หลังจากกลับสู่อาณาจักรแห่งเทพ อีฟไม่ได้เร่งเผยแพร่ประกาศภารกิจร่วมกับอาณาจักรดวอร์ฟและเทพแห่งการตีเหล็ก ดอลฟต์ ในทันที
แม้อาณาจักรดวอร์ฟจะตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของทะเลทรายมรณะ แต่หากพิจารณาจากระยะทางจริง ก็ยังถือว่าห่างไกลไม่น้อย
หากพิจารณาปัจจัยอื่นปัจจุบัน เมืองแซนด์สตอร์มซึ่งตั้งอยู่กลางทะเลทรายมรณะ ได้อยู่ภายใต้อำนาจของอีฟ อีกทั้งระบบวงเวทเคลื่อนย้ายก็ใช้งานได้แล้วเรียบร้อย แต่เมืองแซนด์สตอร์มก็ยังคงเป็นเพียงจุดพักกลางทะเลทราย ไม่ใช่ปลายทางโดยตรง การเดินทางจากที่นั่นไปยังอาณาจักรดวอร์ฟ ยังต้องใช้เวลาและแรงพอสมควร
สำหรับผู้ทรงพลังระดับทองหรือระดับตำนาน ระยะทางนี้อาจแทบไม่เป็นอุปสรรค แต่สำหรับผู้เล่นทั่วไปแล้ว เรื่องกลับไม่ง่ายเช่นนั้น หากปล่อยให้เดินทางกันเอง อีฟคาดการณ์ได้ทันทีว่า ภารกิจนี้จะต้องเผชิญกับปัญหาเดิมที่เคยเกิดขึ้นในทะเลทรายมรณะ เหล่าต้นหอมอาจกระจัดกระจายไปในความเวิ้งว้าง
แม้ตอนนี้จะมีผู้เล่นเข้าร่วมมากกว่าเดิม และต่อให้หายไประหว่างทางบางส่วน กองกำลังก็ยังคงพอจะใช้งานได้เมื่อถึงจุดหมาย
แต่… เทพธิดานักบริหาร จะยอมเสียทรัพยากรไปเช่นนั้นได้อย่างไร…
หากไม่มีการเตรียมการที่รัดกุมพอ ผู้เล่นที่พลาดท่าเสียชีวิตระหว่างการเดินทาง ก็จะหมดโอกาสกลับมาร่วมภารกิจอีก เท่ากับสูญเสียจุดแข็งสำคัญที่สุดของผู้เล่นไปโดยสิ้นเชิง
ในมุมมองนี้ การสร้างวงเวทเคลื่อนย้ายระยะไกลสุดขั้ว เช่นเดียวกับที่เคยใช้ในสงครามโลกใต้พิภพ ดูจะเป็นทางเลือกที่เหมาะสมที่สุด ทว่าระยะทางจากเมืองแซนด์สตอร์มไปยังอาณาจักรดวอร์ฟ กลับยาวไกลกว่าระยะระหว่างออสทริกากับเชียร์นาคามเสียอีก
หากจะใช้วงเวทเคลื่อนย้ายจริง ๆ สิ่งที่ต้องแลกคือทรัพยากรจำนวนมหาศาลจนยากจะประเมินค่า
ด้วยเหตุนี้ อีฟจึงตัดสินใจเลือกวิธีที่สะดวกกว่า และแหวกแนวกว่าด้วยพลังของเทพ
มันไม่ใช่การเคลื่อนย้าย… หากแต่เป็นการอัญเชิญ
เหล่าเทพ โดยเฉพาะเทพที่มีรากฐานจากศรัทธา ต่างก็มีสามารถรับการอัญเชิญได้โดยธรรมชาติ ตราบใดที่ยังอยู่ในขอบเขตแห่งศรัทธาของตน หรือหากมีผู้ภาวนาที่เปี่ยมด้วยศรัทธา จนสามารถเป็นจุดยึดชั่วคราวในเครือข่ายนั้น เหล่าเทพก็สามารถรับการอัญเชิญ เพื่อส่งบุคคลหรือวัตถุไปยังจุดหมายที่ต้องการได้
