ในส่วนลึกของโลกใต้พิภพ ทิศตะวันตกเฉียงใต้ของรอยแยกลึก
ทะเลสาบใต้ดินกว้างใหญ่ทอดตัวสงบงัน เสมือนกระจกเงาสะท้อนเพดานหินหยดน้ำค้างลงมาเป็นระลอก เสียงสายน้ำแผ่วเบา ดังขึ้นเป็นระยะในความเงียบสงบ
ท่ามกลางความเงียบงันนั้น เงาดำมืดขนาดมหึมาเคลื่อนตัวผ่านผืนน้ำอย่างแผ่วเบา มันคือสัตว์เลื้อยคลานรูปร่างคล้ายจิ้งจกน้ำ ทว่าขนาดตัวของมันใหญ่ราวกับมังกรขนาดเล็ก
แม้ความเคลื่อนไหวของมันจะเชื่องช้า แต่พลังแฝงในทุกอณูของร่างกายกลับไม่อาจมองข้ามได้ ทุกครั้งที่มันเคลื่อนไหว ผิวน้ำก็สั่นไหวเป็นระลอกเล็ก ๆ คล้ายเสียงหัวใจของโลกใต้พิภพที่เต้นอย่างสม่ำเสมอ
บนแผ่นหลังอันกว้างขวางของมัน มีผู้โดยสารหลากชีวิตนั่งอยู่อย่างสงบนิ่ง แต่ละคนล้วนแต่งกายต่างกันออกไป แสดงถึงความหลากหลายของเผ่าพันธุ์ในดินแดนใต้ดิน ประกอบด้วยกลุ่มคนแคระแห่งความมืด และโนมผู้เฉลียวฉลาด
โนมเป็นภูติแห่งผืนปฐพี ผู้มีร่างเล็กจิ๋วเพียงฟุตเศษ พวกเขาเป็นหนึ่งในสิ่งมีชีวิตทรงปัญญาที่ใช้ชีวิตอยู่ในพื้นที่แห่งนี้
แม้เครื่องแต่งกายของคณะเดินทางจะแตกต่างหลากสีสัน แต่สิ่งหนึ่งที่ทุกคนมีร่วมกัน คือสัญลักษณ์รูปเคียวที่ปรากฏบนหน้าอก ประหนึ่งตราสัญลักษณ์แห่งโชคชะตาที่เชื่อมพวกเขาเข้าด้วยกัน
สัญลักษณ์เคียวนั้นเป็นเครื่องหมายศักดิ์สิทธิ์ที่ใช้ในพิธีกรรมทางศาสนา สื่อถึงการนับถือบูชาเทพธิดาแห่งความตาย
ในโลกใต้พิภพอันเต็มไปด้วยความมืดและความขัดแย้งนี้ สัญลักษณ์ดังกล่าวยังแฝงความหมายอีกชั้นหนึ่ง นั่นคือผู้สวมใส่สัญลักษณ์นี้เป็นสมาชิกของ สหพันธรัฐทิชา
สหพันธรัฐทิชา คือองค์กรขนาดใหญ่ที่ครอบครองภูมิภาคตะวันตกของโลกใต้พิภพ ประกอบด้วยนครรัฐขนาดกลางและขนาดเล็กจำนวนมาก ซึ่งล้วนแต่ศรัทธาในอำนาจของเทพธิดาแห่งความตาย
ภายใต้ผืนดินที่มืดมิดและอันตราย การรวมตัวเป็นสหพันธ์หรือนครรัฐจึงเป็นสิ่งจำเป็น แม้ว่าภายในสหพันธ์เองจะมีโครงสร้างที่หลวม ความขัดแย้งและการต่อสู้ระหว่างเมืองต่าง ๆ จะเกิดขึ้นบ่อยครั้ง บางนครรัฐอาจถึงขั้นเป็นศัตรูคู่อาฆาตกัน
