ห้องโถงรับรองของสมาคมโซเรน
ท่ามกลางบรรยากาศโอ่อ่าของห้องโถงรับรอง ภาพวาดบนผนังสะท้อนแสงไฟอ่อนจาง เผยให้เห็นบุรุษในชุดเกราะ อัศวินที่ยืนตระหง่าน มือกุมหอกยาว สายตาคมกล้า เปี่ยมไปด้วยศักดิ์ศรีและความสง่างาม
ขุนนางหนุ่มเจ้าของเรือนผมดำยืนสงบนิ่ง มองภาพวาดด้วยความสนใจ ข้างกายเขา ผู้ติดตามเรือนผมแดงชี้ฟูกำลังเพ่งพินิจภาพนั้นด้วยสายตาเปี่ยมชื่นชม
“โอ้โหโคตรเท่…”
เสียงพึมพำของผู้ติดตามดังขึ้นเบา ๆ ขณะทอดมองภาพวาดด้วยความชื่นชม แต่แทนที่ขุนนางหนุ่มจะให้ความสนใจกับอัศวินในภาพ ดวงตาของเขากลับจับจ้องไปยังตัวอักษรที่จารึกไว้ด้านล่าง
“โซเรน…”
เสียงเอื้อนเอ่ยแผ่วเบา แต่ก็เพียงพอให้ผู้ติดตามข้างกายชะงักกึก
“พี่มู่… พี่อ่านตัวอักษรในเกมนี้ออกด้วยเหรอ?”
คำถามถูกเปล่งออกมาด้วยน้ำเสียงประหลาดใจ ดวงตาของผู้ติดตามฉายแววฉงน
ขุนนางหนุ่มส่ายศีรษะเบา ๆ ก่อนจะอธิบายอย่างเรียบง่าย
“แต่ก่อนอ่านไม่ออกหรอก… แต่หลังจากการอัปเดตล่าสุด ชั้นเพิ่งเจอฟังก์ชันแปลภาษาภายในระบบเกม แล้วมันแปลเป็นภาษาจีนได้”
ผู้ติดตามเรือนผมแดงถึงกับเงียบไปทันที
ขุนนางหนุ่มผู้นี้คือหลี่มู่ และผู้ติดตามข้างกายคือเดมาเซีย ผู้กำลังจำแลงกายมาอย่างแนบเนียน
การเดินทางของพวกเขาเริ่มต้นขึ้นหลังจากหารือกับกลุ่มผู้เล่นคนอื่น และในที่สุดก็มาถึงฐานของสมาคมโซเรนตามข้อมูลที่ได้รับจากแอนเดอร์ส
แน่นอนว่าเพื่อให้แผนลุล่วง ทั้งสองจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนบทบาทกันเล็กน้อย
หลี่มู่ รับบทเป็นขุนนางหนุ่มจากแดนใต้ ส่วนเดมาเซียรับบทเป็นพ่อบ้านผู้รับใช้
เหตุผลที่พวกเขาจัดสรรบทบาทเช่นนี้นั้นเรียบง่ายและชัดเจน
แม้เดมาเซียจะมีทักษะการโน้มน้าวใจเป็นเลิศ แต่บุคลิกของเขากลับดูไม่น่าเชื่อถือแม้แต่น้อย ดูเหมือนว่าสิ่งนี้จะถูกสลักลึกอยู่ในสายเลือด ทำให้การสวมบทบาทเป็นขุนนางดูผิดธรรมชาติสำหรับเขาโดยสิ้นเชิง
ตรงกันข้ามกับหลี่มู่ แม้เขาจะไม่ได้เชี่ยวชาญเรื่องมารยาทของชนชั้นสูง แต่ด้วยบุคลิกสุขุม น่าเกรงขาม และดูเป็นผู้เป็นคนกว่าคู่หูของเขามาก จึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดในการสวมบทบาทขุนนาง
