Note จากผู้แต่ง
เพราะได้อ่านคอมเม้นเลยไปลองอ่าน BM:Nectar มา……! ซึ่งการมีสิ่งมีชีวิตที่เหมือน Llawan* โผลมานี่เกือบต้องใช้ SAN check เลยนะ…… ไบโอมีทช่างน่ากลัว
เนื้อเพาะเลี้ยงไทป์เทนตาเคิลน่ะปลอดภัยตราบใดที่ไม่ตกไปในบ่อเลี้ยงนะ
แล้วก็ไม่เคยมีเรื่องการหลุดออกจากที่จัดเก็บด้วย ไม่เคยเลยสักครั้ง ดีไปเลยใช่ไหมล่ะ? _(:3」∠)_ (ถึงไม่รู้ว่าทำไมก็เถอะ แต่เหมือนว่าถ้าอยู่ห่างจากโรงงานเกินไปจะตายไปเองตามธรรมชาติน่ะ)
——————————————————————————————————————————.
“เอโต ไมก้าคอร์โปเรชั่น…… ไอ้นั่นสินะคะ”
“ไอ้นั่นสินะ……”
“อุหวา……”
ผมว่าผมน่าจะทำหน้าเหมือนอัลม่าเลย เพราะฟาร์มไฮโดรโพนิค ไมก้าคอร์โปเรชั่นน่ะ เหมือนกับโรงงานเนื้อเพาะเลี้ยงเซียร์ร่าคอร์โปเรชั่นที่พึ่งไปมาเป๊ะๆ เลยไงล่ะ…… อาจจะใช้โครงสร้างตึกแบบเดียวกันเพราะเป็นโรงงานอาหารทั้งคู่รึเปล่านะ? เพราะตึกหน้าตาเหมือนกัน แต่ป้ายกับสีต่างกันอยู่
“แต่ ไงก็เถอะเข้าไปกันเถอะค่ะ”
“นั่นสินะ……”
“นั่นสิ……”
โอบกอดความอยากกลับไปแล้วครึ่งนึง และเดินผ่านเข้าไปในทางเข้าของโรงงาน
“ด้านในต่างกันอยุ่นะ”
“นั่นสิ”
เช่นเดียวกับโรงงานเนื้อเพาะเลี้ยงก่อนหน้านี้ ด้านในไม่มีคนให้เห็น แต่ฟาร์มไฮโดรโพนิคโดยรวมมีความสว่างมากกว่า เพราะเรื่องแสงเหรอ? ทั้งสว่างและดูสะอาดกว่าแฮะ
“ยินดีต้อนรับค่ะ กลุ่มของคุณฮิโระที่จองไว้ใช่รึเปล่าคะ?”
“ครับ”
คนที่รอเราอยู่ที่โต๊ะต้อนรับนั้นเป็นผู้หญิงที่ดูท่าทีสบายๆ เช่นพนักงานต้อนรับทั่วๆ ไปของบริษัท ชุดที่ใส่เป็นยูนิฟอร์มเรียบร้อยสะอาดสะอ้านที่ดูคล้ายชุดแอร์โฮสเตส เมื่อเทียมกับพนักงานต้อนรับของโรงงานเพาะเนื้อที่น่ากลัวนิดๆ แล้ว นี่ทำให้รู้สึกดีกว่ากันมาก
“ขอบคุณที่เข้าร่วมการทัวร์โรงงานของเรานะคะ นานมากแล้วที่ไม่มีใครมาทัวร์โรงงานของเรา พนักงานของเราจะทำงานกันอย่างเต็มที่และ……เอโตะ เป็นอะไรรึเปล่าคะ?”
