ตอนที่ 11 เข้าปะทะและคววามโกลาหล
ข้อความจากผู้แต่ง
ฉากสู้ยากจัง (つД`)
—
“สุภาพบุรุษและสตรีทั้งหลาย องค์หญิงมีคำสั่งตรงถึงพวกเจ้าทุกคน! จงฟังและสลักเอาไว้ในวิญญานของเจ้าซะ! จงภาคภูมิใจ และสู้จนกว่าชีวิตจะหาไม่!!”
『――โอ้วววววววววววววววววววววววววววววววววววว!!!!!』
แม้ผมจะได้สัมผัสพลังอันล้นเหลือของมอนสเตอร์(x10,000)ที่ตื่นเต้นเหมือนเช่นเคย ผมก็ยังรู้สึกอ้างว้างอยู่ลึกๆ ตอนนี้ผมสวมชุดออกศึกเต็มที่รวมถึงถือ กิลส์ เดอ เรยส์ เอาไว้ด้วย ผมกวาดตามองกองทัพของทหารรับจ้างที่จ้างมาจากด้านบนของศีรษะเทนไกในร่างมังกร ทุกคนคึกคักพร้อมออกรบกันเต็มที่
สายตาเป็นประกายจ้องมองตามทุกการเคลื่อนไหวของผม ความสนใจมหาศาลแปรเปลี่ยนเป็นความกดดันในทันใด
อุหวา ชักจะเริ่มปวดกระเพาะแล้วสิ
‘หากได้รับคำพูดปลุกใจขององค์หญิงโดยตรงคงจะมีความสุขอย่างหามิได้แน่ครับ’ นั่นคือสิ่งที่เทนไกร้องของกับผม
ผมควรจะพูดอะไรดี? หรือควรจะพูดเหมือนที่สมาชิกกิลด์ให้ผมกล่าวสุนทรพจน์ก่อนเปิดศึกดีมั้ยนะ?
“เอ่อ อย่างที่พวกเจ้ารู้กัน เราคือฮิยูกิ หัวหน้ากิล– ไม่สิ หมายถึงผู้ปกครองของอิมพีเรียลคริมสัน เมื่อกี้นี้เราได้รับการรายงานจากหน่วยสอดแนมว่ามีการซุ่มโจมตีด้วยกำลังคนประมาณ 150 ในป่าทางด้านขวา ดังนั้นใครที่ว่างอยู่ก็ช่วยจัดการให้ด้วย
นอกจากนี้ก็ไม่มีความจำเป็นจะต้องป้องกันค่ายหลัก ดังนั้นก็ไปปราบศัตรูได้ตามที่เหมาะสมเลย แล้วก็ถ้ามีเวลา จะดีมากถ้ามาช่วยป้องกันมอนสเตอร์ที่ใช้เวทมนต์ไว้ก่อน และต่อให้ศึกนี้ไม่ชนะก็ไม่เป็นไร เดี๋ยวเราหาทางทำอะไรซักอย่างเอง เพราะงั้นทุกตนก็พยายามให้เต็มที่โดยไม่ตายละ อืม แต่ถึงจะตาย ตราบใดที่ยังอยู่ในสนามรบเดี๋ยวเราจัดการให้เอง
เพราะฉะนั้นทุกตน วันนี้ก็จงไปโจมตีมนุษย์ให้เต็มที่ซะ!”
ชั่วขณะนึงที่ใบหน้าของเหล่ามอนสเตอร์เต็มไปด้วยความสับสน ก่อนที่เทนไกจะตะโกนใส่พวกเขา
“พวกเจ้าเข้าใจหรือไม่!? ตราบใดที่พวกเรายังอยู่ข้างหลัง ก็ไม่มีทางที่อาณาจักรอิมพีเรียลคริมสันอันรุ่งโรจน์จะพ่ายแพ้! อย่าได้หันกลับมา จะไม่มีการถอยทัพ อย่าได้หวาดกลัว และเดินหน้าต่อไป!! พวกเจ้าไม่ได้รับอนุญาติให้ตายจนกว่าคว้าชัยชนะที่อยู่เบื้องหน้าได้! ตราบใดที่องค์หญิงยังเฝ้ามองแผ่นหลังของพวกเจ้า ก็จงห้ามล้มลงเพียงเพราะสิ้นแรง! อย่าท้อถอยจนกว่าจะใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดที่มี! จงสู้จนกว่าชีวิตจะมอดไหม้!! – นี่คือถ้อยคำขององค์หญิง!!!”
