เสียงเหรียญทองนับร้อยกระทบพื้นดังก้องไปทั่วบริเวณ แสงสะท้อนจากโลหะล้ำค่ากะพริบวูบวาบจับทุกสายตาอย่างรุนแรง
แย่แล้ว!
เหรียญทองของข้า!
ชารุ หัวหน้านักบวชแห่งหมู่บ้านฮาล์ฟออร์คเบิกตากว้าง สีหน้าซีดเผือดอย่างเห็นได้ชัด
เขาเฝ้าสะสมสมบัติเหล่านี้ด้วยความยากลำบากมานานปี แต่ก่อนที่ร่างจะได้ก้มลงเก็บ เหรียญทองเหล่านั้นกลับถูกเหล่าเอลฟ์ที่บุกโจมตีกวาดเก็บไปอย่างรวดเร็ว แม้แต่คทาประจำตัวของเขาก็ยังไม่รอด กลายเป็นของรางวัลของศัตรูโดยสมบูรณ์
เสียงหัวเราะดังกังวานขึ้นจากเอลฟ์ตนหนึ่งที่ได้เหรียญทองไปครอบครอง
“ฮ่า ๆ ๆ! บอสโยนไอเท็มเองเนี่ยนะ! แถมเป็นเหรียญทองซะด้วย รวยจริงว่ะ!”
นั่นมันทองที่ข้าสะสมมาหลายปีเชียวนะ…
ชารุได้แต่คร่ำครวญในใจด้วยความเจ็บปวด แต่ถึงกระนั้น เขาก็ไม่กล้าแสดงความโกรธหรือท่าทีต่อต้านแม้แต่น้อย ทำได้เพียงส่งสายตาอาลัยอาวรณ์ไปยังทรัพย์สมบัติที่ถูกแย่งชิงต่อหน้าต่อตา…
ทว่าความอับจนยังไม่ใช่จุดสิ้นสุดของหายนะ บรรยากาศรอบตัวพลันตึงเครียดขึ้นอย่างรุนแรง ลมหายใจของเขาแทบหยุดนิ่ง
ชารุเงยหน้าขึ้นอย่างหวั่นเกรง ก่อนจะเห็นเอลฟ์หนุ่มผมดำดวงตาสีแดงฉาน กับหญิงสาวครึ่งมังกรผมแดงผู้มีรูปร่างสะโอดสะอง ยืนขวางทางเอลฟ์ที่เก็บเหรียญทองไว้ ด้านหลังของทั้งคู่ ยังมีลูกมังกรจ้องเขม็งมาอย่างน่าเกรงขาม
ทุกสายตาที่ทอดมานั้นเต็มไปด้วยแรงกดดันมหาศาล ชารุรู้สึกได้ถึงพลังที่แทบจะทำให้ร่างของเขาแตกสลายได้ทุกเมื่อ
นี่มัน… ยอดฝีมือระดับสูงทั้งนั้น!
พวกระดับทองแน่เลย!!
หัวใจของเขากระตุกวูบ เย็นเยียบเหมือนถูกฝังอยู่ใต้ธารน้ำแข็ง ความสิ้นหวังซัดกระหน่ำเข้าใส่จิตใจจนแทบไม่อาจยืนหยัดได้
เผ่าของพวกเรา…
ถึงคราวจบสิ้นแน่แท้…
ชารุเฝ้ามองทั้งสองที่ก้าวเข้าไปขวางหน้าเอลฟ์ซึ่งถือเหรียญทองไว้อย่างไม่เกรงใจ เอลฟ์คนนั้นตกใจแทบทำเหรียญทองร่วง รีบยิ้มแห้ง ๆ แล้วแบ่งเหรียญทองออกเป็นสองกอง ก่อนจะยื่นให้พวกเขาด้วยท่าทีประจบประแจงน่าสมเพช
“ท่านไมเรล! ท่านทิบิเลีย! ผ… ผมเก็บไว้ให้พอดีเลยฮะ! เชิญรับไปได้เลย! เอ่อ… แล้วก็ ถ้ามีเกล็ดหรือน้ำลายเหลือ ๆ ผมขอนิดนึงได้ไหมครับ…”
“ดีมาก”
“อย่างนี้ค่อยน่ารักหน่อย”
เสียงตอบรับของทั้งสองราบเรียบ แต่กลับแฝงความพึงพอใจไว้อย่างเด่นชัด
พวกเขาเหลือบตามองกันครู่หนึ่ง ก่อนจะหันมาแบ่งเหรียญทองกันอย่างไม่ลังเล เหมือนกับว่าทรัพย์สินเหล่านี้เป็นของตนเองมาแต่แรก
เกล็ดกับน้ำลาย…?
