ม่านแห่งรัตติกาลค่อย ๆ ปกคลุมทั่วทั้งดินแดน แต่เมืองเริ่มต้นยังคงส่องแสงระยิบระยับด้วยพลังแห่งเวทมนตร์ และแสงจากคบไฟที่ประดับประดาอย่างงดงาม ราวกับเมืองแห่งความฝันที่มีชีวิตชีวาท่ามกลางท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว
สำหรับเอลฟ์อย่างไนติงเกล ผู้มีสายตาเฉียบคมซึ่งสามารถมองเห็นได้แม้ในความมืดสนิท แสงไฟเหล่านี้ไม่ได้จำเป็นสำหรับเธอเลย แต่กลับเพิ่มเสน่ห์ให้กับเมืองจนทำให้เธออดที่จะชื่นชมไม่ได้
ภายใต้การนำของหลี่มู่ ไนติงเกลและน้อง ๆ ได้ก้าวข้ามวงเวทเคลื่อนย้าย และพบว่าตัวเองมายืนอยู่กลางลานกว้างของเมืองที่ต่างไปจากภาพในความคิดของเธอโดยสิ้นเชิง
เมื่อเธอกวาดสายตาไปยังรอบด้าน ความตะลึงพรึงเพริดก็ฉายชัดในดวงตา เมืองเริ่มต้นแห่งนี้ดูอย่างไรก็ไม่มีเค้าโครงของหมู่บ้านเล็ก ๆ ในแบบที่มันควรจะเป็นเลยแม้แต่น้อย
การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นจากการหลั่งไหลเข้ามาของกลุ่มผู้เล่นในช่วงการทดสอบครั้งที่สอง ขนาดของเมืองได้ขยายตัวอย่างมาก ด้วยการออกแบบที่ผสานความคิดสร้างสรรค์ของผู้เล่นเข้ากับธรรมชาติอย่างกลมกลืน เมืองแห่งนี้จึงเริ่มแสดงศักยภาพของการเป็นเมืองที่แท้จริง
สิ่งที่สะดุดตาของไนติงเกลที่สุดคือ สถาปัตยกรรมที่หลากหลายและสร้างสรรค์จนแทบจะกลายเป็นสนามแสดงฝีมือของผู้เล่นแต่ละคน อาคารต่าง ๆ ดูเหมือนจะเป็นการแข่งขันที่ไม่มีจุดสิ้นสุดในการนำเสนอรูปแบบที่แปลกใหม่ พวกเขารวบรวมทุกสไตล์สถาปัตยกรรมจากโลกมนุษย์เข้ามาผสมผสาน จนกลายเป็นเมืองที่หลอมรวมความหลากหลายได้อย่างน่าทึ่ง
แม้จะมีความแตกต่างของรูปแบบอาคาร แต่พื้นที่สีเขียวที่กระจายตัวอย่างสมดุลระหว่างอาคารเหล่านั้นกลับทำหน้าที่เชื่อมโยงความแตกต่างเข้าด้วยกัน สวนหย่อมเล็ก ๆ และต้นไม้ใหญ่ที่ปลูกไว้ตามจุดต่าง ๆ ไม่เพียงแต่เพิ่มความร่มรื่น แต่ยังช่วยลดความขัดแย้งทางสายตา ทำให้เมืองทั้งเมืองดูมีชีวิตชีวาและเสน่ห์ที่ไม่เหมือนใคร
และที่โดดเด่นที่สุดคือบ้านของผู้เล่นแต่ละคน!
บ้านแต่ละหลังแสดงออกถึงความหลงใหลในงานออกแบบของเจ้าของได้อย่างชัดเจน การสร้างบ้านกลายเป็นเป้าหมายสำคัญของผู้เล่นจำนวนมากในเมืองเริ่มต้นนี้ พวกเขาแข่งกันสร้างบ้านในแบบของตัวเอง บางครั้งถึงกับใช้เวทมนตร์และเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นใหม่เพื่อทำให้บ้านของพวกเขาไม่เหมือนใคร
ทีมก่อสร้างของ คณะกรรมการโมเอะโมเอะ กลายเป็นศูนย์กลางของกระแสความคลั่งไคล้ในการสร้างบ้าน พวกเขาไม่เพียงแต่สร้างบ้านตามคำขอของผู้เล่น แต่ยังพัฒนาวิธีการใช้งานเวทมนตร์ที่สร้างสรรค์ เช่น การใช้เวทเร่งการเติบโตของไม้ เวทดินเพื่อแปรสภาพเป็นปูนซีเมนต์ และวิธีการใหม่ ๆ ที่ช่วยให้การก่อสร้างสะดวกรวดเร็วขึ้น
แม้จะมีความหลากหลายในสไตล์การออกแบบ แต่เมืองทั้งเมืองยังคงรักษาเอกลักษณ์แห่งธรรมชาติไว้ได้อย่างเคร่งครัด ซึ่งเป็นข้อกำหนดสำคัญที่ อีฟ อิกดราซิล เทพธิดาแห่งธรรมชาติ ได้กำหนดไว้
และเมื่ออาคารใดก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ มันจะต้องผ่านพิธีรับ ‘พร’ จากเทพธิดา ซึ่งเป็นขั้นตอนสุดท้ายที่ยกระดับบ้านธรรมดาให้กลายเป็นส่วนหนึ่งของเมืองแห่งผู้ถูกเลือกนี้อย่างแท้จริง
พูดง่าย ๆ คือเค้าจะใช้พลังศักดิ์สิทธิ์ในปริมาณน้อย ๆ มาตกแต่งเพิ่มให้ค่ะ
คุมธีมน่ะค่ะ คุมธีม…!