กระบวนการนี้อาจเปรียบได้กับพิธีบวงสรวงแบบย้อนกลับ หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ การเคลื่อนย้ายระดับสูงที่อิงอยู่กับเครือข่ายศรัทธา เพียงแต่มีข้อจำกัดเฉพาะตัว
แก่นแท้ของมันคือ การที่เทพสามารถส่งตัวตน ที่เชื่อมต่อกับเครือข่ายศรัทธาของตน ไปปรากฏยังจุดอัญเชิญในช่วงเวลาหนึ่ง ซึ่งกระบวนการนี้สามารถแยกย่อยออกเป็นสองลักษณะหลัก
ลักษณะแรกคือ การอัญเชิญแบบถาวร ใช้สำหรับการประทานพรหรือการเคลื่อนย้ายถาวร มีค่าใช้จ่ายสูงมาก และต้องใช้พลังในการจัดการพื้นที่เป้าหมายโดยตรง
ลักษณะถัดมาคือ การอัญเชิญแบบชั่วคราว ซึ่งใช้พลังงานน้อยกว่า และนิยมใช้ในพิธีเรียก มือสังหาร หรือผู้รับภารกิจระดับสูง จุดเด่นคืออาศัยการสับเปลี่ยนพื้นที่ ไม่ใช่การแลกเปลี่ยนถาวร
การเคลื่อนย้ายคือการส่งสิ่งหนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งอย่างถาวร ขณะที่การสับเปลี่ยนคือการหลอกกฎของพื้นที่ชั่วคราว พอครบเวลาก็จะถูกยกเลิกและย้อนกลับโดยอัตโนมัติ
อย่างไรก็ดี ในโลกสามัญ ยังมีคนจำนวนมากที่ไม่เข้าใจความแตกต่างของสองกระบวนการนี้ จึงมักเหมารวมทุกอย่างเป็นเพียงการอัญเชิญ หรือการเคลื่อนย้ายไปทั้งหมด
ในจักรวาลซากัส การที่เหล่าสาวกเทพมารอัญเชิญปีศาจ หรือการที่ศาสดาอัญเชิญเทวทูตมาแสดงอิทธิฤทธิ์ ทั้งหมดนั้น แท้จริงก็คือรูปแบบหนึ่งของการสับเปลี่ยนพื้นที่
แต่สำหรับเทพแล้ว การรับการอัญเชิญข้ามแดน โดยเฉพาะจากต่างมิติ ถือเป็นกระบวนการที่เปลืองพลังอย่างมหาศาล แม้แต่ในกรณีที่เป็นเพียงอัญเชิญชั่วคราวก็ตาม
พลังที่ใช้ยังแปรผันตามระดับของสิ่งที่ถูกอัญเชิญ หากเป็นสิ่งมีชีวิตระดับเซราฟีมของอีเทอร์ หรือแม้แต่กึ่งเทพทั่วไปของเทพองค์อื่น พลังงานที่ต้องใช้ย่อมสูงลิ่วจนน่าเหลือเชื่อ
ด้วยเหตุนี้ แม้จะมีวิธีเช่นนี้อยู่ ก็ใช่ว่าจะสามารถนำมาใช้ในชีวิตประจำวันได้โดยง่าย
ยิ่งไปกว่านั้น เหล่าเทพส่วนมากก็มักตั้งเงื่อนไขในการอัญเชิญไว้สูงลิ่ว เพื่อผลักภาระค่าใช้จ่ายให้ตกอยู่กับผู้ภาวนาโดยตรง…
และที่น่าหมั่นไส้ยิ่งกว่านั้น ยังมีเทพบางองค์ที่จงใจเพิ่มภาระให้เกินจำเป็น เพียงเพื่อดูดกลืนพลังเวทจากผู้เรียกมาเสริมพลังตนเอง
ด้วยเหตุนี้ การอัญเชิญเทพจึงมักใช้วัตถุดิบเวทมนตร์มากกว่าการเคลื่อนย้ายเสียด้วยซ้ำ… แต่นั่นก็เป็นเพียงกรณีทั่วไป
กรณีของอีฟนั้น แตกต่างไปโดยสิ้นเชิง