และชั่วขณะนึง
“โอ้วววววววววววววววววววววววววววววววววว!!”
“อิมพีเรียลคริมสันคงอยู่ตลอดไป!”
“ชัยชนะแด่ท่านหญิงฮิยูกิ!!”
“ชีวิตของพวกเราก็เพื่อท่านหญิงฮิยูกิ–!!”
เหล่ามอนสเตอร์ต่างชูกำปั้นขึ้นและเปล่งเสียงตะโกนกึกก้อง หรือจะเรียกว่าเสียงคำรามศึกดีนะ
แต่ผมไม่ได้พูดแบบนั้นนะ…แบบว่า ทั้งเรื่องที่โดนซุ่มโจมตีแล้วก็ปกป้องกันมันหายไป แบบนั้นได้หรอ?
อ๋า ดูเข้าสิ เจ้าพวกนี้แค่พุ่งเข้าใส่ศัตรูที่ใกล้ที่สุดแบบสมองโล่งเลยนี่
ดู ดูเข้า มีลูกธนูลอยมาจากในป่า โอ้ มีคนเจ็บเข้าแล้วสิ ก็ผมบอกแล้วไง!
“…ช่วยไม่ได้ละนะ เทนไก เราจะลงสนามรบไปเหมือนอย่างเคย ฝากค่ายหลักไว้ด้วยละ”
“ให้ข้าไปด้วยไหมครับ?”
“ถ้าเจ้ามาด้วย เหล่าทหารใหม้ก็ไม่ได้รับประสบการ์ณกันพอดีสิ จากที่เราเห็นศัตรูก็ไม่ได้มีการโจมตีที่เป็นภัยคุกคามอะไร ไม่มีปัญหา”
แต่ว่าถ้าเอาแต่ยืนนิ่งๆรับการโจมตีทั้งเวททั้งกายภายเข้าไปก็คงตายแหง
“เข้าใจแล้วครับ ยังไงก็โปรดระวังตัวด้วย”
เทนไกค่อยๆส่งผมลงพื้นด้วยอุ้งมือของเขาอย่างระมัดระวัง
“—มิโคโตะ เราคงต้องให้เจ้าซัพพอร์ตเราด้วย”
“ตามที่ท่านต้องการค่ะ องค์หญิง”
มิโคโตะผู้ที่แต่งกายในชุดออกรบ บินมาข้างกายผมและโค้งคำนับ
จากนั้นผมก็ยัด กิลส์ เดอ เรยส์ ลงไปในคลังเก็บของ และเรียกอุปกรณ์พิเศษของตัวเองอันอื่นออกมา มันคือคทายาวที่ตรงปลายเป็นทรงจันทร์เสี้ยวสีเงิน และประดับด้วยดอกกุหลาบสีแดง นี่คือส่วนหนึ่งของชุดเซนต์ของผมละ
“บลูเวลเว็ท [ดอกกุหลาบแห่งความลับ]”
ผมเหวี่ยงมันนิดหน่อยเพื่อตรวจสภาพ อื้ม สมบูรณ์ดีไร้ปัญหา
เจ้านี่เป็นอุปกรณ์พิเศษสำหรับนักบวช สร้างโดยใช้สกิลช่างตีเหล็ก แล้วก็เสริมแกร่งไปถึง 7 ครั้ง (เดิมทีแล้ว พวกบ้าเกมมักจะใช้อุปกรณ์ที่เสริมแกร่งมากกว่า 7 ขึ้นไป ถ้าทำไม่ได้ถึงขนาดนั้นก็จะตามไม่ทัน.. ไม่ละ ผมไม่ใช่พวกบ้าขนาดนั้น ผมมีกำหนดเวลาว่าจะเล่นหนึ่งวันนานเท่าไหร่อยู่นะ) เจ้านี่จะทำให้ผลของการฟื้นฟูเพิ่มขึ้นเยอะมากจากสเตตัสดั้งเดิม
