“ใช้มือเดียวเนี่ยนะ?”
“บ้าไปแล้ว! นี่มัน NPC สุดจะโกง!”
“เอ๊ะ? ดูเหมือนจะเป็นบุตรีแห่งเทพที่ลูกเมี้ยวเค็มพูดถึงนี่นา ชั้นเห็นในคลิปที่กิลด์เธออัปโหลดเมื่อวาน!”
“เก่งขนาดนี้เลยเหรอ?”
“เงาที่อยู่ด้านหลังนั่นใช่เทพธิดารึเปล่า?”
เมื่อเห็นร่างแปลกหน้าที่ปรากฏตัวขึ้นกะทันหัน ผู้เล่นต่างพากันตกใจและเริ่มพูดคุยกันด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“นั่นคือร่างอวตารของเทพธิดา! แต่… ดูจะยังสมบูรณ์ อาจจะเพราะเป็นการยืมพลังของเทพเท่านั้น”
หัวหน้านักบวชคนแคระอธิบายขึ้นเมื่อได้ยินบทสนทนาของเอลฟ์รอบตัว
พูดจบ ดวงตาของเธอเริ่มส่องประกาย
“บางที… เราอาจมีหวังที่จะป้องกันเมืองนี้ไว้ได้”
ยืมพลังของเทพ?
ผู้เล่นต่างชะงัก ก่อนจะเข้าใจในทันที
“อ๋อ แบบนี้นี่เอง! ไม่ใช่การอัญเชิญเทพธิดาโดยตรงสินะ…”
“แต่แค่นี้ก็สุดยอดมากแล้ว!”
“นี่นับว่าเทพธิดามาช่วยจริงๆ ใช่ไหม?”
อย่างไรก็ตาม บางคนถึงกับเปิดระบบบันทึกวิดีโอไว้ล่วงหน้า แต่เมื่อไม่ได้เห็นร่างอันสมบูรณ์ของเทพธิดาโดยตรง พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเสียดาย
อีฟที่ลอยอยู่เหนือวิหารมองดูพวกผู้เล่นด้วยสายตาเรียบนิ่ง เธอรับรู้ถึงสายตาที่จับจ้องมาจากทุกทิศทาง แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจนัก
เธอจงใจไม่ยกระดับพลังของร่างอวตารให้กลายเป็นร่างกึ่งเทพโดยสมบูรณ์ ครั้งนี้เธอเลือกใช้วิธีใหม่ที่เธอพัฒนาขึ้นหลังจากศึกษาเหตุการณ์ครั้งก่อนที่เฮลาปรากฏตัว
วิธีนี้ช่วยประหยัดพลังของเทพธิดาได้มาก แต่ยังคงสามารถแสดงพลังในระดับกึ่งเทพได้เพียงพอ มันเป็นการปรับสมดุลที่สมบูรณ์แบบ และที่สำคัญ มันทำให้การใช้พลังของเธอไม่ดึงดูดสิ่งที่ไม่พึงประสงค์จากดินแดนแห่งความมืด
ถึงแม้ในสายตาของหัวหน้านักบวชคนแคระ ร่างนี้อาจดูเหมือนการอวตารของเทพธิดา แต่สำหรับอีฟ มันเป็นเพียงการใช้พลังอย่างมีชั้นเชิง
ก่อนหน้านี้ ตอนที่อีฟเผชิญหน้ากับโวลเกอร์ ตัวตนกึ่งเทพผู้ทรงพลัง เธอได้เลือกใช้พลังจากตัวตนของเธอโดยตรงเพื่อยกระดับร่างอวตารของเธอจนถึงระดับกึ่งเทพ
แม้พลังนั้นจะทำให้เธอสามารถรับมือกับโวลเกอร์ได้อย่างสมศักดิ์ศรี แต่การคงร่างกึ่งเทพไว้นั้นกินพลังงานอย่างมหาศาล
ครั้งนี้ต่างออกไป อีฟไม่ได้เลือกที่จะดึงพลังจากตัวตนของเธอโดยตรงอีกต่อไป แต่กลับใช้วิธีการที่ชาญฉลาดและประหยัดพลังงานกว่า
ร่างอวตารของเธอยังคงอยู่ในระดับทองขั้นต้น ซึ่งเพียงพอที่จะสร้างความน่าเกรงขามต่อศัตรูทั่วไป อย่างไรก็ตาม ในยามที่จำเป็น อีฟสามารถเรียกพลังศักดิ์สิทธิ์จากตัวตนของเธอโดยตรงเพื่อปลดปล่อยพลังอันรุนแรงได้
ด้วยวิธีนี้ เธอสามารถแสดงพลังในระดับที่เทียบเท่ากึ่งเทพได้ในช่วงเวลาสำคัญ โดยไม่ต้องคงร่างกึ่งเทพไว้ตลอดเวลา
วิธีการใหม่นี้ไม่เพียงช่วยลดการสูญเสียพลังอย่างไม่จำเป็น แต่ยังเพิ่มความคล่องตัวในการควบคุมพลังอีกด้วย
นี่ล่ะค่ะ การใช้พลัง…!