เธอเป็นเทพองค์เดียวที่มีร่างหลักพำนักอยู่ในดินแดนซากัสมาแต่ต้น การรับบวงสรวงจึงมีต้นทุนต่ำกว่ามาก เช่นเดียวกับการอัญเชิญย้อนกลับ
และที่สำคัญ ผู้เล่นทั้งหลายก็แตกต่างจากผู้ศรัทธาทั่วไปโดยสิ้นเชิง พวกเขาคือจิตสำนึกที่อีฟดึงมาจากดาวเคราะห์สีคราม ได้หลอมรวมเข้ากับระบบของเกมตั้งแต่ต้น ซึ่งเชื่อมโยงเป็นหนึ่งเดียวกับเครือข่ายศรัทธาของอีฟโดยสมบูรณ์
ด้วยเหตุนี้ การอัญเชิญผู้เล่นจึงใช้พลังน้อยกว่ามาก เพราะตัดขั้นตอนที่ยุ่งยากไปได้หลายชั้น
ในอดีต อีฟยังไม่มีพลังเพียงพอจะดำเนินกระบวนการเช่นนี้อย่างเต็มรูปแบบ แต่ตอนนี้… เมื่อมีผู้ศรัทธาหลายล้านชีวิตอยู่ในมือ เธอก็มีศักยภาพพอจะใช้ การบวงสรวงขั้นสูง ในการอัญเชิญผู้เล่นกลับมาได้อย่างเป็นระบบ
กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ อีฟสามารถมอบความสามารถใหม่ให้แก่ผู้ภาวนา หรือผู้ที่อธิษฐานต่อเธอ ความสามารถนั้นก็คือ การอัญเชิญผู้เล่นมาข้างกาย โดยแลกกับต้นทุนบางอย่าง
แนวคิดนี้ เธอเคยคิดไว้ตั้งแต่แรกแล้ว เมื่อแผนที่ของโลกขยายออกไป การจะหวังให้ผู้เล่นวิ่งขาลากไปทุกที่ ย่อมไม่ใช่ทางเลือกที่ยั่งยืน
หากแผนนี้สำเร็จ อีฟก็สามารถขยายระบบอัญเชิญนี้ให้แพร่หลาย ใช้ผู้เล่นเป็นหน่วยผดุงความยุติธรรม และฟาร์มค่าประสบการณ์ทั่วดินแดนซากัส พร้อมเก็บเกี่ยวชื่อเสียงไปพร้อมกัน
แน่นอนว่า การอัญเชิญผู้เล่นก็ถือเป็นการสับเปลี่ยนพื้นที่เช่นกัน จึงมีผลเพียงชั่วคราว และที่สำคัญคือ กระบวนการนี้มีต้นทุนต่ำมาก เมื่อภารกิจสิ้นสุด ผู้เล่นยังสามารถถูกส่งกลับพื้นที่เดิมโดยอัตโนมัติ แทบจะเรียกได้ว่าเป็นกลไกที่สมบูรณ์แบบ
และในครั้งนี้เอง… ภารกิจจากอาณาจักรดวอร์ฟและเทพแห่งการตีเหล็ก ก็คือโอกาสทดลองระบบนี้เป็นครั้งแรก
ด้วยจำนวนผู้เล่นที่มากเกินกว่าจะจัดการเป็นรายบุคคล อีฟจึงไม่เลือกใช้อัตลักษณ์ของแต่ละคนเป็นจุดยึด หากแต่สร้างรูปเคารพขึ้นมาโดยเฉพาะ สำหรับการอัญเชิญผู้เล่น
รูปเคารพประเภทนี้ ไม่จำเป็นต้องมีคุณสมบัติในการสะสมพลังศรัทธาเหมือนรูปปั้นทั่วไป ขอเพียงเชื่อมต่อกับเครือข่ายศรัทธาได้ ก็เพียงพอสำหรับการอัญเชิญแล้ว
เมื่อถึงเวลา หากมีผู้ภาวนายอมแลกต้นทุนบางอย่าง แล้วตั้งจิตสวดอ้อนวอนต่อหน้ารูปเคารพ ก็จะสามารถอัญเชิญผู้เล่นที่เข้าร่วมภารกิจได้ทันที