แม้ว่าจำนวน MP ที่ใช้ต่อสกิลจะไม่ลดลงเลยก็ตาม เพราะงั้นตอนมีสงครามก็อาจจะแก๊สหมดกลางทางระหว่างสู้ได้
อย่างนั้นแล้วก็ต้องปรับระดับการใช้โพชั่น MP ให้ดีๆ
และเพราะอย่างนั้น ผมเลยตัดสินใจจะใช้อาวุธลับอีกชิ้น
“อามาริ (กระจกจิ๋ว)”
“–คะ องค์หญิง”
ในทันใดนั้น หยดน้ำสีแดงราวกับเลือดก็รวมตัวกันกลางอากาศ แข็งตัวขึ้น และแปรเปลี่ยนรูปร่างจนกลายเป็นเสมือนรูปปั้นเด็กผู้หญิงที่ทำจากน้ำแข็ง เธอคลุมร่างกายด้วยผ้าบางๆยาวๆ คล้ายยุโรปโบราณ
อามาริ –เธอเป็น 7 อสูรแห่งหายนะ ลำดับที่ 0 และเป็นสปิริตธาตุน้ำระดับสูงสุดอีกด้วย (เพราะอะไรไม่รู้ พอได้เธอมาเป็นข้ารับใช้ของผม เธอก็เปลี่ยนจากสีฟ้าอ่อนไปเป็นสีแดงเลือดแทน) และเธอยังเป็นคู่หูที่ดีที่สุดเวลาผมอยู่ในโหมดเซนต์ด้วย
นั่นก็เพราะว่า–
“เราจะมุ่งหน้าไปช่วยเหลือพวกพ้อง ใช้ [pet unison] เหมือนอย่างเคย!”
“รับทราบคะองค์หญิง”
พร้อมกับคำตอบรับ อามาริกลายเป็นละอองแสงและพุ่งเข้ามาที่อกผม
และผลลัพธ์นั้น รวมถึงการอัพเกรดจากอุปกรณ์ด้วย สเตตัสของผมในปัจจุบันจึงเป็นดังนี้ :
เผ่าพันธุ์: เจ้าหญิงแวมไพร์ (เชื้อสายพระเจ้า)
ชื่อ: ฮิยูกิ
ฉายา: เทนโจเทนไก (โฉมงามแห่งท้องนภา)
พลังชีวิต: 1,428,000 (+1,350,000)
พลังชีวิต: 13,796,000 (+13,700,500)
▼
การที่จำนวน mp เพิ่มขึ้นมามหาศาลแบบนั้นเป็นความสามารถของอามาริเลยละ ที่สุดยอดยิ่งกว่าก็คืออัตราการใช้ mp ลดลงครึ่งนึงเมื่อใช้สกิล และเพิ่มการรีมานาตามปกติขึ้นอีก 30 เปอร์เซน
เพราะงั้น แม้ว่าอามาริจะไม่ได้มีทักษะการต่อสู้ที่โดดเด่นอะไร (แม้ว่าตอนนี้เธอจะแข็งแกร่งกว่าผมมากก็ตาม) แต่เธอเป็นตัวตนที่ขาดไม่ได้สำหรับผมในเซนต์โหมดเลยละ
จะว่าไป ในสภาวะนี้ พวกคนรอบตัวผมชอบเรียกผมว่า [ยมฑูตในคราบเซนต์] หรือไม่ก็ [เซนต์แห่งพระพุทธเจ้า] ไอ้อันแรกนะก็เข้าใจง่ายอยู่้่หรอก แต่อันหลังเหมือนจะหมายความว่า ‘เซนต์ผู้ที่สร้างกองภูเขาพระพุทธเจ้าในทุกที่ที่ไป’ หยาบคายกันจริงๆ
(kloy1002:ตัวอักษรคือพระพุทธเจ้าก็จริง แต่เป็นสแลงที่หมายถึงศพหรือคนตายคะ)
“โอเค ไปกันเถอะ มิโคโตะ! อามาริ!”