สุดท้ายแล้ว พวกเขาจึงตกลงให้หลี่มู่เป็นขุนนางผู้สง่างาม ในขณะที่เดมาเซียรับหน้าที่เป็นพ่อบ้านผู้อุทิศตน โดยมีบทบาทสำคัญในการหลอกล่อและโน้มน้าว NPC ในระหว่างที่หลี่มู่คอยเสริมบรรยากาศและรักษาภาพลักษณ์ให้น่าเชื่อถือ
ฟังก์ชันแปลภาษาที่หลี่มู่ใช้ เป็นผลพวงจากการอัปเดตล่าสุดของเกม
แม้ว่ามันจะไม่ได้ถูกระบุไว้ในบันทึกอัปเดต แต่เพื่อให้ผู้เล่นสามารถสื่อสารกับ NPC ได้สะดวกขึ้น ระบบได้เพิ่มฟังก์ชันการแปลภาษาขึ้นมาโดยเงียบ ๆ
ด้วยฟังก์ชันนี้ ข้อความที่ปรากฏในโลกของ ซากัส สามารถแปลงเป็นภาษาจีนได้โดยตรง
อย่างไรก็ตาม ฟังก์ชันดังกล่าวมีข้อจำกัดสำคัญ มันเป็นเพียงการแปลแบบทิศทางเดียวเท่านั้น
ข้อความที่ผู้เล่นเขียนลงไป จะไม่สามารถแปลงกลับเป็นภาษาของดินแดนซากัสได้…
“ภาพนี้คือบรรพบุรุษของตระกูลเรา”
เสียงทุ้มทรงอำนาจดังขึ้นขัดจังหวะการสนทนาเบา ๆ ของทั้งสองคน
ทันใดนั้น เสียงหัวเราะกังวานก็ดังแทรกเข้ามาในห้องโถง หลี่มู่และเดมาเซียชะงัก ก่อนจะค่อย ๆ หันไปมองต้นเสียงด้วยท่าทีสงบนิ่ง
เบื้องหน้าพวกเขา ปรากฏชายวัยกลางคนสวมชุดหรูหรา ประดับวิกผมประณีต รอยยิ้มอบอุ่นประดับอยู่บนใบหน้าของเขา ด้านข้างมีผู้ช่วยที่ยืนสงบนิ่ง ท่าทางนอบน้อม
ชายวัยกลางคนผู้นี้คือ เคจ โซเรน ประธานสมาคมโซเรนประจำเมืองเมเปิลลีฟ
ดวงตาของเคจไล่มองชายหนุ่มทั้งสอง ก่อนที่สายตาของเขาจะฉายแววฉงนขึ้นวูบหนึ่ง
ระดับเหล็กขั้นสูง!
หัวใจของเขาเต้นแรง
ชายหนุ่มทั้งสองคนนี้อายุยังน้อย แต่กลับมีพลังถึงระดับเหล็กขั้นสูง นี่ไม่ใช่เรื่องธรรมดา พวกเขาต้องเป็นขุนนางจากแดนใต้แน่นอน
ด้วยสายตาของพ่อค้าเก่าแก่ที่คร่ำหวอดในวงการค้า เคจพินิจรายละเอียดของพวกเขาอย่างถี่ถ้วน
แม้แต่ ผู้ติดตาม ก็ยังสวมเสื้อผ้าสไตล์ล่าสุดของขุนนางจากอาณาจักรไอริส
เสื้อผ้าเหล่านี้ สมาคมโซเรนเพิ่งนำเข้ามาขายเมื่อไม่กี่เดือนก่อน และราคาของมันก็สูงลิ่ว
ขุนนางของแท้…
และยังเป็นขุนนางที่ร่ำรวย!