แน่นอนว่า ไม่ใช่ผู้เล่นทุกคนจะถูกอัญเชิญได้ จำเป็นต้องมีภารกิจรองรับ หรือกล่าวอีกอย่างคือต้องมี ระบบย่อย สำหรับอัญเชิญโดยเฉพาะ และเฉพาะผู้ที่ผ่านภารกิจอัญเชิญเท่านั้น จึงจะกลายเป็นเป้าหมายในการอัญเชิญได้
ระบบอัญเชิญสินะ…
เรียกมันว่า ‘อัญเชิญกำลังรบ’ ไปเลยละกัน
อีฟคิดพลางยิ้มบางกับตัวเอง
อัญเชิญมาแล้วก็สู้
สู้เสร็จก็ถอนตัว
คล้ายกับระบบเสกยูนิตในเกมออนไลน์ดี
ส่วนรางวัล… เอาสิทธิ์เปลี่ยนอาชีพระดับเงิน กับตั๋วแต้มซ่อมศาสตราเทพเป็นของล่อ อย่างแรกไว้ล่อผู้เล่นระดับเหล็ก อย่างหลังไว้ล่อพวกระดับเงิน
อีกอย่าง ต้องมี NPC มารับผิดชอบระบบนี้ด้วย อีตาธรันดูอิลพักนี้ก็ดูเที่ยวเล่นในแซนด์สตอร์มไปวัน ๆ ..เอางานนี้ไปยัดใส่มือตานั่นเลยละกัน
ขณะความคิดไหลเวียนเป็นสาย อีฟก็ค่อย ๆ ระดมพลังศักดิ์สิทธิ์ ก่อรูปเคารพขึ้นมาพร้อมกันอย่างเงียบงัน
ในเวลาเดียวกัน เธอก็อัปเดตข่าวสารใหม่ของเกม พร้อมเผยรายละเอียดทั้งหมดลงบนเว็บไซต์ทางการ…
…
ป่าเอลฟ์ เมืองแห่งผู้ถูกเลือก
นับตั้งแต่ที่เหล่าผู้เล่นร่วมมือกันสร้างเมืองหลักทั้งหลายขึ้นมา เมืองแห่งผู้ถูกเลือกก็ไม่แออัดแน่นขนัดเช่นแต่ก่อนอีกต่อไป
แน่นอนว่า ในฐานะศูนย์กลางการคมนาคมของเกม ที่นี่ก็ยังคงเป็นเมืองที่พลุกพล่านที่สุดอยู่ดี เพียงแต่บรรดาผู้เล่นระดับสูงที่เคยครึกครื้นกันอยู่แถวนี้ ต่างก็พากันหายหน้าหายตาไปเสียแล้ว
ลูกเมี้ยวเค็มได้ย้ายไปปักหลักอยู่ฮิลท็อป ติดใจกับการสร้างปราสาทเสียจนไม่อยากกลับ
หลี่มู่กลายเป็นสายปล่อยวาง ใช้ชีวิตอย่างสงบในละแวกบ้านของนัตซึเมะ พร้อมคอยลุ้นให้ภูตธาตุของตัวเองจีบดิงดองให้สำเร็จอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน…
ผู้เล่นสายฮาร์ดคอร์เหล่านี้ล้วนเก็บเลเวลจนตัน จึงทยอยย้ายตามสมาคมไปสร้างบ้านใหม่ในเมืองของตน พร้อมพากันแข่งประชันความอลังการกันสุดฝีมือ ส่วนผู้เล่นเลเวลต่ำจำนวนไม่น้อยต่างเลือกจะปักหลักอยู่ที่นี่ต่อไป
หากมองจากมุมนี้ เมืองแห่งผู้ถูกเลือก ก็จะคล้ายเมืองเริ่มต้นอย่างแท้จริง
อย่างไรก็ดี จัตุรัสกลางเมืองก็ยังคงครึกครื้นไม่เปลี่ยนแปลง ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไร ที่นี่กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมแห่งหนึ่งใน The Kingdom of Elves
ทุกวันจะมีผู้เล่นแวะเวียนมาตั้งตัวละครทิ้งไว้ หรือเข้าไปประลองฝีมือในโลกเสมือนจริง และในบางครั้งก็อาจได้เห็นผู้เล่นระดับตำนานโผล่มาให้ตื่นตาตื่นใจด้วย