ใบหน้าผมบิดเบี้ยวเพราะรู้สึกเดจาวู ท่าที่มิมิกับอัลม่าเองก็น่าจะไม่ต่างกัน จนทำให้คุณพนักงานต้อนรับเอียงคอด้วยความสงสัย
“ไม่มีอะไร จริงๆ คือพึ่งมาจากการทัวร์โรงงานเพาะเนื้อเซียร์ร่าคอร์โปเรชั่นน่ะ……”
“อาา……ทัวร์ไร้รสนิยมที่ไม่มีใครได้ประโยชน์นั่น…… ไม่สิ ไม่ใช่เรื่องสมควรที่จะพูดให้ร้ายบริษัทอีกฝ่ายสินะคะ แต่ที่นั่นค่อนข้างแย่จริง เพราะใช้โครงสร้างตึกเดียวกับบริษัทเราเลยหน้าตาดูไม่ต่างจากบริษัทเราเลย”
คุณพนักงานต้อนรับพูดด้วยรอยยิ้มฝืนๆ รู้เรื่องทัวร์ของบริษัทนั้นเหมือนกันสินะ
“ขอให้สบายใจได้ค่ะ ทัวร์โรงงานของเราถูกกฎหมายค่ะ อย่างน้อย เราจะไม่ทำให้ลูกค้ารู้สึกแย่”
คุณพนักงานต้อนรับยิ้มให้ เป็นรอยยิ้มที่ทำให้ความไม่สบายใจค่อยๆ ละลายหายไป
“ฝากด้วยนะครับ……”
“ค่ะ ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ ก่อนเริ่มทัวร์จะต้องมีการฆ่าเชื้อก่อน กรุณาผ่านเข้าประตูด้านนั้นด้วยนะคะ”
ผมเดินมาทางที่พนักงานต้อนรับชี้ เข้าประตูและผ่านกระบวนการฆ่าเชื้อเหมือนกับที่เซียร์ร่าคอร์โปเรชั่น ควันที่มาพร้อมเสียงฟูนี่มีผลฆ่าเชื้ออะไรบ้าง? ควันไม่มีผลอะไรใช่ไหม? มีผลกระทบอะไรกับร่างกายมนุษย์ไหมนะ? แต่ว่าเพราะอยู่ในโลกเทคโนโลยีแห่งอนาคต อาจจะไม่ต้องเป็นห่วงอะไรละมั้ง……?
จากนั้นก็ตามทางเข้าห้องถัดไป ซึ่งกลายเป็นทางเดินที่เป็นกำแพงกระจกไม่ใช่กระเช้า เหมือนว่าโรงงานนี้จะให้ลูกค้าสามารถเดินดูโรงงานด้วยตัวเองได้
“อุหวา~า สว่างมากเลยนะคะ”
“นั่นสินะ อย่างกับพระอาทิตย์จริงๆ เลย”
“มีคำอธิบายอยู่ด้วยแฮะ อือ แสงนี่เหมือนจะเป็นแสงแบบพิเศษที่ปล่อยแสงที่มีความยาวคลื่นเหมาะกับการเติบโต”
“……เหมือนจะเป็นซันแลมป์(โคมไฟแสงอาทิตย์)”
จำได้ว่ามีอุปกรณ์แบบเดียวกันในหลายๆ เกมที่ทำให้สามารถเก็บเกี่ยวพืชผักได้โดยไม่สนเรื่องฤดูกาล ส่วนตัวผมคิดว่ามันค่อนข้างกินไฟฟ้าสูง แต่กับโลกนี้ที่จะใช้ไฟฟ้าเท่าไหนก็ได้แล้วคงจะเหมาะ ขนาดเจเนอเรเตอร์ของกฤษณะยังผลิตไฟได้ตั้งขนาดนั้น ถึงจะไม่รู้ระบบการทำงานของมันก็เถอะ
“แล้วปลูกอะไรบ้างเหรอ?”
“หืมม? น่าจะแพงพวยละมั้ง?”