เคจยืนยันความคิดในใจ
กระนั้น เขาก็ยังจับสังเกตเห็นบางสิ่ง
แม้จะพยายามปกปิด แต่ท่าทีของชายหนุ่มทั้งสองยังมีความประหม่าปรากฏอยู่เล็กน้อย อีกทั้งบุคลิกของพวกเขายังขาดซึ่งความสง่างามที่ขุนนางชั้นสูงโดยแท้พึงมี
ไม่ใช่ขุนนางยศใหญ่…
อาจเป็นขุนนางหน้าใหม่ จากตระกูลที่ยังไม่มีรากฐานมั่นคงในอาณาจักรไอริส
เมื่อคิดมาถึงจุดนี้ รอยยิ้มของเคจก็ยิ่งเปี่ยมด้วยความเป็นมิตร
ขณะที่เคจกำลังประเมินทั้งสองคน หลี่มู่และเดมาเซียเองก็ลอบประเมินเขากลับเช่นกัน
เคจไม่ได้ปิดบังพลังของตัวเองเลย ด้วยเหตุนี้ เพียงแค่เห็นเขา ทั้งสองก็สามารถใช้ระบบเกมตรวจสอบสถานะของเขาได้อย่างคร่าว ๆ
ระดับเหล็กขั้นกลาง…
ถึงแม้ชายวัยกลางคนที่แต่งกายโอ่อ่าผู้นี้จะไม่ได้แข็งแกร่งนัก แต่สิ่งที่ทำให้พวกเขารู้สึกระแวดระวังคือ ผู้ช่วย ที่ยืนอยู่ข้างกายเขา
บุคคลผู้นั้นแม้จะสงบนิ่ง สุภาพ และนอบน้อม แต่กลับให้ความรู้สึกอันตรายอย่างประหลาด
ในเกม The Kingdom of Elves สัญชาตญาณเช่นนี้มักจะแม่นยำเสมอ
หากผู้เล่นรู้สึกถึงภัยคุกคาม นั่นหมายความว่าอีกฝ่ายต้องมีพลังเหนือกว่าที่พวกเขาประเมินไว้อย่างแน่นอน
“พี่มู่… คนรับใช้ของเขาน่าจะอยู่ระดับเงิน”
ข้อความของเดมาเซียปรากฏขึ้นในช่องแชท
“อืม… ทำตามแผนที่วางไว้ได้เลย ถึงเวลาแสดงของนายแล้ว”
หลี่มู่ตอบกลับสั้น ๆ ก่อนจะละสายตาจากหน้าต่างแชท
ทว่าก่อนที่ทั้งสองจะทันได้เริ่มพูดอะไร ชายวัยกลางคนตรงหน้าก็เป็นฝ่ายเปิดบทสนทนาขึ้นก่อน
“สวัสดีครับ ยอดฝีมือหนุ่มทั้งสอง!”
เสียงทุ้มก้องกังวานเปี่ยมพลัง พร้อมกับรอยยิ้มอบอุ่นที่แต้มอยู่บนใบหน้าของเขา
“ผมคือ เคจ โซเรน ประธานสมาคมโซเรนประจำเมืองเมเปิลลีฟ พวกท่านทั้งสองคือสมาชิกของขบวนการค้าที่แอนเดอร์สแนะนำมาใช่ไหม?”
ท่าทีของเขาเป็นมิตรอย่างยิ่ง ราวกับกำลังสนทนากับมิตรสหายที่รู้จักกันมานาน น้ำเสียงเปี่ยมเสน่ห์ของนักค้าขายที่เชี่ยวชาญทำให้ผู้ฟังรู้สึกผ่อนคลายโดยไม่รู้ตัว
ทว่า… หลี่มู่และเดมาเซียที่ได้รับข้อมูลล่วงหน้าแล้ว จึงไม่ได้ลดความระมัดระวังลงเลยแม้แต่น้อย
หลี่มู่หยิบจดหมายของแอนเดอร์สออกมาจากเสื้อ ก่อนจะก้าวไปข้างหน้าแล้วยื่นให้เคจ พร้อมกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบขรึม
“สวัสดีครับ ท่านประธานเคจ พวกเราคือสมาชิกของ ขบวนการค้าบลูสตาร์ แห่งอาณาจักรไอริส ผมคือหัวหน้าขบวนการค้า หลี่มู่ และคนนี้คือพ่อบ้านและผู้ติดตามของผม เดมาเซีย”
เขาหยุดเล็กน้อยก่อนกล่าวต่อ
“คุณแอนเดอร์สเป็นผู้แนะนำให้พวกเรามาพบท่าน เพื่อเจรจาการค้าครับ”
เคจพยักหน้ารับเล็กน้อย ขณะเอื้อมมือรับจดหมาย
ดวงตาของเขากวาดมองตัวอักษรที่จารึกลงบนกระดาษ และเมื่อพบลายมือของแอนเดอร์ส รวมถึงคำใบ้บางอย่าง ที่ซ่อนอยู่ในข้อความ สีหน้าของเขาก็ฉายแววเข้าใจขึ้นทันที
ขุนนางหนุ่มจากแดนใต้ ที่ปลอมตัวเป็นขบวนการค้า
แถมยังสนใจทาสเอลฟ์!