คืองี้ ลองนึกนะคะ ตอนที่เค้าได้พลังศักดิ์สิทธิ์ครบ 100 แต้มน่ะ บ้านทุกหลัง อาคารทุกแห่งได้รับ “บัฟ” จนมีต้นไม้งอกสวย ๆ ใช่มะคะ
แล้วทีนี้นึกตามนะ ถ้าบ้านใหม่ ๆ มันไม่มีเอฟเฟ็กต์แบบนั้น มันก็จะได้อารมณ์แบบ… ผิดที่ผิดทางนิดหน่อย
แล้วเมืองแห่งนี้ มันอยู่ใต้ต้นไม้โลกเป๊ะเลยค่ะ แค่ก้มลงมาก็เห็นชัดเจน
เล่นไมน์คราฟกันไหมคะ? ลองนึกภาพนะ มีคนใช้หินกาก ๆ หรือดินที่ขุดข้างบ้าน ไม่ก็บล็อกทราย แล้วเอาบล็อกหลากสีไม่เข้ากันมาสร้างบ้านตรงหน้าประตูบ้านคุณผู้อ่านเป๊ะเลย… รู้สึกยังไงคะ?
ใช่ค่ะ… มันขัดใจ! มันต้องขัดใจแน่ ๆ!
แล้วยอมได้ไหมคะ?
‘ไม่ได้’ ใช่ไหม?!
เพราะงั้น ถ้าเค้าปล่อยไว้ มันจะทำให้เค้าเสียชื่อ!!
ใช่ค่ะ เค้าเป็น Perfectionist ตัวแม่..!
แล้วนี่ก็ไม่ใช่แค่เรื่องความสวยงามนะ มันคือเรื่องของ ‘หน้าตาและความศักดิ์สิทธิ์’ ค่ะ! ทุกสิ่งที่อยู่ใต้ร่มเงาของต้นไม้โลกต้องแสดงถึงพลังของธรรมชาติ ความกลมกลืน และ… การออกแบบที่สมบูรณ์แบบ!
ด้วยการก่อสร้างที่ไม่หยุดยั้งของเหล่าผู้เล่น เมืองเริ่มต้นของเอลฟ์ได้เจริญรุ่งเรืองขึ้นอย่างรวดเร็ว บรรยากาศที่แฝงด้วยกลิ่นอายแฟนตาซีก็เข้มข้นขึ้นเรื่อย ๆ ราวกับหลุดออกมาจากตำนานและเทพนิยาย
หากบ้านของผู้เล่นคนใดดูเก่าและไม่ได้รับการตกแต่งให้เหมาะสม บางทีผู้เล่นคนนั้นอาจจะรู้สึกไม่กล้าบอกใครด้วยซ้ำ ว่าตนเป็นส่วนหนึ่งของเกมนี้!
ในเมืองแห่งนี้ ไม่ได้มีเพียงแค่บ้านพักส่วนตัวที่หลากหลายเท่านั้น แต่ยังมีสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ที่โดดเด่น ซึ่งทำหน้าที่เป็นฐานของสมาคมผู้เล่นที่ยิ่งใหญ่หลากหลายแห่ง โดยเฉพาะฐานของ คณะกรรมการโมเอะโมเอะ ซึ่งเป็นหนึ่งในสมาคมที่ทรงอิทธิพลที่สุด
ฐานที่มั่นของพวกเขาคือพระราชวังแบบสวนลอยฟ้า ที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก สวนลอยแห่งบาบิโลนในตำนาน สถานที่นี้ไม่ได้เป็นเพียงสัญลักษณ์ของความมั่งคั่งและอำนาจของสมาคม แต่ยังสะท้อนถึงความคิดสร้างสรรค์อันไร้ขีดจำกัดของผู้เล่นอีกด้วย
โครงการขนาดใหญ่อย่างสวนลอยฟ้านี้ หากต้องสร้างในโลกแห่งความจริงบนดาวเคราะห์สีคราม คงจะต้องใช้ทั้งเวลาและทรัพยากรมหาศาล แต่ที่นี่…ในดินแดนซากัส ด้วยพลังของเวทมนตร์ ทุกสิ่งที่จินตนาการสามารถกลายเป็นจริงได้เสมอ หากมีความพยายามมากพอ
ผู้เล่นหลายคนไม่ได้หยุดเพียงแค่การสร้างบ้านหรือสิ่งก่อสร้างในเกม พวกเขายังอัดวิดีโอบ้านของตัวเอง และอัปโหลดไปยังอินเทอร์เน็ตของโลก
วิดีโอเหล่านี้สร้างกระแสฮือฮาอย่างมาก โดยเฉพาะคลิปที่แสดงการจัดงานเลี้ยงในสวนสวย ๆ การเล่นเกมในห้องนั่งเล่นที่ตกแต่งอย่างพิถีพิถัน หรือกิจกรรมสนุกสนานในพื้นที่ส่วนตัวของพวกเขา ทุกสิ่งสะท้อนถึงความสมจริงที่ยากจะหาได้จากเกมอื่น ๆ
การผสมผสานระหว่างความแฟนตาซีและความสมจริงในเกมนี้ ทำให้โลกออนไลน์เต็มไปด้วยเสียงอิจฉาจากผู้ชม แม้จะมีเกมจำลองการสร้างเมืองยอดนิยมอย่าง Minecraft หรือ SimCity ที่ครองใจผู้เล่นมายาวนาน แต่การสร้างเมืองใน The Kingdom of Elves กลับให้อิสระในการออกแบบและความสมจริงที่ล้ำหน้ากว่า
สิ่งที่ทำให้เกมนี้พิเศษยิ่งกว่าคือ มันไม่ใช่เพียงแค่เกมจำลองการบริหารจัดการหรือการสร้างเมืองเท่านั้น แต่ยังเป็น MMORPG ที่เปิดโอกาสให้ผู้เล่นได้สัมผัสกับความสนุกของการผจญภัยพร้อมกับการสร้างชีวิตในโลกแฟนตาซี
