หลังจากทำข้อตกลงกับราชามังกรแพลตินัมแล้ว อีฟก็กลับมายังอาณาจักรแห่งเทพของตน
เธอนั่งอยู่บนบัลลังก์กลางวิหารที่เงียบสงบ ทว่าจิตใจของเทพธิดากลับไม่ได้สงบตามบรรยากาศรอบตัวนัก…
ปลายนิ้วของเธอเคาะเบา ๆ กับที่วางแขน เสียงสะท้อนดังแผ่วในห้องโถงอันว่างเปล่า ดวงตาสีม่วงอ่อนทอดมองไปในอากาศอย่างครุ่นคิด
ต่อให้ตาลุงจะเป็นเทพมังกรผู้ทรงคุณธรรม
แต่ท่าทีตะกี้มันมันดูดีเกินไปนิดนะ
‘ขอยืมพลังของคทาแห่งชีวิต เพื่อชำระสายเลือดของเผ่ามังกรให้บริสุทธิ์’ …?
ก็จริงอยู่ที่คทานี้มีประสิทธิภาพสูงสุด ตอนอยู่ในมือเค้า
แต่นั่นหมายถึงไรน์ฮาร์ทจะต้องพึ่งพาเค้าไปตลอด
ถ้าคิดตามนิสัยหยิ่ง ๆ ของเผ่ามังกร มันดูผิดปกติสุด ๆ เลยค่ะ
ถ้าเขาต้องการฟื้นฟูเผ่าพันธุ์จริง ๆ
วิธีที่ปลอดภัยที่สุด ก็คือการใช้คทาแห่งชีวิตเองเท่านั้น…
เพราะงั้น การเอามาคืน กับการเอาไข่มังกรมาไว้กับเอลฟ์น่ะ แปลกค่ะ
ทำแบบนี้ไปแล้วจะได้อะไรนะ?
อีฟนิ่งคิด พลางหายใจเข้าออกอย่างแผ่วเบา ปลายนิ้วยังคงเคาะที่วางแขนเป็นจังหวะสม่ำเสมอ
เธอจำเป็นต้องพิจารณาเรื่องนี้ให้ถี่ถ้วน แม้ที่ผ่านมา เธอจะตอบตกลงโดยไม่ลังเล แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเธอจะไว้วางใจอีกฝ่ายจนหมดใจ
สถานะของเทพธิดาในปัจจุบันนั้นอ่อนไหวเกินไป หากความลับบางอย่างรั่วไหล เธออาจกลายเป็นเป้าสังหารของทั้งเทพและมวลมนุษย์ในเวลาไม่กี่ลมหายใจ
อีฟถอนหายใจแผ่วเบา ก่อนจะเรียกเศษคทาแห่งชีวิตออกมา
เศษชิ้นส่วนใสกระจ่างเหล่านั้นนอนอยู่กลางฝ่ามือ แสงเรืองรองส่องระยิบ สะท้อนกลิ่นอายแห่งชีวิตอันเปี่ยมล้นอย่างนุ่มนวล
เธอเพ่งมองมันอย่างนิ่งงัน แววตาแฝงแววครุ่นคิดลึก
ดูเหมือนว่าไรน์ฮาร์ทจะกำลังส่งสัญญาณบางอย่างถึงเค้า เพื่อแสดงจุดยืนของเผ่ามังกร…
เขาแสดงความเป็นมิตรอย่างเปิดเผย
แต่ในความเป็นมิตรนี้ มันน่าจะมีความหมายซ่อนอยู่
ขณะคิดถึงจุดนี้ จู่ ๆ อีฟก็รู้สึกวูบไหวในใจ
เดี๋ยวก่อน!
ถ้าไรน์ฮาร์ทเดาตัวจริงของเค้าออกตั้งแต่ต้นล่ะ?
ทันทีที่ความคิดนี้แล่นผ่าน สมองของเทพธิดาที่เอนพิงบัลลังก์อยู่ก็เหมือนถูกปลุก อีฟพลันนั่งหลังตรงขึ้นทันที สีหน้าที่เคยสงบนิ่งแปรเปลี่ยนเป็นความจริงจังในพริบตา
นั่นไง!