เคจแทบจะมั่นใจถึงแปดหรือเก้าในสิบส่วนเกี่ยวกับจุดประสงค์ของพวกเขา
แต่ก็ช่างเถอะ…
มันจะมาหาอะไรก็ไม่ใช่เรื่องของข้า…
‘ถูกแอนเดอร์สแนะนำมา’ แค่นั้นก็พอแล้ว!
เมื่อคิดได้ดังนั้น รอยยิ้มของเคจก็ยิ่งดูอบอุ่นและเป็นมิตรมากขึ้น
“โอ้… นี่คือลายมือของแอนเดอร์สจริง ๆ”
เขากล่าวขึ้น พลางพับจดหมายเก็บไว้
“ในเมื่อพวกท่านเป็นเพื่อนของแอนเดอร์ส ก็ถือว่าเป็นเพื่อนของผมด้วย สมาคมโซเรนของเราอาจไม่มีอะไรโดดเด่นมากนัก แต่… ของล้ำค่านั้นมีมากมาย”
เขาหรี่ตาลงเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“ว่าแต่ท่านหลี่มู่ สนใจสินค้าประเภทไหนครับ?”
หลี่มู่ส่งสายตาให้เดมาเซียเป็นสัญญาณ
ทันใดนั้น เดมาเซียก็ก้าวขึ้นไปข้างหน้า เปลี่ยนสีหน้าจากเคร่งขรึมเป็นรอยยิ้มกว้าง พร้อมกับเสียงหัวเราะเฮฮาตามสไตล์ของเขา
“แน่นอนว่าต้องเป็นการค้ามูลค่าสูงครับ! ท่านประธานเคจ—”
เขาเอนตัวไปข้างหน้าเล็กน้อย พลางกดเสียงต่ำลงเล็กน้อย ราวกับต้องการพูดคุยในเรื่องที่เป็นความลับ
“พวกเราได้ยินจากคุณแอนเดอร์สมาว่าที่นี่มี ทาสเอลฟ์ ใช่ไหมครับ?”
เขาหัวเราะเบา ๆ พลางยกมือขึ้นลูบคาง
“ฮี่ฮี่ฮี่… พวกเราสนใจทาสเอลฟ์มาก เงินไม่ใช่ปัญหา! ขอแค่เป็นเอลฟ์! หูยาว ๆ! หน้าสวย ๆ!”
