“โอ้ ใบชาค่อนข้างดีเลยนะเนี่ย”

 

“ขอบคุณ”

 

เพราะว่ากฤษณะไม่มีห้องรับแขก กัปตันเซเรน่าเลยนั่งที่ห้องทานอาหาร และในตอนนี้ก็กำลังดื่มชาที่มิมิเตรียมด้วยท่าทางสง่างาม

 

กัปตันเซเรน่านั้นนั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามของเราทั้งสามที่นั่งเรียงกันอยู่ โดยที่ผมอยู่ตรงกลางประจันหน้ากับกัปตันเซเรน่า และมีอัลม่ากับมิมิประกบข้าง

 

“แล้ว เอ่อ…… มีอะไรรึเปล่า?”

 

เธอยิ้มรับคำถามของผม และวางแก้วน้ำลงบนโต๊ะอย่างเบามือ ครับ ยานบ้านๆ อย่างเราไม่มีแก้วหรูๆ กับจานรองให้หรอกนะ

 

“ฟุฟุ…… ฉันมาเพื่อเชิญคุณค่ะ”

 

กัปตันเซเรน่าว่าพร้อมรอยยิ้ม ทำให้พวกเราทั้งสามมองหน้ากัน ซึ่งเราทั้งสามในเวลานั้นน่าจะมีความคิดตรงกันเป๊ะๆ ว่ายัยนี่อาฆาตอะไรพวกเรารึเปล่า?

 

“ฉันเป็นพวกที่จะไม่ปล่อยให้เหยื่อหนีไปได้หรอกนะคะ”

 

อาเระ…… น่ากลัว! คำพูดพร้อมรอยยิ้มนั้นทำเอาหนาวไปถึงสันหลังเลย ทั้งสองมือของผมโดนกุมเอาไว้ ทั้งอัลม่าและมิมิต่างแสดงออกอย่างชัดเจนว่าจะไม่ยอมยกผมให้…… มีแค่แขนขวาที่มีความสุขแฮะ ส่วนแขนซ้าย? อ่า อื้อ ก็ไม่ได้แข็งนะ ถ้าถาม?

 

“ขี้อวดจังเลยนะ”

 

“แปปนะทั้งสองคน”

 

พอผมบอกทั้งสอง ทั้งมิมิกับอัลม่าก็ปล่อยแขนผมอย่างไม่เต็มใจ ผมน่ะอยากเพลิดเพลินต่ออีกหน่อย แต่ว่าให้ทำไงได้ ยังไงก็ต้องอ่านบรรยากาศแหละเนาะ ไม่ว่ามองทางไหนที่กัปตันเซเรน่าบอกว่าตามเหยื่อก็ไม่ใช่แบบที่คิดหรอก

 

“เอ่อ ถึงจะรู้ว่าตัวเองปฏิเสธไปหลายรอบแล้วก็เถอะ แต่ว่าฉันไม่ได้อยากเข้ากองทัพจักรวรรดินะ”

 

“ค่ะ ฉันรู้ น่าเสียดายเป็นอย่างยิ่ง”

 

รอยยิ้มของกัปตันเซเรน่าจางหายไป กลายเป็นท่าทีเศร้าหมอง ก่อนจะถอนหายใจออกมา เป็นท่าทีที่น่าเศร้ามากๆ หรือคนคนนี้จะขี้เล่นกว่าที่คิดกันนะ?

 

“ถ้าเป็นไปไม่ได้ ก็คงต้องยอมรับแค่นี้ ให้บังคับมาเข้าร่วมกองทัพแล้วต้องมีปัญหากับกิลด์ทหารรับจ้างก็ใช่ที่ ยังไงซะฉันก็ยังอยากสนิทสนมกับกิลด์ทหารรับจ้างอยู่”

 

“อย่างงั้นเหรอ……?”

