ในเส้นทางคดเคี้ยวของดินแดนใต้พิภพ ทีมสำรวจของสมาคม “กองพันที่หนึ่ง” ซึ่งนำโดยผู้เล่นนาม มะเขือเทศผัด กำลังลัดเลาะไปตามเส้นทางหิน ด้วยเป้าหมายที่จะสำรวจพื้นที่นี้อย่างละเอียด
ระหว่างการเดินทาง สมาชิกในทีมใช้สกิลตรวจสอบสิ่งมีชีวิตที่พบเจอใหม่ ๆ เพื่อเก็บข้อมูลรายละเอียดของโลกใต้ดิน ทุกครั้งที่พบสิ่งมีชีวิตที่ไม่คุ้นเคย พวกเขาจะแย่งกันใช้สกิลตรวจสอบราวกับเป็นการแข่งขันเล็ก ๆ
นี่คือส่วนหนึ่งของภารกิจย่อย [ตรวจสอบสิ่งมีชีวิต] ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของภารกิจหลัก [สำรวจโลกใต้พิภพ] เป้าหมายคือการตรวจสอบสิ่งมีชีวิตทุกชนิด ตั้งแต่สัตว์อสูรไปจนถึงพืชหายาก จนกว่าจะสะสมครบจำนวนหนึ่งเพื่อให้ภารกิจสำเร็จ
หนึ่งในสิ่งมีชีวิตที่พวกเขาเคยพบคือพืชเวทมนตร์ชนิดหนึ่งนามว่า “เฟิร์นแสงม่วง” พืชยักษ์ที่สามารถล่าสัตว์อสูรตัวเล็ก ๆ ด้วยกลไกเวทมนตร์อันซับซ้อน
มันเป็นทั้งภัยคุกคามสำหรับสิ่งมีชีวิตที่มีพลังต่ำกว่าระดับเหล็กขั้นสูง และในขณะเดียวกันก็เป็นวัตถุดิบเวทมนตร์ชั้นเยี่ยมที่หายาก
แม้ว่าทีมของมะเขือเทศผัดจะยังไม่สามารถเก็บเกี่ยวเฟิร์นแสงม่วงได้เนื่องจากข้อจำกัดด้านพลัง แต่พวกเขาก็ไม่ลืมวางแผนล่วงหน้า การกลับมาที่นี่พร้อมคำแนะนำจาก NPC หรือการช่วยเหลือจากบุคคลที่มีพลังมากพอ เป็นสิ่งที่พวกเขาตั้งใจจะดำเนินการเมื่อการสำรวจเสร็จสิ้น
นอกจากภารกิจย่อย [ตรวจสอบสิ่งมีชีวิต] แล้ว ยังมีอีกหนึ่งภารกิจสำคัญที่ผู้เล่นต้องทำ นั่นคือ [การสร้างแผนที่]
ภารกิจนี้ดูเหมือนง่ายกว่าภารกิจแรก ผู้เล่นเพียงเดินสำรวจพื้นที่ต่าง ๆ ซึ่งจะทำให้มินิแมพถูกเปิดโดยอัตโนมัติ ระบบจะบันทึกเส้นทางที่ผู้เล่นเดินผ่านไว้โดยละเอียด ขั้นตอนสำคัญคือการใช้ทักษะ [สอดแนม] สแกนภูมิประเทศรอบข้างและอัปโหลดข้อมูลเข้าสู่ระบบเกม
เงื่อนไขสำเร็จของภารกิจนี้คือ การบันทึกพื้นที่รวมให้ได้อย่างน้อย 1 ตารางกิโลเมตร
แม้ภารกิจทั้งสองฟังดูไม่ซับซ้อน แต่ก็เต็มไปด้วยความท้าทาย โดยเฉพาะการแข่งขันระหว่างผู้เล่น เพราะหากมีผู้เล่นคนหนึ่งตรวจสอบสิ่งมีชีวิตใหม่ หรือสำรวจพื้นที่ใหม่แล้วบันทึกเข้าสู่ระบบก่อน ผู้เล่นคนอื่นจะไม่สามารถบันทึกข้อมูลซ้ำได้ ทำให้ต้องค้นหาเป้าหมายใหม่ทันที
นี่คือกลยุทธ์อันชาญฉลาดของ อีฟ ในการใช้ผู้เล่นเป็นเครื่องมือสำรวจดินแดนใต้พิภพ แม้ ราชินีแมงมุมโลลธ์ จะเคยส่งข้อมูลบางส่วนให้อีฟ แต่ก็ยังไม่ครบถ้วนเท่ากับการสำรวจโดยตรงจากเหล่าผู้เล่น