แพงพวยน่ะโดนใช้เป็นเครื่องเคียงของสเต็กกับอาหารอย่างอื่นบ่อยๆ เหมือนจะเป็นอะไรที่เติบโตได้จำนวนมากๆ ละนะ
“เป็นผักที่คุณค่าทางอาหารสูง ถ้ากินดิบจะมีรสเผ็ดนิดๆ เลยถูกใช้ทำตลับอาหารน่ะ”
อัลม่าอ่านคำอธิบายบนกำแพงจอแก้วให้ฟัง อย่างนี้นี่เอง ถึงจะได้ยินว่าวัตถุดิบหลักจะเป็นพวกตะไคร่น้ำกับสิ่งมีชีวิตอย่างเคยก็ตาม แต่ก็มีใส่ผักเข้าไปด้วยสินะ
ผักที่ดูเหมือนแพงพวยนั้นถูกดูแลโดยเหล่าหุ่นที่หน้าตาเหมือนโดรนตามนอกอวกาศ และก็มีแขนเครื่องจักรกับสายพานที่ผ่ากลางฟาร์มไฮโดรโพนิค เป็นระบบอัตโนมัติระดับสูงเลย
แล้วพวกผมก็เดินไปพลางชมไปพลางเรื่อยๆ จนมาถึงพื้นที่ที่ติดตั้งไว้ด้วยบ่อวงกลมขนาดใหญ่
“บ่อสีเขียว……ตระไคร่สินะ?”
“น่าจะใช่ ก็เป็นโรงงานเพาะตะไคร่ที่เป็นวัตถุดิบหลักของตลับอาหารนี่หน่า”
งานที่นี่ส่วนใหญ่จะเป็นระบบอัตโนมัติทั้งหมดเหมือนกัน ตรงนั้นจะเห็นแขนกลที่ใช้ของที่เหมือนแหหว่านลงไปเห็บตระไครขึ้นมา และโปรยผงสีน้ำตาลกลับลงไปอยู่ด้วย
“ไอ้ผงสีน้ำตาลนั่นมันอะไรน่ะ? ปุ๋ยเหรอ?”
“เอโต……อึก”
“เป็นอะไรรึเปล่าคะ?”
“เหมือนว่าจะเป็นขยะที่เก็บมาจากยานต่างๆ สินะ”
“ขยะที่เก็บมาจากยาน……”
“โอ้……”
สรุปคือสิ่งที่คนขับถ่ายประจำวัน หรืออะไรก็ตามที่แข็งจนเป็นก้อน ไม่ใช่แค่พวกอุจจาระ แต่ยังรวมถึงพวกเศษอาหาร สิ่งสกปรกที่กรองจากน้ำอาบ หรืออะไรจำพวกนั้นด้วย แน่นอนว่าก็มีจากที่ยานเราด้วย ซึ่งก็มีหน่วยงานที่ได้รับมอบหมายหน้าที่จากเจ้าหน้าที่ท่าเรือให้มาเก็บอยู่เป็นประจำด้วย
“ก็นะ การรีไซเคิลนี่หน่า ยังไงก็เป็นวัตถุดิบมาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว”
“ก็ใช่แหละ แต่ว่า……”
“รู้สึกแปลกๆ นิดหน่อยนะคะ”
“ก็นะ แต่ว่าดาวโลกที่ฉันเคยอาศัยอยู่น่ะใช้อุจจาระเป็นปุ๋ยปลูกผักนะ? ถึงการใช้อุจจาระของมนุษย์จะน้อยลงแล้วถ้าเทียบกับเมื่อก่อน แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังใช้ของพวกปศุสัตว์อยู่ดี ไม่ก็กากเมล็ดพืชที่รีดเอาน้ำมันก็มาหมดแล้วก็ด้วย ที่นี่เองก็เหมือนจะเคยใช้ของมนุษย์ด้วยเหมือนกัน”
ซึ่งก็อาจจะยังมีใช้อยู่ แต่ไม่เคยเห็นส้วมประเภทที่มีบ่อเกรอะนะ แต่ก็อาจจะมีบ้างในส่วนของคนรากหญ้าแหละ แต่ผมก็ไม่ได้มีความรู้ด้านเกษตรกรรมขนาดนั้น คงตอบได้แค่ว่าไม่รู้แหละ
“ฟุมุ สมกับเป็นคนที่เกิดบนดาวไร้อารยธรรมล่ะนะ”
“พอโดนเรียกดาวไร้อารยธรรมละชวนหงุดหงิดนิดหน่อยแฮะ เพราะงั้นหยุดเลย แต่ให้พูดก็ใช่แหละ ฉันไม่เข้าใจด้วยซ้ำว่าโลกนี้เทคโนโลยีมันล้ำหน้าขนาดไหน”
พวกเราคุยเล่นกันเช่นนั้นจนมาเห็นอีกบ่อนึง
“อันนี้บ่อเพาะเคยปะ?”