 

ถ้างั้นคนคนนี้มาที่นี่ทำไมกันล่ะ? พอบอกว่าผมจะไม่เข้ากองทัพ ก็ยอมรับง่ายๆ แล้วแค่มาจนถึงกฤษณะเพื่อบอกว่าจะไม่ยอมปล่อยให้เหยือหนีงี้เหรอ?

 

“นี่เธอคงไม่คิดจะใช้อำนาจขุนนางมาบีบบังคับกันใช่ไหม?”

 

“เรื่องนั้นไม่เคยผ่านหัวเลย เพราะถ้าทำแบบนั้นนายก็คงจะหนีไปที่สหพันธ์เบลเบลมแทนใช่ไหมล่ะ?”

 

“……”

 

ผมตอบคำถามด้วยการเงียบใส่ ตรงนี้ไม่ว่ายังไงจะให้ตอบไปว่า ใช่แล้ว ก็ดูไม่ควรเกินไปหน่อย ยังไงอีกฝ่ายก็เป็นทหารของจักรวรรดิด้วย

 

“ยังไงก็ตาม ฉันได้รับการเลื่อนขั้นค่ะ เพราะผลงานการป้องกันระบบดาวเทอร์เมนที่ผ่านมานั้นเป็นที่ยอมรับ ดูสิตรายศเปลี่ยนไปใช่ไหมล่ะ? ตอนนี้ฉันเป็นเมเจอร์เซเรน่า ฮอล์ซแล้วค่ะ”

 

“ยินดีด้วยนะครับ”

 

ผมยินดีกับกัปตันเซเรน่า ไม่สิเมเจอร์เซเรน่าที่ชี้ตรายศบนไหล่และยิ้มบอกเรื่องที่ได้เลื่อนยศอย่างจริงใจ หรือว่าจะมาไกลขนาดนี้เพื่อบอกเรื่องได้เลื่อนขั้น? ไม่มีทางแหง ผมเลื่อนระดับการระวังตัวขึ้นอีกระดับ

 

“เหตุผลที่ฉันได้เลื่อนขั้นก็เพราะความพยายามอันกล้าหาญของนายเมื่อการรบป้องกันที่ผ่านมา กัปตันฮิโระ พวกเราน่ะโชคดีที่สิ่งมีชีวิตคริสตัลบุกโจมตีกองยานของศัตรู ไม่ว่าเพราะอะไรก็ตาม”

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า โชคดีจังเลยเนาะ ตอนนั้นน่ะ พวกเรากำลังจะปะทะกับกองยานอีกฝ่ายพอดี ค่อนข้างน่ากลัวเลยแหละ”

 

ผมเหงื่อตก ไม่เป็นไรหรอกน่า ไม่มีทางรู้หรอกว่าเราใช้คริสตัลขับร้องเรียกสิ่งมีชีวิตคริสตัลมาโจมตีกองยานสหพันธ์เบลเบลม ใจเย็นหน่อยตัวฉัน

 

“ฟุฟุ ไม่ผิดจากที่พูดเลยค่ะ เวลาเหมาะเจาะพอดีเลย แต่ฉันไม่คิดจะสืบสาวราวเรื่องไปมากกว่านี้หรอกค่ะ เพราะงั้นไม่ต้องกังวลไป”

 

เมเจอร์เซเรน่ายิ้มให้ ใบหน้าเขียนอย่างชัดเจนว่า นายติดหนี้ฉันแล้วนะ เน่ ใครติดหนี้เธอกัน? ถ้าไม่ทำแบบนั้นคิดว่ากองทหารของระบบดาวจะต้องเสียหายเท่าไรกันหา เธอต่างหากล่ะที่ติดหนี้ฉันน่ะ

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า ไม่รู้หรอกนะว่าหมายความว่ายังไง แต่ยินดีที่การกระทำของผมมันช่วยเมเจอร์เซเรน่าได้”

 

“ฟุฟุฟุ”

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า”