เมื่อยามค่ำคืนมาเยือน จัตุรัสกลางก็จะกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ด้วยแสงไฟจากงานเลี้ยงและเสียงหัวเราะของการเฉลิมฉลอง กลายเป็นแหล่งรวมความบันเทิงที่ผู้เล่นจำนวนมากเฝ้ารอ
แม้ใบหน้าของผู้คนจะเปลี่ยนไปในแต่ละวัน แต่ในทุกค่ำคืน สถานที่แห่งนี้ไม่เคยเงียบเหงาเลยแม้แต่ครั้งเดียว
แน่นอนว่า ไม่ใช่ทุกคนจะย้ายออกจากเมืองนี้ไป ยังมีผู้เล่นระดับสูงจำนวนหนึ่งที่ขี้เกียจขนของย้ายบ้าน หรือเคยชินกับความสะดวกสบายของเมืองแห่งผู้ถูกเลือก จึงยังอาศัยอยู่ที่นี่เช่นเดิม
หนึ่งในนั้นคือข้าวกล่อง และเพื่อนร่วมกลุ่มของเขา
ในฐานะทีมรบที่ตะลุยไปทั่วแผนที่ พวกเขายังยืนยันหนักแน่นว่า เมืองแห่งผู้ถูกเลือกคือจุดพักที่ดีที่สุดสำหรับพวกเขา
ยิ่งไปกว่านั้น นับตั้งแต่ระบบซ่อมแซมศาสตราเทพเปิดให้ใช้งาน ดันเจียนเขาวงกตเทพมารซึ่งอยู่ไม่ไกลจากเมืองนี้ จึงกลายเป็นจุดฟาร์มหลักแห่งหนึ่งไปโดยปริยาย โดยมีเป้าหมายอยู่ที่ขวัญใจประชาชนอย่างอาซาเซล
เพียงแต่… ดันเจียนเขาวงกตเทพมารในตอนนี้กลับมีบอสย่อยถึงสิบสามตัว กว่าจะฝ่าด่านไปถึงพระราชวังของอาซาเซลได้ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
เคยมีคนเก็บสถิติไว้ว่า ตลอดหนึ่งสัปดาห์ จะมีเพียงหนึ่งหรือสองกลุ่มเท่านั้น ที่สามารถบุกถึงพระราชวังของอาซาเซลได้สำเร็จ และแน่นอนว่า ความยากดูจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
“เฮ้อ… ปั่นมาทั้งอาทิตย์ เพิ่งจะดรอปกุญแจวังมาอันเดียวเอง…”
เสียงบ่นดังขึ้นจากกลางจัตุรัส
น้ำเต้ากำลังนั่งแทะไม้เสียบเนื้อย่าง พลางถอนหายใจยาว เขานั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้เล็ก ๆ หน้ากองไฟที่เพิ่งจุดขึ้น รอบตัวมีเพื่อนสนิทอีกสี่คน ได้แก่ ข้าวกล่อง เริงโลก โชแปง และไร้เทียมทาน นั่งล้อมวงกันอยู่
นอกจากพวกเขาแล้ว วันนี้ยังมีไนติงเกลและน้อง ๆ ของเธอมาร่วมวงด้วย
วันนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ แถมช่วงเวลาของโลกซากัสก็ตกอยู่ในยามค่ำคืน พวกเขาจึงไม่ออกล่าบอสเหมือนเคย แต่เลือกจะมาพักผ่อนกันที่จัตุรัสกลางแทน
สำหรับไนติงเกล เธอคือคนสนิทของพวกเขา สนิทกันถึงขั้นนั่งกินเนื้อย่างด้วยกัน แล้วหยอกล้อกันไปมาแบบไม่มีเคอะเขิน
“หรือจะไปฟาร์มแต้มผลงานดีล่ะ?”