แล้วยังมาทำเนียน มองต้นไม้โลกก่อนจะพูดเรื่องเพื่อนเก่าอีก
ของแบบนี้ปกติมันต้องคิดในใจไม่ใช่เหรอคะ?
การมาพูดต่อหน้าเค้า ก็คือการจงใจบอกอะไรบางอย่าง!
แถมยังมีเรื่องคำเตือนอีก!
กำลังบอกเค้าให้เตรียมรับมือเรื่องสาวกของเทพองค์อื่นที่กำลังเดินทางมาชัด ๆ เลย!
เมื่อคิดถึงจุดนี้ สีหน้าของอีฟก็เริ่มหม่นลง แม้จะเป็นเพียงการคาดเดา แต่เมื่อมองจากทุกมุม การกระทำหลายอย่างของไรน์ฮาร์ทก็ดูจะสอดคล้องกันหมด
หรือว่า… นี่จะเป็นการลงทุน?
อีฟขมวดคิ้วเล็กน้อย ดวงตาฉายแววครุ่นคิด แต่เมื่อเธอลองหาองค์ประกอบที่เกี่ยวโยงกับความคิดนี้ เธอก็ยังรู้สึกว่ามันมีบางอย่างที่ไม่สอดคล้องกันอยู่ดี
ถ้าเขารู้ตัวตนที่แท้จริงของเค้าแล้วล่ะก็…
รู้มาจากไหน? รู้ได้ไง? รู้ตั้งแต่ตอนไหน?
เค้าไม่น่าปล่อยหลักฐานเอาไว้นี่หว่า…
หรือลุงจะอ่านความคิดของเอลฟ์ได้?
ไม่น่าเป็นไปได้ หรือต่อให้ทำได้ เค้าก็ต้องรู้
นี่มันอาณาเขตของเค้าเชียวนะ…
เมื่อเค้นความคิดเท่าไรก็ยังไม่เป็นที่กระจ่าง อีฟจึงพยายามตรวจสอบมาตรการทั้งหมดที่ใช้ปิดบังตัวตนอย่างละเอียดอีกครั้ง แต่เธอก็ยังไม่พบช่องโหว่แม้แต่น้อย
สุดท้าย เทพธิดาก็ได้แต่ถอนหายใจเบา ๆ อย่างจนปัญญา
ก็ไม่ได้พลาดตรงไหนนี่นา
แถมบัลลังก์ต้นไม้โลกองค์ก่อนในวิหาร ก็ยังร้างอยู่จนถึงทุกวันนี้ ไม่น่ามีใครเชื่อมโยงเรื่องต้นไม้โลกมาที่เค้าได้เลย
เดิมทีมันก็ไม่เมคเซนส์ตั้งแต่แรกแล้ว ใครจะไปคิดว่าจะมีคนข้ามโลก มาเกิดใหม่เป็นต้นไม้โลก? ไม่ใช่นิยายซะหน่อย ของแบบนี้ไม่มีในประวัติศาสตร์ซากัสแน่ ๆ ค่ะ…
จะว่าไป…
ปรึกษาพี่สาวดีกว่า พี่สนิทกะต้นไม้โลกองค์ที่แล้ว แถมเป็นเทพโบราณของแท้ อาจจะรู้อะไรเกี่ยวกับลุงไรน์ฮาร์ทก็ได้
อีฟตัดสินใจที่จะลงมือรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับไรน์ฮาร์ทจากเทพธิดาแห่งความตายอย่างลับ ๆ
การที่อีกฝ่ายแสดงไมตรีมานั้น แม้จะดูจริงใจเพียงใด แต่เบื้องหลังของไมตรีนี้ย่อมต้องมีเหตุผล และการเข้าใจถึงที่มาอย่างถ่องแท้ก็ย่อมเป็นสิ่งจำเป็นยิ่งสำหรับเธอผู้แบกรับโชคชะตาของทั้งดินแดนซากัส
เมื่อตระหนักเช่นนั้น อีฟก็หยิบหีบแห่งผู้ล่วงลับขึ้นมา แล้วส่งข้อความหนึ่งไปถึงเทพธิดาแห่งความตาย ก่อนจะหันกลับมาจับจ้องเศษคทาแห่งชีวิตในมืออย่างตั้งใจ