 

มิมิตัวสั่นเล็กน้อย อาจจะเพราะกลัวการตอบโต้ของผมกับกัปตันเซเรน่าที่กำลังหัวเราะอย่างน่ากลัวอยู่

 

รอบก่อนเผลอตัวง่ายไปหน่อย แต่จะไม่ยอมพลาดซ้ำสองหรอกนะ รอบนี้จะระวังระดับ MAX ตั้งแต่ต้นเลย จะไม่ยอมให้เห็นว่าเคี้ยวง่ายเด็ดขาด

 

“งั้น เอาเป็นเราพูดธุระกันเลยดีไหม?”

 

“ได้สิ ตอนที่ฉันได้เลื่อนขั้น ฉันก็ได้รับหน้าที่บัญชาการหน่วยใหม่ที่พึ่งจัดตั้งขึ้น”

 

“ต้องบอกว่า ยินดีด้วย ถูกแล้วใช่ไหม?”

 

“ค่ะ ฉันดีใจมาก คำร้องการจัดตั้งกองยานอิสระต่อต้านโจรสลัดที่ส่งไปเบื้องบนของกองทัพจักรวรรดิในที่สุดก็ได้รับการยอมรับ และฉันได้รับหน้าที่บัญชาการค่ะ”

 

“กองยานอิสระต่อต้านโจรสลัด……?”

 

“ค่ะ ให้พูดคร่าวๆ นั้น กองกำลังของจักรวรรดิอวกาศนั้นแบ่งเป็นสองส่วน คือกองยานป้องกัน ที่จะประจำอยู่ตามโคโลนี่ และป้อมปราการของระบบดาวต่างๆ รับผิดชอบการปกป้องระบบดาวจากการบุกรุกของต่างประเทศและรักษาความสงบ และกองยานเคลื่อนที่ที่จะรับผิดชอบการทำลายกองยานจู่โจมของประเทศอื่น และโจมตีประเทศอื่นด้วย”

 

“เข้าใจแล้ว”

 

“ในด้านกำลังรบของกองทหารระบบดาว หรือที่เรียกว่ากองยานป้องกันนั้นยิ่งใหญ่ แต่เพราะต้องปกป้องดินแดนของจักรวรรดิที่กว้างขวางมากๆ กำลังรบเลยจะกระจายตัว เพราะงั้นเลยความเสี่ยงมากมายจากการโดนจู่โจมจากโจรสลัดและมอนสเตอร์อวกาศ และเพราะหน้าที่คือป้องกัน ถ้าสูญเสียมากไปก็จะรักษาความสงบไว้ไม่ได้ จนอาจกลายเป็นสถานการณ์ร้ายแรงได้ เพราะงั้นถ้ากองทัพระบบดาวไม่มีแผนที่ละเอียดถี่ถ้วน ไม่มีกำลังมากพอ และไม่มีตำแหน่งปิดล้อมสมบูรณ์ พวกเขาก็บุกปราบปรามภัยพวกนั้นไม่ได้”

 

“เข้าใจได้”

 

หากกองทัพระบบดาวสูญเสียหนักระหว่างการออกปราบกราม ข่าวเรื่องกองทัพระบบดาวเคลื่อนไหวไม่ได้ ก็จะกระจายตัวไปในหมู่โจรสลัดทั่วระบบดาวอย่างรวดเร็ว จนพวกมันไหลเข้ามาในพื้นที่กันเต็มไปหมด กลายเป็นสถานการณ์ปิดล้อมโดยสมบูรณ์ การลาดตระเวณก็ต้องแคบลงเพื่อรักษาสถานการณ์เอาไว้ ซึ่งก็จะทำให้พวกโจรสลัด『กระแส』เพิ่มขึ้นไปแทน

 