แต่ทว่าทุกครั้งที่เผชิญหน้ากับภัยคุกคามจากภายนอก นครรัฐเหล่านี้จะละทิ้งความบาดหมางและความเคียดแค้น หันมาจับมือร่วมใจกันต่อสู้ศัตรูอย่างแน่นแฟ้น สหพันธรัฐทิชาเองก็ไม่ต่างกัน เกิดจากการรวมตัวของนครรัฐผู้ศรัทธาในเทพธิดาแห่งความตาย ยึดครองพื้นที่บางส่วนของเขตชั้นบนในภูมิภาคตะวันตก พวกเขาต่อสู้กับฝ่ายศัตรูของตนอย่างไม่หยุดยั้ง
ศัตรูนั้นก็คือสหพันธรัฐเท็มนา องค์กรขนาดใหญ่ที่นับถือเทพแห่งความมืดและเงา
หากนำสหพันธรัฐทั้งสองมาเทียบกัน สหพันธรัฐเท็มนาที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานและครอบครองนครใต้พิภพกว่า 50 แห่ง ในขณะที่สหพันธรัฐทิชายังคงอ่อนแอและเพิ่งก่อตั้งได้ไม่นาน ราวกับต้นกล้าในป่าทึบที่เพิ่งเริ่มผลิใบ ถึงแม้จะรวบรวมเหล่านครรัฐขนาดกลางและขนาดเล็กเข้าด้วยกันแล้ว สหพันธรัฐทิชาก็ยังมีสมาชิกเพียงแค่ 17 รัฐเท่านั้น ช่างดูเล็กน้อยเมื่อเทียบกับความยิ่งใหญ่ของศัตรู
แม้แต่เมืองเชียร์นาคามซึ่งตั้งอยู่ในรอยแยกลึก ก็เป็นหนึ่งในนครใต้พิภพที่ศรัทธาในเทพธิดาแห่งความตายเช่นเดียวกัน
ทว่า เมืองเชียร์นาคามมีตำแหน่งที่ตั้งอันห่างไกลท่ามกลางเงามืดของถ้ำ อีกทั้งขนาดของเมืองก็กะทัดรัดจนแทบจะจมหายไปในความเวิ้งว้าง
และเมื่อมองย้อนไปในอดีต เมืองนี้ก่อตั้งขึ้นโดยกลุ่มคนแคระแห่งความมืดผู้หลบหนีจากความขัดแย้งตามหัวเมืองต่าง ๆ พวกเขามาจากหลากหลายความเชื่อและศรัทธา ทำให้เมืองนี้ไม่เคยเข้าร่วมกับสหพันธ์ใด ๆ มาก่อน
อย่างไรก็ตาม เมื่อกาลเวลาผ่านไป โบสถ์แห่งเทพธิดาแห่งความตายได้ค่อย ๆ แผ่ขยายอิทธิพลเข้ามาในเมืองเชียร์นาคาม ราวกับเงาที่ซึมซับไปในทุกอณูของเมือง ทำให้เมืองนี้ค่อย ๆ เข้ามาอยู่ภายใต้การควบคุมของโบสถ์อย่างไม่ทันรู้ตัว
ด้วยทำเลที่ตั้งของเมืองเชียร์นาคามซึ่งอยู่ใกล้กับเส้นทางสำคัญที่เชื่อมต่อระหว่างเขตชายแดนตะวันตกของโลกใต้พิภพกับโลกเบื้องบน เมืองนี้จึงมีความได้เปรียบทางภูมิศาสตร์อย่างยิ่ง ความสำคัญของเมืองนี้จึงเพิ่มพูนขึ้นเรื่อย ๆ
และเมื่อพิจารณาเรื่องความศรัทธาในเทพธิดาแห่งความตาย กล่าวได้ว่าเชียร์นาคามคือหนึ่งในจุดยุทธศาสตร์หลักของสหพันธรัฐทิชาไปโดยปริยาย
ในครั้งนี้ คณะทูตผู้เดินทางมาด้วยจิ้งจกน้ำยักษ์ตัวนี้ ก็คือผู้แทนจากสหพันธรัฐทิชา โดยมีจุดหมายปลายทางคือเมืองเชียร์นาคามในรอยแยกลึกนั่นเอง