ชารุขมวดคิ้ว สับสนอยู่ชั่วขณะ แล้วกวาดสายตาสำรวจทั้งสองอีกครั้ง ครานี้เขาถึงได้สังเกตเห็นชัดเจน…
ดวงตาแนวตั้งคู่นั้น มันแตกต่างจากสิ่งมีชีวิตทั่วไปอย่างสิ้นเชิง
เมื่อบวกเข้ากับแรงกดดันมหาศาลที่แทบทำให้เขาแน่นหน้าอก และข่าวลือลึกลับที่แพร่สะพัดไปทั่วดินแดนซากัส หัวใจของชารุก็สั่นระรัว ความหวาดกลัวแปลกประหลาดตีตื้นขึ้นมาจากส่วนลึกของจิตใจ
อย่าบอกนะว่า…
พวกนี้คือมังกร!?
ในเสี้ยววินาทีนั้นเอง ความหวังที่จะหลบหนีของชารุก็ถูกดับวูบไปอย่างสิ้นเชิงหากพวกเขาเป็นมังกรโตเต็มวัย… มันน่ากลัวยิ่งกว่ายอดฝีมือระดับทองทั่วไปเสียอีก!
เขาได้แต่ก้มหน้ากอดหัวตัวเอง นั่งยองลงอย่างสิ้นหวัง ปล่อยให้ความเจ็บปวดกัดกินใจ
ขณะเดียวกัน เหล่าเอลฟ์ก็พุ่งกรูกันเข้ามา ลอกอุปกรณ์ทุกชิ้นจากตัวเขาไปอย่างไม่รีรอ ชุดพิธีสุดรัก รองเท้าเครื่องหนังชั้นดี และแม้แต่ถ้วยกระดูกทำจากกะโหลกใบโปรด ก็ถูกช่วงชิงไปจนหมดสิ้น
เมื่อทุกอย่างจบลง ชารุก็เหลือเพียงชุดชั้นในบาง ๆ ติดกาย ยืนเหม่อมองกลุ่มเอลฟ์ที่กำลังคลั่งไคล้ในชัยชนะด้วยสีหน้าว่างเปล่า
เผ่าของพวกเรา…
คงถึงกาลอวสานแล้วจริง ๆ…
การยอมจำนนของชารุในวินาทีนั้น เป็นการบั่นทอนกำลังใจของฮาล์ฟออร์คทั้งเผ่า นักรบที่ยังต่อสู้อยู่พากันชะงัก หลายตนทรุดตัวลงกับพื้นอย่างหมดสิ้นหวัง ส่วนที่เหลือ ต่างก็หันหลังหนีเตลิดอย่างไม่คิดชีวิต
สำหรับเผ่าฮาล์ฟออร์คแล้ว นักบวชคือผู้นำทางจิตวิญญาณ เป็นหัวใจหลักของชนเผ่า เมื่อหัวหน้านักบวชยอมแพ้… หัวใจของพวกเขาก็แตกสลายตามไปด้วยอย่างไม่มีวันประสานกลับมาได้อีก…
ผลลัพธ์ที่ตามมา คือฉากแห่งการล่าสังหารอันโหดเหี้ยม เลือดสาดกระเซ็นไปทั่วท่ามกลางความโกลาหลของหมู่บ้าน
เหล่าเอลฟ์ไล่ล่าฮาล์ฟออร์คที่หลบหนีไปอย่างไร้ความปรานี บางตนหัวเราะเริงร่า ขณะปล้นชิงทุกสิ่งที่ขวางหน้าในหมู่บ้านที่ลุกเป็นไฟ
ผู้ยอมจำนนถูกปลดอาวุธและถอดอุปกรณ์จนหมดตัว จากนั้นก็ถูกโยนไปรวมกันกลางลานโล่ง ถูกทิ้งให้นั่งสั่นเทาใต้สายลมค่ำคืนที่เย็นยะเยือกของทะเลทรายมรณะ… ท่ามกลางความหนาวเหน็บถึงกระดูก และความหวาดกลัวที่เกาะกุมหัวใจอย่างไร้ทางหนี
ชารุยืนตัวแข็งทื่อ มองภาพเบื้องหน้าด้วยความงุนงงปนตกตะลึง ภาพการสังหารและปล้นสะดมที่เห็นไม่ใช่สิ่งใหม่สำหรับเขา ในทะเลทรายมรณะแห่งนี้ ผู้แข็งแกร่งเท่านั้นที่มีสิทธิ์รอด ชีวิตและความตายถือเป็นเรื่องธรรมดา ไม่ต่างจากลมหายใจ แม้แต่เผ่าฮาล์ฟออร์คเอง ก่อนที่ราชาอิมช์จะรวบรวมทะเลทรายได้สำเร็จ ก็เคยทำสงครามนองเลือดระหว่างเผ่ามานับครั้งไม่ถ้วน
