[นิยายแปล] Reincarnated into an Otome Game? Who Cares! I’m Too Busy Mastering Magic! - บทที่2 ตอนที่ 16 ถุงบุหงาริบบิ้นสีเขียว
- Home
- [นิยายแปล] Reincarnated into an Otome Game? Who Cares! I’m Too Busy Mastering Magic!
- บทที่2 ตอนที่ 16 ถุงบุหงาริบบิ้นสีเขียว
บทที่ 2 ตอนที่ 16: ถุงบุหงาริบบิ้นสีเขียว
เอาละ ถึงชั้นจะดีใจที่ตัดสินใจเป็นเด็กฝึกงานของพี่สาวทูไลท์ก็จริง แต่ชั้นเองก็จะลืมเรื่องท่านพี่ออลูริสไปไม่ได้
ชั้นตัดสินใจที่จะถามพี่สาวถึงเรื่องถุงบุหงาที่มีริบบิ้นสีเขียวอันนี้ เพราะครั้งก่อนชั้นเองก็ยังไม่ทันได้ถามถึงผลลัพธ์ของมันเลย
“อืม พี่สาวคะ ถ้าพี่สาวคุ้นเคยกับเวทมนตร์แล้วละก็ หนูเองก็มีอะไรอยากจะถามพี่ซักหน่อยน่ะค่ะ…”
“หืม? อะไรละ?”
เมื่อชั้นถามออกไป พี่สาวก็ยินดีช่วยอย่างอารมณ์ดี
ชั้นนำถุงบุหงาที่มีริบบิ้นสีเขียวออกมาจากกระเป๋า ก่อนจะยื่นมันให้กับพี่สาว
“นี่เป็นของขวัญที่ใครบางคนฝากหนูเอาให้เพื่อนของเขาด้วยเหตุผลบางอย่าง จังหวะมันไม่ได้ หนูก็เลยไม่ได้ถามผลของมันมาน่ะค่ะ… พี่สาวรู้ผลของมันหรือปล่าวคะ?”
เมื่อชั้นพูดแบบนั้น พี่สาวก็พึมพำบางอย่างออกมาแล้วทดสอบกลิ่นของมัน
เธอหลับตาไปซักแปป ก่อนจะลืมตาขึ้นมาอย่างรวดเร็ว จากนั้นเธอก็ยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์
“มันเป็นของของเจ้าหนุ่มตระกูลเวอร์จิลนั่นซินะ”
“ค่ะใช่แล้ว ไม่สิ ไม่ใช่ คือหนูหมายถึง…”
ชั้นเผลอทำเสียงที่น่าอับอายออกมาเมื่อชั้นตอบเธอกลับไปแบบนั้นในเสี้ยววินาที
พี่สาวหัวเราะคิกคักออกมาพร้อมกับพูดต่อว่า
“กลิ่นหอมนี้… เท่าที่ชั้นรู้ก็คือมีเพียงแค่เขาคนเดียวเท่านั้นที่เกี่ยวข้องกับตระกูลอาเชอร์เลซ เป็นคนเดียวที่จะใช้สมุนไพรวิญญาณที่มีค่าเป็นวัตถุดิบหลักกับของขวัญแบบนี้ได้… หืมมม ด้วยเวทย์คุ้มครองแบบนี้… ชั้นเองก็สงสัยว่าทำไมเขาถึงถอนตัวไป แต่สิ่งนี่ทำออกมาได้ค่อนข้างดีเลยนะเนี้ย”
เธอมองดูถุงบุหงานั้นด้วยความดีใจ
“พี่สาวทูไลท์กับท่านพี่ออลูริสเป็นคนรู้จักงั้นหรอคะ?”
เมื่อชั้นถามออกไปแบบนั้น พี่สาวก็เริ่มมีท่าทีตื่นเต้นขึ้นมา
“ไม่มีทางที่ชั้นจะปล่อยคนที่พรสวรรค์ขนาดนั้นไปอยู่แล้ว! ยิ่งไปกว่านั้น ตัวชั้นเองต้องการซื้อยาและสมุนไพรวิญญาณหลากหลายรูปแบบอยู่แล้ว เขามาที่สถาบันวิจัยบ่อยมากเลยละ”
“โอ๊ะ งั้นหรอคะ…”
พูดตามตรงเลยนะ ชั้นมันจะรู้สึกไม่สบายใจกับมาด ‘เย็นชาและวิชาการ’ ของท่านพี่ออลูริสจากเกมกุหลาบสีทองอยู่เสมอเลยละ
นอกจากมาด ‘เย็นชาและวิชาการ’ แล้ว เขายังไม่เข้าสังคมด้วย ชั้นละสงสัยจริงๆว่าเขาอยู่อย่างสันโดษในสภาพอย่างนั้นได้ยังไงกัน
คำตอบก็ง่ายๆ คงเป็นเพราะเขามีพรสวรรค์เพียงพอที่จะอยู่ตัวคนเดียวได้ บางทีคงเพราะเขาเป็นลูกชายคนโตของตระกูลด้วยแหล่ะ ทว่าตัวเขาเองก็ปฏิเสธมันไม่ได้ จึงจบลงที่การมีคาแรคเตอร์แบบในเกมไป
“อืม… งั้นผลของมันคืออะไรหรอคะ?”
เมื่อชั้นถามออกไปแบบนั้น พี่สาวทูไลท์ก็ยิ้มออกมา
“อืม… ไหนดูสิ… ถ้าหนูไม่หาคำตอบด้วยตัวเองละก็ ชั้นก็จะต้องบอกว่าหนูคงเป็นลูกศิษย์จริงๆของชั้นไม่ได้ในเร็วนี้หรอกมั้ง?”
“ห๊ะ?!”
เธอตอบกลับชั้นพร้อมกับรอยยิ้มที่งดงามสุดๆ
เดี๋ยวสิ ชั้นยังเป็นแค่เด็ก 6 ขวบเองนะ ใช่ไหม?
“ฟุฟุ ชั้นมั่นใจว่ามีหนังสืออยู่มากมายในบ้านของหนูนะ พนันได้เลยว่ามันต้องมีพจนานุกรมยาและสมุนไพรวิญญาณอยู่ด้วยแน่นอน”
“ฮา…ฮาฮา…”
เธอบอกให้ชั้นไปหาผลของมันเอาจากพจนานุกรมยังงั้นหรอ? …ใช่สินะ
“ถ้าชั้นจะให้คำใบ้ซักสองคำใบ้ละก็ ชั้นจะต้องบอกว่า… ใช่แล้ว… ก่อนอื่นเลย อย่าเปิดถุงบุหงานี้เด็ดขาด มีความเป็นไปได้ที่มันจะไปทำลายเวทมนตร์ที่ลงเอาไว้ อย่างที่สอง กลิ่นของมัน มันอาจจะมี 3 รูปแบบที่แตกต่างกันอยู่ ดังนั้นหนูจะต้องแยกมันให้ออกด้วยความพยายามทั้งหมดของหนู ถ้าหนูศึกษามันอย่างละเอียดแล้วละก็ หนูจะได้คำตอบที่ถูกต้องอย่างแน่นอนเลยละ”
“อุ๊ก… เข้าใจแล้วค่ะ หนูจะลองดู!”
ในตอนนี้ ชั้นก็ได้พยักหน้าตกลงไป
พี่สาวบอกว่ามันอาจจะเป็นอะไรที่ชั้นไม่อาจทำได้ก็ได้
พร้อมกับที่บทสนทนานี้จบลง คาบเรียนของวันนี้ก็ได้สิ้นสุดลงแล้ว