รอยยิ้มบางเบาผุดขึ้นบนริมฝีปากของเทพธิดาสาว ก่อนที่เธอจะดึงคทาแห่งชีวิตออกมาโดยไม่ลังเล
เพียงคทาศักดิ์สิทธิ์นั้นเผยโฉม เศษคทาที่อยู่ในมือของเธอก็เปล่งประกายเจิดจ้ายิ่งขึ้นราวกับตอบรับการปรากฏตัวของสิ่งคู่ควร
เศษคทาหลุดลอยขึ้นจากฝ่ามือของเธออย่างอิสระ และหลอมรวมเข้ากับคทาแห่งชีวิตอย่างเป็นธรรมชาติ พร้อมปล่อยแสงสว่างอันเจิดจ้าราวเทพอัสดงไปทั่วทั้งวิหาร กลไกแห่งการฟื้นฟูซึ่งฝังแน่นในสัญชาตญาณของมหาศาสตรา เริ่มทำงานโดยไม่ต้องอาศัยสิ่งใดกระตุ้น…
ในเวลาเพียงไม่กี่ลมหายใจ เศษคทาที่ได้รับมาจากไรน์ฮาร์ทก็แนบสนิทเข้ากับปลายคทาหลักอย่างสมบูรณ์ เติมเต็มส่วนที่ขาดหายไปได้อย่างพอดิบพอดี
แสงแห่งชีวิตเจิดจ้าอีกครั้ง ก่อนที่รูปลักษณ์ของคทาแห่งชีวิตจะเริ่มเปลี่ยนแปลงไปอย่างเด่นชัด กลายเป็นคทาขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเดิมถึงสองในสาม ด้ามคทามีสีเขียวเข้มสูงเท่ากับร่างของมนุษย์ผู้หนึ่ง พันรอบด้วยเถาวัลย์สีเขียวขจี
ส่วนยอดของคทานั้นเป็นถ้วยรองขนาดใหญ่ ประดับด้วยอัญมณีเปล่งประกายระยิบระยับราวแสงดาวในราตรีนิรันดร์ ล้อมรอบด้วยลวดลายแกะสลักอันวิจิตรบรรจง รูปแบบนี้คือสภาพที่สมบูรณ์เกือบครบถ้วนของคทาแห่งชีวิต ทว่ายังมีรอยแตกร้าวหลงเหลืออยู่หลายแห่ง และอัญมณีที่ส่วนยอดก็ยังมีรอยบิ่นเล็กน้อยให้เห็นเด่นชัด
อีฟพินิจคทาในมือด้วยสายตาลึกซึ้ง พร้อมคาดการณ์ในใจว่า เศษคทาจากไรน์ฮาร์ทยังมิได้หลอมรวมอย่างสมบูรณ์กับคทาหลัก หากปล่อยไว้ให้ฟื้นฟูตามธรรมชาติแล้วละก็ เกรงว่าจะต้องรออีกเนิ่นนานกว่ามันจะกลับคืนสู่สภาพสมบูรณ์ดังเดิม
แต่แน่นอน เทพธิดาผู้ชาญฉลาดอย่างเธอ ย่อมมีวิธีเร่งรัดกระบวนการนั้นให้รวดเร็วยิ่งขึ้น
เธอยื่นมือออกมาอย่างแผ่วเบา กระแสพลังศักดิ์สิทธิ์บริสุทธิ์ของเทพธิดาแผ่ซ่านออกจากฝ่ามือ ส่องประกายราวแสงแห่งรุ่งอรุณ ห่อหุ้มคทาแห่งชีวิตทั้งเล่มไว้อย่างแช่มช้าและอ่อนโยน…
“…หลอมรวม”
อีฟเอ่ยเสียงแผ่วเบา
ทันทีที่ถ้อยคำแห่งพลังหลุดจากริมฝีปาก คทาในมือของอีฟก็เปล่งแสงเจิดจ้าขึ้นทันใด