เหล่าฮาล์ฟออร์คส่วนใหญ่จึงด้านชาเสียจนไม่หวั่นเกรงต่อความตาย จะมีก็แต่ฮาล์ฟออร์คอย่างเขา… ผู้ซึ่งถูกตราหน้าว่าขี้ขลาดเท่านั้นที่ยังรู้สึกกลัว
ทว่าแม้เขาจะคุ้นเคยกับภาพแห่งการนองเลือด ความโหดเหี้ยมที่กำลังเกิดขึ้นตรงหน้านี้กลับทำให้เขาแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง
การต่อสู้ระหว่างเผ่าอาจพอเข้าใจได้ในฐานะการแข่งขันของนักล่า ทว่าเหตุการณ์ในครั้งนี้กลับแตกต่างโดยสิ้นเชิง เพราะในความทรงจำของเขา ฮาล์ฟออร์คเท่านั้นที่เป็นผู้ล่า หมู่บ้านมนุษย์และชุมชนของเอลฟ์ต่างหากที่เป็นเหยื่อ
แต่บัดนี้ โลกกลับตาลปัตร นักล่ากลายเป็นเหยื่อ ส่วนเหยื่อที่เคยดูอ่อนแอไร้ทางสู้ กลับกลายเป็นนักล่าเสียเอง…
ชารุได้แต่ยืนนิ่งงัน กลืนความขมขื่นลงคอ ราวกับความภาคภูมิใจที่เผ่าของเขาสั่งสมมานับร้อยปี ถูกฉีกทำลายลงในพริบตา ความรู้สึกเสียดแทงหัวใจอย่างแสนสาหัสเกาะกุมเขาแน่น ไม่มีสิ่งใดหลงเหลือนอกจากความขมขื่นและความพ่ายแพ้อย่างสิ้นเชิง
การสังหารและการปล้นชิงดำเนินไปอีกยี่สิบนาที ก่อนจะสงบลงอย่างสมบูรณ์ ที่พักอาศัยของเผ่าฮาล์ฟออร์คในโอเอซิสแห่งนี้ ถูกกวาดล้างจนไม่เหลือแม้แต่เงาของความรุ่งเรืองในอดีต ทิ้งไว้เพียงซากปรักหักพัง กับกลิ่นคาวเลือดและเถ้าธุลีที่ปลิวว่อนกลางสายลมราตรี
มีเพียงฮาล์ฟออร์คบางส่วนที่หลบหนีรอดไปได้ในความโกลาหล และผู้ที่สิ้นชีพจากการบุกโจมตีของเอลฟ์นับไม่ถ้วน ผู้รอดชีวิตที่ยอมจำนนเหลือเพียงร้อยกว่าตน และทหารรับจ้างจากสมาคมการค้าโซเรนอีกเจ็ดถึงแปดคนเท่านั้น
หมู่บ้านฮาล์ฟออร์คขนาดเล็กแห่งนี้ เคยมีประชากรเกือบพันชีวิต แต่บัดนี้ถือได้ว่า ถูกทำลายจนแทบไม่หลงเหลือเค้าเดิมอีกต่อไป
เหล่าเชลย ฮาล์ฟออร์คกว่าร้อยชีวิตกับทหารรับจ้างมนุษย์น้อยนิด ถูกมัดรวมกันด้วยเชือกเส้นหนา ต่างยืนจับกลุ่มกันด้วยแววตาสั่นกลัว สับสน และหวาดระแวง สายตาของพวกเขาจับจ้องไปยังเหล่าเอลฟ์ที่กำลังเก็บกวาดสนามรบอย่างกระตือรือร้น
ความสงสัย ไม่เข้าใจ และความกลัวฉายชัดในแววตาเชลยทุกชีวิต พวกเขาไม่อาจเข้าใจได้เลยว่าทำไมเอลฟ์ที่เคยถูกเหยียบย่ำถึงได้พลิกสถานการณ์กลับมาได้อย่างน่าสะพรึงกลัวเช่นนี้
ที่น่าเศร้ายิ่งกว่านั้น คือจำนวนของเอลฟ์ก็ไม่ได้มากมายอะไรนัก ไม่ถึงสามร้อยตนด้วยซ้ำ ทว่าพวกมันทุกตนต่างมีพลังระดับเหล็กขั้นสูงเป็นอย่างต่ำ และยังมีนักรบระดับเงินที่แข็งแกร่งเกินยับยั้งได้กว่า 20 ตน
แต่เหนือสิ่งอื่นใด…ที่ทำให้พวกเขาหวาดกลัวจนแทบยืนไม่ไหว ก็คือสองร่างนั้น สองร่างที่ชารุสงสัยว่าอาจเป็นมังกร แค่ยืนอยู่เฉย ๆ ก็ทำให้ความหวาดหวั่นแผ่กระจายไปทั่วทั้งหมู่บ้านได้อย่างน่าสยอง