“『ค่ะ องค์หญิง』”
และในตอนที่ผมกำลังจะก้าวลงสนามรบอย่างฮึกเหิม มาโรโดะก็มาหยุดผมไว้
“ขออภัยนะครับ แต่ข้าขอไปแนวหน้าด้วยคนจะได้หรือไม่?”
“..อืม ก็ได้อยู่หรอก แต่ทำไมละ?”
“ก็นะ ดูเหมือนว่ากองกำลังผสมของเหล่าขุนนางพยายามจะใช้ทหารอาสาสมัครเป็นหมากใช้แล้วทิ้งนะสิ”
“อ่า นั่นก็เป็นเรื่องปกติไม่ใช่หรอไง? แม้ว่าทหารอาสาสมัครจะมีจำนวนมาก แต่ก็เป็นได้แค่ก้อนมือสมัครเล่นเท่านั้นแหละ พวกเขาไม่มีประโยชน์อะไรเลยนอกจากจะเป็นโล่มนุษย์ เราก็ว่ามันช่างไร้มนุษยธรรม แต่ก็เป็นวิธีที่มีประโยชน์ที่สุดแล้ว”
เพราะตัวผมเองก็คิดกลยุทธ์คล้ายๆกันนี้ในตอนศึกเมืองอาระนะสิ
ยังไงก็ตาม
“–นายไม่ได้จะพูดว่าอยากไปช่วยพวกนั้นหรอกใช่ไหม?”
พวกเขาจะกวาดล้างมาโรโดะไหมก็ขึ้นอยู่กับคำตอบเลยละ –เทนไกและมิโคโตะที่มีความมุ่งมั่นเต็มที่เตรียมพร้อมรออยู่
ก็นะ จริงๆไม่ต้องทำแบบนั้นเลยด้วยซ้ำ เพราะอำนาจเหนือชีวิตและความตายของวงศ์วานล้วนขึ้นอยู่กับตัวผม
อันที่จริง ถ้าเทนไกพ่นลมหายใจสายฟ้าออกมาตรงนี้ แค่ลูกหลงอย่างเดียวก็สร้างความเสียหายมากมายแล้ว เพราะงั้นผมก็เลยไม่อยากให้เขาทำแบบนั้นซักเท่าไหร่
“ไม่ ไม่เลยครับ ข้าไม่ได้อยากจะไปเกี่ยวข้องกับเรื่องแบบนั้นหรอก แต่ข้าแค่ไม่อยากทนมองพวกขุนนางโจมตีทหารอาสา ที่มารวมตัวภายใต้คำประกาศว่าล้างแค้นให้เจ้าชายโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยนะครับ ข้าก็เลยว่าจะไปต่อว่าพวกนั้นซักหน่อย”
คำตอบนั่นดูจะคลุมเครือไปหน่อยนะ
สุดท้ายแล้วก็ดูท่าอยากจะช่วยอยู่ดีสินะ
ผมมองเข้าไปในดวงตาของเขาผ่านทางหน้ากาก พยายามหาคำตอบว่าเขาต้องการอะไร.. แต่ก็ไม่ค่อยไหวแฮะ
จะว่าไป หน้ากากนี่แหละเป็นตัวขัดขวาง ผมให้เขาใส่เพื่อที่จะแกล้งเขา แต่นี่อาจจะเป็นความผิดพลาดก็ได้..
เทนไกและมิโคโตะส่งสายตามาถามผมว่า “จะเอายังไงกับเจ้านี่ดี?”