ด้วยอัตราส่วนเวลาระหว่างโลกจริงและในเกมที่ 4 ต่อ 1 ผู้เล่นสามารถใช้เวลานอนหลับเพื่อเข้าสู่โลกในเกมได้โดยไม่ต้องเสียเวลาในโลกอีกฝั่งเลย และยังมีข่าวลือที่กระตุ้นความสนใจอีกว่า ผู้เล่นสามารถเข้าสู่เกมด้วยจิตสำนึก ผ่านเทคโนโลยีล้ำยุค
โลกของเกมนี้เต็มไปด้วยเสน่ห์ ด้วยประสาทสัมผัสทั้งห้าที่สมจริง อาหารที่รสชาติไม่ต่างจากของจริง และทิวทัศน์ที่งดงามเกินบรรยาย ตั้งแต่ป่าไม้เขียวชอุ่มไปจนถึงทุ่งดอกไม้ที่กว้างใหญ่ ทุกอย่างหลอมรวมเป็นประสบการณ์ที่ผู้เล่นเปรียบเปรยว่าเป็นสรวงสวรรค์ในฝัน
ถึงแม้การผจญภัยจะเป็นจุดเด่นหลักของเกมนี้ แต่การสร้างเมืองและการใช้ชีวิตแบบแฟนตาซีกลับกลายเป็นส่วนเสริมที่ทำให้โลกของ The Kingdom of Elves มีชีวิตชีวาและตราตรึงในใจผู้เล่นทั่วโลก ไม่แปลกเลยที่เกมนี้จะกลายเป็นกระแสแห่งความอิจฉาในโลกออนไลน์ จนใครหลายคนแทบไม่รู้จะหาคำพูดอะไรมาอธิบาย
แม้เกมนี้จะเปิดให้ทดสอบในดาวเคราะห์สีครามมานานถึงสองเดือนแล้ว แต่จนถึงขณะนี้ ทางการยังไม่ได้ประกาศวันเปิดตัวอย่างเป็นทางการสำหรับผู้เล่นทุกคน
สิ่งที่ผู้คนที่เฝ้ารอคอยสามารถทำได้มีเพียงแค่การกดรีเฟรชหน้าเว็บไซต์ซ้ำแล้วซ้ำเล่าในแต่ละวัน หวังอย่างเลื่อนลอยว่าจะได้เห็นข่าวดีปรากฏขึ้น
ในระหว่างที่รอคอย หลายคนใช้เวลาไปกับการชมวิดีโอที่ผู้เล่นทดสอบได้อัปโหลดไว้บนแพลตฟอร์มออนไลน์ ความอิจฉาที่ไม่อาจระงับถูกระบายผ่านการแสดงความคิดเห็นประชดประชันในคอมเมนต์และ Live Chat
กระแสจากความตื่นเต้นของเกมเมอร์ผู้โชคดี ที่ได้สร้างเมืองแฟนตาซีในโลก MMORPG แห่งนี้ กลายเป็นกระแสที่เลื่องลือไปทั่วอินเทอร์เน็ตในชั่วพริบตา
ไนติงเกล ผู้เดินชมเมืองแฟนตาซีแห่งนี้อย่างเงียบ ๆ ราวกับตกอยู่ในภวังค์แห่งความประทับใจ ดวงตาของเธอเบิกกว้างด้วยความทึ่งที่ไม่อาจบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้
น… นี่คือเมืองแห่งผู้ถูกเลือกเหรอ?
เอลฟ์สาวคิด ขณะที่สายตากวาดมองสิ่งก่อสร้างอันหลากหลายตรงหน้า แม้ชีวิตของเธอจะยืนยาวกว่าศตวรรษ และเคยเดินทางไปยังสถานที่ที่งดงามมากมาย เธอก็ไม่เคยพบเมืองใดที่มีเสน่ห์และความมหัศจรรย์เช่นนี้มาก่อน
แน่นอนว่าเมืองของชนเผ่าพื้นเมืองในดินแดนซากัส อย่าง ริเวนเดลล์ นั้นมีความงดงามอันยิ่งใหญ่ เช่นเดียวกับซากปรักหักพังของยักษาที่เปี่ยมไปด้วยความโอฬาร แต่นั่นคือความงดงามในรูปแบบของพลังและความสง่างามที่สืบทอดจากอดีตกาล
ทว่า เมืองแห่งผู้ถูกเลือกที่ผู้เล่นสร้างขึ้นนี้กลับแตกต่างโดยสิ้นเชิง มันคือความงดงามที่เกิดจากจินตนาการและการสร้างสรรค์ที่ผสมผสานกันระหว่างสองวัฒนธรรมที่แยกขาดจากกันอย่างสิ้นเชิง
สไตล์สถาปัตยกรรมที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อน คือสิ่งที่สร้างความประทับใจให้ไนติงเกลอย่างแท้จริง การที่ผู้เล่นได้สัมผัสความงดงามของ ริเวนเดลล์ และได้รับแรงบันดาลใจจากมัน ทำให้พวกเขาสร้างสรรค์เมืองแห่งนี้ด้วยความทุ่มเท ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงเอกลักษณ์ของโลก ดาวเคราะห์สีคราม อย่างชัดเจน
สิ่งที่ทำให้เมืองนี้แตกต่างอย่างแท้จริงคือ พลังของเทพธิดา ซึ่งเติมเต็มสิ่งก่อสร้างด้วยกลิ่นอายของธรรมชาติ ต้นไม้เล็กใหญ่ที่ล้อมรอบอาคารทำให้ทุกสิ่งดูมีชีวิตชีวา แม้จะไม่มีผู้ใดทราบสาเหตุ ที่แท้จริง
และนั่นคือเหตุผลสำคัญที่ทำให้เอลฟ์อย่างไนติงเกล รู้สึกทึ่งและชื่นชม