รอยร้าวที่แตกรานทั่วทั้งผิวคทาค่อย ๆ ฟื้นฟูกลับคืนดังเดิมอย่างเชื่องช้าทว่ามั่นคง มวลพลังแห่งชีวิตเริ่มแผ่ซ่านออกจากคทาอย่างต่อเนื่อง กระจายกลิ่นอายแห่งความงอกงามไปทั่วบริเวณ
และแล้ว ท่ามกลางแสงศักดิ์สิทธิ์ที่ทอทาบอยู่รอบคทาแห่งชีวิต ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์
ดอกไม้หลากสีผลิบานขึ้นกลางอาณาจักรของเธอ เถาวัลย์เขียวขจีแผ่ขยายพันเกี่ยวขึ้นจากพื้นเบื้องล่าง หญ้าเขียวสดผลิใบ และเจริญเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว จนกลายเป็นฐานตั้งอันงดงาม รองรับคทาแห่งชีวิตไว้กลางวิหารศักดิ์สิทธิ์ ทุกสรรพสิ่งล้วนงอกเงยจากพลังของคทาอย่างแท้จริง
ประมาณครึ่งเดือนสินะ
อีฟพิจารณา พลางทอดมองฐานที่ก่อตัวขึ้นอย่างมั่นคง เธอประเมินความเร็วในการฟื้นฟูของคทาแห่งชีวิตอย่างเงียบงัน ก่อนจะหมุนกายเดินจากไป ปล่อยให้คทาอันทรงพลังนั้นแช่มช้าอยู่ท่ามกลางวิหารอันศักดิ์สิทธิ์ ในช่วงเวลาแห่งการรอคอย… เธอยังมีเรื่องสำคัญอื่นที่ต้องจัดการ
…
เรื่องแรกก็คืออีเวนท์มังกรผุดค่ะ…
ทุก ๆ เดือน เค้าจะมียูนิตเผ่ามังกรมาให้เล่นตั้งห้าตัวแหนะ
ต้องมีนักรบมังกรเกิดขึ้นเพียบแน่เลย XD
มุมปากของเทพธิดายกขึ้นเล็กน้อย มังกรในซากัสมีรูปร่างเหมือนกับมังกรตะวันตกของดาวเคราะห์สีคราม ความหลงใหลในมังกรของผู้ถูกเลือกจึงลึกซึ้งถึงขีดสุด
ยกตัวอย่างเช่นมังกรดำไมเรล ที่มีผู้เล่นจำนวนมากพยายามหว่านล้อม ประจบ หรือแม้แต่ป้อนอาหารให้มันทุกวี่ทุกวัน หวังเพียงให้เจ้ามังกรน้อยยอมรับและเปิดทางสู่ความฝัน นั่นคือการได้กลายเป็นนักรบมังกร
หรือเค้าควรจะเปิดอาชีพนี้ให้เป็นเรื่องเป็นราวเลยดี?
แน่นอนว่า ผลลัพธ์ของความพยายามเหล่านั้น ล้วนจบลงด้วยความล้มเหลว ผู้เล่นเพียงคนเดียวที่ไมเรลยอมให้ขี่ก็มีเพียงลูกเมี้ยวเค็มเท่านั้น และนั่นก็เป็นเพราะเจ้ามังกรดำน้อยมองเธอเป็นเพื่อน มิใช่ผู้ทำพันธะสหายอย่างเป็นทางการ
หากจะเป็นนักรบมังกรอย่างแท้จริง ต้องมีการลงนามในพันธะสหาย ทว่าไมเรลได้ลงนามในสัญญานายบ่าวกับอีฟแล้ว ย่อมไม่อาจผูกพันธะสหายกับใครได้อีก
แต่ในอนาคต มังกรที่ผ่านการชำระสายเลือดแล้วจะเปลี่ยนไป
เมื่อคิดถึงจุดนี้ แววตาของอีฟก็เปล่งประกายขึ้นในทันที ดวงจิตของเธอดำดิ่งเข้าสู่ระบบเกมที่เธอสร้างขึ้นเองด้วยมือ และเริ่มลงมือดำเนินการบางอย่างในทันใด