สมแล้วที่มาเพราะเอลฟ์…
และยังดูไม่ขัดสนเรื่องเงินอีกด้วย
เคจคิดในใจ
ดีมาก…
รอยยิ้มของเขายิ่งดูจริงใจและเป็นมิตรมากขึ้นกว่าเดิม
“แน่นอนครับ การค้าทาสเอลฟ์ถือเป็นหนึ่งในธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดของสมาคมโซเรน”
เคจกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“แอนเดอร์สแนะนำพวกท่านให้มาถูกที่แล้วครับ”
เขายกถ้วยชาขึ้นจิบเล็กน้อย ก่อนจะกล่าวต่อด้วยรอยยิ้ม
“ช่างเป็นจังหวะเหมาะจริง ๆ เพราะเมื่อไม่กี่วันก่อน เราเพิ่งได้รับ ‘สินค้าใหม่’ เข้ามา หากพวกท่านสนใจ เราสามารถไปชมด้วยกันได้”
พูดจบ เขาหันไปส่งสัญญาณทางสายตาให้พ่อบ้านสูงวัยที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ
พ่อบ้านคนนั้นชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะรีบเดินออกจากห้องไปอย่างรู้หน้าที่
เคจยิ้มบาง ๆ ก่อนจะหันกลับมาหาหลี่มู่และเดมาเซีย
“ผมได้สั่งให้เตรียมการไว้แล้วครับ”
เขาหยุดเล็กน้อยก่อนกล่าวต่อด้วยน้ำเสียงรื่นเริง
“หากท่านทั้งสองสนใจ เราสามารถไปชมได้เลย… เพียงแต่…”
เขาหัวเราะเบา ๆ พลางยกมือขึ้นทำท่าขออภัย
“ต้องขออภัยล่วงหน้า… ห้องเก็บทาสยังค่อนข้างรกและมีกลิ่นไม่พึงประสงค์เล็กน้อย ต้องใช้เวลาอีกสักหน่อยในการจัดการ”
เขาเว้นจังหวะก่อนกล่าวด้วยน้ำเสียงอบอุ่น
“ท่านทั้งสองดื่มกาแฟจากทวีปใต้ไปพลาง ๆ ก่อนเถอะครับ อีกไม่เกินสิบนาที เราค่อยคุยกันต่อ”
หลี่มู่และเดมาเซียสบตากัน ก่อนจะพยักหน้าเล็กน้อย
ทั้งสองจึงนั่งลงในห้องรับรองตามคำเชิญของเคจ ขณะจิบกาแฟร้อน พวกเขาพูดคุยกันเกี่ยวกับวัฒนธรรมของเมืองเมเปิลลีฟ และที่มาของพวกเขา
อย่างไรก็ตาม…
ทุกครั้งที่เคจพยายามซักถาม หลี่มู่ก็มักจะเบี่ยงประเด็นด้วยคำพูดกำกวม
คำตอบของเขาไม่เคยตรงไปตรงมา ไม่ปฏิเสธ… แต่ก็ไม่ได้เปิดเผยอะไรสำคัญ
เคจที่หวังจะขุดข้อมูลเพิ่มเติม จึงอดรู้สึกผิดหวังอยู่ลึก ๆ ไม่ได้
ไม่นานหลังจากนั้น พ่อบ้านสูงวัยก็กลับมา
เขาก้าวเข้ามาหาเคจ ก่อนจะโน้มตัวลงกระซิบอะไรบางอย่างที่ข้างหู
เคจพยักหน้าเล็กน้อย ดวงตาฉายแววพึงพอใจ ก่อนจะหันกลับมามองแขกทั้งสองของเขาด้วยรอยยิ้มที่กว้างขึ้นกว่าเดิม
“เรียบร้อยแล้วครับ ห้องเก็บทาสถูกจัดเตรียมเสร็จสิ้นแล้ว”
เขาเอ่ยเสียงนุ่มนวล ก่อนจะลุกขึ้นยืน
“ทั้งสองท่าน… ตอนนี้เราไปชม ‘สินค้า’ กันเถอะครับ”
เขากล่าวพลางทำท่าผายมือเชิญ
หลี่มู่และเดมาเซียสูดลมหายใจเข้าลึก ก่อนจะลุกขึ้นอย่างสงบนิ่ง และเดินตามเคจไป
…