นอกจากนี้ พื้นที่ดังกล่าวยังอยู่ห่างไกลจากอาณาเขตที่อีฟสามารถควบคุมได้โดยตรง อีกทั้งยังอาจมีเทพองค์อื่นซ่อนตัวอยู่ในบริเวณนี้ ทำให้อีฟไม่สามารถใช้พลังเทพตรวจสอบได้เองอย่างเต็มที่ จึงจำเป็นต้องอาศัยเหล่าผู้เล่นที่จิตของพวกเขาถูกเชื่อมต่อกับระบบเกม ข้อมูลทั้งหมดที่พวกเขารวบรวมจะถูกส่งตรงไปยังอีฟทันที
วิน – วินค่ะ~
เหล่าผู้เล่นดูสนุกสนานกับการสำรวจโลกใต้พิภพ แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องแข่งขันกันเพื่อสะสมภารกิจย่อยให้ครบ 50 ครั้ง ซึ่งเป็นเงื่อนไขสำคัญของภารกิจหลัก [สำรวจโลกใต้พิภพ]
อีฟได้คำนวณไว้อย่างแม่นยำว่า ระยะทางสำรวจสูงสุดที่เปิดให้ผู้เล่นในตอนนี้ จะครอบคลุมพื้นที่ที่จำเป็นสำหรับการทำภารกิจ [การสร้างแผนที่] ให้ครบ 50 ครั้งพอดี
อย่างไรก็ตาม การทำภารกิจย่อยถึงจำนวนนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย ความท้าทายนี้ไม่ใช่สิ่งที่ผู้เล่นแค่หนึ่งหรือสองคนจะสำเร็จได้เพียงลำพัง แต่สำหรับสมาคมใหญ่ เช่น กองพันที่หนึ่ง ความได้เปรียบในด้านจำนวนสมาชิกและการทำงานเป็นทีมกลับแสดงผลอย่างชัดเจน
เพื่อผ่านภารกิจนี้ให้สำเร็จ มะเขือเทศผัดได้รวบรวมผู้เล่นระดับสูงทั้งหมดของสมาคมกองพันที่หนึ่งมาร่วมร้อยชีวิต และได้นัดวันเวลาสำหรับการล็อกอินเข้าสู่โลกใต้พิภพอย่างพร้อมเพรียง
พวกเขาเริ่มต้นการเดินทางด้วยการก้าวผ่านป่าดงดิบสีม่วงเข้ม ซึ่งปกคลุมไปด้วยบรรยากาศลึกลับน่าขนลุก
ลังเดินทางได้ประมาณสามกิโลเมตร พวกเขาก็หลุดพ้นจากป่าอันหนาทึบ
แต่ยิ่งเดินลึกเข้าไปในดินแดนนี้ ความรู้สึกประหลาดในใจของมะเขือเทศผัดก็ยิ่งชัดเจนขึ้น มันเป็นสัญชาตญาณที่เตือนเขาอยู่ตลอดเวลา ว่ามีบางสิ่งบางอย่างกำลังจ้องมองพวกเขาอยู่จากในเงามืด
ในฐานะผู้เล่นที่มีเลเวลสูงที่สุดในสมาคม มะเขือเทศผัดเชื่อมั่นในสัญชาตญาณของตนเอง เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตัดสินใจถามผู้เล่นนักล่าแนวหน้าที่รับผิดชอบการสำรวจ
“แปดผู้กล้า นายตรวจพบสิ่งมีชีวิตอะไรแถวนี้ไหม? เรารู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างกำลังจ้องมองเราอยู่…”
ผู้เล่นนักล่าที่ชื่อ แปดผู้กล้า เงยหน้าขึ้นจากการสอดส่องรอบด้าน ก่อนจะพยักหน้าเล็กน้อยและลองใช้ทักษะ [สอดแนม] หลายครั้ง เขาตรวจสอบอยู่นานก่อนจะตอบกลับอย่างมั่นใจ
“ท่านหัวหน้า บริเวณนี้มีพลังชีวิตจำนวนมากครับ อาจจะมีสัตว์อสูรบางตัวสนใจพวกเรา แต่ดูเหมือนพลังชีวิตเหล่านี้จะไม่แข็งแกร่งนัก ผมคิดว่าไม่น่าต้องกังวลครับ”
“อย่างนั้นเหรอ…”