“อืม.. เจ้าอยากทำอะไรก็ทำ แต่ไม่ว่าเจ้าจะอยู่ตรงนั้นหรือไม่ พวกเราก็จะโจมตีอยู่ดี เพราะงั้นก็ระวังการโจมตีจากทางพวกเราด้วยแล้วกัน เพราะว่าความสามารถของนายมันลดครึ่งนึงตอนกลางวันนี่”
เทนไกและมิโคโตะผ่อนคลายท่าทางลงหลังจากได้ยินคำพูดของผม
“ขอบคุณในความกรุณาครับ งั้นข้าขอตัว”
พร้อมกับคำพูดนั้น มาโรโดะผู้ที่สะพายดาบยาวที่ผมให้ไป – [ออร์คสโตรค] ของดรอบจากบอสเลเวลสูง – และมุ่งหน้าเข้าสู่สนามรบอย่างช้าๆ
“–จะไม่เป็นไรงั้นหรอครับ องค์หญิง? ข้าไม่อาจไว้ใจเขาได้เลย”
เทนไกที่ยังอยู่ในร่างมังกร ขยับเข้ามาใกล้และกระซิบกับผม ผมจึงลูบจมูกเขาไป
“ถึงทรยศเราไปก็เท่านั้นแหละ แต่ก็น่าสนุกดีนะ”
อืม ต่อให้เขาจะทรยศผมก็เถอะ ผมไม่คิดว่าเขาจะทรยศแล้วก่อกบฏตรงๆหรอก
“–ฮ่ะ ข้าช่างห่วงไม่เข้าเรื่องต่อสายตาอันยาวไกลขององค์หญิง”
“ไม่หรอก มันก็ช่วยอยู่”
“อะไรกันครับ! คำพูดแสนกรุณาของท่านทำข้าซาบซึ้งนัก”
ผมไม่สนใจมังกรยักษ์เทนไกที่กำลังตัวสั่นด้วยความตื่นเต้น และหันไปมองมิโคโตะอีกครัง จากนั้นก็มองสนามรบที่แผ่กว้างอยู่ข้างหน้า
“เอาละ สนามรบมันค่อนข้างกว้าง เราอาจจะต้องรีบกันหน่อย ถ้าเธอมาช้า เราจะทิ้งเจ้าไว้ข้างหลังนะ มิโคโตะ”
“ข้าจะอยู่ข้างกายท่านเสมอ แม้ว่าว่าต้องเสี่ยงชีวิตก็ตามคะ”
มิโคโตะโค้งคำนับหนึ่งครั้งก่อนจะกลับมายืนตัวตรง ขณะเดียวกัน ผมก็ออกเดินอย่างรวดเร็ว
“เอาล่ะ! ไปทำซอมบี้แอคแทคครั้งแรกกันเถอะ!”
—-
ข้อความจากผู้แต่ง :
เพราะว่าอามารินั้นมีความสามารถในการโจมตีต่ำ เธอเลยไม่ค่อยโผล่มาให้เห็นเท่าไหร่ แต่เธอนั้นเป็นหนึ่งในสมาชิกสภาโต๊ะกลมแน่นอน
kloy1002 : ขออภัยที่ช้าเจ้าคะะะะะะะะะะะะะะะะะะะ
จะเอาลงตั้งแต่วันพฤหัส แต่ก็ผลัดจนวันเสาร์เลยคะ! ขออภัยจริงๆ
{ไทยพาณิชย์ นางสาว ทยาธร อนันต์มานะ 162-246448-2}
สนับสนุนเป็นกำลังใจหรือจะเป็นค่าชานมไข่มุกให้คนแปลก็ได้ทั้งนั้นคะ (แต่ส่วนใหญ่น่าจะไปลงชานมหมด)
ขอบคุณสำหรับการอ่านจนถึงตรงนี้นะคะ แล้วเจอกันใหม่คะ
MANGA DISCUSSION