ภายใต้การนำของพ่อบ้าน สมาคมโซเรนพาทั้งสองเดินลึกเข้าไปในเขตภายในของอาคารสมาคม
ในที่สุด พวกเขาก็มาหยุดอยู่หน้าสิ่งปลูกสร้างที่ล้อมรอบด้วยกำแพงหินสูง มันดูไม่ต่างจากป้อมปราการ
เคจมองสีหน้าของแขกทั้งสอง ก่อนจะหัวเราะเบา ๆ
“นี่คือสถานที่ที่สมาคมของเราใช้สำหรับกักขังทาส”
เขากล่าวด้วยน้ำเสียงภาคภูมิใจ
“มันถูกออกแบบตามเรือนจำ แวร์ม็องดัวส์ ในเมืองหลวงของจักรวรรดิ”
เขายกมือขึ้นลูบเคราเล็กน้อย
“ที่นี่มีการรักษาความปลอดภัยเป็นเลิศ! ไม่มีใครหนีออกไปได้แน่นอนครับ”
เขาหันไปมองหลี่มู่และเดมาเซีย ก่อนจะเอ่ยด้วยรอยยิ้ม
“เชิญครับ ทาสทั้งหมดของสมาคมเราถูกกักขังอยู่ที่นี่”
พูดจบ เขาก้าวเข้าไปในประตูใหญ่ที่ทำจากรั้วเหล็กหนา
หลี่มู่และเดมาเซียสูดลมหายใจลึกอีกครั้ง ก่อนจะก้าวตามเข้าไป
…
ภายในอาคารมืดสลัว อากาศอับชื้น แสงไฟจากคบเพลิงที่ติดอยู่บนผนังทั้งสองฝั่งให้แสงสว่างเพียงรำไร เผยให้เห็นเงาตะคุ่มของบางสิ่งที่ถูกขังอยู่ภายใน
ทั้งสองข้างของทางเดินเต็มไปด้วยห้องขังแบบเดี่ยว
ภายในนั้น… มีสิ่งมีชีวิตหลากหลายเผ่าพันธุ์ถูกจองจำอยู่
ออร์ค ฮาล์ฟออร์ค มนุษย์กิ้งก่า มิโนทอร์… ไปจนถึงสัตว์อสูรหายากบางชนิด แน่นอนว่ายังมีมนุษย์รวมอยู่ด้วย
แต่ทั้งหมดนี้… ไม่ใช่เป้าหมายของพวกเขา
หลี่มู่และเดมาเซียมองดูเหล่าสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ด้วยสายตาเย็นชา พลางก้าวเดินตามเคจเข้าไปยังส่วนลึกของอาคาร
หลังจากเดินไปอีกไม่กี่นาที พวกเขาก็มาถึงพื้นที่ที่แตกต่างออกไป
สถานที่นี้ดูสว่าง และสะอาดสะอ้านกว่าส่วนอื่น ๆ และเป็นที่ที่พวกเขากำลังมองหา
พื้นที่กักขังเหล่าเอลฟ์!
เบื้องหน้าพวกเขาคือห้องขังอันกว้างขวางที่เต็มไปด้วยเอลฟ์จำนวนมาก
เพียงแค่กวาดตามองคร่าว ๆ ก็เห็นได้ว่ามีไม่ต่ำกว่าสองถึงสามสิบคน ทั้งชายและหญิง โดยเฉพาะฝ่ายหญิงที่ดูเหมือนจะมีจำนวนมากกว่าอย่างเห็นได้ชัด
เอลฟ์เหล่านี้ล้วนมีอายุยังน้อย คนที่ดูอาวุโสที่สุดคาดว่าน่าจะเทียบเท่ากับมนุษย์วัยสามสิบต้น ๆ ในขณะที่คนที่อายุน้อยที่สุด… ยังเป็นเพียงเด็กเท่านั้น
ภายในห้องขัง ฝูงชนเงียบสงัด
แม้บางคนจะเงยหน้าขึ้นมามองพวกเขาด้วยสายตาหวาดระแวงและสิ้นหวัง แต่ส่วนใหญ่กลับก้มหน้าเงียบงัน ไม่กล้าแม้แต่จะสบตากับแขกที่มาเยือน
ไม่ใช่แค่เอลฟ์เท่านั้น…
สายตาของหลี่มู่และเดมาเซียเหลือบไปยังอีกฝั่งหนึ่งของคุกที่อยู่ติดกัน
ภายในนั้น มีสิ่งมีชีวิตที่ดูแปลกตาไปจากเอลฟ์ทั่วไป พวกเขามีใบหูแหลมเหมือนเอลฟ์ แต่ว่า… ความยาวของมันกลับสั้นกว่าประมาณหนึ่งในสาม
ฮาล์ฟเอลฟ์เรอะ!