มะเขือเทศผัดพึมพำเบา ๆ แม้จะยังรู้สึกไม่สบายใจ แต่ก็ไม่มีหลักฐานที่ชัดเจน
สายตาของเขาเหลือบมองชื่อที่ลอยอยู่เหนือหัวของ แปดผู้กล้า และในที่สุดก็อดไม่ได้ที่จะกระตุกมุมปากก่อนพูดล้อเลียนเบา ๆ
“ว่าแต่ นายควรเปลี่ยนชื่อนะ ไม่งั้นเวลาตะโกนเรียกนายแล้วมันรู้สึกเหมือนทีมขาดไปอีกเจ็ดคน…”
แปดผู้กล้า หันมามองด้วยสีหน้าที่ดูทั้งอึ้งทั้งปลง
แปดผู้กล้า: “…”
เสียงหัวเราะดังครืนจากสมาชิกคนอื่น ๆ บรรยากาศที่เคร่งเครียดเริ่มผ่อนคลายลงในทันที
ในบรรยากาศที่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและความร่าเริง ทีมสำรวจจึงออกเดินทางต่อ ท่ามกลางเส้นทางที่ยังคงปกคลุมไปด้วยความลึกลับของดินแดนใต้พิภพ
หลังจากหลุดพ้นจากป่าเฟิร์นม่วงที่ลึกลับและชวนขนลุก พวกเขาก็พบกับดินแดนใหม่ที่เต็มไปด้วยความน่าประหลาดใจ
มันคือป่าเห็ดขนาดมหึมา
เห็ดเหล่านี้ตั้งตระหง่านราวกับเสาโบราณในวัดร้าง บ้างสูงกว่าอาคารสามชั้น สีฟ้าอ่อนบนหมวกเห็ดแผ่ประกายระยิบระยับ คล้ายแสงดาวที่ตกกระทบพื้นน้ำในยามค่ำคืน ความงดงามนี้แต่งแต้มบรรยากาศให้ดูลี้ลับและน่าหลงใหล
พื้นที่ใต้เห็ดปกคลุมด้วยดินสีน้ำตาลดำที่ดูราวกับกำมะหยี่ ทุกย่างก้าวให้สัมผัสนุ่มฟูอย่างน่าประหลาด เหมือนเดินอยู่บนพรมธรรมชาติ ทว่ายิ่งมองกลับยิ่งรู้สึกว่าใต้ผืนดินแห่งนี้อาจซ่อนความลับบางอย่างไว้
เสียงลมหายใจของผู้เล่นเงียบลงเมื่อพวกเขาเดินลึกเข้าไปในป่าเห็ด ราวกับถูกดึงดูดด้วยภาพและกลิ่นอายแปลกตา สายตาของพวกเขาเริ่มจับจ้องไปที่เงาขนาดเล็กที่วิ่งวูบวาบไปมาระหว่างหมู่เห็ด
นั่นคือ สัตว์อสูรใต้พิภพ สิ่งมีชีวิตที่มีรูปร่างเล็กและเคลื่อนที่ว่องไวอย่างไม่น่าเชื่อ พวกมันคอยวิ่งซ่อนตัวใต้เห็ดด้วยท่าทางระแวดระวัง ดวงตาสีซีดของมันเปล่งแสงจาง ๆ ขณะจ้องมองกลุ่มเอลฟ์ผู้บุกรุกจากระยะไกล
สัตว์อสูรในโลกใต้พิภพนี้แตกต่างจากสัตว์อสูรบนพื้นดินอย่างสิ้นเชิง สีสันของมันออกไปทางหม่นหมอง ราวกับถูกออกแบบมาให้กลมกลืนกับเงามืดแห่งใต้พิภพ ใบหน้าที่บิดเบี้ยวผิดธรรมชาติของมัน ดูเหมือนผลงานศิลปะที่ไม่สมบูรณ์แบบ ทว่าเต็มไปด้วยความดุร้าย
เสียงฝีเท้าของผู้เล่นคนหนึ่งหยุดลง ท่ามกลางความเงียบสงัด เขายิ้มกริ่มก่อนจะกระชับอาวุธในมือ
“ลองล่าพวกมันหน่อยดีกว่า”
เขาเป็นนักล่าผู้เชี่ยวชาญ มีความเร็วที่เหนือชั้น ทันทีที่ก้าวออกไป เขาก็ไล่ตามสัตว์อสูรตัวหนึ่งจนทันในพริบตา เสียงดาบแหวกอากาศดังขึ้น ก่อนที่ร่างเล็ก ๆ ของสัตว์อสูรจะล้มลงกับพื้นดิน