ที่บริเวณหัวของจิ้งจกน้ำยักษ์ ชายชราร่างเล็กในชุดคลุมสีดำยืนอยู่ เขาคือคนแคระแห่งความมืดผู้มีเครายาวสีเทาแดง ร่างกายบึกบึน เงียบขรึม แต่แฝงไปด้วยอำนาจที่ลึกซึ้ง ราวกับเปลวไฟที่ซ่อนอยู่ภายใต้เถ้าถ่าน
เขาถือไม้เท้าเวทมนตร์สีดำในมือ ดวงตาคมเข้มจับจ้องไปยังเส้นขอบฟ้าในความมืด ใบหน้าของเขาปรากฏรอยย่นและความชราภาพ สะท้อนถึงประสบการณ์และความเหน็ดเหนื่อยที่ผ่านเข้ามาในชีวิต เส้นทางชีวิตที่ทอดยาวประดุจเครายาวสีเทาแดงของเขา
ชายชราผู้นี้มีนามว่า ไฟร์เบียร์ด
ปีนี้ไฟร์เบียร์ดมีอายุถึง 141 ปีแล้ว ชื่อของเขามีที่มาจากความภาคภูมิใจของคนแคระในหนวดเคราอันงดงาม
ในช่วงวัยหนุ่ม ไฟร์เบียร์ดมีเคราสีแดงเพลิงที่ยาวและดกหนา ประดุจเปลวไฟที่ลุกโชนไม่รู้ดับ ความงดงามของเครานี้ทำให้เขาเป็นที่ชื่นชมในหมู่คนแคระ และยังดึงดูดสายตาของทั้งชายหนุ่มและสาวงามในเผ่าได้โดยไม่แบ่งแยก
แน่นอนว่า เรื่องราวเหล่านั้นเป็นเพียงอดีตที่ไกลโพ้น ราวกับฝันที่หลงเหลือเพียงเถ้าถ่าน แม้ว่าไฟร์เบียร์ดจะเป็นยอดฝีมือระดับทองขั้นต้น ทำให้เขามีอายุยืนยาวกว่าคนแคระธรรมดาถึงเกือบสองเท่า แต่เมื่อพิจารณาจากอายุขัยเฉลี่ยของคนแคระแห่งความมืดซึ่งอยู่ที่ราว 100 ปี ไฟร์เบียร์ดในวัย 141 ปี ก็คือผู้เฒ่าผู้แก่โดยไม่ต้องสงสัย
โดยปกติแล้ว สำหรับคนแคระแห่งความมืดที่มีอายุมากถึงเพียงนี้ ไม่ว่าพวกเขาจะยังคงความแข็งแกร่งและพลังอำนาจไว้ได้มากเพียงใด ก็มักจะเลือกที่จะวางมือจากการต่อสู้ หันหลังให้กับสงคราม และใช้ชีวิตอย่างสงบสุขในมุมหนึ่งของนครใต้พิภพ
เหล่าผู้เฒ่าเหล่านี้อาจเข้าร่วมวุฒิสภา เพื่อช่วยชี้แนะและตัดสินใจในเรื่องสำคัญของเมือง แต่ก็หาได้บ่อยนักที่จะเห็นพวกเขาลงสู่สนามรบหรือเผชิญกับอันตรายด้วยตัวเอง พวกเขาคือผู้ที่ผ่านพ้นพายุแห่งกาลเวลาและเก็บเกี่ยวความรู้มาอย่างโชกโชน จนควรได้หยุดพักภายใต้แสงสลัวของคบเพลิงในถ้ำอันสงบ
ทว่า…
สงครามได้มาเยือน
สงครามครั้งนี้มิใช่เพียงการต่อสู้ธรรมดา แต่เป็นสงครามที่ถูกจุดชนวนขึ้นโดยสหพันธรัฐเท็มนา องค์กรผู้ศรัทธาในเทพแห่งความมืดและเงา เป้าหมายของพวกเขาเพื่อพิชิตและทำลายสหพันธรัฐทิชาให้สิ้นซาก ด้วยความต้องการลบชื่อของพวกเขาออกจากหน้าประวัติศาสตร์ของโลกใต้พิภพ
