังให้、ฉันก็ปลดปล่อยวงเวทย์ที่ยิงการโจมตีแบบบรรจบเข้าใส่
แสงสีเงินพุ่งทะลวงโลกสีแดงเข้ม、เข้าโจมตีเครูบิมโดยตรง
แต่ยังไงก็ตาม、มันเผาแค่ผิวเพียงเล็กน้อยเท่านั้น、และดูเหมือนจะไม่มีสัญญาณของความเสียหายเพิ่มเติมใด ๆ
เอ๊ะ、ไม่แข็งเกินไปหน่อยเหรอเจ้าค๊า?
ในต้นฉบับ、มันถูกฆ่าด้วยปืนสุดโกงของมิฮายะจัง、แต่หรือว่าบางทีพอไม่มีปืนนั้นแล้วจะยากขนาดนี้เลยเหรอค๊า?
『คงไม่สามารถเจาะผิวนั้นได้ด้วยการโจมตีธรรมดา ๆ เน๊ะ เดาว่าคงมีระบบป้องกันตามที่คาดไว้เน๊ะ แต่ว่า、การโจมตีของทางนั้นก็ไม่สามารถเข้าถึงพวกเราได้เช่นกัน เช่นนั้นแล้วเรามาปรุงอาหารจานนี้กันช้า ๆ ดีกว่าเน๊』
โซ่สีเงินพุ่งออกมาจากรอบ ๆ、เข้าจับเครูบิมไว้
โซ่สีเงินเข้าพันธนาการแขนขาของมัน、แต่ในชั่วพริบตา โซ่เหล่านั้นก็แตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
โอ๊ย、เกิดบ้าขึ้นนะ!
『บ้าน๊า!แกทำลายโซ่ของฉันได้งั้นเหรอย๊า! ยะ、ยอมรับไม่ได้ ฉันคือดีมอนเกียร์ที่แข็งแกร่งที่สุดนะย๊า!ไม่มีทางที่ฉันจะแพ้ของอย่างพวกอย่างแกได้หรอกกกกก!』
มวยรองบ่อนล่ะมั้ง?
เครูบิม、พุ่งไปข้างหน้าทันทีที่โซ่ถูกทำลาย
ฉันสร้างวงเวทย์อันสง่างามเกินความจำเป็นเป็นโล่เพื่อป้องกันการโจมตีจากด้านหน้า
ดูเจ๋งดีไง เมื่อเด็กสาวใช้วงเวทย์ที่สูงกว่าตัวเองหลายสิบเท่าเน๊
『ดีย์……』
แต่ฉันควรทำยังไงดีล่ะ
สัตว์ประหลาดที่มีร่างกายแข็งแกร่ง、ที่สามารถกระจายเสียงแห่งความตายออกมาได้
อืมー、น่ากลัว
นอกจากมิฮายะจังแล้วจะมีใครอีกบ้างที่สู้ด้วยได้
โรคุฮาระซังเป็นไพ่ใบสุดท้าย ดังนั้นละไพ่ใบนั้นไว้ก่อนดีกว่า……บางทีริวโกะจังหรือคิริกะจังน่าจะเหมาะสมกว่ากันน๊า?
ทั้งสองคนนั้นสามารถฆ่าคู่ต่อสู้จากระยะไกลได้
อาจจะปลอดภัยกว่าหากจะจัดการพวกมันให้หมดในครั้งเดียวด้วยพลังยิงระดับเดียวกันกับทั้งสองคนนั่นเน๊ะ
พูดแล้วก็ ไม้เท้าเสียงกระซิบแห่งดวงดาวคุง、ช่วยเตรียมพลังโจมตีสุดโหดทีค๊า!