แล้วถ้าข่าวว่ากองทัพระบบดาวเสียหายจนขยับตัวแทบไม่ได้แพร่ออกไป ก็จะไม่จบแค่โจรสลัด『กระแส』เพิ่มขึ้นด้วย ร้ายแรงที่สุดนั้นเป็นไปได้ว่าจะบานปลายจนเกิดการโจมตีโคโลนี่อะไรแบบนั้นขึ้นด้วยซ้ำ

 

“แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเราจะเคลื่อนไหวกองยานจู่โจมมั่วซั่วได้ กองยานจู่โจมเป็นทั้งดาบและโล่ที่แข็งแกร่งที่สุดของจักรวรรดิ การปฏิบัติการแต่ละครังใช้เงินจำนวนมหาศาล แถมถ้าเคลื่อนไหวโดยไม่ระวังประเทศข้างเคียงอาจจะฉวยโอกาสโจมตีอีกด้วย”

 

“พูดอีกอย่างคือมีกองกำลังเคลื่อนที่ไม่พอ เพราะงั้นทหารรับจ้างก็เลยรับหน้าที่นั้นอยู่?”

 

“ใช่แล้ว เพราะงั้นแทนที่จะพึ่งพาทหารรับจ้าง กองยานต่อต้านโจรสลัดเลยถูกสร้างมาเพื่อเป็นกองกำลังเคลื่อนที่ภายในกองทัพจักรวรรดิน่ะ”

 

“อันนั้นเข้าใจ แต่ว่านะ ที่ไม่เข้าใจคือทำไมเมเจอร์เซเรน่า ผู้การของกองยานที่ว่าถึงถ่อมาจนถึงยานของเราต่างหากล่ะ”

 

พูดอีกอย่างคือกองทัพจักรวรรดิอวกาศเตรียมกองกำลังต่อสู้ของตัวเองแล้วกลายเป็นคู่แข่งทางธุรกิจกับทหารรับจ้างนั่นเอง แต่ถ้าให้พูด พื้นที่ที่กองยานเดียวจะจัดการได้น่ะค่อนข้างจำกัด เพราะงั้นแค่เลี่ยงระบบดาวที่กองยานอิสระดำเนินการอยู่ก็พอ พูดตามตรงนะ ผมพูดได้ก็แค่ อื้ม โชคดีนะ แค่นั้นแหละ แบบว่าไม่เห็นเข้าใจเลยว่าทำไมต้องถ่อมาด้วยตัวเองจนถึงยานของเราเพื่อเล่าเรื่องพวกนี้ด้วย

 

“และ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมถึงมาชักชวนคุณ”

 

“……”

 

ผมส่งสายตาที่บอกว่า ก็บอกไปแล้วไม่ใช่เร้อว่าจะไม่เข้าร่วมกองกำลังของจักรวรรดิน่ะ พอทีดิ๊

 

“ยิ่งโดนปฏิเสธชัดๆ ยิ่งตื่นเต้——แฮ่ม! ไม่มีอะไร จริงๆ แล้วคือฉันต้องการยื่นคำร้องกับคุณ ที่เป็นมืออาชีพในการปราบปรามโจรสลัด”

 

“คำร้องเหรอ?”

 

ถ้าเป็นคำร้องผ่านกิลด์ทหารรับจ้างก็คงรับโดยไม่ลังเลขึ้นอยู่กับเนื้อหางานล่ะนะ แต่ว่าเมื่อกี๊เหมือนได้ยินคำอันตรายด้วย แต่ไม่สนใจดีกว่า ผมไม่โง่พอที่จะเหยียบกับระเบิดที่เห็นได้ชัดขนาดนั้นหรอก

 

“แล้วมันเกี่ยวของกับอะไรบ้าง?”