เสียงของเริงโลกแทรกขึ้นมาอย่างครุ่นคิด
“ชั้นลองคำนวณแล้วนะ… ถ้าจะซ่อมศาสตราเทพพัง ๆ ที่เก็บมาให้ครบทุกชิ้น ต้องใช้แต้มผลงานรวมกันราว ๆ… ห้าล้านกว่าแหนะ…”
สีหน้าเขาดูจะทุกข์ใจไม่น้อยในขณะที่พูดออกมา
“ของนายแค่ห้าล้านเรอะ? ของชั้นใกล้สิบล้านแล้วนะ!”
โชแปงร้องขึ้นเสียงหลง
“อย่าเทียบกันเลยเว้ย! นั่นมันเพราะแกมันดวงดีอะดิ ไปเจอแต่ของดีในซากอาณาจักรแห่งเทพไง แต้มผลงานที่ใช้ซ่อมมันก็เลยพุ่งกระฉูด ของฉันเก็บมาไม่กี่ชิ้นเอง รวม ๆ แล้วยังไม่ถึงสองล้านด้วยซ้ำ…”
ไร้เทียมทานกลอกตาใส่ ก่อนจะบ่นออกมาบ้าง
“มันขึ้นอยู่กับสภาพไอเท็มด้วยใช่ไหมล่ะ?”
โชแปงเถียงกลับอย่างเจ็บใจ
“ดูอย่างคทาที่ฉันเผลอเก็บมาเถอะ… หักเป็นสามท่อน ให้ฟรียังเคือง…”
บทสนทนาในวงสนทนายังคงเป็นไปอย่างคึกคัก พวกเขาทั้งหมดต่างเป็นผู้เล่นระดับเงินขั้นต้นที่เลเวลแตะเพดาน เป้าหมายเดียวที่เหลืออยู่ตอนนี้คือเก็บชุดเกรดศักดิ์สิทธิ์ให้ครบทั้งหกชิ้น
“ใครเขาว่าการซ่อมศาสตราเทพมันง่ายกันล่ะ?”
ไนติงเกลกล่าวพลางส่ายหน้า
“แค่เทพธิดายังอุตส่าห์เปิดโอกาสให้พวกเธอได้ซ่อม มันก็นับว่าเป็นความเมตตายิ่งใหญ่แล้วนะ พวกเธอไม่มีทางรู้หรอกว่ามันยากแค่ไหน…”
เธอพูดต่อด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“อีกอย่าง ศาสตราเทพน่ะ มันต้องเหมาะกับตัวเองถึงจะปลดปล่อยพลังได้เต็มที่ ไม่จำเป็นต้องไปไล่ตามความสมบูรณ์แบบเสมอไปหรอก”
“แหม… เจ้ไนติงเกล เจ้ไม่เข้าใจหรอก”
น้ำเต้าพูดอย่างหนักแน่น
“มันคือเรื่องของอุดมคติ กับความฝันฮะ!”
แม้แต่ข้าวกล่องที่นั่งฟังเงียบ ๆ มาตลอดก็ยังพยักหน้าเห็นด้วยอย่างจริงจัง
“ใช่… เกรดโฮลี่ทั้งตัว… เพอร์เฟกต์…”
และมันก็สมบูรณ์แบบจริง ๆ เพราะในตอนนี้ มีผู้เล่นสายเปย์บางคนได้ครอบครองอุปกรณ์เกรดศักดิ์สิทธิ์ครบทั้งชุดแล้ว จากการทดสอบก็พบว่า ความทนทานของไอเท็มเกรดนี้ อยู่เหนือกว่าของทั่วไปหลายเท่าตัว
พูดอีกอย่างคือ… หากมีอุปกรณ์ระดับใหม่ครบชุด ก็แทบไม่ต้องคอยซ่อมของบ่อย ๆ อีกต่อไป แน่นอนว่าพวกมันก็ยังชำรุดเสียหายได้อยู่ หากฝืนใช้งานเกินขีดจำกัด ก็มีโอกาสที่ตัวศาสตราหรือเกราะศักดิ์สิทธิ์จะพังลงเช่นกัน
และในระหว่างที่ทุกคนกำลังพูดคุยกันอย่างออกรส ทันใดนั้น เสียงแจ้งเตือนระบบก็ดังขึ้น พร้อมข้อความใหม่ปรากฏตรงหน้าทุกคน
ปุกิ๊ง—!