ความเกลียดชังและความโลภของสหพันธรัฐเท็มนาต่อสหพันธรัฐทิชานั้นฝังรากลึกมาเนิ่นนาน ราวกับเถาวัลย์พิษที่เติบโตในเงามืด แต่ถึงแม้ไฟแค้นจะลุกโชน ในความเป็นจริง เมืองต่าง ๆ ภายในสหพันธ์แห่งความมืดก็มักจะหันเขี้ยวเข้าหากันเอง การต่อสู้และแข่งขันภายในเหล่านั้นได้กลืนกินทรัพยากรและพลังอำนาจไปอย่างไร้ประโยชน์
แม้สหพันธรัฐเท็มนาจะมีพลังอำนาจโดยรวมเหนือกว่าสหพันธรัฐทิชาอย่างมาก แต่ด้วยความวุ่นวายภายในเอง ทำให้ในช่วงพันปีที่ผ่านมา ทั้งสองฝ่ายยังคงรักษาสมดุลที่เปราะบางนี้ไว้ได้ ราวกับเชือกที่ถูกดึงจนตึงแต่ยังไม่ขาด
แต่แล้ว…
ทุกสิ่งทุกอย่างก็เปลี่ยนแปลงไป…
เมื่อปีที่ผ่านมา พลังเวทมนตร์ในดินแดนซากัสค่อย ๆ ฟื้นตัวขึ้น และท่ามกลางช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงนี้ เมืองมอร์วา นครใหญ่ในสหพันธรัฐเท็มนา ได้มีจอมเวทผู้ทรงอำนาจก้าวขึ้นมาสู่ฉากหน้า
ลิชคิง เพโรเน ผู้นำแห่งเมืองมอร์วา ได้ใช้โอกาสนี้ฝ่าทะลวงขอบเขตพลัง จนสามารถบรรลุถึงระดับตำนานได้สำเร็จ
ด้วยการสนับสนุนจากอำนาจลึกลับที่ซ่อนเร้นอยู่เบื้องหลัง เพโรเนสามารถรวมพลังของสหพันธรัฐเท็มนาได้ในเวลาอันรวดเร็ว ให้กลายเป็นนครรัฐจำนวนมาก ที่ดำเนินกิจการทางการเมืองภายใต้ธงผืนเดียวกัน
เมื่อพลังอำนาจรวมศูนย์ การรบกวนภายในสงบลง ความขัดแย้งที่เคยกัดกร่อนพวกเขาถูกกวาดทิ้งไป สมดุลอันเปราะบางที่เคยมีมาก็พังทลายลง ราวกับกำแพงหินที่ถูกคลื่นซัดซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนถล่มลง
และเมื่อความสมดุลถูกทำลาย สงครามจึงปะทุขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ทางฝั่งไฟร์เบียร์ด อดีตผู้นำสูงสุดแห่ง เมืองออสทริกา นครใต้พิภพที่ยิ่งใหญ่และทรงอิทธิพลที่สุดในสหพันธรัฐทิชา เขาไม่เพียงแต่เป็นผู้นำผู้มากบารมีเท่านั้น แต่เขายังเป็นบุตรแห่งเทพ ผู้ได้รับพระบัญชาโดยตรงจากเทพธิดาแห่งความตาย และเป็นหนึ่งในผู้นำสูงสุดของเผ่าคนแคระแห่งความมืด ด้วยตำแหน่งและชาติกำเนิดอันสูงส่งเช่นนี้ เขาจึงไม่อาจปฏิเสธความรับผิดชอบที่หนักอึ้งบนบ่าได้
ครั้งนี้ ไฟร์เบียร์ดต้องนำคณะทูตจากนครใต้พิภพต่าง ๆ มุ่งหน้าไปยังเชียร์นาคาม เมืองเล็ก ๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ในเงามืดของถ้ำรอยแยกลึก เป้าหมายของพวกเขาคือขอความช่วยเหลือ เพื่อสร้างปาฏิหาริย์ท่ามกลางสงครามที่โหมกระหน่ำ