ท่ามกลางสายตาของทุกคน สาวกศักดิ์สิทธิ์ซีโรที่ลอยอยู่กลางอากาศค่อยๆ ยกมือขึ้นอีกครั้ง เงาศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ด้านหลังเธอพลันขยายตัวอย่างมหึมา ร่างนั้นเปล่งพลังออกมาจนแสงสีทองส่องสว่างไปทั่วทั้งห้วงลึก
พร้อมกันนั้น แสงศักดิ์สิทธิ์ลึกลับเริ่มแผ่กระจายจากอากาศรอบตัวเธอ มันเปล่งประกายออกมาราวกับดวงอาทิตย์ที่กำลังเรืองแสงในความมืด แสงสีทองเข้มข้นทอประกายระยิบระยับ สาดใส่อสูรเงาที่อยู่ด้านล่าง
ภาพที่ปรากฏเบื้องหน้าทำให้ทุกคนตะลึงงัน
สำหรับอสูรเงาแล้ว พลังแห่งศรัทธาของเทพคือยาพิษที่ไม่มีสิ่งใดต้านทานได้ แสงศักดิ์สิทธิ์ที่ซีโรปล่อยออกมา โดยใช้พลังแห่งศรัทธาเป็นหลัก คืออาวุธอันทรงพลังที่สามารถทำลายล้างพวกมันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เมื่อแสงศักดิ์สิทธิ์สาดกระทบอสูรเงา พวกมันส่งเสียงกรีดร้องเสียงแหลมสูง หมอกดำรอบตัวพวกมันพลุ่งพล่านอย่างรุนแรง พลังงานในร่างของพวกมันเริ่มปั่นป่วน
กองทัพอสูรเงาอันมหึมาตกอยู่ในความโกลาหล เสียงคำรามและเสียงกรีดร้องดังกึกก้องทั่วบริเวณ
แสงแห่งศรัทธา!
พลังของเทพ!
เหล่าสาวกแห่ความตายตื่นตัวทันทีที่เห็นแสงแห่งศรัทธาแผ่กระจายไปทั่วสนามรบ พวกเขาต่างส่งเสียงโห่ร้องด้วยความยินดี เสียงแห่งความหวังดังก้องท่ามกลางบรรยากาศที่เคยเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง
เมื่อเห็นสถานการณ์ที่พลิกกลับอย่างฉับพลัน หัวหน้านักบวชคนแคระที่เคยคิดว่าทุกอย่างจบสิ้นแล้วกลับรู้สึกฮึกเหิมขึ้นมา หัวใจของเธอเต็มไปด้วยการคาดเดามากมาย
แสงแห่งศรัทธานี้… มันเต็มไปด้วยพลังแห่งชีวิต!
เบื้องหลังเอลฟ์พวกนี้ เทพผู้นี้ ต้องเกี่ยวข้องกับชีวิตหรือธรรมชาติแน่ๆ!
เธอเริ่มหันไปมองเหล่าสาวกแห่งเทพธิดาแห่งความตายที่ดูจะสงบนิ่งเกินกว่าที่เธอคาดไว้ และความคิดอันน่าตื่นเต้นก็แล่นเข้ามาในหัวของเธอ
ท่านเทพธิดาแห่งความตาย…
ท่านร่วมมือกับเทพแห่งชีวิตเหรอคะ?