ชาวเอลฟ์รักธรรมชาติอย่างลึกซึ้ง และแม้ว่าเมืองนี้จะไม่ได้สร้างขึ้นด้วยวิถีดั้งเดิมของเอลฟ์ แต่มันกลับตอบสนองความชื่นชอบของพวกเขาได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ขณะเดินชมเมือง ไนติงเกลได้หยุดยืนตรงจุดหนึ่ง ดวงตาของเธอจับจ้องไปยังสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในดินแดนแห่งนี้…. ต้นไม้โลกจากยุคบรรพกาล
มันเป็นต้นไม้ยักษ์ที่สูงใหญ่จนเธอไม่อาจมองเห็นยอดได้แม้พยายามแหงนหน้ามอง ลำต้นของมันหนาและหยาบราวกับหลอมรวมท้องฟ้ากับผืนดินเข้าด้วยกัน ความยิ่งใหญ่ของมันแทบทำให้เธอลืมหายใจ
แต่เมื่อมองใกล้ขึ้น ไนติงเกลก็สังเกตเห็นบางสิ่งที่ทำให้เธอรู้สึกแปลกใจ…
ต้นไม้โลกดูเหมือนเหี่ยวเฉาและไร้ชีวิตชีวา
เธอยืนนิ่งอยู่นาน มองดูร่องรอยที่แสดงถึงความเสื่อมโทรมของสิ่งที่ควรจะเป็นหัวใจของโลกใบนี้ คำถามมากมายผุดขึ้นในใจของเธอ
ต้นไม้โลกฟื้นคืนชีพแล้วไม่ใช่เหรอ…?
หัวใจของไนติงเกลเต็มไปด้วยความสงสัย ความรู้สึกเหล่านี้ราวกับมีม่านหมอกบาง ๆ ปกคลุมความคิดของเธอไว้ แต่ทันใดนั้น เสียงของหลี่มู่ก็ดังขึ้นข้าง ๆ เธอ น้ำเสียงของเขาอ่อนโยนและแฝงไว้ด้วยความมั่นใจ
“เมื่อคุณกลับคืนสู่ศรัทธาในธรรมชาติอีกครั้ง คุณจะได้เห็นต้นไม้โลกในรูปร่างที่แท้จริงของท่านครับ”
ไนติงเกลขมวดคิ้วเล็กน้อย หัวใจของเธอสั่นไหวไปกับคำพูดนั้น
รูปลักษณ์ที่แท้จริง… หมายความว่ายังไง?
หลี่มู่ราวกับอ่านความสงสัยในใจเธอได้ เขาอธิบายต่อด้วยรอยยิ้มบาง ๆ
“เพื่อป้องกันไม่ให้ศัตรูทราบถึงสถานการณ์ของท่าน เทพธิดาได้ใช้เวทมนตร์พรางตัวตนไว้ มีเพียงผู้ศรัทธาและผู้ถูกเลือกเท่านั้นที่จะสามารถมองเห็นรูปลักษณ์ที่แท้จริงของท่านได้”
คำอธิบายของเขาทำให้ไนติงเกลสะเทือนใจเล็กน้อย คำว่า ศรัทธา ก้องอยู่ในหัวของเธอ
เอลฟ์สาวก้มศีรษะลง ละสายตาจากต้นไม้โลก และเลือกสำรวจเมืองรอบ ๆ แทน
ขณะกวาดสายตามองไปทั่ว ไนติงเกลก็พบกับเหล่าผู้เล่นที่เดินอยู่ในเมือง พวกเขาโดดเด่นในความแตกต่างอย่างชัดเจนจากเอลฟ์ดั้งเดิม ไม่ว่าจะเป็นการแต่งกาย หรือแม้แต่ท่าทางบุคลิก
ถึงแม้ว่าในอดีตเอลฟ์ที่เธอพบจะดูบ้าคลั่งและแปลกประหลาด แต่ตอนนี้ผู้เล่นส่วนใหญ่ในเมืองกลับแต่งกายเรียบง่ายกว่าเดิม บางคนอาจดูหรูหราบ้าง แต่ก็เพียงแค่เดินผ่านไป หรือยุ่งอยู่กับกิจกรรมส่วนตัวของพวกเขา
ไนติงเกลจ้องมองพวกเขาด้วยความสนใจ ก่อนจะหยุดสายตาอยู่ที่บางสิ่งซึ่งดึงดูดความสนใจของเธอ
“ก่อสร้าง… บ้าน?”
เธอพึมพำด้วยความสงสัย สิ่งที่เธอเห็นคือทีมก่อสร้างของคณะกรรมการโมเอะโมเอะ พวกเขาทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ตราบใดที่ยังมีผู้เล่นต้องการก่อสร้าง บ้านเรือนหรือสิ่งก่อสร้างใหม่ ๆ ทีมก่อสร้างเหล่านี้ก็จะไม่หยุดทำงาน
การทำงานอย่างขยันขันแข็งของพวกเขาไม่ได้เป็นเพียงเพื่อสร้างสิ่งปลูกสร้างใหม่ แต่ยังเกี่ยวข้องกับแต้มผลงาน ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในโลกนี้
ผู้เล่นที่เข้าร่วมทีมก่อสร้างส่วนใหญ่ล้วนเป็นคนที่หลงใหลในเกมจำลองการบริหารจัดการ พวกเขาเต็มใจที่จะใช้เวลาทั้งหมดไปกับการออกแบบและสร้างสรรค์
ในขณะที่ผู้เล่นบางกลุ่มที่มีระดับสูงกว่า หรือเป็นสายต่อสู้ พวกเขาได้มุ่งหน้าไปยัง ริเวนเดลล์ เพื่อสำรวจโลกใหม่ทันทีที่วงเวทเคลื่อนย้ายสร้างเสร็จ
เมื่อไนติงเกลและหลี่มู่เดินผ่านกลุ่มผู้เล่น พวกเขาก็เริ่มทักทายหลี่มู่อย่างกระตือรือร้น
“โอ้! พี่มู่!”