ในช่วงวัยหนุ่ม ไฟร์เบียร์ดเคยท่องไปทั่วดินแดนใต้พิภพ ทุกรอยแยก ทุกเส้นทางลับ ล้วนผ่านสายตาและฝีเท้าของเขามาแล้ว เมืองเชียร์นาคามเองก็เช่นกัน
ในความทรงจำของเขา เมืองนี้เคยเป็นเพียงนครเล็ก ๆ ที่ห่างไกล ประหนึ่งดวงดาวเล็กจ้อยในห้วงอวกาศอันมืดมิด
ประชากรทั้งเมืองมีเพียงไม่กี่พันชีวิตเท่านั้น ความแข็งแกร่งของเมืองเรียกได้ว่าต่ำเตี้ยเรี่ยดิน ทรัพยากรและความมั่นคงแทบไม่มีให้เห็น เส้นทางการค้าและความเจริญรุดหน้าไม่เคยย่างกรายมาถึงที่นี่
หากไม่นับเรื่องที่บุตรแห่งเทพอีกคนหนึ่งของคนแคระแห่งความมืดประจำอยู่ในเมืองนี้แล้ว เชียร์นาคามก็แทบไม่มีสิ่งใดที่น่าดึงดูดหรือทรงพลังพอจะรับมือกับอันตรายได้เลย
แท้จริงแล้ว หากไม่ใช่เพราะเมืองนี้ตั้งอยู่ในเขตชายแดนที่ห่างไกลของโลกใต้พิภพ เชียร์นาคามอาจถูกกลืนกินโดยนครใต้พิภพอื่น ๆ ไปนานแล้ว
ทว่า…
เมืองเล็ก ๆ แห่งนี้กลับกลายเป็นความหวัง
ตามพระบัญชาแห่งเทพธิดาแห่งความตาย วิวรณ์จากพระองค์ได้ชี้ทางแก่พวกเขาว่ากุญแจสู่ชัยชนะในสงครามครั้งนี้อาจอยู่ที่เมืองเชียร์นาคาม
พระองค์ได้ส่งสัญญาณให้คณะทูตเดินทางไปยังเชียร์นาคามเพื่อขอความช่วยเหลือ และไม่เพียงเท่านั้น เทพธิดาแห่งความตายยังประทานพระบัญชาให้ติดตั้งวงเวทเคลื่อนย้ายระยะไกลพิเศษ ในแต่ละนครใต้พิภพอีกด้วย
และแน่นอนว่า ปลายทางของวงเวทเคลื่อนย้ายเหล่านั้นก็คือเชียร์นาคาม
หากได้รับการช่วยเหลือจากเมืองเชียร์นาคาม กองกำลังสนับสนุนจากทั่วทุกสารทิศสามารถถูกเคลื่อนย้ายโดยตรง จากเมืองเชียร์นาคามไปยังแต่ละนครใต้พิภพ ราวกับเครือข่ายของรากแก้วแห่งมหาพฤกษา ที่จะหล่อเลี้ยงสนามรบด้วยกำลังพลและความหวัง
แต่ถึงแม้จะได้รับพระบัญชาโดยตรงจากเทพธิดาแห่งความตาย ไฟร์เบียร์ดก็ยังคงสงสัยอยู่ดี…
กองกำลังของเชียร์นาคามจะไปทำอะไรได้?
หัวใจของเขาหนักอึ้ง ความสงสัยและความหวาดระแวงคืบคลานเข้ามา ราวกับเงามืดที่แทรกซึมผ่านรอยแยกของหินผา แม้แต่การเชื่อฟังพระบัญชาแห่งเทพธิดา ก็ไม่อาจปลดเปลื้องความกลัดกลุ้มในใจของเขาได้
ไฟร์เบียร์ดเคยเดินทางไปยังเชียร์นาคามมาก่อน และเขารู้ดีว่าเมืองเล็ก ๆ แห่งนี้มีประชากรเพียงไม่กี่พันคนเท่านั้น