 

“กองยานจักรวรรดิอวกาศอย่างพวกเรารู้ว่าจะโจมตีกองยานศัตรูยังไง รู้ว่าจะโจมตีฐานศัตรูยังไง แต่พวกเราไม่รู้ว่าจะจัดการกับสลัดอวกาศที่ไปมาเป็นกลุ่มเล็กๆ และโจมตียานของประชาชนพวกนั้นยังไง”

 

“พูดอีกก็ถูกอีก”

 

ก่อนอื่นเลยก็คือเทคนิคที่เรียนรู้มาไม่เหมาะกับเป้าหมาย เพราะโจรสลัดที่ดวงซวยพอจะไปโผล่หน้ากองยานอิสระก็จะกลายเป็นขยะอวกาศไปในทันที แต่โจรสลัดน่ะไม่โง่ ถ้ากองยานอิสระมุ่งเข้าหาพวกมันก็คงไม่หนีก็ซ่อนทันที

 

“เพราะงั้น ในฐานะของมืออาชีพในการสู้กับโจรสลัด ฉันอยากให้สอนวิธีการให้หน่อย”

 

“งี้นี่เอง เข้าใจแล้ว”

 

“งั้น?”

 

ดวงตาของเมเจอร์เซเรน่าเป็นประกายด้วยความคาดหวัง

 

“ขอปฏิเสธ”

 

และคำพูดตรงๆ ของผมก็ทำให้เธอยิ้มค้างทันที

 

“ทะ ทำไมล่ะ……?”

 

“ไม่ใช่อะไรนะ คือไม่ต้องเป็นฉันก็ได้นี่หน่า แถมเรียนวิธีจากกิลด์ทหารรับจ้างจะดีกับคุณมากกว่ารึเปล่า? มั่นใจได้เลยว่าน่าจะหาคนสอนได้เหมาะกว่าคนที่ที่มาน่าสงสัยแบบฉันนะ”

 

ฟังดูสมเหตุสมผล แต่ดูน่ารำคาญนิดหน่อย ถึงจะยังไม่รู้จำนวนเงินรางวัล แต่ว่าไม่น่าจะเยอะกว่าที่ได้จากการล่าโจรสลัดตามปกติของเรา แถมไม่ว่ามองจากมุมไหนก็ต้องใช้เวลานานแน่ๆ กับเราแล้วมีแต่เสียกับเสียเลย เงินน้อยใช้เวลานานเนี่ย

 

“ฉันอยากเรียนวิธีจากคุณ”

 

“ไม่”

 

“ทำไมดื้อด้านนักล่ะ?”

 

เมเจอร์เซเรน่าทำแก้มป่องอย่างน่ารัก อา คนสวยนี่ไม่ว่าทำหน้าแบบไหนก็ดูดีจังเลยนะ แต่ว่า เหตุผลที่ผมปฏิเสธอย่างดื้อด้านน่ะมันเห็นได้ชัดอยู่แล้ว

 

เพราะเธอมันเป็นตัวปัญหาไงล่ะ! รู้ตัวซะที!

 

แต่ให้พูดแบบนี้ไปก็คงไม่ได้ เพราะงั้นเลยต้องหาเหตุผลดีๆ มาอธิบายให้ฟัง แถมที่สำคัญเลย คือคนคนนี้เป็นขุนนางจักรวรรดิ ผมน่ะไม่ค่อยรู้กฎหมายจักรวรรดิเท่าไร ถึงไม่รู้ แต่เพราะการมีอยู่ของขุนนางจะมีกฎหมายเรื่องดูหมิ่นก็ไม่น่าแปลกใจอะไร

 

“เพราะว่าเงินรางวัลคาดหวังไม่ได้ แถมระยะเวลาที่ต้องใช้ก็น่าจะนานด้วย ว่าแต่คุณเถอะ ทำไมถึงยึดติดกับฉันขนาดนั้น?”