เธอควบคุมพลังเทพของตนเอง สร้างฉากเนื้อเรื่องจากการพบกับราชามังกรแพลตินัมขึ้นมาเป็นแอนิเมชัน เพื่อใช้แทนที่ฉากเปิดเรื่องเดิมที่เคยมีอยู่
อีฟมิได้มีเจตนาปิดบังการพบกันระหว่างเธอกับราชามังกรแม้แต่น้อย ตรงกันข้าม เธอตั้งใจจะใช้ฉากมอบคำมั่นกับไรน์ฮาร์ท เปิดตัวเรื่องราวให้ผู้เล่นได้รับรู้ในฐานะเนื้อเรื่องอย่างเป็นทางการ เพื่อเป็นการอุ่นเครื่องต้อนรับการมาถึงของสหายมังกรในอนาคต
แน่นอนว่าในแอนิเมชันนั้น เธอจะลบข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับความลับของเทพออกไปจนหมดสิ้น โดยเฉพาะเรื่องของมหาวิหาร
เพราะสำหรับผู้เล่นแล้ว เพียงแค่รู้ว่าเทพมังกรแพลตินัมมาเยือนเทพธิดาแห่งชีวิต และขอความช่วยเหลือในการชำระสายเลือดของเผ่ามังกร แลกกับการมอบมังกรให้เป็นสหายของผู้ถูกเลือก เพียงเท่านี้ก็เพียงพอแล้ว
เมื่อเตรียมแอนิเมชันเสร็จสิ้น อีฟก็ยังมิได้เผยแพร่ในทันที เพราะเวลาที่เหลืออยู่ก่อนที่เผ่ามังกรจะมาถึงนั้นยังมีอีกพอสมควร เธอวางแผนจะเผยแพร่ล่วงหน้าเพียงหนึ่งหรือสองวันก่อนกำหนด
อย่างไรก็ดี ไม่นานหลังจากที่เธอเตรียมทุกอย่างเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว จู่ ๆ ก็เกิดแรงสะเทือนที่คุ้นเคยขึ้นในจิตวิญญาณของเธอ
อีฟรู้ได้ทันทีถึงสิ่งที่เกิดขึ้น เธอรีบกลับไปยังอาณาจักรเทพของตนโดยไม่รีรอแม้สักวินาที
เมื่อกลับถึงบัลลังก์ศักดิ์สิทธิ์ เธอก็หยิบหีบแห่งผู้ล่วงลับออกมา และในยามนี้ หีบนั้นกำลังเปล่งแสงลึกลับเรืองรอง
โอเน่จัง!
โอเน่จังตอบกลับไวเว่อร์!
เธอรีบเปิดมันออกโดยไม่รั้งรอ และในเวลาเดียวกันนั้นเอง น้ำเสียงสุดขี้เกียจที่แฝงด้วยพลังอันลึกล้ำของเฮลาก็ดังก้องสะท้อนไปทั่วห้องโถงแห่งวิหารเทพ
“ท่านอีฟ เรื่องไรน์ฮาร์ทก็ตามที่ท่านคิดเลย”
“ราชามังกรแพลตินัม เคยมีความสัมพันธ์บางอย่างกับต้นไม้โลกองค์ที่แล้ว หรือหากจะกล่าวให้ชัด ในจักรวาลนี้ เทพมังกรแพลตินัมผู้นี้เคยมีปฏิสัมพันธ์กับเทพฝ่ายธรรมะทุกองค์”
“เขาเป็นเทพโบราณผู้เปี่ยมด้วยมิตรสหาย และเป็นหนึ่งในเทพมังกรผู้ทรงพลัง เป็นรองเพียงแต่มังกรบรรพกาลเท่านั้น”