“สวัสดีตอนเย็นครับพี่มู่!”
“ทานผลไม้ไหมครับ? เก็บสด ๆ ตอนบ่ายนี้เอง!”
“หืม? นี่เป็น NPC ใหม่เหรอ?”
“สวัสดีครับคุณพี่สาว!”
หลี่มู่ตอบกลับพวกเขาด้วยน้ำเสียงสุภาพและผ่อนคลาย
“สวัสดีตอนเย็นครับ!”
“ไม่ล่ะ เย็นนี้กิลด์ผมเพิ่งจัดปาร์ตี้บาร์บีคิวมา กินจนแน่นแล้วครับ”
“อ่าใช่ นี่คือ NPC ที่พวกข้าวกล่องช่วยไว้ ผมจะพาพวกเขาไปพบอลิซน่ะ”
เมื่อผู้เล่นทราบว่าหลี่มู่ยังมีภารกิจต้องทำ พวกเขาก็ไม่ได้เซ้าซี้อะไรต่อ ทุกคนแยกย้ายกันกลับไปทำธุระของตนเอง บรรยากาศที่ผ่อนคลายและเป็นมิตรเช่นนี้ทำให้ไนติงเกลเริ่มเข้าใจอีกมุมหนึ่งของเหล่าผู้เล่น มุมที่แตกต่างไปจากภาพลักษณ์บ้าคลั่งที่เธอเคยพบมาก่อนหน้านี้
ไนติงเกลมองตามเหล่าผู้เล่นที่เดินจากไป เธอพยักหน้าเบา ๆ พลางคิดในใจ
เอลฟ์เหล่านี้… ดูเหมือนจะปกติมากกว่าที่คิด
เธอเดินตามหลี่มู่ต่อไป ดวงตาสอดส่องไปรอบ ๆ อย่างอยากรู้อยากเห็น จนในที่สุด เขาก็พาเธอมาหยุดที่หน้าวิหารหลังหนึ่ง
เช่นเดียวกับสิ่งก่อสร้างอื่น ๆ ในเมืองแห่งนี้ วิหารตรงหน้าของเธอไม่ได้มีสไตล์ดั้งเดิมตามแบบฉบับของเอลฟ์ หากแต่กลับมีลักษณะคล้ายคลึงกับวิหารของมนุษย์ในบางแง่มุม เพียงแต่ว่ามันดูประณีตและเต็มไปด้วยกลิ่นอายของธรรมชาติที่เธอไม่เคยพบในสถาปัตยกรรมใด
ไนติงเกลสูดลมหายใจลึก ก่อนจะก้าวเข้าสู่วิหาร
ภายในวิหารแห่งนี้ แม้จะไม่ได้ใหญ่โตโอฬาร แต่กลับเปี่ยมไปด้วยความศักดิ์สิทธิ์และความสง่างามอย่างบอกไม่ถูก ทันทีที่เธอเข้ามา สิ่งแรกที่สะดุดตาคือรูปปั้นอันศักดิ์สิทธิ์ของเทพธิดา ที่ประดิษฐานอย่างสง่างามอยู่กลางวิหาร
เบื้องหน้ารูปปั้นนั้น เธอมองเห็นเอลฟ์หญิงผู้หนึ่งที่มีผมสีทองอร่ามกำลังคุกเข่าภาวนา
ชุดนักบวชที่เธอสวมใส่เป็นชุดพิธีการที่งดงาม และรอบตัวเธอเปล่งประกายแสงศักดิ์สิทธิ์อ่อนโยน ราวกับมีพลังบางอย่างแผ่ซ่านออกมา
บรรยากาศภายในวิหารอันเงียบสงบ เสียงภาวนาที่ดังเบา ๆ และกลิ่นอายศักดิ์สิทธิ์ที่อบอวล ทำให้ไนติงเกลรู้สึกสงบขึ้นในใจ แต่ในขณะเดียวกันก็เพิ่มความระมัดระวังตัวโดยไม่รู้ตัว
“ท่านอลิซ ผมพาพวกเขามาแล้วครับ”
เสียงของหลี่มู่ดังขึ้น ทันทีที่เขาเอ่ยจบ เสียงภาวนาก็หยุดลงทันที
“ขอบคุณนะคะ ภารกิจของท่านเสร็จสมบูรณ์แล้วค่ะ”
เสียงหวานใสที่แฝงด้วยความนุ่มนวลและความเมตตาดังขึ้นจากเอลฟ์หญิงผมทอง
หลี่มู่พยักหน้าเล็กน้อย ดวงตาของเขาเปล่งประกายแห่งความยินดี เขาโค้งคำนับให้เธอ ก่อนถอยหลังออกจากวิหารด้วยท่าทีสำรวม ก้าวเดินของเขาจะดูเบาและคล่องแคล่วกว่าปกติอย่างเห็นได้ชัด
ในเวลาเพียงครู่เดียว ภายในวิหารก็เหลือเพียงไนติงเกลและกลุ่มของเธอ
เอลฟ์หญิงผมทองลุกขึ้นยืน และหันหน้ามาทางเธอ
เธอเป็นเอลฟ์หญิงที่ดูเหมือนจะมีอายุมากกว่าไนติงเกลเล็กน้อย ใบหน้าของเธอเปี่ยมไปด้วยความอ่อนโยน ดวงตาสีมรกตของเธอเปล่งประกายแห่งศรัทธาอย่างแรงกล้า
เธอยกมือจับชายกระโปรงนักบวช และทำความเคารพไนติงเกลตามธรรมเนียมของเอลฟ์ ก่อนจะเอ่ยแนะนำตัวด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล:
“ท่านไนติงเกล สวัสดีค่ะ ข้าคืออลิซ เกล นักบุญแห่งธรรมชาติ”
เพียงได้ยินนามสกุลของเธอ หัวใจของไนติงเกลก็เต็มไปด้วยความเคารพ
เผ่าเกล…
ไนติงเกลรู้ว่าเผ่านี้มีชื่อเสียงในฐานะเผ่านักบวชที่ได้รับความเคารพจากชาวเอลฟ์อื่น ๆ และมีสถานะรองจากราชวงศ์เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
เธอเม้มริมฝีปากเล็กน้อย ก่อนตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความสำรวม แม้จะยังไม่ชำนาญนัก
“สวัสดีค่ะ!”