 

“เพราะว่าวิธีคิดและความกล้าหาญมันโดดเด่นยังไงล่ะ ท่ามกลางทหารรับจ้างทั้งหมด มีแค่คุณที่เสนอแผนของตัวเองขึ้นมา แวบแรกที่เห็นอาจจะมองได้ว่าเนื้อหาของแผนการดูมีเพียงความบ้าบิ่นเท่านั้น แต่ว่าคุณสามารถทำตามแผนการได้ทั้งหมดจนออกมาเป็นผลลัพธ์ตามแผน”

 

เป็นคำชมที่ทำให้ผมรู้สึกจั๊กจี้นิดหน่อย

 

“แล้วก็เรื่องสิ่งมีชีวิตคริสตัลนั่นล่ะคะ? ใช้คริสตัลขับร้องเรียกมาใช่ไหม? อา ไม่ต้องตอบก็ได้ ไม่มีหลักฐานนี่หน่า ถ้าสามารถกล้าใช้กลยุทธอันตรายแบบนั้นได้โดยไม่ลังเลล่ะก็ ฉันว่าคุณอาจจะสอนวิธีการอันยอดเยี่ยมในการสังหารโหดพวกโจรสลัด『น่ารังเกียจ』พวกนั้นให้กับกองยานจักรวรรดิได้เป็นอย่างดีเลย เพราะงั้นเลยมาขอร้องนี่แหละค่ะ อันที่จริง อยากได้มาเป็นลูกน้องด้วยซ้ำ แต่ว่าคุณคงไม่ต้องการ”

 

“ไม่ล่ะ”

 

เป็นการตอบไม่ครั้งที่สองของวันนี้ แต่ว่าคนคนนี้ดูจะไม่ยอมถอยเลยสักนิด แน่วแน่ไปไหนเนี่ย?

 

“ฉันยอมแพ้เรื่องให้คุณมาเป็นลูกน้องแล้ว แต่กลับกัน เลยอยากให้ช่วยร่วมมือกับฉันค่ะ ถ้าค่าจ้างจากกองทัพไม่เพียงพอ ฉันเองสามารถแบ่งส่วนของฉันให้เพิ่มได้ ยังไงฉันก็เป็นลูกสาวมาควิสและเจ้าหน้าที่ภาคสนามของกองทัพจักรวรรดิ เส้นสายมีประโยชน์หลายทางนะคะ?”

 

เมเจอร์เซเรน่าพูดไปยิ้มไป ผมหันสายตาไปหามิมิ แต่มิมิก็สายหน้าให้ราวกับจะบอกว่าตัวเองตัดสินใจเรื่องนี้ไม่ได้ พอผมหันไปหาอัลม่าเธอก็กระซิบข้างหูผม

 

“ถ้าปฏิเสธเจ้าหน้าที่ขุนนางที่พูดเรื่องทั้งหมดนี่ให้ฟังอีกน่าจะพาปัญหามาให้มากกว่าตอนนี้นะ”

 

งั้นรับจะดีกว่าสินะ? พูดตามตรงคือไม่อยากเลย ถึงไม่อยาก แต่ก็ควรฟังคำแนะนำของอัลม่า ถ้าปฏิเสธหนักเกินไปก็น่าจะลำบากอีก ส่งข้อความตามตื๊อมาหลายครั้งจนตอนนี้มาหาด้วยตัวเอง ไม่เรียกให้ไปหาด้วยซ้ำ เพราะงั้นเรื่องพวกนี้ก็ควรเอามาพิจารณาด้วย แต่ส่วนตัวคือไม่ชอบใจเลยนะ

 

“งั้นเรื่องนึง ช่วยทำเรื่องสัญญาผ่านทางกิลด์ทหารรับจ้าง คิดว่าน่าจะมีประเภทคำร้องสำหรับงานแบบนี้อยู่”

 

“งั้นจะตั้งระยะเวลาไว้ 30 วันระดับยศที่เข้าร่วมคือลูเทเนนท์นะคะ พูดอีกอย่างคือในกองยานอิสระจะมีเพียงคนที่ยศสูงระดับนึงเท่านั้น”