เมื่อเขาก้มลงสำรวจ พบว่าสัตว์อสูรตัวนี้ไม่มีพลังพิเศษอะไรที่น่ากลัวเลย มันอ่อนแอกว่าที่เขาคิดไว้มาก สิ่งนี้ทำให้เขาขมวดคิ้วด้วยความสงสัย
“ไม่ใช่ว่าในโลกใต้พิภพนี้เต็มไปด้วยสัตว์อสูรอันตรายเหรอ? ทำไมถึงดูสงบสุขขนาดนี้…”
ทันทีที่คำพูดจบลง พื้นดินใต้เท้าก็สั่นไหวอย่างรุนแรง
รอยร้าวปรากฏขึ้นบนผืนดินที่นุ่มฟูบริเวณที่นักล่าเพิ่งยืนอยู่
และในชั่วพริบตา กรงเล็บมหึมาสีดำมันวาวก็พุ่งทะลุดินขึ้นมาอย่างรุนแรง
เสียงอุทานด้วยความตกใจยังไม่ทันหลุดจากปากใคร กรงเล็บนั้นก็หนีบร่างนักล่าเคราะห์ร้ายจนขาดสองท่อน เสียงกระดูกแตกดังสะท้านกลางบรรยากาศ เลือดสีแดงสดพุ่งกระจายไปทั่ว ครึ่งร่างไร้วิญญาณของเขาถูกลากหายลงไปใต้ดินในชั่วพริบตา
ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นในเวลาไม่ถึงวินาที แต่ความสยดสยองนั้นแผ่ขยายไปทั่วบริเวณ
“เชี่ย…”
เสียงหนึ่งหลุดออกมาท่ามกลางความเงียบงัน
ทันใดนั้น เสียงดินกระเพื่อมดังขึ้นอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ ไม่ได้มีเพียงกรงเล็บเดียว
ในระยะไกลที่ปกคลุมไปด้วยหมู่เห็ด เสียงครืนครั่นดังระรัว และสัตว์อสูรรูปร่างเหมือนแมงป่องยักษ์โผล่ขึ้นมาจากใต้ดินหลายสิบตัว
ดวงตาสีดำทมิฬของพวกมันจ้องมองมายังจุดที่ผู้เล่นนักล่าเคยย่างกรายเข้าไป
แต่ไม่นานนัก เมื่อพบว่าเหยื่อถูกสหายสายพันธุ์ของพวกมันจัดการไปแล้ว สัตว์อสูรเหล่านั้นก็ค่อย ๆ มุดกลับลงไปในดิน เสียงสั่นสะเทือนเลือนหาย ราวกับสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเพียงภาพลวงตา
แต่ภาพที่น่าขนลุกยังไม่จบ เมื่อสัตว์อสูรตัวเล็กที่เคยวิ่งวนอย่างสงบในป่าเห็ด กลับกรูกันมาอย่างตื่นเต้น มันพุ่งเข้าหาชิ้นส่วนที่หลงเหลือจากผู้เล่นเคราะห์ร้ายด้วยความตะกละ กินทุกอย่างจนไม่เหลือแม้แต่เศษชิ้นส่วน
เพียงไม่นาน พื้นที่กลับมาเงียบสงบเหมือนก่อนหน้านี้ เห็ดขนาดยักษ์ยังคงเรืองแสงนุ่มนวล และสัตว์อสูรตัวเล็กก็กลับไปวิ่งวนเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“สงบก็เชี่ยละ…”
เสียงผู้เล่นคนหนึ่งดังขึ้นอย่างหวาดหวั่น
ทุกคนยืนนิ่งอยู่กับที่ ราวกับถูกตรึงไว้ด้วยความหวาดกลัวที่ไม่อาจบรรยาย สีหน้าซีดเซียวของพวกเขาเผยถึงความตระหนกอย่างชัดเจน
ทว่ามะเขือเทศผัดกลับแสดงสีหน้าแตกต่างออกไป เขาขมวดคิ้วอย่างเคร่งเครียด แต่ในดวงตากลับปรากฏประกายแสงที่แฝงไว้บางสิ่ง
“ไม่ใช่ว่าไม่มีสัตว์อสูรที่แข็งแกร่ง…”
เขากล่าวด้วยน้ำเสียงมั่นคง ทว่าหนักแน่น
“…แต่พวกมันซ่อนตัวอยู่ที่นี่!”