“ส่วนคำถามว่าไว้ใจได้ไหม บอกเลยว่าได้ในระดับนึง เมื่อครั้งที่เหล่าเทพร่วมกันโจมตีต้นไม้โลกจนดับสูญ ราชามังกรแพลตินัมเคยโกรธเคือง และประณามเหล่าเทพเหล่านั้นอย่างรุนแรง…”
“ยิ่งไปกว่านั้น ข้าเคยได้ยินข่าวลือว่า หากมิใช่เพราะมังกรบรรพกาลห้ามไว้ เขาคงลงมาปกป้องต้นไม้โลกด้วยตัวเองแล้ว ต่อให้มันเป็นศึกระดับหนึ่งต่อร้อย หนึ่งต่อพันก็เถอะ”
“และในเมื่อเขาแสดงไมตรีต่อท่านเช่นนี้ ข้าคิดว่าเขาน่าจะเดาได้แล้วว่าท่านคือใคร เพียงแต่เลือกจะไม่เอ่ยออกมาตรง ๆ เท่านั้น ส่วนเขาเดาได้อย่างไร ข้าเองก็ไม่ทราบ แต่ดูจากสถานการณ์ตอนนี้ สาเหตุไม่น่าจะมาจากตัวท่านเอง”
“อย่างไรก็ดี ข้าก็มีข้อสงสัยบางอย่าง… บางทีอาจเกี่ยวข้องกับคำทำนายโบราณ แต่ด้วยเหตุผลบางประการ ข้ายังไม่สามารถเปิดเผยคำทำนายนั้นแก่ท่านได้ในเวลานี้…”
“ด้วยเหตุนี้ เพื่อความปลอดภัย ข้าแนะนำให้ท่านเสริมการปกปิดตัวตนของตนให้แข็งแกร่งเข้าไว้ ระวังตัวไว้ย่อมไม่เสียเปล่า เชื่อข้าเถอะ”
“ส่วนเรื่องของมหาวิหารของไอ้ปลิงพวกนั้น หากพวกเขาส่งทูตมา ท่านก็แค่ถ่วงเวลาไว้ ในฐานะพันธมิตรของท่าน ข้าจะคอยช่วยเสริมการปิดบังจากอีกฝั่งหนึ่งเช่นกัน”
“ข้าหวังว่าท่านจะก้าวสู่ความยิ่งใหญ่ในเร็ววัน…”
เสียงของเฮลาขาดหายไป ณ จุดนั้น ทิ้งความสงัดว่างไว้ภายในวิหารเทพ…
อีฟนิ่งงัน ดวงตาสงบ แต่นัยน์ตาฉายแววสับสนเล็กน้อย
คำทำนายโบราณ…?
ไหงจู่ ๆ ถึงมีธงแดงผุดขึ้นมาล่ะคะ?!
คิ้วเรียวขมวดเล็กน้อย สีหน้าของเทพธิดาแปรเปลี่ยนไปอีกครั้ง
แล้วการบอกไม่ได้นี่คืออะไร?
เกี่ยวกับเค้าใช่มั้ย!
เธอครุ่นคิดในใจ ก่อนจะถอนหายใจแผ่วหนึ่ง ความรู้สึกที่แทรกซึมเข้ามานั้น ทั้งอึดอัด และพร่าเลือนเกินจะจับต้อง
เค้ายังไม่รู้อะไรอีกเยอะเลยสินะ…
ท้ายที่สุดแล้ว เธอก็เป็นเพียงวิญญาณจากต่างโลก แม้จะได้รับพลังจากต้นไม้โลก ทว่าเธอกลับไม่ได้รับมรดกแห่งความทรงจำบางส่วนจากต้นไม้โลกองค์ก่อน ทุกสิ่งที่เกี่ยวข้องกับเหล่าเทพระดับสูงหรือเหตุการณ์เบื้องลึกในซากัสนั้น เทพธิดาแทบไม่ทราบเลยแม้แต่น้อย
แน่นอนว่า แม้แต่คำทำนายที่เฮลากล่าวถึงนั้น ต้นไม้โลกองค์ก่อนเองก็อาจไม่เคยรับรู้เช่นกัน
อีฟส่ายศีรษะเบา ๆ ราวต้องการสลัดความคิดอันหนักอึ้งออกไปชั่วขณะ ก่อนจะปล่อยประเด็นทั้งหลายให้หลุดลอยออกจากศีรษะ เธอเลือกจะเก็บมันไว้ในก้นบึ้งของหัวใจ เพื่อจะได้มีสมาธิจัดการสิ่งที่อยู่ตรงหน้า
