[นิยายแปล] Kanojo ga Senpai ni NTR-reta node, Senpai no Kanojo wo NTR-masu - ตอนที่ 35 ซ้อมเดทกับรุ่นพี่โทวโกะ (ตอนที่ 2)
- Home
- [นิยายแปล] Kanojo ga Senpai ni NTR-reta node, Senpai no Kanojo wo NTR-masu
- ตอนที่ 35 ซ้อมเดทกับรุ่นพี่โทวโกะ (ตอนที่ 2)
พวกเราซึ่งออกมาจากภูเขาโนะโกงิริ ก็มุ่งหน้าทางใต้ตามทางหลวงหมายเลข 127
“ต่อไปจะไปที่ไหนหรอ?”
“ไปที่เกาะโอกิโนะชิมะแถวทาเตะยามะครับ”
เราไปตามถนนเลียบชายฝั่ง
ตรงเนินเขาฝั่งทะเลมีบ้านเรียงรายอยู่เป็นหย่อม ๆ
มาจนถึงตรงนี้ ช่างต่างจากจังหวัดชิบะที่พวกเราอยู่ ราวกับเป็นคนละประเทศ
รู้สึกเหมือนมาถึงเกาะทางใต้ทำนองนั้น
แม้ความจริงจะไม่ใช่ แต่ให้เรียกว่า ‘เขตเมือง’ ก็ไม่ได้เต็มปาก
ทว่าขนาดโตเกียวเองก็ยังมีพื้นที่ลับแลอย่างโอกุทามะที่มีหมีออกมาได้อยู่เหมือนกัน
หลังจากผ่านสถานีทาเตะยามะก็มุ่งหน้าไปยังฐานทัพเรือทาเตะยามะ
เกาะร้างผู้คนซึ่งเชื่อมต่อออกไปทางตะวันตกก็คือเกาะโอกิโนะชิมะ
ลานจอดรถอยู่ตรงด้านหน้าชายหาดซึ่งเชื่อมไปกับเกาะ
“ว้าว พอมองจากตรงนี้ไปก็เห็นเกาะเชื่อมไปกับหาดทรายอย่างสวยงามเลยนะคะเนี่ย”
รุ่นพี่โทวโกะซึ่งลงมาจากรถนั้น เอ่ยพลางใช้มือรวบผมซึ่งถูกลมทะเลพัด
ผมเก็บภาพรุ่นพี่โทวโกะแบบนั้นแชะนึง
รอบนี้เธอไม่รู้ตัว
“เดินข้ามไปที่เกาะจากตรงนี้นะครับ”
พวกเราเดินเคียงกันบนหาดทราย
“โอกิโนะชิมะเนี่ยเดิมทีเป็นเกาะแยกกันนะครับ แต่เหมือนว่าตั้งแต่แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่คันโตเป็นต้นมาแผ่นดินก็เชื่อมกันน่ะครับ”
“งั้นเองหรอ? ถ้าอย่างนั้นเอโนะชิมะก็ด้วยน่ะสิ”
“เอโนะชิมะนี่ใหญ่กว่าเยอะเลยนี่ครับ”
“แต่ว่าทางนี้เองคนน้อยดีกว่านะ เหมือนเป็นชายหาดของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เลย”
“เรื่องนั้นชมเกินไปหรือเปล่าครับเนี่ย?”
“งั้นหรอ? อีกอย่างถ้ามีปราสาทตั้งอยู่บนเกาะล่ะก็ คงให้ความรู้สึกเหมือนกับมงต์แซงต์มีแชลของฝรั่งเศสเลยมั้ยนะ?”
อา~ อย่างนี้้เอง โอกิโนะชิมะเป็นแค่สวนสาธารณะที่ปกคลุมด้วยต้นไม้ก็จริง แต่ถ้ามีปราสาทขึ้นมาก็อาจจะดูไม่เป็นอย่างนั้นก็ได้
“ที่ตรงนี้อยู่ทางตะวันตกของคาบสมุทรโบโซใช่มั้ย? ถ้ามาตอนตะวันตกดินล่ะก็ คิดว่าจะต้องงดงามแน่เลยล่ะ”
จริงด้วย อาจจะเป็นอย่างนั้นก็ได้
นอกจากนั้นจากตรงนี้ ยังสามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้ชัดเจนอย่างคาดไม่ถึง
ก่อนหน้านั้นคือทะเล
ถ้าหากเราสามารถเห็นดวงอาทิตย์ตกดิน ภูเขาไฟฟูจิ กับทะเลไปพร้อมกันได้ล่ะก็ คงไม่มีที่อื่นนอกจากที่นี่แล้ว
“ถ้ามาตอนเย็น ๆ ก็คงจะดีสินะ”
ผมพึมพำกับตัวเอง
บนเกาะดูเหมือนว่าจะมีอุทยานธรรมชาติด้วย
“เฮ้~ มีบ่อน้ำธรรมชาติยันถ้ำเลยสินะเนี่ย”
รุ่นพี่โทวโกะมองไปที่กระดานข้อมูลด้วยนัยน์ตาเฉิดฉายเหมือนเด็ก ๆ อย่างไม่เคยคิดมาก่อน
ผมใช้มือถือถ่ายรูปสภาพเธอที่เป็นอย่างนั้น
ครั้งนี้ดูท่าจะรู้ตัว จึงหันหน้ามาทางผม
“ตะกี้ถ่ายไว้สินะ?”
“ไม่ได้ถ่ายครับ”
ผมหัวเราะพลางว่าไป
“โกหก ถ่ายแล้วแน่ ๆ เลย!”