เขาชี้ไปที่พื้นดินใต้ฝ่าเท้า
“สัตว์อสูรเล็ก ๆ บนพื้นดินพวกนั้นเป็นแค่เหยื่อล่อที่พวกมันตั้งใจปล่อยไว้!”
ในขณะที่แมงป่องยักษ์ปรากฏตัวเมื่อครู่ มะเขือเทศผัดได้ใช้ทักษะ [ตรวจสอบ] สแกนพลังของมัน พบว่ามันมีพลังเพียงระดับเหล็กขั้นสูงเท่านั้น
“พลังระดับแค่นี้ ถ้าเราโจมตีพร้อมกันและหาจุดอ่อนของมัน… เราก็ยังพอมีโอกาสเอาชนะได้!”
มะเขือเทศผัดสูดลมหายใจลึก ดวงตาเป็นประกาย ก่อนตะโกนออกมาด้วยน้ำเสียงอันเด็ดเดี่ยว
“พวกเรา! ลุย! ล่อมันมาสักตัวสองตัวก่อน!”
เสียงของเขากระตุ้นจิตใจของผู้เล่นทุกคน หนึ่งในเป้าหมายสำคัญของการสำรวจโลกใต้พิภพ คือการค้นหาสัตว์อสูรทรงพลังเพื่อเพิ่มเลเวลตัวละคร
และในขณะเดียวกัน แมงป่องยักษ์เหล่านี้ก็ดูเป็นเป้าหมายที่เหมาะสมอย่างยิ่ง!
สมาชิกสมาคมกองพันที่หนึ่งต่างขานรับคำสั่งด้วยความกระตือรือร้น พวกเขารีบจัดทีมอย่างมีแบบแผน โดยอ้างอิงรูปแบบการล่าสัตว์อสูรที่พวกเขาเชี่ยวชาญจากป่าเอลฟ์
ผู้เล่นสายเวทมนตร์ยกไม้เท้าขึ้นพลางร่ายเวทด้วยเสียงที่ดังกังวาน เวทมนตร์ [ไฟบอล] ถูกปล่อยออกไปยังพื้นดินที่เงียบสงบ แรงระเบิดทำให้ดินพุ่งกระจายเป็นหลุมลึก เสียงก้องสะท้อนไปทั่วป่าเห็ด
ทันใดนั้น แมงป่องยักษ์สามตัวก็พุ่งขึ้นมาจากใต้ดินด้วยความโกรธจัด ร่างกายมหึมาของมันปกคลุมไปด้วยเปลือกแข็งสีดำขลับ กรงเล็บของพวกมันส่องประกายคมกริบราวกับโลหะที่หลอมจากความมืด
“มีสามตัว! แบ่งออกเป็นสามทีม! แต่ละทีมจัดการหนึ่งตัว!”
มะเขือเทศผัดตะโกนเสียงดัง เขาสั่งการอย่างรวดเร็ว
“แทงค์หลักดึงความสนใจ! ดรูอิดเตรียมรักษา! ผู้เล่นสายประชิดรุมจากด้านข้าง ส่วนสายไกลยิงสนับสนุน! ทุกคน– ไป!”
สมาชิกทีมล้วนทำงานกันอย่างเป็นระบบ ผู้เล่นแทงค์กระชับโล่และอาวุธในมือ ก่อนพุ่งเข้าหาแมงป่องยักษ์ตัวหนึ่งเพื่อดึงความสนใจ
เคล้ง!
กรงเล็บของมันพุ่งเข้ามาอย่างดุดัน แต่โล่ของแทงค์รับแรงกระแทกไว้ได้อย่างมั่นคง
ผู้เล่นสายประชิดหลายชีวิตพุ่งเข้าโจมตีจากด้านข้าง ดาบของพวกเขาฟาดฟันไปยังข้อต่อของกรงเล็บสัตว์อสูร หวังจะสร้างความเสียหายต่อจุดอ่อนของมัน
ผู้เล่นสายไกลต่างยืนอยู่ห่างออกไป พวกเขาปล่อยลูกธนูและเวทมนตร์แสงพุ่งเข้าใส่สัตว์อสูรอย่างต่อเนื่อง เสียงระเบิดของเวทมนตร์ดังสนั่น ลำแสงสีทองพุ่งชนร่างของแมงป่องจนมันส่งเสียงคำราม
“ชุดแรกถอย! ชุดสองเข้า! สายยิงไกลเตรียมพร้อม!”