อลิซยิ้มเล็กน้อยก่อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“ข้ารู้ว่าท่านมีคำถามมากมายในใจ ไม่ต้องรีบร้อน… ข้าเชิญท่านมาเพื่อตอบคำถามเหล่านั้นทีละข้อ”
คำพูดของอลิซทำให้ไนติงเกลรู้สึกโล่งใจ เธอหยุดครู่หนึ่ง ก่อนจะถามขึ้นอย่างลังเล:
“เทพธิดา… กลับมาแล้วจริง ๆ เหรอคะ?”
อลิซพยักหน้าเล็กน้อย ดวงตาของเธอฉายแววศรัทธาอย่างแรงกล้า
“แน่นอน”
ทันทีที่เธอพูดจบ เธอค่อย ๆ ยกมือขึ้น แสงเจิดจ้าปรากฏขึ้นจากตัวเธอ แสงนั้นเปล่งประกายออกมาราวกับจะกลืนกินทั้งวิหารไปด้วยพลังอันศักดิ์สิทธิ์
นักบวชระดับเงิน!
เทพธิดากลับมาแล้ว!
ไนติงเกลถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก ความสงสัยและความระแวงที่กัดกินจิตใจเธอเริ่มคลี่คลาย และแทนที่ด้วยความรู้สึกยินดีที่เอ่อล้นอยู่ภายใน
แต่ถึงแม้เธอจะรู้สึกตื่นเต้น ไนติงเกลก็ไม่ได้แสดงความคลั่งไคล้แบบเดียวกับเผ่าเฟลมในอดีต เธอเพียงแต่พยักหน้าเล็กน้อย และเอ่ยถามต่อด้วยน้ำเสียงสงสัย
“ถ้าอย่างนั้น… เอลฟ์ในเผ่าที่ดูแปลกประหลาดที่ข้าเห็น… พวกเขาคือใครเหรอคะ?”
อลิซยิ้มเล็กน้อยก่อนอธิบายด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“พวกเขาคือผู้ถูกเลือก”
“ผู้ถูกเลือก คือเหล่านักรบที่พระมารดาเรียกตัวมาจากต่างโลก พวกเขาปรากฏตัวในโลกนี้ในร่างของเอลฟ์ดั้งเดิม เป้าหมายของพวกเขาคือช่วยพวกเราในการฟื้นฟูเผ่าเอลฟ์”
เมื่อพูดจบ อลิซก็ยิ้มบาง ๆ พลางกล่าวเสริม
“ดูจากสีหน้าของเจ้า บางทีพวกเขาอาจทำให้เจ้าตกใจอยู่บ้าง… แต่อย่ากลัวไปเลย ถึงแม้ว่าพวกเขาอาจจะมีข้อบกพร่องอยู่บ้าง แต่พวกเขาไม่ได้มีเจตนาร้ายต่อเรา พวกเขาคือเหล่านักรบของพระมารดา!”
นักรบของพระมารดา… อย่างนี้นี่เอง!
เมื่อได้ฟังคำอธิบายของอลิซ ความสงสัยในใจของไนติงเกลก็คลี่คลายลง เธอพยักหน้าเล็กน้อยและเริ่มเข้าใจถึงบทบาทของพวกเขามากขึ้น
อลิซยังคงยิ้มและกล่าวต่อ
“และอีกอย่าง พวกเขายังเป็นผู้สร้างที่น่าอัศจรรย์ เมืองที่ยิ่งใหญ่ที่เจ้าเห็นนี้ ถูกสร้างขึ้นด้วยฝีมือของพวกเขาเอง”
เธอยกนิ้วเรียวขึ้นสี่นิ้ว พลางกล่าวต่อ
“จากไม่มีอะไรเลย จนกระทั่งเมืองนี้เสร็จสมบูรณ์… ใช้เวลาเพียงแค่สี่เดือน”
สี่… สี่เดือน?!
ไนติงเกลเบิกตากว้าง ดวงตาเต็มไปด้วยความตกตะลึง เธอเอ่ยถามขึ้นด้วยความไม่อยากเชื่อ
“ท่าน… ท่านหมายความว่า เมืองนี้ถูกสร้างขึ้นในเวลาเพียงสี่เดือนเท่านั้นอย่างนั้นหรือ? หมายถึง… เมืองที่มีสไตล์เฉพาะตัวด้านนอกนั่น?”