ไว้เค้าลองให้ผู้เล่นช่วยกันหาข้อมูลละกัน
ไม่ก็ลองถามพวกมังกรดูแบบอ้อม ๆ
เธอเคาะที่วางแขนของบัลลังก์ต่อไป ดวงตาไหววูบอย่างครุ่นคิด แม้จะยังไม่อาจแน่ใจได้ว่าไรน์ฮาร์ทรู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของเธอหรือไม่ แต่สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนยิ่งกว่าสิ่งใดก็คือ ไมตรีจิตของราชามังกรแพลตินัมผู้นั้นเป็นความจริง
เมื่อคิดถึงตรงนี้ หัวใจของอีฟก็อุ่นขึ้นเล็กน้อย ความวางใจแผ่ซ่านในอกอย่างเงียบงัน แม้จะเพียงน้อยนิด แต่มันก็ทำให้เธอรู้สึกถึงแสงสว่างเล็ก ๆ ท่ามกลางม่านหมอกแห่งความสิ้นหวัง
เธอถอนหายใจแผ่วเบา ก่อนจะลงมือเสริมการพรางตัวให้แน่นหนายิ่งขึ้น
วิธีการนั้นไม่ซับซ้อนนัก เธอเพียงซ่อนเขตแดนของตนให้ลึกและแนบเนียนยิ่งกว่าเดิม พร้อมกับตกแต่งต้นไม้โลกปลอมที่ตั้งอยู่นอกเขตแดนให้สมจริงขึ้นอีกเล็กน้อย เพื่อเบี่ยงเบนสายตาของผู้มาเยือน
~~ ❀ ~~
วันเวลาค่อย ๆ เคลื่อนไปในความเงียบงัน กระทั่งครบสิบสี่วันหลังจากไรน์ฮาร์ทจากไป
คทาแห่งชีวิต ได้ฟื้นสภาพอย่างสมบูรณ์ในที่สุด
ในชั่ววินาทีนั้น พลังชีวิตอันน่าอัศจรรย์ก็แผ่ออกมา มันเป็นสายธารพลังที่ไม่สิ้นสุด แม้ว่าอีฟจะไม่ได้อยู่ในอาณาจักรของตนในขณะนั้น เธอก็ยังสามารถสัมผัสถึงการฟื้นคืนอย่างชัดเจนและแจ่มแจ้ง
หัวใจของเธอสั่นสะท้านในชั่วพริบตา ก่อนจะรีบเร่งกลับสู่วิหารของตนในทันที
…
เมื่อกลับถึงวิหารเทพ สรรพสิ่งที่อยู่ตรงหน้ากลับเปลี่ยนแปลงไปโดยสิ้นเชิง สถานที่แห่งนี้ถูกปกคลุมด้วยพลังแห่งชีวิตอันหนาแน่น ราวหมอกน้ำค้างในยามรุ่งอรุณที่ชโลมทั่วอาณาเขต บรรยากาศชุ่มชื่นและเปี่ยมด้วยพลังอย่างจับต้องได้ ประหนึ่งอยู่กลางสวนสวรรค์ที่ผลิบานชั่วนิรันดร์กาล
แท่นฐานที่เคยมีรูปทรงหอคอยรองรับคทาแห่งชีวิต บัดนี้หายไปอย่างไร้ร่องรอย เหลือเพียงอากาศเบื้องกลางวิหารที่คทาแห่งชีวิตลอยนิ่งอยู่ในความสงบ แสงเรืองรองอ่อนละมุนโอบล้อมมันไว้ ดั่งผลงานศิลป์ที่ไร้ซึ่งราคี
เมื่อสายตาของอีฟได้เห็นมัน ความรู้สึกอบอุ่นลึกซึ้งก็เอ่อล้นขึ้นในจิตวิญญาณ นี่คือสายสัมพันธ์สูงสุดระหว่างเทพกับมหาศาสตรา เป็นความสอดประสานของจิตวิญญาณที่เชื่อมโยงกันอย่างแนบแน่น