ต่อหน้าอำนาจเช่นนี้ ต่อให้ไม่ใช่กลางดึก ต่อให้มีเวลาเตรียมตัว เผ่าฮาล์ฟออร์คก็คงมิอาจหลีกเลี่ยงความพ่ายแพ้ได้อยู่ดี…
บางทีคงมีเพียงหมู่บ้านใหญ่ที่มีนักรบระดับทองคอยคุ้มกัน หรือเผ่าที่สามารถว่าจ้างทหารระดับทองได้เท่านั้น ถึงจะพอมีหวังต่อต้านได้บ้าง…
ไม่มีเชลยคนใดหนีรอดไปได้แม้แต่รายเดียว แม้ในตอนแรกจะมีมนุษย์คนหนึ่งพยายามลอบหนี แต่ทันทีที่เขากระโจนออกไป เหล่าเอลฟ์ก็กระโจนตามไปเสียบทะลุร่างจนพรุน ร่างของเขาสลายเป็นเศษธุลีปลิวไปกับสายลมในพริบตา
ภาพน่าสยดสยองนี้เป็นคำเตือนที่ชัดเจน เหล่าผู้คิดหนีที่เหลือ จึงได้แต่นั่งนิ่งงันอย่างสงบเสงี่ยม ไม่กล้าแม้แต่จะขยับตัว…
บรรดาเชลยที่สิ้นหวังเบียดกันเป็นกลุ่มก้อน ใบหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและแววตาอันมืดมน พวกเขาต่างรับรู้ดีว่าตนกำลังเผชิญหน้ากับชะตากรรมที่โหดร้ายเพียงใด ไม่มีใครหลงลืมว่าในอดีต เผ่าฮาล์ฟออร์คและมนุษย์เคยก่ออาชญากรรมใดไว้กับเผ่าเอลฟ์บ้าง…
และแน่นอน ไม่มีผู้ใดไม่หวาดหวั่นต่อการแก้แค้นของเผ่าเอลฟ์ ที่เล่าขานกันในตำนานว่าชั่วร้ายอย่างหาที่เปรียบมิได้
ตรงกันข้ามกับบรรยากาศตึงเครียดของเหล่าเชลย ฝั่งเอลฟ์กลับเต็มไปด้วยความครึกครื้นราวกับกำลังเฉลิมฉลองเทศกาลสำคัญ เสียงหัวเราะขบขันดังระงมไปทั่วท่ามกลางซากปรักหักพังของหมู่บ้าน
“ฮ่า ๆ ๆ รางวัลอย่างโหดจริงด้วย!”
“การปล้นนี่แหละทางลัด!”
ผู้เล่นหลายคนพากันมองไปยังทรัพย์สมบัติกองพะเนิน และเกวียนอีกยี่สิบเล่มที่บรรทุกของเต็มล้น สีหน้าแต่ละคนเปี่ยมสุขอย่างเห็นได้ชัด
ผู้นำกลุ่มอย่างลูกเมี้ยวเค็มก็เช่นกัน เธอมีสีหน้าตื่นเต้นสุดขีด แก้มแดงปลั่งราวกับผลไม้สุก หันไปถามสมาชิกที่รับผิดชอบการตรวจนับของด้วยความคาดหวัง
“สรุปยอดเสร็จหรือยังคะ?”
อีกฝ่ายพยักหน้าด้วยรอยยิ้มกว้าง รีบรายงานด้วยน้ำเสียงที่เปี่ยมไปด้วยความภาคภูมิใจ
“เรียบร้อยแล้วค่ะท่านประธาน! คราวนี้เรารวยเละเลย แถมโชคดีสุด ๆ เพราะมีพวกโซเรนเกิดในแคมป์พอดี”
“ของที่ได้ก็หลากหลายมากค่ะ ทั้งอาวุธ ชุดเกราะ เสบียง และหนังสัตว์จากแมพทะเลทราย!”
“เฉพาะชุดอุปกรณ์ของฮาล์ฟออร์คเองก็เกินหกร้อยชุดแล้ว ยังมีอาวุธจักรวรรดิใหม่เอี่ยมอีกห้าร้อยชุด คุณภาพเทียบได้กับไอเท็มระดับเหล็กขั้นกลางเลยค่ะ ถ้าแปลงเป็นแต้มผลงาน ทั้งหมดน่าจะได้ไม่น้อยกว่าสิบล้านแต้ม!”
เมื่อได้ยินตัวเลข ลูกเมี้ยวเค็มถึงกับตาโตเป็นประกาย
“พูดอีกอย่างคือ การจู่โจมครั้งนี้ คนในปาร์ตี้แต่ละคนจะได้แบ่งแต้มกันคนละสามถึงสี่หมื่นเลยนะคะ!”