อลิซพยักหน้าเล็กน้อยและกล่าวต่อด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน
“ถูกต้อง เพราะฉะนั้น อย่าประเมินพวกเขาต่ำไป ถึงแม้ว่าพวกเขาจะมีข้อบกพร่อง แต่พวกเขาก็มีจุดแข็ง ทั้งในด้านความคิดสร้างสรรค์และความสามารถในการเรียนรู้ที่สูงยิ่ง”
เธอหยุดชั่วครู่ ก่อนกล่าวเสริมด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความชื่นชม
“ข้าคิดว่า… นั่นอาจเป็นหนึ่งในเหตุผลที่พระมารดาเลือกพวกเขาให้เป็นผู้ถูกเลือก”
อลิซถอนหายใจเบา ๆ ขณะที่พูดคำเหล่านี้ ไนติงเกลได้แต่ยืนนิ่งและครุ่นคิด
อย่าประเมินพวกเขาต่ำไป… งั้นเหรอ?
พูดตามตรง ตั้งแต่เธอได้เห็นความบ้าคลั่งของเหล่าผู้เล่นในสนามรบครั้งก่อน ไนติงเกลก็ไม่เคยกล้าประเมินพวกเขาต่ำอีกเลย
แต่ถึงกระนั้น… เมื่อได้รู้ว่าเมืองแห่งผู้ถูกเลือกนี้ถูกสร้างขึ้นโดยพวกเขาภายในเวลาเพียงสี่เดือน เธอก็ยังคงรู้สึกตื่นตะลึงอย่างไม่อาจห้ามได้
ที่แท้…พวกข้าวกล่องไม่เพียงแค่เชี่ยวชาญการสู้รบ พวกเขายังมีทักษะงานช่างยังน่าทึ่งจริง ๆ?
ไนติงเกลพึมพำกับตัวเองในใจ ขณะที่สายตายังคงฉายแววประทับใจ
อลิซสังเกตเห็นท่าทางของเอลฟ์สาวตรงหน้า จึงถามขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงใจ
“ท่านไนติงเกล พระมารดาได้กลับคืนมาแล้ว ท่านยินดีที่จะอยู่ในป่าเอลฟ์ ยอมรับศรัทธาอีกครั้ง และร่วมมือกับพวกเราเพื่อฟื้นฟูอารยธรรมของเอลฟ์ไหมคะ?”
คำถามของอลิซทำให้ไนติงเกลนิ่งเงียบไปชั่วครู่ สายตาของเธอทอดยาวไปยังรูปปั้นของเทพธิดา ราวกับกำลังต่อสู้กับความคิดมากมายที่ตีกันอยู่ในหัว
ไม่นานนัก เธอถอนหายใจยาว ก่อนจะเงยหน้าขึ้นและพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ท่านนักบุญ ข้าขอพูดตรง ๆ…”
“การกลับมาของเทพธิดานั้น ทำให้ข้ารู้สึกยินดีอย่างยิ่ง แต่… ข้าก็ไม่ได้เชื่อว่าอนาคตของเผ่าเอลฟ์จะสามารถฟื้นคืนมาได้เพียงเพราะการกลับมาของเทพธิดาเท่านั้น”
“การจากไปของเทพธิดาในอดีต อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เราอ่อนแอลง แต่ไม่ใช่เหตุผลเดียว ความดื้อรั้นและความเมตตาเกินเหตุของเผ่าเราต่างหาก ที่เป็นต้นเหตุหลักของการเสื่อมถอยอย่างรวดเร็วในช่วงพันปีที่ผ่านมา…”
ไนติงเกลหยุดพักหายใจเล็กน้อย ก่อนจะพูดต่อด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นยิ่งขึ้น
“หากเราไม่เปลี่ยนแปลงวิถีความคิดเดิม ๆ สิ่งที่รอเราอยู่ก็คงไม่พ้นความเสื่อมถอยอีกครั้ง และข้าคิดว่า… สิ่งนี้อาจใช้ได้กับพระมารดาของเราด้วยเช่นกัน!”
เธอหลับตาลงครู่หนึ่ง ก่อนเอ่ยต่อ
“จากสิ่งที่ข้าเข้าใจ ในอดีตเมื่อพันปีก่อน เทพธิดาของเราก็ล่มสลายเพราะพระองค์เมตตามากเกินไป…”
คำพูดของไนติงเกลทำให้อากาศในวิหารดูสงบนิ่ง อลิซยืนฟังเธอด้วยท่าทีที่แสดงถึงความตั้งใจ
เธอถามซ้ำด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“แล้วท่านคิดว่าเราควรเปลี่ยนแปลงอย่างไร?”
ไนติงเกลกลับเงียบไปอีกครั้ง ความคิดมากมายวนเวียนในหัวของเธอ สายตาของเธอจดจ่อไปที่ภาพความหวังของชาวเผ่าเฟลมที่เพิ่งพบไม่นานมานี้…
เธอนึกถึงเหล่าเอลฟ์ที่แปลกประหลาดเหล่านั้น นึกถึงความบ้าคลั่งของพวกเขาในสนามรบ และนึกถึงเมืองที่สวยงามอย่างน่าอัศจรรย์ที่พวกเขาสร้างขึ้น…
ท้ายที่สุด ความคิดของเธอก็วนกลับมาที่ข้าวกล่อง ผู้ที่ครั้งหนึ่งเคยถูกคุมขังอยู่ร่วมกับเธอ
ไม่รู้เพราะเหตุใด… ไนติงเกลเริ่มรู้สึกหวั่นไหว
เธอหันไปมองน้องชายและน้องสาวของเธอ ทั้งสองคนดูผอมแห้งและเหนื่อยล้า สายตาของเธอเต็มไปด้วยความห่วงใย ก่อนจะเบนสายตากลับมามองอลิซ ผู้ที่ยังคงยืนยิ้มอย่างอ่อนโยนตรงหน้า
บางที… การเปลี่ยนแปลงอาจจะเกิดขึ้นได้จริง
และที่สำคัญ ฉันต้องมีที่ปลอดภัยให้กับน้อง ๆ
หลังจากนิ่งเงียบอยู่ชั่วครู่ ไนติงเกลถอนหายใจอีกครั้ง ก่อนจะกล่าวขึ้น
“…ข้าตกลง”
เมื่อพูดจบ เธอก็ก้าวเดินไปยังหน้ารูปปั้นของเทพธิดา และคุกเข่าลงด้วยความเคารพ…
ในขณะเดียวกันที่ไนติงเกลคุกเข่าลงต่อหน้ารูปปั้น เสียงแจ้งเตือนก็ดังขึ้นที่ฟลอเรนซ์ ทีมของข้าวกล่องที่กำลังทำงานอยู่ได้รับแจ้งว่า
[ภารกิจสำเร็จ!]