 

“และมันจะดีมากถ้าช่วยเลี่ยงเรื่องการแอบควบรวมเราไปกับกองทัพของจักรวรรดินะครับ เพราะงั้นช่วยจำกัดเวลาทำงานต่อวันอยู่ที่สิบชั่วโมง และอนุญาตให้เลิกงานตรงเวลาได้ ไม่ว่ายังไงก็ตาม”

 

“จิ๊ส์……ก็ได้ค่ะ”

 

ยัยนี่จิ๊ส์ปาก นี่ตั้งใจจะทำอะไรกันฮ๊ะ? น่ากลัวโว้ย!

 

“แล้วก็ วิธีที่จะสอนนั้นได้มาจากการทำงานเป็นทหารรับจ้าง ยิ่งไปกว่านั้นคือเป็นประสบการณ์การล่าโจรสลัดด้วยยานลำเดียว ถึงฉันจะตั้งใจทำให้เต็มที่ตามหน้าที่ที่ได้รับ แต่ว่าก็ไม่สามารถยืนยันได้ว่าจะช่วยเหลือในการปฏิบัติงานของกองยานอิสระได้นะ”

 

“ก็จริง เข้าใจแล้วค่ะ แต่ว่านั่นเป็นความรู้ที่เราต้องซึมซับและตกผลึกด้วยตัวเอง และกองทหารจักรวรรดินั้นมีแต่คนที่ยอดเยี่ยม ฉะนั้นไม่ต้องกังวลไปหรอกค่ะ

 

เมเจอร์เซเรน่ายิ้มรับพร้อมตอบคำถาม บางทีอาจจะเป็นเพราะการต่อรองในที่สุดก็จบลง ดูอารมณ์ดีทีเดียว

 

“ส่วนเรื่องค่าตอบแทน…… อัลม่า เท่าไรถึงจะเหมาะสม?”

 

“ยากแฮะ ไม่เคยคิดว่าทหารรับจ้างจะมีโอกาสได้รับเชิญไปที่กองทัพเพื่อทำงานเป็นผู้ฝึกสอนเทคนิคการรบ แต่ว่าถ้าเป็นงานคุ้มกันที่มีการจำกัดวัน เรตจะอยู่ราวๆ 30,000 ถึง 50,000 อีเนลต่อวัน”

 

“แต่นี่ไม่ใช่งานคุ้มกันที่ต้องเสี่ยงอันตรายใช่ไหมล่ะคะ เพราะงั้นก็น่าจะถูกลงอีกหน่อย แถมนั่นเป็นราคาของทั้งกองยานที่มาทำงานคุ้มกันด้วยนี่หน่า?”

 

เมเจอร์เซเรน่าชี้จุดเรื่องราคาทันทีที่อัลม่าเสนอขึ้นมา ฉลาดมาก นี่น่าจะมีหาข้อมูลมาก่อนแล้วแน่ๆ พอเป็นเรื่องพวกนี้นี่มองได้ทะลุปรุโปร่งเลยนะ

 

“แต่ว่า ฮิโระน่ะปกติออกล่าได้เงินเฉลี่ยวันล่ะ 200,000 อีเนลเลยนะ แต่โดนยึดตัวไปทั้งเดือนแล้วได้เงินไม่ถึงหนึ่งในสี่นี่ยังไงก็ไม่คุ้ม เราเป็นทหารรับจ้างนะ ไม่ใช่พ่อพระ ถ้าไม่ได้กำไรก็ไม่คิดจะทำอะไรหรอกนะ รู้ใช่ไหม”

 

อัลม่ายักไหล่พูดตอบการโต้แย้งของเมเจอร์เซเรน่า จริงๆ แล้วมันก็ไม่ใช่ว่าจะหาได้ 200,000 อีเนลทุกวันหรอกนะ แถมยังต้องมีพักอีกด้วย เพราะงั้นก็ไม่น่าจะหาได้ถึงหกล้านอีเนลในสามสิบวันหรอก