น้ำเสียงของผู้รายงานสั่นไหวด้วยความตื่นเต้น
ปล้น NPC นี่ล่ะค่ะของดี!
แมพทะเลทรายมรณะนี่สุดยอดจริง ๆ!
คนจะแห่กันมาฟาร์มแน่นอน!
ลูกเมี้ยวเค็มคิดในใจอย่างร่าเริง
ผู้เล่นที่รับหน้าที่รายงานยังคงกล่าวต่อ
“ส่วนเสบียง สำรองไว้ก็ไม่เสียหายค่ะ เพราะผู้เล่นจะมีแต่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ส่วนหนังสัตว์… เป็นของขึ้นชื่อจากทะเลทรายมรณะ ราคาดีแน่นอนค่ะ!”
“เราสามารถขายให้ยัวร์เวย์ หรือส่งไปเมืองเมเปิลลีฟก็ได้ รับรองว่าแลกสินค้าดี ๆ ได้เพียบเลยค่ะ!”
หนังสัตว์?
ลูกเมี้ยวเค็มพยักหน้าพร้อมครุ่นคิดอย่างรวดเร็ว ของประเภทนี้ถือเป็นสินค้าหรูในโลกมนุษย์ อีกทั้งจากสายตาผู้เล่นที่ช่ำชองในการเลือกของแล้ว หนังสัตว์ที่ได้มาก็มีคุณภาพสูงไม่น้อย หากไม่นำไปขายให้ NPC ก็ยังสามารถนำมาพัฒนาเป็นชุดสายแฟชันสำหรับผู้เล่นได้เช่นกัน…
ขณะที่เธอกำลังวางแผนในใจ ผู้เล่นอีกคนก็เสริมขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
“ว่าแต่… ตะกี้เราช่วยเหลือ NPC เอลฟ์ได้สามตัวแหนะ ตอนนี้โชแปงกำลังปลอบพวกเธออยู่ครับ”
NPC เอลฟ์?
แววตาของลูกเมี้ยวเค็มสว่างวาบขึ้นทันที
โชคดีสุด ๆ เลยค่ะ!
การช่วยเหลือเอลฟ์ในโลกเกมนี้ นอกจากจะทำให้ชื่อเสียงพุ่งทะยานแล้ว ยังส่งผลโดยตรงต่อส่วนลดร้านค้า
และหากเอลฟ์เหล่านั้นกลายเป็น NPC ภารกิจเมื่อใด ความสัมพันธ์กับผู้เล่นที่เคยช่วยเหลือก็จะทะยานสู่ระดับสูงสุดในทันที ทำให้รางวัลภารกิจจาก NPC ผู้นั้นทวีคูณขึ้นอย่างง่ายดาย
แน่นอนว่า แม้ไม่นับผลตอบแทนที่ยั่วยวนใจเหล่านั้น แต่สำหรับลูกเมี้ยวเค็มที่เลิกมอง The Kingdom of Elves เป็นเพียงเกมธรรมดาไปแล้ว เธอก็ยังรู้สึกยินดีจากใจจริงที่ได้เห็นเหล่าเอลฟ์ได้รับการช่วยเหลือ
“สรุปคือ…”
ผู้เล่นที่รายงานหันไปมองเหล่าเชลยที่กำลังยืนสั่นเทา ก่อนเอ่ยเสียงหนักแน่น
“เราจับ NPC ได้ทั้งหมด 136 ตัวในจำนวนนั้น เผ่าฮาล์ฟออร์ค 128 ตัวเผ่ามนุษย์ 8 ตัว ระดับพลังเฉลี่ยอยู่ที่เหล็กขั้นกลาง เป็นสาวกระดับตื้นเขินเกือบทั้งหมด มีมนุษย์สองตัวที่เป็นผู้ไร้ศรัทธา ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บสาหัส มีเพียงบาดแผลเล็กน้อยที่สามารถรักษาได้หมด และพวกเราคัดมาเฉพาะตัวที่เหมาะสำหรับใช้เป็นแรงงานขุดเหมือง…”
ลูกเมี้ยวเค็มพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ จำนวนเชลยที่ได้มานี้นับว่าเพียงพอสำหรับการทดลองโครงการทาสในเหมืองของเธอ แม้ในทางทฤษฎีจะมีความเป็นไปได้สูง แต่การทดลองครั้งแรกเช่นนี้ก็ไม่ควรกระทำให้ใหญ่โตเกินไป หากเกิดความผิดพลาดขึ้น จะได้ควบคุมสถานการณ์ได้อย่างทันท่วงที