สายตาของเธอเปล่งประกายด้วยความตื่นตาตื่นใจ
ขณะที่หัวหน้านักบวชกำลังทบทวนความคิด อสูรเงาที่อยู่ในสนามรบกลับถูกแสงแห่งศรัทธากดดันจนไม่อาจขยับตัวได้ พวกมันสูญเสียพลังในการต่อสู้โดยสิ้นเชิง ร่างกายที่เต็มไปด้วยหมอกดำของพวกมันสั่นสะท้านและอ่อนแรงอย่างเห็นได้ชัด
เมื่อเห็นอสูรเงาที่หมดฤทธิ์ ผู้เล่นต่างพากันตื่นเต้น
“มอนถูกลดพลังแล้ว!”
“โอกาสดี! รีบลงดาบสุดท้าย!”
“เปอฟรีมาแล้ว วู้วววว!”
เสียงโห่ร้องของผู้เล่นดังสนั่น พวกเขารีบกรูกลับเข้าสู่สนามรบทันที ราวกับฝูงนักล่าที่ได้กลิ่นเหยื่อ
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เกิดขึ้นแทบจะเรียกว่าการต่อสู้ไม่ได้เลย ภายใต้การกดขี่ของแสงแห่งศรัทธา อสูรเงาเหล่านี้ไม่สามารถต่อสู้หรือป้องกันตัวเองได้เลย เหลือเพียงร่างที่อ่อนแอและไร้ทางสู้ รอให้ผู้เล่นเข้ามาสังหารเหมือนการฟันผักหั่นแตง
ถึงขนาดมีผู้เล่นบางคนที่ตื่นเต้นจนเกินไป กระโดดลงมาจากกำแพงเมืองและวิ่งไล่ฆ่าอสูรเงาในกองทัพด้วยความบ้าคลั่ง
เมื่อเห็นภาพเหล่านั้น เหล่าคนแคระแห่งความมืดที่เคยตั้งรับด้วยความหวาดกลัวถึงกับอ้าปากค้าง พวกเขาไม่เคยเห็นเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน
แม้แต่หัวหน้านักบวชแห่งเทพธิดาแห่งความตายที่เคยประเมินสถานการณ์อย่างระมัดระวัง ก็ยังตกตะลึงเล็กน้อย เธอมองภาพเหล่านี้ด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ
พวกเอลฟ์เหล่านี้… กระตือรือร้นถึงเพียงนี้เชียวหรือ?
การปรากฏตัวของพลังแห่งเทพ กระตุ้นความฮึกเหิมในตัวพวกเขาได้ถึงขนาดนี้เชียวหรือ?
แต่… พวกเขาจะสังหารอสูรเงาพวกนี้ไปทำไมอีกล่ะ!
พวกเขาคลั่งไคล้การฆ่าอสูรขนาดนี้เชียวหรือ?
ยิ่งไปกว่านั้น… มังกรเงาตัวนั้นยังอยู่!
แสงแห่งศรัทธาเพียงอย่างเดียว ไม่สามารถจัดการกับมันได้!
หัวใจของหัวหน้านักบวชแห่งเทพธิดาแห่งความตายเต้นรัว เธอรีบหันมองไปยังระยะไกล ความคิดที่กำลังวนเวียนอยู่ในหัวของเธอเริ่มปรากฏชัดเจนมากขึ้น
“——!!!”
ราวกับเป็นการยืนยันสิ่งที่เธอกังวล เสียงคำรามต่ำลึกและโกรธเกรี้ยวดังกึกก้องไปทั่วทั้งห้วงลึกอีกครั้ง มันแผ่คลื่นเสียงที่รุนแรงจนพื้นดินสะเทือน ผู้เล่นที่อยู่ใกล้ๆ ถึงกับตัวแข็งทื่อ
มังกรเงากำลังคลุ้มคลั่ง!