 

แต่ว่านะ ในช่วงสัญญาเนี่ย ต่อให้อยู่ดีๆ มีงานที่รายได้สูงโผล่มาให้ทำก็จะเข้าร่วมไม่ได้จนเสียโอกาสอยู่ดี

 

“ฮึ่มมมมม…… 40,000 อีเนลต่อวัน……”

 

“อย่างน้อย 60,000 อีเนล 40,000 ไม่คุ้มเลยสักนิด”

 

“งั้นฉันจะยอมให้ที่ 50,000 อีเนลแล้วกัน”

 

อัลม่าหันมามองผม แต่ผมเองก็เลือกไม่ถูก เลยยักไหล่แทนการบอกว่าตามใจอัลม่าเลย

 

“งั้นก็ได้ มีอะไรอยากเพิ่มเติมไหมฮิโระ?”

 

“เราวางแผนโดยไม่รู้ความสามารถของยานไม่ได้หรอก เพราะงั้นอยากได้ข้อมูลเกี่ยวกับยานและอุปกรณ์ที่ติดตั้งก่อน แล้วการเอาไปลองใช้กับซิมูเลเตอร์ได้จริงก็สำคัญ”

 

“ถ้าเป็นส่วนที่เปิดเผยได้ก็ไม่มีปัญหา ส่วนของซิมูเลเตอร์เดี่ยวเราจะส่งข้อมูลไปให้กิลด์ทหารรับจ้างจัดการให้”

 

“งั้น ก็ไม่มีปัญหาอะไรแล้ว เอาไว้หารือรายละเอียดอีกทีผ่านกิลด์ทหารรับจ้างแล้วกัน”

 

เมเจอร์เซเรน่ากับผม พยักหน้ารับคำอัลม่า

 

ด้วยเหตุนั้น เราจึงต้องติดอยู่กับการทำหน้าที่ฝึกสอนให้กองทัพจักรวรรดิอวกาศกรัคคานและกองยานอิสระต่อต้านโจรสลัดไปอีกสามสิบวัน

 

 

———————————————————————————————————————-

 

HorrorDay: ตอนแปลชื่อ กัปตัน ที่ใช้ยานทั่วไปของทหารรับจ้างจนชิน จนลืมไปว่าในฝั่งกองทัพมันมียศเรียกเฉพาะ อย่าง ร้อยเอก เพราะงั้นตำแหน่งเดิมของเซเรน่าคือร้อยเอกเซเรน่า และตำแหน่งเมเจอร์คือพันตรี แต่เพราะตอนเก่าๆ แปลกัปตันเซเรน่าไปแล้ว อยากให้เราแก้จาก กัปตัน และ เมเจอร์ เป็นร้อยเอก กับ พันตรีไหม

ปล. ยุ่นไม่ได้ใช้ กัปตันเซเรน่ากับเมเจอร์เซเรน่านะ เป็นร้อยเอก กับพันตรีเลย พึ่งเช็คตอนที่แปลตอนนี้

 

สรุปคำเรียก

 

ทหารรับจ้าง

 

กัปตัน → กัปตัน

 

ทหาร

 

ลูเทเนนท์ → ร้อยโท

กัปตัน → ร้อยเอก

เมเจอร์ → พันตรี

 

ปล. พึ่งสังเกตว่าใช้ยศตามแบบของทหารบก ไม่ใช่ทหารเรือล่ะ

 

{ไทยพาณิชย์ นางสาว ทยาธร อนันต์มานะ 162-246448-2}

 

สนับสนุนเป็นกำลังใจผู้แปล หรือกดไลค์ คอมเม้น สับตะไคร้(????)ได้เลยคะ!  

ขอบคุณสำหรับการอ่านจนถึงตรงนี้นะคะ แล้วเจอกันใหม่คะ