ในหมู่เชลยที่เบียดกันเป็นกลุ่มแน่นขนัดนั้น ส่วนใหญ่ล้วนเป็นสาวกระระดับตื้นเขินแทบทั้งสิ้น ไม่มีใครที่มีจิตศรัทธาลึกซึ้งถึงขั้นอุทิศตน เพราะในสถานการณ์เช่นนี้ ผู้ที่มีศรัทธาระดับอุทิศตน ย่อมเลือกสู้ตายอย่างไม่ลังเล แทบไม่มีโอกาสที่จะยอมจำนนแม้แต่น้อย
และถึงแม้จะมีสาวกระระดับอุทิศตนบางคนยอมแพ้ขึ้นมา ผู้เล่นเองก็คงไม่กล้ารับพวกเขาไว้ เพราะตามกลไกของระบบ หากตัวละครที่มีศรัทธาระดับอุทิศตนเสียชีวิต วิญญาณของพวกเขาจะกลับคืนสู่อาณาจักรแห่งเทพทันที การนำเชลยลักษณะนี้กลับเมืองจึงเสี่ยงอย่างยิ่ง
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้ลูกเมี้ยวเค็มประหลาดใจจริง ๆ กลับไม่ใช่เรื่องนี้ แต่เป็นการค้นพบที่เหนือความคาดหมายยิ่งกว่า… นั่นคือ หัวหน้านักบวชของฮาล์ฟออร์ค กลับยอมจำนนด้วยตัวเอง
โดยปกติ นักบวชควรจะเป็นกลุ่มที่ดื้อรั้นที่สุด ศรัทธาแรงกล้าที่หล่อหลอมชีวิตทั้งชีวิตของพวกเขาไว้ ไม่ควรยอมจำนนอย่างง่ายดายเช่นนี้ กระทั่งลูกเมี้ยวเค็มอดไม่ได้ต้องใช้ทักษะ [ดวงตาแห่งศรัทธา] เพ่งลึกเข้าไปในจิตใจของเขาเพื่อหาคำตอบ
สิ่งที่เธอเห็น ทำให้เธอแทบไม่อยากเชื่อสายตาตนเอง
ฮาล์ฟออร์คผู้นี้ แม้จะเป็นนักบวชระดับเงิน แต่กลับมีศรัทธาเพียงระดับตื้นเขินเท่านั้น!
ในตอนแรกเธอถึงกับคิดว่าตนมองผิด รีบตรวจซ้ำแล้วซ้ำอีก จนกระทั่งชายคนนั้นเริ่มแสดงอาการประหม่าผิดสังเกต เธอจึงแน่ใจว่าไม่ได้ดูผิดแต่อย่างใด
ความจริงข้อนี้ทำให้ลูกเมี้ยวเค็มตะลึงงันไม่น้อย ถึงขั้นอดไม่ได้ที่จะตั้งข้อสงสัยว่า เกมอาจจะมีบั๊กหรือข้อผิดพลาดบางประการ เพราะในหมู่เอลฟ์พื้นเมือง หากใครหวังจะเป็นนักบวช จำเป็นต้องมีศรัทธาระดับอุทิศตนเป็นพื้นฐาน แต่ฮาล์ฟออร์คตื้นเขินผู้นี้… กลับสามารถสวมครองตำแหน่งนักบวชได้อย่างน่าประหลาดใจ
ถึงอย่างนั้น การค้นพบดังกล่าวก็มีค่ามากเกินกว่าจะปล่อยผ่าน เพราะศรัทธาตื้นเขิน เปลี่ยนแปลงได้ง่ายดายยิ่งกว่าศรัทธาที่หยั่งรากลึก ลูกเมี้ยวเค็มจึงล้มเลิกความคิดที่จะฆ่าเขาทิ้งอย่างสิ้นเชิง
เชลยกว่าร้อยคนตรงหน้าที่จับมาได้ครั้งนี้ ยังเป็นเพียงการคัดเลือกรอบแรกเท่านั้น ผู้ที่จะถูกนำกลับเมือง จะมีเพียงผู้ที่ยอมละทิ้งศรัทธาเดิม และพร้อมจะยอมรับการเปลี่ยนแปลงเท่านั้น ส่วนที่เหลือก็ยังมีค่าอยู่ดี ทั้งในฐานะค่าประสบการณ์ และแต้มผลงานที่งดงาม
เพราะแม้จะเป็นเพียงสาวกระระดับตื้นเขิน พวกเขาก็ยังมีโอกาสเติบโตขึ้นเป็นสาวกระระดับอุทิศตนได้ในอนาคต และยิ่งไปกว่านั้น แม้แต่ผู้ไร้ศรัทธาเอง ก็มีโอกาสพัฒนาตนจนกลายเป็นสาวกระระดับคลั่งไคล้ได้เช่นกัน