[ประกาศ: The Kingdom of Elves จะมีการอัปเดตเวอร์ชันใหม่โดยไม่ปิดเซิร์ฟเวอร์ เพื่อเพิ่มระบบการเล่นรูปแบบใหม่ โปรดติดตามรายละเอียดทางเว็บไซต์หลัก…]
“หือ… แอบยัดแพทช์แบบนี้ยังจะประกาศด้วยเหรอฮะ?”
น้ำเต้าหลุดหัวเราะออกมาเมื่อเห็นข้อความประกาศ
แน่นอนว่าเขาเองก็ไม่รู้เลย ว่าสาเหตุที่ยังไม่ประกาศเวลาชัดเจนเป็นเพราะตัวอีฟเอง เธอตั้งใจจะเปิดใช้งานระบบใหม่ เมื่อทูตจากอาณาจักรดวอร์ฟจะเดินทางมาถึงเมืองแซนด์สตอร์ม ทว่า กำหนดการของพวกเขากลับคลุมเครือยิ่งนัก
พวกเขาหัวเราะกันเบา ๆ แต่ก็ไม่ได้แปลกใจนัก เพราะระบบภารกิจและการอัปเดตของเกมนี้ บางครั้งก็ดูเหมือนจะถูกคิดขึ้นแบบฉับพลัน จนผู้เล่นทั้งหลายชินเสียแล้ว
จากนั้น พวกเขาก็เปิดเว็บไซต์หลักของเกมตามประกาศ และเมื่อเลื่อนสายตาไปถึงบันทึกอัปเดตล่าสุด…
“หือ? ‘อัญเชิญกำลังรบ’?”
“ระบบเสกเพื่อนแบบตอนนั้นปะ? จะเปิดใช้งานจริง ๆ แล้วสินะ”
สายตาทุกคู่จับจ้องที่หน้าจอ ก่อนจะเลื่อนลงไปอ่านข้อความรายละเอียดของระบบใหม่…
“ฮะ?! มีโอกาสมอบสิทธิ์เปลี่ยนอาชีพระดับเงิน แต้มผลงานจำนวนมาก แถมยังมีตั๋วซ่อมศาสตราเทพอีก?!”
ชั่วขณะนั้น สีหน้าของผู้เล่นทั้งวงก็พลันเต็มไปด้วยความตื่นเต้นระคนคาดหวัง…
…
“อาจารย์! อาจารย์! เห็นประกาศหน้าเว็บรึยังคะ!? ระบบใหม่กำลังจะมาแล้วค่ะ! มีโอกาสดรอปใบเปลี่ยนอาชีพด้วยนะ!”
เสียงใสร่าเริงของหลิงซวนดังลั่น ทันทีที่เธอผลักประตูห้องในโรงแรมแห่งหนึ่งกลางเมืองแห่งผู้ถูกเลือก ก่อนจะพุ่งตรงเข้ามาหานักวาดการ์ตูนชื่อดังที่กำลังนั่งเหม่อมองอากาศอยู่อย่างไร้จุดหมาย
“ยอดเยี่ยมเลยค่ะ! โอกาสมาแล้ว! ดีกว่าต้องไปลุ้นแต้มโรลในเขาวงกตเทพมาร เยอะเลย!”