“ดูเหมือนจะเป็นบ่อแพลงตอนนะ เหมือนจะใช้ของเสียในครัวเรือนมาเป็นอาหารให้ด้วย”
“พอมาคิดดู เหมือนว่าที่นี่เองก็จะพูดอะไรคล้ายๆ กับที่โรงงานเพาะเนื้อก่อนหน้านี้ด้วยนะคะ”
“ตอนนี้อยู่ที่นั่นไม่มีใจจะฟังคำอธิบายอะไรเลย……”
ภาพจำของบ่อสีเนื้อแว๊บเข้ามาในหัว พนักงานของโรงงานที่ตาเป็นประกายตัดเนื้อจากสิ่งมีชีวิตเทนตาเคิลที่ขนาดเท่ารถไฟ……อื้ม ต้องใช้ SAN Check จริงๆ นั้นแหละ เหตุผลที่จำคำอธิบายอะไรไม่ได้เลยก็เพราะว่า SAN Check พลาดแน่ๆ
ระหว่างที่เราคุยกัน เราก็มาถึงโซนที่เป็นเหมือนกับโรงงาน
“โอ้ ทำตลับอาหารกันที่นี่สินะ”
“ดูวุ่นวายดีจัง”
“เอาของทั้งหมดมารวมกันแล้วก็โยนใส่เครื่องสินะคะ”
วัตถุดิบทั้งหมดจะถูกขนส่งด้วยสายพายและเข้าไปในเครื่องจักรก่อนจะออกมาเป็นของที่คล้ายแป้ง
“ไอ้นั่นสินะ”
“ไอ้นั่นแหละค่ะ”
“ไอ้นั่นที่ว่าคืออะไรล่ะนั่น”
“จานแนะนำของอลันเทอเรียสโคโลนี่……”
“อา……”
อัลม่ามองพวกเราด้วยสายตาสงสาร ฟุฟุ ฉันจำฉากนั้นได้ขึ้นใจเลย ตอนนี้มิมิมองผงแป้งสีเขียวอ่อนด้วยสายตาว่างเปล่า แล้วมั่นใจได้เลยว่าสายตาผมก็ว่างเปล่าเหมือนกัน เหมือนว่าว่างเปล่าจะกลายเป็นวิธีแสดงความรู้สึกใหม่ไปแล้วสินะ? ฮ่าฮ่าฮ่า
“แล้วผงพวกนี้ก็เอาไปทำต่อเป็นตลับอาหารสินะ”
“น่าจะเป็นแบบนั้นนะ แล้วจากนั้นก็จะผ่านเครื่องทำอาหารอัตโนมัติก่อนที่จะลงท้องทุกคน”
“แต่เหมือนว่าที่นี่จะไม่ได้ผลิตตลับไฮเอนนะคะ”
อย่างที่มิมิว่า ที่นี่เหมือนจะทำแค่ตลับอาหารธรรมดาเท่านั้น ถ้าตลับอาหารไฮเอนจะราคาสูงกว่าแบบธรรมดาประมาณห้าเท่า แต่รสชาติไม่ได้ดีกว่าห้าเท่าหรอกนะ แต่ก็ดีกว่าเป็นเท่าตัว
“อยากเห็นการผลิตตลับอาหารไฮเอนเหมือนกันนะ ไม่รู้ว่าจะใช้ของเยอะกว่าอะไรแบบนั้นรึเปล่า?”