“ไม่ได้ถ่ายครับ”
“เชื่อเค้าเลย”
ขณะที่พูดอย่างนั้น ก็ชี้ไปยังถนนที่ต่อเข้าไปข้างใน
“ตรงนี้มีถนนพาเข้าไปในเกาะด้วยล่ะ ไปกันเถอะค่ะ”
เราสองคนเดินไปตามถนนที่ทอดผ่านกลางป่า
พอเดินไปสักพัก ลานสายตาก็เปิดกว้าง
ออกสู่ทะเล
หาดทรายเล็ก ๆ ขนาบข้างลานหินทั้งสองฝั่ง
“สวยจัง~! มีหาดทรายน่ารักขนาดนี้ด้วยล่ะ!”
รุ่นพี่โทวโกะกระโดดเล็ก ๆ ลงไปตามชายหาด เป็นคนละคนจากบุคลิกเดิมที่ดูสุขุม
ผมเองก็รีบตามไปในทันที
“ว้าว~ น้ำทะเลก็สวยมากเลย ใสจนเห็นถึงข้างล่างเลยนะเนี่ย”
“จากการตรวจคุณภาพน้ำทะเลของกระทรวงสิ่งแวดล้อมเนี่ย เห็นว่าที่นี่ได้ ‘ระดับ AA’ สูงสุดตลอดเลยนะครับ”
รุ่นพี่โทวโกะหันหลังมาทางผม
“อิชชิกิคุงเนี่ย เคยมาที่นี่มาก่อนไหม?”
“เปล่าครับ ผมเองก็มาครั้งแรกเลยครับ”
“ฉันเองก็มาครั้งแรกเหมือนกัน แถวนี้เองก็มีสถานที่ดีงามมาก ๆ อยู่ด้วยนะคะเนี่ย ไม่รู้มาก่อนเลย”
“นั่นสินะครับ ที่นี่เป็นขอบแนวปะการังทางเหนือ เราสามารถดำสน็อร์กเกิลลงไปเห็นปะการังได้ด้วยนะครับ มีปลาอยู่เยอะด้วย ถือว่าเป็นจุดดำน้ำได้เลยล่ะครับ”
“ตรงนี้ก็มีปลาตัวเล็กด้วยล่ะ ดูสิ”
รุ่นพี่โทวโกะพูดแล้วชี้นิ้วไป
ผมเองก็โดดคร่อมหินแล้วเข้าไปใกล้ ๆ รุ่นพี่โทวโกะ
มีปลาตัวเล็กว่ายอยู่ในแอ่งน้ำเล็กอยู่เยอะจริงด้วย
“อ้ะ ตรงนี้ก็มีปลาตัวเล็กว่ายเป็นฝูงด้วย แล้วตรงนี้เหมือนจะมีปลาเขตร้อนตัวค่อนข้างใหญ่อยู่ด้วยล่ะค่ะ”
“ตรงไหนนะครับ?”
“นี่ ๆ ตรงนี้”
พูดอย่างนั้นรุ่นพี่โทวโกะก็พยายามไต่ขึ้นไปตามหินที่เป็นขั้น ๆ
“อ้ะ”
ด้วยความก้าวลื่น เธอส่งเสียงร้องออกมาเล็ก ๆ
ผมเข้าไปช่วยประคองตัวรุ่นพี่โทวโกะจากข้างหน้าในทันที
ทว่าขาข้างนึงของผมก็เหยียบลงไปในทะเลดัง ‘ป๋อม’ ด้วยกันกับเธอ
จังหวะเดียวกันนั้นมือถือก็ส่งเสียง ‘ปี๊บ’ เล็ก ๆ ขึ้นมา
“อะ ขอบใจนะ”
รุ่นพี่โทวโกะเอ่ยอย่างประหลาดใจ
“ไม่เป็นไรครับ ไม่ล้มก็ดีแล้วครับ แถวนี้เป็นลานหินด้วย ถ้าล้มลงไปล่ะก็ได้เป็นแผลแน่เลย”
“แต่ว่าไม่ใช่แค่ฉัน เท้าเธอเองก็เปียกเอาด้วยสิ”
“ไม่เป็นไรหรอกครับ แค่นี้เอง”
ตอนที่พูด ผมก็รู้ตัวว่าหน้าของรุ่นพี่โทวโกะอยู่ใกล้มาก ๆ
ห่างกันไม่ถึงสามสิบเซ็นต์
นอกจากนั้น ผมยังเกาะต้นแขนด้วยทั้งสองมือเหมือนโอบกอดเธอไว้อยู่ด้วย
ดูเหมือนว่ารุ่นพี่โทวโกะก็สัมผัสได้ถึงท่าทางนั้นแล้วด้วย
เธอหลบหน้าแล้วพูดกับผม
“เมื่อกี้เองก็ถ่ายรูปไปสินะ”
“เอะ อ่า จะว่าไปแล้ว”
จริงอยู่ที่มือถือส่งเสียงชัตเตอร์
“ไม่เห็นจะต้องถ่ายกระทั่งที่แบบนี้เลยนี่”
เธอดูเหมือนกำลังเขินอยู่
“ต- ตะกี้ไม่ได้แกล้งนะครับ”
รุ่นพี่โทวโกะมองมาทางผม
ม่านตาสีเขียวเข้มคู่นั้นสะท้อนเงาของผม
ในนัยน์ตาของผมตอนนี้ จะต้องสะท้อนภาพรุ่นพี่โทวโกะอยู่แน่
เธอยิ้มอย่างเก้อเขิน
“รีบไปกันเถอะ ไม่งั้นคลื่นมาเดี๋ยวก็ได้เปียกอีกหรอก”
ผมพยักหน้าเงียบ ๆ แล้วปล่อยมือของเธอไปทางหาดทราย