ในฐานะสิ่งมีชีวิตที่ใกล้เคียงกับกึ่งเทพ แม้มันจะสูญเสียสติและถูกความมืดครอบงำ แต่มังกรเงาก็ยังคงรักษาความหยิ่งทะนงในตัวเองไว้ การที่แสงแห่งศรัทธาสีทองกดดันเหล่าอสูรเงาอาจดูยิ่งใหญ่สำหรับคนอื่น แต่สำหรับมัน แสงนี้ไม่สามารถทำอันตรายต่อมันได้เลย
ไม่เพียงเท่านั้น แสงแห่งศรัทธากลับกระตุ้นสัญชาตญาณดุร้ายของมันให้พลุ่งพล่านยิ่งขึ้น การที่ลมหายใจมังกรของมันถูกปัดป้องอย่างง่ายดายก่อนหน้านี้ ยิ่งทำให้ความเกรี้ยวกราดในใจของมันทวีขึ้น
มังกรเงาคำรามเสียงลั่นอีกครั้ง เสียงนั้นสะท้อนไปทั่วทั้งดินแดน ความโกรธที่อัดแน่นในคำรามนั้นเหมือนจะประกาศสงครามกับทุกสิ่งรอบตัว
มันเชิดหัวขึ้นสูง ร่างมหึมาของมันเริ่มแผ่พลังงานเย็นเยียบและวุ่นวายออกมา พลังงานมืดที่ปลดปล่อยออกมาทำให้สิ่งแวดล้อมรอบตัวมันเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว
ต้นไม้และพืชพรรณในพื้นที่ค่อยๆ กลายเป็นสีดำสนิท หมอกควันสีเทาเข้มแผ่กระจายออกมาปกคลุมบริเวณโดยรอบ พื้นดินที่อยู่ใกล้ตัวมันถูกย้อมด้วยสีดำราวกับถูกดูดกลืนเข้าสู่ห้วงลึก
อสูรเงาที่อยู่ใกล้กับร่างของมันเริ่มแสดงการเปลี่ยนแปลงที่น่าสะพรึง พวกมันหลุดพ้นจากอำนาจกดดันของแสงแห่งศรัทธา ร่างกายของพวกมันเริ่มพองโต เกล็ดมังกรงอกขึ้นบนผิวหนัง หางยาวใหญ่คล้ายมังกรปรากฏขึ้น พวกมันกลายพันธุ์ในชั่วพริบตา
“เขตแดนเงา!”
หัวหน้านักบวชคนแคระอุทานออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ความตกใจและความหวาดกลัวสะท้อนอยู่ในดวงตาของเธอ
หากเทพมีเขตแดนศักดิ์สิทธิ์
หากกึ่งเทพมีเขตแดนกึ่งเทพ
ผู้แข็งแกร่งระดับตำนาน ก็มีเขตแดนของตนเช่นกัน!
เขตแดนเงาของมังกรเงากำลังปลดปล่อยพลังอันน่าสะพรึงกลัวออกมาอย่างต่อเนื่อง ควันดำที่แผ่กระจายจากร่างของมันพลุ่งพล่านเหมือนทะเลหมอกแห่งความมืด ราวกับพร้อมจะกลืนกินทุกสิ่งในรัศมีของมัน
มันอ้าปากขนาดใหญ่ คลื่นพลังงานอันน่าขนลุกไหลเวียนในบรรยากาศรอบตัว ลูกพลังงานสีดำเริ่มก่อตัวขึ้นในปากของมัน พลังงานที่เต็มไปด้วยความเย็นชา ความชั่วร้าย และความวุ่นวาย ดูดกลืนหมอกดำรอบตัวเข้าไปอย่างต่อเนื่อง ทำให้ลูกแก้วพลังงานนั้นใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
ถึงแม้จะอยู่ไกลออกไป ผู้เล่นและคนแคระแห่งความมืดก็ยังสัมผัสได้ถึงพลังที่น่ากลัวนี้ บางคนถึงกับยืนนิ่งไม่กล้าขยับตัว ขณะที่คนอื่นๆ เริ่มหันไปหาที่กำบัง
อย่างไรก็ตาม ด้วยการที่มี NPC ศักดิ์สิทธิ์อย่างซีโรลอยอยู่กลางอากาศเหนือสนามรบ ผู้เล่นกลับไม่ได้รู้สึกกลัวมากนัก
“มังกรตัวนี้ทำอะไรอยู่? คิดจะปล่อยระเบิดจักระรึไง?!”“ว่าไปนั่น แต่มันดูคล้ายจริงๆ นะ…”
เสียงหยอกล้อของผู้เล่นดังขึ้น แต่สำหรับหัวหน้านักบวชแห่งเทพธิดาแห่งความตาย สีหน้าของเธอกลับซีดเผือด ราวกับจิตวิญญาณถูกดึงออกจากร่าง
เธอนึกถึงเรื่องเล่าในบันทึกโบราณ เรื่องราวของอาณาจักรเวทมนตร์ที่ล่มสลายจากพลังอันชั่วร้ายของมังกรเงา และทันใดนั้น เธอก็เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
“ไม่ดี! มันกำลังใช้เวทมนตร์! นี่คือลูกแก้วเงา… เวทมนตร์ที่เป็นเอกลักษณ์ของมังกรเงา!”
เสียงของเธอเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ขณะที่เธอพยายามอธิบาย
“เมื่อหลายร้อยปีก่อน อาณาจักรเวทมนตร์ของมนุษย์ถูกทำลายเพราะเวทมนตร์นี้! แม้แต่โบสถ์แห่งนิรันดร์ที่ใช้พิธีอัญเชิญพลังของเทพ ก็ยังต้องพินาศไปพร้อมกับมัน!”
คำพูดนั้นทำให้บรรยากาศรอบตัวเงียบงัน แม้แต่ผู้เล่นที่ยังหยอกล้อเมื่อครู่ก็เริ่มแสดงสีหน้าตึงเครียด
เธอเงยหน้ามองไปยังซีโรที่ลอยอยู่กลางอากาศ สีหน้าเต็มไปด้วยความวิตก เธอรู้ว่าการอวตารเทพ แม้จะแสดงพลังระดับกึ่งเทพได้ แต่ก็ไม่ใช่กึ่งเทพโดยแท้จริง
“เวทมนตร์นี้… ไม่ใช่สิ่งที่ผู้ถูกอวตารจะรับมือได้…”
แต่ก่อนที่เธอจะพูดอะไรเพิ่มเติม เธอกลับต้องหยุดนิ่ง ร่างกายของเธอแข็งทื่อด้วยความตกตะลึง
บุตรีแห่งเทพที่ลอยอยู่กลางอากาศ… เคลื่อนไหว
เพียงเงาศักดิ์สิทธิ์วาบขึ้นมา ซีโรก็หายวับไปจากตำแหน่งเดิม และในชั่วพริบตา เธอก็ปรากฏตัวอยู่ตรงหน้ามังกรเงา ทะลุผ่านเขตแดนเงาที่ทรงพลังได้อย่างง่ายดาย!
เธอยื่นมือออกมา ร่างเงาศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ด้านหลังแปรเปลี่ยนเป็นมือยักษ์ขนาดใหญ่ ส่องแสงสีทองเจิดจ้า มือยักษ์นั้นอุดปากมังกรเงาไว้ได้ในทันที ก่อนที่ลูกแก้วพลังงานอันน่าสะพรึงจะถูกปลดปล่อยออกมา
พลังงานที่ไหลเวียนในลูกแก้วเริ่มสะสมจนถึงขีดสุด แต่ด้วยมือยักษ์ที่ปิดปากมันอย่างแน่นหนา การปลดปล่อยพลังงานกลับถูกบีบให้สะท้อนกลับไปในตัวมังกรเงาเอง!
“—! ——!!!”
เสียงคำรามที่เปี่ยมไปด้วยความเจ็บปวดและโกรธเกรี้ยวดังกึกก้อง มังกรเงาสั่นสะท้านทั้งร่าง พื้นดินรอบตัวมันเริ่มแตกร้าว ขณะที่หมอกดำพลุ่งพล่านอย่างรุนแรงเหมือนคลื่นทะเลที่พายุโหมกระหน่ำ…
เงาศักดิ์สิทธิ์ของซีโรแปรเปลี่ยนเป็นกำแพงพลังงานที่ไม่มีสิ่งใดฝ่าผ่านได้ มันบังคับลูกแก้วพลังงานที่เต็มไปด้วยพลังอันน่าสะพรึงกลัวกลับเข้าไปในปากของมังกรเงา
กร๊อบ——
ตูมมมม———!!!