หลี่มู่และเดมาเซียสบตากันเล็กน้อย ก่อนจะกลับมามองภาพตรงหน้าด้วยสีหน้าสงบนิ่ง
และในจังหวะนั้นเอง เสียงแจ้งเตือนของระบบก็ดังขึ้น
ปุกิ๊ง–!
[ผู้เล่น “หลี่มู่” และ “เดมาเซีย” ได้ปลดล็อกภารกิจลับ “ช่วยเหลือเพื่อนร่วมเผ่า”]
[ภารกิจลับ: ช่วยเหลือเพื่อนร่วมเผ่า]
[คำอธิบายภารกิจ: สมาคมพ่อค้าโซเรนได้จับตัวเอลฟ์และฮาล์ฟเอลฟ์จำนวนมากไว้ในฐานะทาส พวกเขาล้วนเป็นสหายร่วมเผ่าของท่าน และควรได้รับการช่วยเหลือ!]
[เป้าหมายภารกิจ: ช่วยเหลือเอลฟ์และฮาล์ฟเอลฟ์ที่ถูกกักขัง]
[ระยะเวลาภารกิจ: ไม่จำกัด]
[จำนวนผู้เล่นในภารกิจ: ไม่จำกัด]
[เลเวลภารกิจ: 31]
[รางวัลภารกิจ: สำหรับเอลฟ์ที่ช่วยได้แต่ละคน จะได้รับค่าประสบการณ์ 3,000 หน่วย และแต้มผลงาน 1,000 หน่วย; สำหรับฮาล์ฟเอลฟ์แต่ละคน จะได้รับค่าประสบการณ์ 1,500 หน่วย และแต้มผลงาน 500 หน่วย]
…
…
~~ ~~ ❀ ~~ ~~
วิเวียน: หึหึ… ในที่สุดก็ถึงเวลาโชว์ของ! เดมาเซียจัดเต็มเลยค่ะ! หลอก NPC ให้เนียน ๆ เข้าไว้! ✨🔥
โนเอล: พวกเอลฟ์… ดูสิ้นหวังเหลือเกินนะคะ… แค่คิดว่าพวกเขาต้องเจออะไรมาก็เจ็บปวดแทนแล้ว ขอให้ภารกิจนี้สำเร็จลุล่วง ไม่มีใครต้องเจ็บปวดไปมากกว่านี้เลยค่ะ… 🌿💔
ลิลี่: ฮึ! งานนี้มันส์แน่นอน! 😈 ได้เวลาทำให้พวกมันรู้ซึ้งว่าหูยาวไม่ได้แปลว่าอ่อนแอ! 🔥💥
~~ ❀ ~~
ถ้าเจองานแปลของเค้าที่อื่น… สัญญานะว่าจะมาอ่านแปลไทยที่ https://www.nekopost.net/novel/12413 ♥
ส่วนใหญ่เค้าชอบทำเวอร์ชันแก้ไขคำผิดทีหลัง และปรับสำนวนแทบทุกตอนหลังอัพโหลด ดังนั้นต้องที่เนโกะฯเท่านั้น..!
ถ้าถูกใจโปรเจ็คนี้ ขอความอนุเคราะห์ในการซัพพอร์ทที่ผู้แต่งโดยตรง ตามลิงก์หน้าแรกนะคะ Support the project https://book.qidian.com/info/1016509432
~~ ~~ ❀ ~~ ~~
MANGA DISCUSSION