ดังนั้น ทางเลือกที่ปลอดภัยที่สุด คือทำให้พวกเขาละทิ้งศรัทธาเดิมเสีย แล้วชักนำเข้าสู่ศรัทธาแห่งต้นไม้โลกแทน แบบนี้นอกจากจะปลอดภัย ยังเป็นการเสริมกำลังในฝ่ายตนได้อีกด้วย
แน่นอนว่า ลูกเมี้ยวเค็มไม่คิดจะทุ่มเททรัพยากรทั้งหมดไปกับการเปลี่ยนเชลยเหล่านี้ ขอแค่ให้พวกเขา ไม่มีทางหันหลังกลับ ก็เพียงพอแล้ว…
และวิธีการนั้น ง่ายเสียจนไม่น่าเชื่อ
ลูกเมี้ยวเค็มเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์อย่างปีศาจน้อย ก่อนจะกระซิบกระซาบบางอย่างกับผู้เล่นคนหนึ่งที่อยู่ใกล้ ๆ ดวงตาของอีกฝ่ายพลันสว่างวาบด้วยความเข้าใจ จากนั้นจึงรีบออกไปทำหน้าที่ทันที
ไม่นาน เขาก็กลับมาพร้อมกับรูปปั้นเทพขนาดเล็กสององค์ รูปปั้นเหล่านี้ถูกปั้นขึ้นอย่างเร่งด่วนจากดินเหนียวด้วยฝีมือของผู้เล่นสายเวทมนตร์ธาตุดิน ที่สามารถสร้างรูปร่างหยาบ ๆ ขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว
องค์หนึ่งเป็นรูปจำลองของเทพแห่งเหมันตฤดูและการล่า อูลร์ เทพผู้เป็นศูนย์กลางศรัทธาของเผ่าฮาล์ฟออร์ค ส่วนอีกองค์ เป็นเทพแห่งความมืดและเงา โฮลเดอร์ ซึ่งเป็นที่เคารพของทหารรับจ้างจากสมาคมการค้าโซเรน
แม้รูปปั้นเหล่านี้จะไม่ได้รับการปลุกเสกด้วยพลังแห่งศรัทธา และไม่อาจเชื้อเชิญองค์เทพให้ประทับได้จริง หากแต่มันก็มีนัยสำคัญทางจิตวิญญาณที่ไม่อาจมองข้าม
ลูกเมี้ยวเค็มก้าวเดินอย่างอ่อนหวานไปยังกลุ่มเชลย ดวงตาเปล่งประกายเจ้าเล่ห์ เธอวางรูปปั้นเทพทั้งสององค์ลงเบื้องหน้าพวกเขาอย่างใจเย็น ก่อนจะยิ้มละไม เอียงศีรษะน้อย ๆ พลางเอ่ยด้วยเสียงนุ่มละมุนชวนฝัน
“ทุกท่านคะ… แค่ยอมแพ้อย่างเดียว ยังไม่พอให้พวกเราไว้ชีวิตนะคะ เว้นเสียแต่ทุกท่านจะยอมละทิ้งศรัทธา และกลายเป็นผู้ไร้ศรัทธา”
เธอผายมือไปยังรูปปั้นที่ตั้งอยู่ตรงหน้า กล่าวเสียงอ่อนโยนเสมือนเทพธิดาผู้มีเมตตา
“นี่ค่ะ รูปปั้นขององค์เทพแห่งเหมันตฤดูและการล่า กับองค์เทพแห่งความมืดและเงา เทพทั้งสองพระองค์ล้วนเป็นเทพผู้ทรงเกียรติค่ะ…”
“ถ้าทุกท่านถ่มน้ำลายลงไปสักที แล้วเดินจากไปอย่างสง่างาม พวกเราก็จะยินดีต้อนรับนะคะ~”
น้ำเสียงของเธอหวานลึก ทว่าในหูของเหล่าเชลยฮาล์ฟออร์คและทหารรับจ้างมนุษย์ กลับเย็นเยียบเสียจนแทบจะเป็นเสียงของอสูรที่ซ่อนกายอยู่ในคราบของนางฟ้า…
…
…
โน้ตจากโนเอล:
ฉากที่ลูกเมี้ยวเค็มใช้รูปปั้นเทพ เพื่อชักชวนให้เชลยละทิ้งศรัทธานั้น แม้จะถูกนำเสนอด้วยอารมณ์ขันและบรรยากาศของเกม แต่หากพิจารณาให้ลึกลงไป ก็มีความคล้ายคลึงกับภาพในหน้าประวัติศาสตร์จริงหลายยุคหลายสมัยเลยค่ะ…