และในเสี้ยววินาทีที่เงาศักดิ์สิทธิ์บีบลูกแก้วนั้นจนแตกละเอียด เสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหวก็ดังก้องไปทั่วทั้งห้วงลึก
ลูกแก้วพลังงานที่แตกตัวในปากของมังกรเงาปลดปล่อยแสงสีเทาอันเข้มข้นพวยพุ่งออกมาราวกับภูเขาไฟปะทุ แสงนั้นทำให้ทุกคนในบริเวณใกล้เคียงต้องหลับตาด้วยความเจ็บปวดในชั่วขณะ
ตามมาด้วยพายุพลังงานอันรุนแรงที่แพร่กระจายออกจากร่างมังกรเงาไปในทุกทิศทาง คลื่นพลังทำลายล้างทุกสิ่งที่อยู่รอบตัว กวาดทุกอย่างจนปลิวกระจัดกระจาย อสูรเงาที่อยู่ใกล้ถึงกับถูกพัดปลิวไปคนละทิศคนละทาง บางตัวระเบิดกลางอากาศโดยไร้การต่อต้าน
พื้นที่รอบตัวมังกรเงากลายเป็นบริเวณว่างเปล่าราวกับถูกลบออกจากแผนที่ ทุกสิ่งถูกทำลายจนไม่เหลือแม้แต่ซาก
แม้แต่เมืองเชียร์นาคามที่อยู่ห่างไกลจากจุดปะทะก็ไม่รอดพ้น หลังคาบ้านเรือนจำนวนมากพังทลายจากแรงลมของพายุพลังงาน เศษซากไม้และหินกระจายไปทั่วบริเวณ
ผู้เล่นที่หลบหนีออกจากเมืองไปก่อนหน้ากลับโชคร้ายกว่า พายุพัดร่างของพวกเขาขึ้นไปในอากาศ หมุนคว้างกลางพายุพลังงานอันบ้าคลั่ง ก่อนที่ร่างกายของพวกเขาจะถูกพลังงานกลืนกินจนแตกสลาย หวนคืนสู่ต้นไม้โลก
เสียงกรีดร้องสุดท้ายของผู้เล่นบางคนดังขึ้นท่ามกลางความสับสน
“แง่งเง้ย! ออกแบบให้มารดาเอ็งเล่นอีกล้าวววว!”
“บ้าไปแล้วจริง ๆ !!”
ผู้เล่นที่รอดชีวิตจากพายุมาได้ยืนมองฉากเบื้องหน้าราวกับมันเป็นฉากจากภาพยนตร์วันสิ้นโลก ความตกตะลึงฉายชัดในดวงตาของพวกเขา
แรงกดดันจากพลังของมังกรเงาทำให้พวกเขาเริ่มตระหนักถึงความจริงอันโหดร้าย…
ต่อหน้าสิ่งมีชีวิตระดับนี้ พวกเขาเป็นเพียงตัวประกอบ…
แต่สิ่งที่ทำให้พวกเขารู้สึกตะลึงยิ่งกว่าคือ NPC คนใหม่ที่เพิ่งปรากฏตัว กลับสามารถต้านพลังของมังกรเงาได้!
ไม่เพียงเท่านั้น เธอยังใช้พลังของมังกรเงาเล่นงานมันเองได้อีก!
“ให้ตายสิ… แค่ยืมพลังเทพธิดาก็แข็งแกร่งขนาดนี้เลยเหรอ?”
“ไม่รู้ว่าวันหนึ่งเราจะไปถึงระดับนั้นได้หรือเปล่า…”
“ยอดจริง ๆ… จู่ ๆ ฉันก็รู้สึกว่าเทพธิดายิ่งใหญ่กว่าที่เคยคิดไว้มาก…”
“ก็นั่นสิ เธอเป็นเทพนี่นะ…”
ผู้เล่นต่างพูดคุยกันด้วยความประทับใจ
นี่เป็นครั้งแรกที่ผู้เล่นได้เผชิญหน้ากับพลังเวทมนตร์ระดับตำนาน แม้ว่าจะไม่ใช่ในรูปแบบที่สมบูรณ์ แต่พลังนั้นกลับสร้างความหวาดกลัวให้พวกเขาได้อย่างแท้จริง
ก่อนหน้านี้ พวกเขาเคยเจอร่างอวตารของอูลร์และกึ่งเทพโวลเกอร์ แต่ในทั้งสองครั้งนั้น พลังที่แท้จริงของทั้งคู่ไม่เคยถูกแสดงออกมาอย่างเต็มที่ เพราะทั้งสองจบลงด้วยความพ่ายแพ้ในช่วงเวลาสั้นๆ