『ทวิดาราสินะ!? จะใช้ทวิดาราจริง ๆ สิน๊า!? เธอจะแสดงให้เด็กคนนั้นที่เทเลพาธีด้วยจนถึงเมื่อกี้นี้ว่า เธอกำลังถูกตัวตนที่เหมือนกันกับเธอกลืนกินอยู่สิเน๊!?』
ไม่ใช่ ไม่ใช่แบบนั้น……จะตื่นเต้นอะไรขนาดนั้นกันค๊า、น่ากลัว……
『เธอ、ควรมองดูตัวเองอย่างเป็นกลางสักครั้งก็ดีน่ะ』
ฉันปล่อยให้ไม้เท้าเสียงกระซิบแห่งดวงดาวคุงพึมพำอยู่ตามลำพัง
จะว่าไปแล้ว、หากฉันแสดงทวิดาราให้ครัมจังได้เห็น ฉันไม่รู้ว่าเธอจะทำอะไรบ้าง ฉันเลยผนึกหมายเลข0เอาไว้ก่อนแล้วกัน
ฉันจะแสดงให้เธอได้เห็นในเวลาที่เหมาะสมเองเพื่อเป็นการทำลายความรู้สึกล๊า
『จ๊า จะทำยังไงล่ะ?』
ไม้เท้าเสียงกระซิบแห่งดวงดาวคุง、ฉันจะใช้การฟันแบบบรรจบที่เธอเคยใช้น่ะ
นั่น、เจ๋งมากเลยเจ้าค่ะ
เคียวเรืองแสงสีม่วงและซุบ๊าาางออกมา
ถ้าหากใช้พลังโจมตีสูงสุดในช่วงจังหวะเดียวกันทะลวงไปที่จุด ๆ เดียว、น่าจะสามารถเจาะเกราะอ่อนนั้นได้
『ฟุมุ、เช่นงั้นลองดูกันเลยไหม』
ฉันลบวงเวทย์โล่、และกางแขนออก
ดูราวกับว่าฉันกำลังน้อมรับการโจมตีของเครูบิม
「โฮร่า、ฉันอยู่นี่ไง」
เครูบิมไม่มีทางปล่อยผ่านสิ่งที่เห็น
ขาอันแข็งแรงเหลือเชื่อของมันขุดลงไปในพื้นดิน、และพุ่งตรงเข้าหาฉัน
หรือว่าบางที、สิ่งที่มันต้องการจะทำคือการเข้าโจมตีด้วยแตรโดยตรงเพื่อทำให้เสียงแห่งความตายก้องสะท้อนเข้าไปในร่างกายของฉัน
แต่、อย่าคิดว่าจะได้ผลกับฉันน๊า!
ทันทีที่แตรกระทบฉัน、ฉันก็เทเลพอร์ตจนขนนกฟุ้งกระจาย
ภายในขนนกสีดำที่ลอยฟุ้ง、เครูบิมกระสั่บกระส่ายมองไปรอบ ๆ เพื่อหาตัวฉันที่หายไปจากสายตา
「เป็นอะไรไปหรือเจ้าคะ? ลองโจมตีให้โดนหน่อยสิเจ้าค่ะ」
ฉันปรากฎตัวขึ้นที่ด้านหลัง
เมื่อเครูบิมรู้ตัวและหันหลังกลับเพื่อพุ่งเข้าชน、ฉันก็เทเลพอร์ตอีกครั้ง
「น่าสมเพชจังเน๊ะ ตัวตนที่ถูกกล่าวว่าเทวทูต、กลับถูกหลอกโดยมนุษย์ธรรมดาได้」
ฉันปรากฎตัวขึ้นอีกครั้งถัดจากเครูบิม
จากนั้นก็หายตัวไปในช่วงเวลาต่อมา
ปรากฏตัวและหายตัวไปซ้ำแล้วซ้ำเล่า
นี่คือการเทเลพอร์ตต่อเนื่อง、ที่อนุญาตเฉพาะกับตัวละครที่แข็งแกร่งเท่านั้นเจ้าค๊า
นอกจากนี้、ยังมีการตั้งค่าตัวเลือกเพิ่มเติมเพื่อทำให้ขนนกกระจัดกระจายไปทั่ว ดังนั้นบริเวณโดยรอบจึงกลายเป็นพื้นที่ลึกลับที่มีขนนกสีดำฟุ้งอยู่
ในพื้นที่นี้ ความตึงเครียดของฉันเพิ่มขึ้น และการกระทำทั้งหมดของฉันก็ได้รับการแก้ไขในเชิงบวกแล้วค๊า!