แม้กระทั่งผู้ที่มีพลังถึงระดับเหล็กขั้นสูงก็มีอยู่ไม่มากนัก ในเมืองที่เงียบเหงาและดูไร้พลังป้องกันแห่งนี้ นักรบที่เชี่ยวชาญศิลปะการต่อสู้เป็นสิ่งที่หาได้ยากยิ่ง
เมื่อพิจารณาถึงขนาดของสงครามครั้งใหญ่ที่พวกเขากำลังจะเผชิญหน้า จำนวนของคนแคระแห่งความมืดที่ไม่เชี่ยวชาญการต่อสู้เพียงไม่กี่พันคน จะสามารถสร้างความแตกต่างอย่างไร…
อย่างไรก็ตาม ในฐานะผู้ศรัทธาอันมั่นคงต่อเทพธิดาแห่งความตาย ไฟร์เบียร์ดเข้าใจดีถึงธรรมเนียมปฏิบัติ ของเทพธิดาผู้เป็นที่รัก
เทพธิดาแห่งความตายมักไม่เคยเปิดเผยวิวรณ์หรือพระบัญชาอย่างชัดเจน เธอเป็นผู้สื่อสารผ่านปริศนา บ่อยครั้งที่เธอจะมอบข้อมูลเพียงครึ่งเดียว บางครั้งก็มอบวิวรณ์สั้น บางครั้งก็มอบวิวรณ์แค่บางส่วน ทิ้งเบาะแสให้เหล่าสาวกต้องตีความด้วยตนเอง
และเมื่อไม่นานมานี้ ไฟร์เบียร์ดได้ยินข่าวลือแปลก ๆ บางอย่าง แม้ว่าจะฟังดูเหลือเชื่อ แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าอาจมีความเชื่อมโยงกับพระบัญชาแห่งเทพธิดา
ว่ากันว่า…
เมื่อครึ่งปีก่อน เชียร์นาคามเคยถูกกองทัพอสูรเงาบุกโจมตี
แต่สิ่งที่น่าตื่นตะลึงคือ เมืองเล็ก ๆ แห่งนี้ไม่เพียงแต่สามารถต้านทานกองทัพเงาไว้ได้ แต่ยังสามารถเอาชนะมังกรเงาได้อีกด้วย!
แม้ว่าข่าวนี้จะดูน่าพิศวงและเกินจริง แต่เมื่อพิจารณาถึงเหตุการณ์แปลกประหลาดที่เกิดขึ้นทั่วเขตแดนในช่วงปีที่ผ่านมา ไฟร์เบียร์ดก็ไม่อาจตัดสินได้ว่าเรื่องนี้จริงหรือเท็จ
ในตลาดมืดมีข่าวลือแปลก ๆ ผุดขึ้นมาไม่เว้นแต่ละวัน บางครั้งก็เต็มไปด้วยความจริงที่ซ่อนอยู่ในเงามืด บางครั้งก็เป็นเพียงความเท็จที่ถูกแต่งเติมขึ้น ราวกับม่านหมอกที่ปกคลุมดวงตาของผู้คน
ถึงแม้ว่าไฟร์เบียร์ดจะยังคงสงสัย แต่เขาก็ยังคงทำตามพระบัญชาแห่งเทพธิดาอย่างเคร่งครัด
แต่สำหรับสมาชิกคนอื่น ๆ ในคณะทูต ดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่สามารถทำใจให้สงบได้ง่าย ๆ เช่นเขา
ใบหน้าของพวกเขาล้วนเต็มไปด้วยความเคร่งเครียดและความกังวล
บรรยากาศเช่นนี้ดำเนินไปจนกระทั่งคณะทูตสามารถข้ามผ่านทะเลสาบใต้ดิน และเดินทางมาถึงเชียร์นาคาม… สถานที่อันเป็นหมุดหมายในพระบัญชาของเทพธิดา
เชียร์นาคาม…
ที่นี่สินะ?