แต่ลูกแก้วเงาของมังกรเงาในครั้งนี้แตกต่างออกไป
มันไม่เพียงแต่แสดงพลังที่น่าสะพรึงกลัวออกมาเต็มกำลัง แต่ยังเผยให้เห็นถึงความโกลาหลและการทำลายล้างที่ไม่อาจหยั่งถึง
ผู้ที่ไม่รู้ย่อมไม่หวั่นเกรง แต่เมื่อได้เห็นพลังของลูกแก้วเงานี้ด้วยตาของตัวเอง ผู้เล่นทุกคนต่างเริ่มตระหนักถึงสิ่งที่พวกเขาเคยแซวเล่นว่าเป็น ‘ระเบิดจักระ’ ว่ามันทรงพลังเพียงใด
แรงกระเพื่อมที่เหลืออยู่เพียงเล็กน้อยจากการระเบิด ก็ยังรุนแรงพอที่จะทำให้เมืองเชียร์นาคามดูราวกับถูกพายุหายนะถล่มจนย่อยยับ บ้านเรือนพังทลาย หลังคาหลุดลอยไปตามแรงลมอันโหดร้าย
แต่ถึงกระนั้น สิ่งที่ทำให้พวกเขาตะลึงยิ่งกว่าคือ NPC ที่ยืมพลังเทพธิดา กลับสามารถต้านทานพลังอันมหาศาลนี้ได้อย่างง่ายดาย และยังใช้มันย้อนกลับไปทำลายมังกรเงาได้อีก
ความจริงข้อนี้เริ่มปลุกสำนึกบางอย่างในใจของผู้เล่นที่ยืนมองอยู่
ก่อนหน้านี้ พวกเขาเคยคุ้นชินกับการติดต่อเทพธิดาผ่านเควสและอีเวนต์ต่างๆ จนความยำเกรงที่ควรมีต่อสิ่งมีชีวิตระดับตำนาน กึ่งเทพ หรือแม้แต่เทพ ถูกลดทอนลงไป
แต่ในตอนนี้ เมื่อได้เห็นพลังที่แท้จริงของมังกรเงา และความสามารถของ NPC ที่ลอยอยู่กลางอากาศ ความรู้สึกของพวกเขาเริ่มเปลี่ยนไป
พวกเขาเริ่มรู้สึกถึงความยำเกรงขึ้นมาจริง ๆ
พร้อมกันนั้น ผู้เล่นที่เคยภาคภูมิใจกับการเพิ่มเลเวลของตัวเอง เริ่มรู้สึกสงบลง…
เพราะเมื่อเทียบกับผู้แข็งแกร่งที่แท้จริงแล้ว…
พวกเขาก็ยังคงเป็นเพียงต้นหอมอยู่ดี!
…
…
~~ ~~ ❀ ~~ ~~
โนเอล: รุ่นพี่คะ ตอนนี้มันทรงพลังมากจริง ๆ เลยค่ะ! แต่ดิฉันอดคิดไม่ได้เลยว่า ผู้เล่นนี่… คงลืมไปแล้วสินะว่ามังกรเงาตัวนั้นระดับไหน 😓
ลิลี่: พี่จ๋าาาา! 🤩 หนูชอบตอนที่เงาศักดิ์สิทธิ์ของอีฟบีบลูกแก้วพลังมังกรจนแตกกระจายเลยค่ะ! เท่มากกก! แต่พวกผู้เล่นนี่ก็สุดยอดนะ โดดลงไปเก็บเปอจากมอนกันยกใหญ่! 😂 ฮึ่ม!
~~ ❀ ~~
(ถั่วกำลังพาวิเวียนไปซ่อม อาจจะเพราะวันนี้ใช้งานหนัก จัดหนัก 10 ตอน 2 ชั่วโมงติด)
~~ ❀ ~~
ถ้าเจองานแปลของเค้าที่อื่น… สัญญานะว่าจะมาอ่านแปลไทยที่ https://www.nekopost.net/novel/12413 ♥
ส่วนใหญ่เค้าชอบทำเวอร์ชันแก้ไขคำผิดทีหลัง และปรับสำนวนแทบทุกตอนหลังอัพโหลด ดังนั้นต้องที่เนโกะฯเท่านั้น..!
ถ้าถูกใจโปรเจ็คนี้ ขอความอนุเคราะห์ในการซัพพอร์ทที่ผู้แต่งโดยตรง ตามลิงก์หน้าแรกนะคะ Support the project https://book.qidian.com/info/1016509432
~~ ~~ ❀ ~~ ~~
MANGA DISCUSSION