『แปลกที่ไม่มีความผิดพลาดที่ไม่จำเป็นเลยเน๊』
ฉันปรากฏตัวและหายตัวไปเรื่อย ๆ
เครูบิมตนนั้นพุ่งไปข้างหน้าอย่างบ้าบิ่น แต่ไม่มีทางที่จะโจมตีโดนได้เลย
「คุณตั้งใจจะทำลายมนุษยชาติด้วยความสามารถเพียงเท่านี้งั้นหรือเจ้าคะ?ช่างโง่เขลาเสียจริงเน๊ะ」
เครูบิมตนนั้นสับสน、และหวาดกลัว
หลังจากเทเลพอร์ตซ้ำแล้วซ้ำเล่า、และแสดงพลังของสาวสวยลึกลับอย่างเต็มที่、ฉันก็ลงไปยืนบนคอของเครูบิมอย่างใจเย็น
จากนั้น、ก็ตั้งท่าเคียวยักษ์
โดยปกติแล้วพวกเครูบิมจะไม่ยอมให้ฉันเข้าใกล้ง่าย ๆ แบบนี้
ทว่า、ด้วยการเทเลพอร์ตนับครั้งไม่ถ้วนจนทำให้ไม่รู้ว่าฉันอยู่ที่ไหนกันแน่ การปีนขึ้นมาบนคอของเครูบิมในตอนนี้จึงเป็นเรื่องง่าย
「ก่อนอื่น、มาสังหารในทีเดียวกันเถอะเจ้าค่ะ」
ฉันอัดพลังเวทมนตร์ลงในเคียวยักษ์
มันเป็นการโจมตีรุนแรงที่สุดด้วยพลังเวทมนตร์ที่แข็งแกร่งกว่าปกติหลายสิบเท่าด้วยพลังเทเลพาธี
อันที่จริงแล้ว、มันคือผลจากความรักของฉันกับครัมจัง ดังนั้นจึงเหมือนกับการตัดเค้กแต่งงานล่ะค๊า
『ไม่มีทางเป็นเช่นงั้นหรอก』
ใบมีดถูกฟันลงไป、ตัดหัวของเครูบิมออกได้โดยไร้การขัดขืน
หัวกลิ้งลงพื้นพร้อมกับเสียงแหลมสูง
เลือดสีแดงเข้มจำนวนมากพุ่งออกมาจากลำตัวและสาดลงมาที่ฉัน、แต่ฉันไม่หลบ
ท้ายที่สุดแล้ว บางอย่างก็ทำได้ก็ต่อเมื่อเปื้อนเลือดเท่านั้น
『นั่นสิเน๊……เอ๋、บางทีฉันอาจจะต้องเป็นคนทำความสะอาดชุดนี้ด้วยเหรอย๊า!?』
ฉันปล่อยไม้เท้าเสียงกระซิบแห่งดวงดาวคุงที่เฉียบแหลมไว้、และมองขึ้นไปบนท้องฟ้าที่โปรยปลายไปด้วยเลือดอย่างไม่มีเหตุผล
นี่คือชัยชนะครั้งยิ่งใหญ่ของสาวสวยลึกลับ
สิ่งเดียวที่เหลือให้ทำคือนำศพนี้ไปให้โทรัคคุง、และบอกเขาว่านี่คือเทวทูต และการแก้ไขเรื่องราวต้นฉบับก็จะเสร็จสมบูรณ์ล่ะค๊า
「……สำเร็จแล้วสินะเจ้าคะ」
ฉันกำลังจะยกเลิกวงเวทย์ปิดเสียง、งและกลับไปหาครัมจัง
ท้องฟ้าสีแดงบางส่วนก็บิดเบี้ยว、และมีบางอย่างบินเข้ามา
มันตกลงมาจากท้องฟ้าราวกับว่าถูกโยนทิ้งมาอย่างไม่ใส่ใจ、และดวงตาอันลึกลับของฉันก็จับไว้ได้
นั่นมัน……รินกะจัง!?
『สาวสวยที่ตกลงมาจากท้องฟ้า……อาจจะเป็นนางเอกก็ได้น๊า?』
ถ้ามีเวลาพูดแบบนั้น ก็รีบช่วยเธอซะสิ ไม้เท้าเสียงกระซิบแห่งดวงดาวคุง!
ฉันรีบวิ่งไปหารินกะจังที่ยังคงร่วงหล่นอยู่
ーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーー
คนแปลขออนุญาตเปิดโดเนทหน่อยนะงับ
{ไทยพาณิชย์} {880-222211-5} {เสฏฐวุฒิ}
ขอบคุณ คุณพันธวงศ์ กสิกรไทย X-2186 มาก ๆ ครับ
ขอบคุณทุกท่านที่สนับสนุนเป็นกำลังใจเข้ามาด้วยนะครับ
ขอบคุณงับ
MANGA DISCUSSION