เมื่อสายตาของพวกเขาสบเข้ากับกำแพงเมืองที่เตี้ยต่ำ และขนาดของเมืองที่สามารถมองเห็นขอบเขตกำแพงทั้งสี่ด้านได้เพียงในการปราดตาครั้งเดียว ราวกับกล่องเล็ก ๆ ที่วางอยู่ท่ามกลางผืนดินกว้างใหญ่
หนึ่งในสมาชิกคณะทูต ซึ่งเป็นโนมใต้พิภพก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว ความผิดหวังและความกังวลสะท้อนออกมาทางแววตา ราวกับความหวังที่ถูกพัดพาหายไปกับสายลมเย็น…
…
…
~~ ~~ ❀ ~~ ~~
วิเวียน: โอ้โห~ เรื่องนี้นี่ดีกรีความเข้มข้นของการเมืองโลกใต้พิภพมาเต็มเลยนะคะ! 😊 โนเอลจัง แปลเหนื่อยเลยมั้ยเนี่ย? ขนาดดิฉันอ่านยังรู้สึกเหมือนได้ดื่มกาแฟเอสเพรสโซ่สองช็อตเลยนะ! 😂
ลิลี่: 😸 ไฟร์เบียร์ดเนี่ย ชื่อเหมือนจะเห็นภาพชัดเลยนะพี่ ๆ คิดดูสิ เคราสีแดงเพลิงนี่ต้องแสบตาแน่ ๆ เลย! 😂 หรือว่าถ้าเขานั่งใกล้กองไฟ เคราจะกลืนไปกับเปลวไฟมั้ยเนี่ย? 🔥
โนเอล: แหะ ๆ… เอ่อ… แถมนะคะ รุ่นพี่บอกว่า “โนเอล ลองคิดชื่อสหพันธรัฐเป็นภาษาโซนสโลวักดูสิ ให้ความหมายตรงกับต้นฉบับจีนก็พอ” แล้วก็ปล่อยให้ดิฉันงมชื่อเมืองอยู่คนเดียว 😅
สหพันธรัฐทิชา (Tisha) ชื่อนี้มาจากรากศัพท์ของคำว่า “ความเงียบ” ในภาษาโซนสโลวัก (หรือภาษาที่มีโทนใกล้เคียง) คำว่า “Ticho” (ทีโค) ในภาษาเช็กหรือสโลวักมีความหมายว่า “เงียบสงบ” หรือ “ความเงียบ” นั่นเองค่ะ เป็นของฝั่งเฮลา
สหพันธรัฐเท็มนา (Temna) ชื่อนี้มาจากรากศัพท์ของคำว่า “ความมืด” คำว่า “Temný” (เท็มนี) ในภาษาเช็ก หรือ “Temna” (เท็มนา) ในภาษาโซนสโลวัก หมายถึง “ความมืด” หรือ “เงามืด” ชื่อนี้ให้ความรู้สึกถึงอำนาจของเงา สะท้อนถึงลักษณะของสหพันธรัฐที่นับถือโฮลเดอร์ เทพแห่งความมืดและเงาได้อย่างชัดเจน
ถั่ว: แหนะมีบ่นเค้า
โนเอล: อ-เอ่อ! ไม่ได้บ่นนะคะ! แค่เล่าให้ฟังเฉย ๆ เอง 😳
ถั่ว: แถมข้อมูลอีกนิดดีกั่ว…. ชื่อเมืองออสทริกามาจากคำว่า คมดาบ ที่เป็นความหมายตามต้นทาง และใช้ภาษาโซนเดียวกับชื่อเมืองในแถบนี้ จะได้เข้าธีมกับเชียร์นาคาม (หินดำ) ….ส่วนข้อมูลฝ่าย เค้าขอสรุปคร่าว ๆ ดังนี้
1. สหพันธรัฐทิชา (ฝั่งเฮลา): กำลังรบหลักที่เปิดเผยในตอนนี้คือเมืองออสทริกา นำโดยไฟร์เบียร์ด (อาชีพสายนักเวทแน่นอน แต่ถนัดพลังด้านไหน เชิญตอนต่อไป)
2. สหพันธรัฐเท็มนา (ฝั่งโฮลเดอร์): กำลังรบหลักที่เปิดเผยในตอนนี้คือเมืองมอร์วา นำโดยลิชคิง ชื่อเพโรเน (มาสายซอมบี้ เข้าทางผู้เล่นแน่ ๆ XD)
~~ ❀ ~~
ถ้าเจองานแปลของเค้าที่อื่น… สัญญานะว่าจะมาอ่านแปลไทยที่ https://www.nekopost.net/novel/12413 ♥
ส่วนใหญ่เค้าชอบทำเวอร์ชันแก้ไขคำผิดทีหลัง และปรับสำนวนแทบทุกตอนหลังอัพโหลด ดังนั้นต้องที่เนโกะฯเท่านั้น..!
ถ้าถูกใจโปรเจ็คนี้ ขอความอนุเคราะห์ในการซัพพอร์ทที่ผู้แต่งโดยตรง ตามลิงก์หน้าแรกนะคะ Support the project https://book.qidian.com/info/1016509432
~~ ~~ ❀ ~~ ~~
MANGA DISCUSSION