ดวงตาของเด็กสาวเป็นประกายวิบวับ เปี่ยมด้วยความหวัง
หลิงซวนกับอาจารย์ต่างก็อยู่ที่เลเวลสี่สิบ มาตั้งแต่ เขาวงกตเทพมารเวอร์ชัน 2.0 เปิดให้บริการ ทว่าจนถึงตอนนี้ กลับยังไม่มีใครได้สิทธิ์เปลี่ยนอาชีพสักที ด้วยจำนวนผู้เล่นที่ต้องการไอเท็มนี้มีมากเกินไป บวกกับโชคของทั้งคู่ก็ไม่ได้เข้าข้างเท่าไรนัก
จนตอนนี้ ทั้งสองเริ่มจะมีความคิดผุดขึ้นมาว่า ตนควรยอมลงทุนจ้างกลุ่มนักแบก พาลงบอสให้มันรู้แล้วรู้รอดไป
แต่แล้ว… เมื่อได้ยินคำพูดของหลิงซวน อาจารย์กลับเพียงยิ้มบางอย่างฝืน ๆ
“งั้นเหรอ… ดีแล้วล่ะ ไว้เดี๋ยวเราไปด้วยกันนะ… แต่… คือ… ฉันมีข่าวร้ายจะบอกเธออย่างนึง…”
หัวใจของหลิงซวนกระตุกวูบ เธอชะงัก แล้วหันมามองอาจารย์ด้วยแววตาไม่ไว้ใจ ก่อนจะถามอย่างระแวดระวังด้วยเสียงแผ่วเบา
“…อย่าบอกนะคะ ว่าใกล้ถึงเดดไลน์ส่งต้นฉบับอีกแล้ว?”
“ใช่… แต่ไม่มีรางวัลให้หรอกนะ”
หลิงซวน: …
“…เหลือกี่วันคะ?”
“หนึ่งจ๊ะ”
คำตอบของอาจารย์ฟังดูเรียบเฉย ไม่มีแม้แต่ร่องรอยของความกระวนกระวาย
“…งั้นเริ่มเลยค่ะ! เดี๋ยวหนูเปิดงานแปป! เราจะปั่นให้จบในสองวันไปเลย!”
หลิงซวนกำหมัดแน่น ส่งเสียงเชียร์เต็มแรง ขณะลากนิ้วเปิดโปรแกรมวาดรูปอย่างคล่องแคล่ว
“แค่ก… คือฉันหมายถึงหนึ่งวัน ในเกม น่ะ”
อาจารย์กระแอมเบา ๆ ก่อนจะรีบอธิบายต่อ
เฉา หลิงซวน: ……
…
…
~~ ~~ ❀ ~~ ~~
วิเวียน: หืม~ ระบบ “อัญเชิญกำลังรบ”? ฟังดูเหมือนจะเป็นแค่กลไกเสกตัวละครธรรมดา ๆ แต่พอเป็นอีฟทำขึ้นเองแล้ว… หึหึ มันคือ ‘กองกำลังวันสิ้นโลก’ แบบ ‘ส่งด่วน’ ดี ๆ นี่เองล่ะค่ะ 😏💥 เสกเสร็จ ฟาด! แล้วก็วาร์ปกลับบ้าน—ชิคสุดในจักรวาล~!
โนเอล: นี่คือการวางกลไกอย่างแยบยลค่ะรุ่นพี่… ไม่ใช่แค่ระบบอัญเชิญ แต่คือการเริ่มเชื่อมจักรวาลด้วยเครือข่ายศรัทธาโดยสมบูรณ์ เป็นอีกก้าวที่สำคัญยิ่งของเทพีอีฟ ☕📚
ลิลี่: หนูว่าอีตาธรันดูอิลโดนใช้งานจนสติแตกแน่เลย 😹 แล้วชื่อระบบก็แบบ… เท่โคตร! “อัญเชิญกำลังรบ!” หนูจะเสกกองทัพแมวไปลุย! 😼💖
ถั่ว: โดนใช้เหรอ ไม่น่ามั้ง… เกรงว่าตานั่นจะเอาไปโยนให้คนอื่นทำแทนอ่าค่ะ…
~~ ❀ ~~
ถั่ว: จากนี้ เค้าจะเปลี่ยนคำเรียกคนแคระใหม่ ให้เป็น ดวอร์ฟ มันจะได้มีระดับภาษาเท่ากับเผ่าเอลฟ์ XD
~~ ❀ ~~
ถ้าเจองานแปลของเค้าที่อื่น…
สัญญานะว่าจะมาอ่านแปลไทยที่ https://www.nekopost.net/novel/12413 ♥
ถ้าถูกใจโปรเจ็คนี้ ขอความอนุเคราะห์ในการซัพพอร์ทที่ผู้แต่งโดยตรง ตามลิงก์หน้าแรกนะคะ
Support the project https://book.qidian.com/info/1016509432
~~ ~~ ❀ ~~ ~~
MANGA DISCUSSION