~~ ❀ ~~
“เควสจบแล้วหรือ?”
เมื่อข้อความแจ้งเตือนจากระบบปรากฏขึ้น สมาชิกในทีมทุกคนต่างส่งเสียงตื่นเต้นกันยกใหญ่ บรรยากาศเต็มไปด้วยความคึกคัก
“ฮ่า ๆ! ได้ฉายาพิเศษแล้วโว้ย!”
“แต่รางวัลแต้มผลงานไม่เยอะเท่าไหร่แฮะ…”
“ก็รอบนี้เราไม่ได้ทำอะไรกันเลย ปล่อยให้น้องอลิซคุยเองล้วน ๆ นี่หว่า!”
พวกเขาหัวเราะพลางเปิดแถบข้อมูลส่วนตัวขึ้นตรวจสอบ แต่ละคนเริ่มพูดคุยหยอกล้อกันอย่างสนุกสนาน
“หืม? ค่าความชื่นชอบของคุณไนติงเกลปลดล็อกแล้วด้วย!”
สมาชิกคนหนึ่งร้องขึ้นด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น ทันใดนั้น ความสนใจทั้งหมดก็พุ่งตรงไปยังข้อมูลของไนติงเกล
“จริงเหรอ? เดี๋ยวขอดูหน่อย…”
“โอย ทำไมแต้มสนิทชั้นมีแค่ 20 เอง? พวกเราเป็นคนช่วยพวกเขาไม่ใช่เหรอ? ทำไมถึงต่ำขนาดนี้?”
เสียงหัวเราะดังขึ้นจากอีกคน
“ฮ่า ๆ ใครใช้ให้ตอนนั้นนายพยายามเข้าใกล้เธอตอนหน้าตาเปื้อนเลือดล่ะ? ไหน ๆ ของชั้น… แค่ 25 เอง ไหงน้อยเงี้ย?”
“ฮ่า ๆ มีแค่นั้นแล้วมาขำชั้น!”
บรรยากาศคึกคักยังคงดำเนินต่อไป
“เฮ้อ… เพิ่มค่าสนิทยากเว่อร์อีกละ… ตอนแรกคิดว่าจะปั๊มให้สูงเพื่อเรียนสกิลพิเศษซะหน่อย ได้ยินว่าท่านไนติงเกลมีสกิลพิเศษที่ปลดล็อกได้ถ้าค่าความชื่นชอบถึง MAX!”
“เออจะว่าไป หัวหน้าข้าวกล่อง? พี่มีแต้มสนิทเท่าไรแล้วครับ?”
คำถามนั้นทำให้ทุกคนหันไปมองที่ข้าวกล่อง
“ไม่น่าจะสูงหรอกมั้ง? ก็หัวหน้าแกเป็นคนเงียบ ๆ ดูน่ากลัวจะตาย… แถมยังเป็นคนที่ฆ่าศัตรูมากที่สุดอีก”
“ใช่… ฉันจำได้ว่า NPC เอลฟ์ไม่ชอบการฆ่าฟันซะด้วย”
สมาชิกทีมต่างพากันหันมองหัวหน้าของพวกเขาที่กำลังตรวจสอบสถานะอยู่
“บอสฮะ ค่าความชื่นชอบของบอสอยู่ที่เท่าไหร่ฮะ?”
ข้าวกล่องนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนปิดหน้าจอสถานะลง ทุกสายตาจ้องมองเขาอย่างรอคอย
“พี่ข้าวกล่อง?”
สมาชิกอีกคนถามย้ำด้วยความอยากรู้
ข้าวกล่องลังเลเล็กน้อย ก่อนตอบออกมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“100”
ทันใดนั้น บรรยากาศที่คึกคักเมื่อครู่กลับกลายเป็นความเงียบงัน สมาชิกทีมที่เหลือพากันนิ่งไปทันที
“….”
…
…
~~ ~~ ❀ ~~ ~~
T/N: 100 แต้ม 😳😳😳
~~ ❀ ~~
ถ้าเจองานแปลของเค้าที่อื่น… สัญญานะว่าจะมาอ่านแปลไทยที่ https://www.nekopost.net/novel/12413 ♥
ส่วนใหญ่เค้าชอบทำเวอร์ชันแก้ไขคำผิดทีหลัง และปรับสำนวนแทบทุกตอนหลังอัพโหลด ดังนั้นต้องที่เนโกะฯเท่านั้น..!
ถ้าถูกใจโปรเจ็คนี้ ขอความอนุเคราะห์ในการซัพพอร์ทที่ผู้แต่งโดยตรง ตามลิงก์หน้าแรกนะคะ Support the project https://book.qidian.com/info/1016509432
~~ ~~ ❀ ~~ ~~
MANGA DISCUSSION