“เหมือนจะไม่ได้ต่างขนาดนั้นนะ”
พอเลยเข้าไปอีกก็เหมือนจะมาโผล่บริเวณที่เป็นร้านอาหาร
『สุนทรีย์ไปกับอาหารทำใหม่ๆ จากตลับอาหาร! เรามีเครื่องทำอาหารอัตโนมัติมากมายให้เลือกสรร จากผู้ผลิตเครื่องทำอาหารมากมายที่เป็นพาร์ตเนอร์กับเรา! เชิญชิมสักหน่อย! และยังคุยเรื่องการซื้อขายกันได้ด้วย!』
มีป้ายแบบนั้นให้เห็น พอมองดูแล้วก็เห็นว่ามีเครื่องทำอาหารอัตโนมัติจากหลายๆ บริษัทติดตั้งไว้ แต่ว่าไม่มีของซีรีย์เทตซึจินแฮะ
“อย่างนี้นี่เอง วางระบบมาดีใช้ได้แฮะ”
“ลูกค้าน้อยแบบนี้จะทำกำไรได้เหรอ?”
“ถ้าเป็นคนที่มาทัวร์แบบนี้ได้ก็ต้องเป็นคนรวยใช่ไหมล่ะ? เครื่องทำอาหารอัตโนมัติน่ะ ค่อนข้างแพงด้วย แค่ขายได้เดือนละอันสองอันก็กำไรแล้วจริงไหม?”
“อย่างนี้นี่เอง”
ผมพยักหน้าและกดปุ่มบนกำแพงที่บอกว่า『ตลับอาหารกดปุ่มนี้』แล้ววีดีโอตลับอาหารที่พึ่งผลิตเสร็จกำลังถูกส่งมาตามไลน์การผลิตก็เล่นเป็นภาพโฮโลพร้อมเสียง BGM และก็โผล่มาจากกำแพงพร้อมเสียงเอฟเฟค ทาด้าาา! เพลินดีเหมือนกันนะ
มิมิกับอัลม่าก็เล่นบ้าง ซึ่งเหมือนว่าจะมีแพทเทิร์นกล้อง BGM กับวีดีโออยู่หลายแบบเลย ตอนผมลองอีกรอบก็ต่างจากรอบก่อนที่กดเหมือนกัน
“สนุกดีนะคะ”
“เด็กๆ จะต้องชอบแล้วกดเล่นหลายรอบแหง”
พวกเราพูดถึงความประทับใจระหว่างเดินไปยังโซนเครื่องใช้ไฟฟ้าของเครื่องทำอาหารอัตโนมัติ
“ลองอะไรที่เครื่องไหนดี?”
“ของแต่ละบริษัทนี่ต่างกันขนาดนั้นเลยไหมนะ?”
“งั้นไม่ลองสั่งเหมือนกันหมดแล้วมาเทียบรสชาติล่ะ?”
“น่าสนใจนะ ลองกันเถอะ”
เพราะงั้นเราทั้งสามคนเลยสั่งออมไรซ์เหมือนกันแต่สั่งที่เครื่องทำอาหารคนละยี่ห้อ ออมไรซ์ทั้งสามทำเสร็จพร้อมๆ กัน ซึ่งเราก็เอามาแบ่งกันกิน
“หืมม… ต่างกันอยู่นะเนี่ย?”