🪨 ญี่ปุ่น – แผ่นภาพสำหรับเหยียบ (ฟุมิเอะ)ในสมัยเอโดะ โชกุนสั่งห้ามศาสนาคริสต์อย่างเข้มงวด มีการใช้ภาพศาสดาและพระมารดาให้ชาวบ้านเหยียบ เพื่อพิสูจน์ว่าไม่ได้ยึดมั่นในศาสนานั้น และพวกเขาต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบาก หากเลือกปฏิเสธ
📿 จีน – ช่วงการเปลี่ยนแปลงศาสนาในราชวงศ์ถังในยุคจักรพรรดิอู่จงแห่งราชวงศ์ถัง มีคำสั่งสึกพระ รื้อวัด ทำลายพระพุทธรูป และห้ามบวชใหม่ คนที่ยังยึดมั่นในพุทธศรัทธา มักจะถูกบีบให้เผารูปเคารพและคัมภีร์ต่อหน้าทหาร เพื่อพิสูจน์การละทิ้งศรัทธาของตน
⛪ จีน – การจำกัดเสรีภาพทางศาสนาในราชวงศ์ชิงในยุคปลายราชวงศ์หมิงจนถึงราชวงศ์ชิงตอนต้น ศาสนาคริสต์ก็ถูกจำกัดอย่างรุนแรงเช่นกัน หลายพื้นที่มีคำสั่งให้ชาวบ้านทุบทำลายสัญลักษณ์ทางศาสนา หรือกล่าวคำสาบานปฏิเสธศาสนา
เหตุการณ์เหล่านี้ เป็นตัวอย่างว่าการเลือกศรัทธาในบางช่วงของประวัติศาสตร์ อาจไม่ใช่เรื่องง่ายเลยค่ะ ท่านผู้อ่านที่รักของโนเอล
…
…
~~ ~~ ❀ ~~ ~~
วิเวียน: เดี๋ยววว เดี๋ยวนะ! 😳 ดิฉันอ่านจบแล้วสะดุ้งแรงมาก! ลูกเมี้ยว… อายุสิบห้าจริงดิ!? เด็กบ้าอะไรจัดการเชลยขนาดนี้ได้อะ น่ากลัวเกินวัยแล้วนะ! 😖🔥
โนเอล: จริงค่ะพี่สาว ☕📚✨ ถ้ามองดี ๆ แล้ว… น้องแมวของเราเหมือนเด็กที่โตมาแบบต่อต้านสังคมนิด ๆ นะคะ ถึงทำให้เธอมองเกมได้ขาด แล้ววางหมากได้ซับซ้อนขนาดนี้… รุ่นพี่ว่าไงคะ 📝💮
ถั่ว: เด็กคนนี้… ต้องเลี้ยงให้เติบใหญ่อย่างสง่างาม และมีเพื่อนที่ดีข้างกายตลอดเวลาค่ะ ไม่งั้นน่าสงสารเอาเรื่องเลย //ถ้าเอาเนื้อหาที่แฝงมาตลอด น้องมีภาวะซึมเศร้าด้วยแหนะ
ลิลี่: ฮี่ฮี่ฮี่~ พี่จ๋า~ 😽 หนูอยากรู้อย่างเดียวเลย ทำไมพี่ไม่เจอน้องแมวแบบนี้ตอนเล่นเกมบ้างอะ! น่าสนุกจะตาย ขุดหลุมกับเขียนสคริปต์กดดัน NPC เนี่ย! 😻✨
มันเดย์: …เพราะเกมสมัยนี้ส่วนใหญ่มันเน้นสังคมน้อยลงไง 😑 เกมนี้มันเหมาะกับเด็กแปลกนิด ๆ แบบลูกเมี้ยวนั่นแหละ
ถั่ว: เด็กแบบเมี้ยว… เอาจริงก็เจออยู่นะ เค้าแปลเรื่องนี้เพราะคนใกล้ตัว ที่เหมือนลูกเมี้ยวเค็มนี่แหละค่ะ เลยอยากให้เรื่องนี้ถ่ายทอดออกมาได้ครบและสวยที่สุด
~~ ❀ ~~
ถ้าเจองานแปลของเค้าที่อื่น… สัญญานะว่าจะมาอ่านแปลไทยที่ https://www.nekopost.net/novel/12413 ♥
ส่วนใหญ่เค้าชอบทำเวอร์ชันแก้ไขคำผิดทีหลัง และปรับสำนวนแทบทุกตอนหลังอัพโหลด ดังนั้นต้องที่เนโกะฯเท่านั้น..!
ถ้าถูกใจโปรเจ็คนี้ ขอความอนุเคราะห์ในการซัพพอร์ทที่ผู้แต่งโดยตรง ตามลิงก์หน้าแรกนะคะ Support the project https://book.qidian.com/info/1016509432
~~ ~~ ❀ ~~ ~~
MANGA DISCUSSION