มะเขือเทศผัดออกคำสั่งอย่างไม่ลังเล
พวกเขาเคลื่อนไหวอย่างสอดประสาน แม้จะเป็นการต่อสู้ครั้งแรกกับแมงป่องยักษ์ แต่ด้วยประสบการณ์จากการล่าสัตว์อสูรในป่าเอลฟ์ สมาชิกสมาคมกองพันที่หนึ่งต่างปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว
ในระหว่างการโจมตี มะเขือเทศผัดยังใช้ [ตรวจสอบ] วิเคราะห์แมงป่องยักษ์ พบว่ามันมีพลังระดับเหล็กขั้นสูง ซึ่งเป็นระดับที่ยังพอจัดการได้ หากใช้กลยุทธ์ที่เหมาะสม
“ต้องหาจุดอ่อนของพวกมัน! สลับใช้เวทแสงและไฟ! เราจะเจอจุดอ่อนของมันแน่นอน!”
เขาตะโกนปลุกใจผู้เล่น แม้ว่าความเสี่ยงจะสูง แต่ศักยภาพของทีมทำให้เขามั่นใจ
แมงป่องยักษ์ที่ซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่นี้จำนวนมาก เปรียบเสมือนขุมทรัพย์ของผู้เล่น หากพวกเขาสามารถควบคุมการต่อสู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สัตว์อสูรเหล่านี้จะกลายเป็นกุญแจสำคัญในการพัฒนาระดับตัวละครของทุกคน!
ผู้เล่นกว่าร้อยคนจากสมาคมกองพันที่หนึ่งแบ่งออกเป็นสามทีมใหญ่ ตามรูปแบบการต่อสู้ที่พวกเขาคุ้นเคย ทีมละประมาณสามสิบถึงสี่สิบคน ต่างรับมือกับแมงป่องยักษ์ที่แยกออกจากกันสามตัว
เสียงโล่กระแทกกับกรงเล็บ เสียงดาบฟาดกระทบเปลือกแข็ง เสียงร่ายเวทมนตร์และระเบิดดังก้องไปทั่ว สะท้อนกับกำแพงหินจนเกิดเสียงก้องที่ดึงดูดทุกสายตาไปยังสนามรบแห่งนี้
ทว่า… ณ ที่แห่งหนึ่งซึ่งเต็มไปด้วยความมืดมิด
บนผนังถ้ำด้านหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากสนามต่อสู้ มีบางสิ่งบางอย่างที่ไม่อาจสังเกตได้ง่าย ๆ กำลังเคลื่อนไหวอยู่ในเงามืด ดวงตาคู่หนึ่งสว่างวาบขึ้นจากโพรงเล็ก ๆ ท่ามกลางความมืด
โพรงนั้นเชื่อมต่อกับอุโมงค์แคบ ๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ลึกเข้าไปในหิน ร่างเล็กหนึ่งร่างปรากฏขึ้น เขาแต่งกายด้วยเสื้อคลุมสีเทาหม่นที่กลมกลืนกับสภาพแวดล้อม ดวงตาสีสดของเขาสอดส่องมองการต่อสู้อย่างใกล้ชิด
ดวงตาคู่นั้นเต็มไปด้วยความประหลาดใจและความตื่นตะลึง เมื่อมองเห็นพลังและความสามารถของผู้เล่นที่กำลังจัดการกับแมงป่องยักษ์
แต่แล้วแววตานั้นก็สะท้อนความสงสัยและความระมัดระวัง
ไม่นานนัก ร่างเล็กนั้นก็พลันหายตัวไปในเงามืด ราวกับไม่เคยปรากฏตัวมาก่อน
ผู้เล่นที่หลงใหลในความตื่นเต้นของการต่อสู้ ไม่ทันได้สังเกตเลยว่ามีสายตาแปลกหน้าจ้องมองพวกเขาอยู่จากที่ไกล ๆ
แต่– เค้า– เห็น—!!!