“ใช่ ทั้งรสชาติทั้งเนื้อสัมผัสต่างกันเยอะอยู่นะ”
“เหมือนจะเป็นเรื่องของความชอบแต่ละคนด้วยนะคะ…… ฉันชอบของบริษัทเซอร์เซ่ล่ะ”
“ฉันชอบของมุราคุโมะ”
“ฉันเองก็เซอร์เซ่แฮะ”
ไงก็เถอะ สำหรับผมซิม่าที่ไม่มีใครเลือกเองก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้นนะ กินได้สบายๆ เลย
“บางทีแต่ละเจ้าอาจจะถนัดอาหารแต่ละประเภทไม่เหมือนกันก็ได้นะ”
“เป็นไปได้นะคะ”
“แต่ให้ลองทั้งหมดก็ไม่ได้หรอกนะ”
บางทีอาจจะมีบริษัทที่ทำข้าวแกงกระหรี่หรืออาหารญี่ปุ่นอร่อยก็ได้นะ ซึ่งคุณเทตซึจินของเราอร่อยทุกเมนูเลย ราคาแรงแบบมีเหตุผลน่ะนะ
ไงก็ตามตอนที่กินของหวานที่เป็นพุดดิ้งหลังอาหารน่ะเป็นซิม่าที่อร่อยที่สุด เหมือนว่าแต่ละบริษัทจะมีจุดแข็งกับจุดอ่อนของตัวเองล่ะนะ
“คนรวยๆ นี่มีเครื่องทำอาหารอัตโนมัติหลายๆ เครื่องที่บ้านไหมนะ แบบเครื่องนี้ทำนั่นเครื่องนั้นทำนี่ และเครื่องโน้นทำของหวานอะไรแบบนั้น?”
“ถ้ามีพื้นที่ มีเครื่องทำอาหารอัตโนมัติหลายๆ เครื่องก็ถือเป็นของฟุ่มเฟือยล่ะนะ”
“แต่ถ้าจะซื้อหลายเครื่อง ซื้อเครื่องเดียวที่ความสามารถสูงๆ อย่างเทตซึจินก็คุ้มค่ากว่านะคะ”
“นั่นสินะ”
ถ้าจะวางเครื่องทำอาหารอัตโนมัติหลายๆ เครื่องน่ะ ต้องใช้พื้นที่เยอะมากๆ พื้นที่ปลอดภัยในอวกาศที่อยู่อาศัยได้น่ะ นับเป็นของซื้อขายแสนล้ำค่า การที่มีพื้นที่กว้างขวางในครอบครองนั่นหมายถึงต้องจ่ายด้วยราคามหาศาล เพราะงั้นก็อย่างที่มิมิว่า ใช้เครื่องทำอาหารอัตโนมัติคุณภาพสูงเครื่องเดียวจะราคาถูกกว่า ถูกกว่าในทุกๆ ด้านเลยด้วย
หลังจากที่พักดื่มชาสบายๆ กันแล้ว พวกเราก็ออกจากโรงงานฟาร์มไฮโดรโพนิค
“แอลกอฮอร์♪ แอลกอฮอร์♪”
อัลม่าเดินไปยังจุดหมายถัดไปอย่างมีความสุข ซึ่งไม่น่าแปลกใจเท่าไร เพราะที่ถัดไปคือโรงงานเหล้านี่หน่า ความตื่นเต้นของอัลม่ายังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อย่างไม่มีที่สิ้นสุด
“หวังว่าที่ถัดไปจะดีเหมือนกันนะ”
“ค่ะ ฉันว่าไม่มีปัญหาหรอก”
มิมิกับผมยิ้มให้กันและรีบตามอัลม่าที่ออกตัวนำไปไกล
kloy1002 : ทำไมอาหารของอวกาศมันไม่น่ากินเยี่ยงนี้….
{ไทยพาณิชย์ นางสาว ทยาธร อนันต์มานะ 162-246448-2}
สนับสนุนเป็นกำลังใจผู้แปล หรือกดไลค์ คอมเม้น สับตะไคร้(????)ได้เลยคะ!
ขอบคุณสำหรับการอ่านจนถึงตรงนี้นะคะ แล้วเจอกันใหม่คะ
MANGA DISCUSSION