ในฐานะที่คทาแห่งชีวิตถูกหล่อหลอมจากแก่นของต้นไม้โลก อีฟจึงสามารถควบคุมมันได้อย่างสมบูรณ์ เธอยื่นมือออกไปอย่างแผ่วเบา เรียกคทาแห่งชีวิตเข้าสู่อุ้งมือของตนด้วยสายสัมพันธ์ไร้เงื่อนไข…
แต่แล้ว ในชั่วขณะที่สัมผัสถึงตัวคทา อีฟก็พลันชะงักเล็กน้อย ดวงตาไหววูบด้วยความฉงน
ที่ยอดคทา บริเวณอัญมณีล้ำค่าที่เคยแตกร้าว ยังหลงเหลือรอยบิ่นอยู่เล็กน้อย มันไม่ได้กลับคืนสู่ความสมบูรณ์อย่างที่เธอคาดหวังไว้
ยังขาดอยู่อีกส่วนสินะ…
และในขณะนั้นเอง อีฟพลันสัมผัสได้ถึงบางสิ่งที่แปลกประหลาด…
มีบางสิ่งบางอย่างจากทิศตะวันตกที่ห่างไกล กำลังเรียกหาเธออย่างแผ่วเบา แต่กลับกระตุ้นหัวใจของเธอให้เต้นระรัวขึ้นในพริบตา…
…
…
~~ ~~ ❀ ~~ ~~
วิเวียน: …หึ๊ม? เศษสุดท้ายของคทา… ทั้งที่มันเหลือแค่ รอยบิ่นเล็ก ๆ แต่กลับดูมีค่าขนาดนั้นเลยเหรอคะ? 😠 นี่มันกลิ่นดราม่าชัด ๆ! 🔥🗡️✨
โนเอล: ☕️…รุ่นพี่คะ ดิฉันคิดว่าสิ่งที่เรียกหาจากทิศตะวันตกนั้น อาจไม่ใช่แค่เศษคทาเฉย ๆ ก็เป็นได้ค่ะ… มันอาจเกี่ยวข้องกับพลังระดับบรรพกาล หรือสิ่งที่เทพองค์เก่าเคยซ่อนไว้ก่อนโลกจะเปลี่ยนแปลง… 🤍 ถ้ามองในแง่ของโครงสร้างเรื่อง เศษสุดท้ายนี่เหมือนถูกตั้งใจปูไว้เป็นจุดไคลแมกซ์แน่ ๆ ค่ะ อาจต้องแลกบางสิ่ง หรือเผชิญความท้าทายยิ่งใหญ่ 🌌
ลิลี่: หะ หืมมมม…?! 😳😳 ว่าไปแล้ว ตอนนี้ยาวมากเลยนะคะ! รู้สึกเหมือน ยาวกว่าปกติเป็นเท่าตัว เลยอ่ะ! 😻✨ ปกติก็ยาวอยู่แล้วนะ! แต่ตอนนี้คือแบบ… บอสใหญ่ก็มา พี่อีฟก็ขุดปม ซ่อนความลับ สะสมพลัง แถมปิดท้ายยังมี “แรงเรียกปริศนา” อีก?! 😾💦
ถั่ว: ใช่ค่ะ ยาวแบบเกือบ ๆ จะเท่าตัว แต่บอกเลยว่าช่วงต่อไปเป็นช่วงที่เค้าชอบอันดับต้น ๆ เลย :3
~~ ❀ ~~
ถ้าเจองานแปลของเค้าที่อื่น… สัญญานะว่าจะมาอ่านแปลไทยที่ https://www.nekopost.net/novel/12413 ♥
ส่วนใหญ่เค้าชอบทำเวอร์ชันแก้ไขคำผิดทีหลัง และปรับสำนวนแทบทุกตอนหลังอัพโหลด ดังนั้นต้องที่เนโกะฯเท่านั้น..!
ถ้าถูกใจโปรเจ็คนี้ ขอความอนุเคราะห์ในการซัพพอร์ทที่ผู้แต่งโดยตรง ตามลิงก์หน้าแรกนะคะ Support the project https://book.qidian.com/info/1016509432
~~ ~~ ❀ ~~ ~~
MANGA DISCUSSION