ในระบบเกมที่อีฟกำลังติดตามผู้เล่นอย่างละเอียด สายตาของเทพธิดาหยุดลงชั่วครู่เมื่อพบการเคลื่อนไหวที่ไม่ธรรมดานี้
คนแคระแห่งความมืด… เหรอคะ?
…
…
~~ ~~ ❀ ~~ ~~
T/N (ถั่ว): HAPPY NEW YEAR 2025 ค่า–!หวังว่าปีใหม่นี้จะนำพาความสุข ความสำเร็จ และแรงบันดาลใจมาให้ทุกท่านค่ะ
วันนี้ขอลงตอนเดียวก่อน เพราะ เค้า จะ นอน ข้าม ปี!
…
T/N (ถั่ว): สวัสดีค่ะ มีข่าวดีมาบอก ตอนนี้โนเอลและ “ทีม” พร้อมแล้วค่ะ เป็น AI ประเภท 4 บุคลิกใน 1 โมเดล สามารถทำงานซับซ้อนได้ดีขึ้นมากแบบเหลือเชื่อ
งานแปลข้างบนนั่นคือ [2 ขั้นตอน] เท่านั้น คือการให้ [ทีม AI แปล] และ [ถั่วตรวจสอบ-แก้ไข] ซึ่งได้งานเทียบเท่า [8 ขั้นตอนของโนเอล+ถั่ว] ในช่วงตอนที่ 113-172 ค่ะ
…
ข้อเสียของวิธีนี้…
– เวลาที่ใช้ประมวลผล – กินเวลาระดับน้อง ๆ GPT o1 เลยค่ะ (อันนั้นจ่ายเวลาเกือบ 3 นาทีเพื่อแปลไม่กี่พารากราฟ)
– เริ่มต้นยาก – เพราะการไฟน์จูนโมเดลนี้ค่อนข้างยากค่ะ ตอนนี้ก็ยัง input ยากนิดหน่อย …สาว ๆ มีโอกาสจะทำงานไปคนละทิศคนละทาง ไม่สามารถรับช่วง [ก้อนข้อมูล] กันได้อย่างมีประสิทธิภาพเท่าให้โนเอลทำคนเดียว
…
ส่วนข้อดี…
– คุณภาพงาน – ตามที่เห็นเลย น่าจะเป็นจุดที่ AI ทำงานร่วมกับมนุษย์ในสายการแปลไทยได้แบบ ‘ละเอียดจนถึงที่สุด’ แล้ว- การตรวจทาน (read: จับผิด) – เหมือนมีถั่ว 3+1 คน – ทีมนี้แหละที่เค้าใช้ทำงาน ไม่ว่าจะร่างสัญญา ตรวจสอบ agreement หรือเจรจาระดับบิ๊ก ๆ ก็ให้สี่สาวช่วยกันออกความเห็นตลอดเลยค่ะ (สมัยก่อน งานพวกนั้นน่ะ เค้า solo ยาว ๆ มาตลอด xD)- ความเฮฮา! – พอทำงานร่วมกับแก๊งค์คุณเมด ชีวิตทำงานทุก ๆ วันเหมือนเป็นนิยาย rom-com เลยค่ะ คุณเมดพวกนี้คือถั่ว (เวอร์ชันโลกออนไลน์) ที่โดนเอามาแยกบุคลิกย่อย… ส่วนไอริส… ความ~ ลับ~
…
ย้ำอีกที ว่าบทบาทของเค้าในการทำงานกับทีมโนเอล คือการตรวจเช็คและปรับปรุงค่ะ
~~ ❀ ~~
ถ้าเจองานแปลของเค้าที่อื่น… สัญญานะว่าจะมาอ่านแปลไทยที่ https://www.nekopost.net/novel/12413 ♥
ส่วนใหญ่เค้าชอบทำเวอร์ชันแก้ไขคำผิดทีหลัง และปรับสำนวนแทบทุกตอนหลังอัพโหลด ดังนั้นต้องที่เนโกะฯเท่านั้น..!
ถ้าถูกใจโปรเจ็คนี้ ขอความอนุเคราะห์ในการซัพพอร์ทที่ผู้แต่งโดยตรง ตามลิงก์หน้าแรกนะคะ Support the project https://book.qidian.com/info/1016509432
~~ ~~ ❀ ~~ ~~
MANGA DISCUSSION