“ผมคือกัปตันฮิโระ และที่เหลือคือลูกเรือของผม อัลม่ากับมิมิ ยินดีที่ได้รู้จักนะครับคุณหมอโชโกะ”
“อ่า พอเลยๆ ขออะไรที่เป็นกันเองกว่านี้หน่อยเถอะ บ่าตึงไปหมดแล้วเนี่ย”
“งั้นเหรอ? งั้นเป็นอย่างที่ว่าแล้วกัน”
ผมพยักหน้า คิดว่าน่าจะเป็นเพราะเกราะหน้านั่นแหละนะที่ทำให้ปวดไหล่
“วันนี้เป็นการตรวจร่างกายแบบตรวจครอบคลุมใช่ไหม?”
คุณหมอโชโกะหยิบเอาเครื่องแท๊ปเล็ตออกมาจากที่ไหนสักที่แล้วถาม เดี๋ยวนะๆ เอาแท๊ปเล็ตออกมาจากไหนน่ะ จะกี๊สองมือยังล้วงกระเป๋าเสื้ออยู่เลยไม่ใช่เหรอ?
“อื้อ โดยเฉพาะฉันน่ะ แบบจำไม่ได้ว่าเคยฉีดหรือยังไม่เคยฉีดวัคซีนอะไรไปบ้างเลย มิมิน่าจะมีแค่ของพื้นฐานที่ให้ประชาชนของเทอเมนไพรม์โคโลนี่ ในฐานะทหารรับจ้างแล้วน่าจะต้องเดินทางไปหลายๆ ที่ เพราะงั้นเลยอยากมั่นใจว่าได้รับวัคซีนเพียงพอน่ะ แล้วอัลม่าล่ะ?”
“ของฉันเรียบร้อยหมดแล้ว แล้วเอลฟ์อย่างฉันก็มีระบบภูมิต้านทานสูงกว่ามนุษย์อยู่แล้วด้วย เพราะงั้นอาจจะไม่จำเป็นเท่าไร แต่ว่าก็อาจจะมีบางอย่างที่ควรอัพเดทตามด้วย ยังไงซะตรวจทั้งหมดอีกสักทีน่าจะดีสุด”
“เข้าใจแล้ว มีอะไรที่กังวลอีกรึเปล่า?”
“อื้อ ท่านฮิโระเสียความทรงจำ——”
“ขอโทษทีนะมิมิ เรื่องนั้นโกหกน่ะ”
ในตอนที่มิมิจะบอกเรื่องที่ผมเสียความทรงจำ ผมเลยขัดออกไป ซึ่งพอมิมิได้ยินแบบนั้นก็ตกใจตาโตหันมามองผม
“ฉันไม่ได้ความจำเสื่อมหรอก แต่ก็พูดยากนิดหน่อย…… แบบง่ายๆ คือความจำสับสน มีอุบัติเหตุไฮเปอร์ไดรฟ์อะไรแบบนั้น แล้วฉันกับยานก็มาโผล่ที่ระบบดาวเทอร์เมน ไม่รู้ว่าเกิดขึ้นได้ยังไง หาบันทึกว่าเคยไปที่ไหนมาบ้างก่อนมาทีระบบดาวเทอร์เมนก็ไม่เจอ เหมือนจู่ๆ ฉันก็มาโผล่ที่โลกนี้อะไรแบบนั้นเลย”
“……เห~? ว่าไงดีล่ะ แปลกดีนะ”
“แปลกสิ แต่ว่านะ ความทรงจำก่อนเกิดเรื่องอุบัติเหตุไฮเปอร์ไดรฟ์น่ะไม่ชัดเจนเท่าไร มีบางส่วนที่ไม่เชื่อมกับสถานการณ์ตอนนี้ อยากให้ตรวจลงลึกหน่อยว่ามันมีผลร้ายแรงอะไรกับร่างกายของฉันไหม”
“เข้าใจล่ะ เป็นไปได้ว่าปัญหาที่เกิดจากการไฮเปอร์ไดรฟ์อาจจะทำให้สติกับร่างกายมีปัญหาสินะ แนะนำให้ตรวจละเอียดเลยล่ะ”
คุณหมอโชโกะพยักหน้าพลางควบคุมแท๊ปเล็ทในมือ น่าจะทำบันทึกหรืออะไรพวกนั้นละมั้ง?
“มีประวัติการรักษาพิเศษอะไรไหม?”
“ไม่มีเป็นพิเศษนะ เท่าที่นึกออก”
“ฉันก็ไม่มีค่ะ”
“ฉันก็ไม่มี”
มิมิกับอัลม่าส่ายหัวพร้อมผม ผมไม่มีภูมิแพ้และร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ดี
“ถ้างั้น มาเริ่มกันเถอะ ลำดับแรกก็สแกนด้วยพ๊อดการแพทย์ ที่ติดตั้งอยู่ที่นี่เป็นโมเดลล่าสุดของพวกเราเลยนะ”
“จากอินางาวะเทคโนโลยี?”
“ใช่แล้ว ส่วนแบ่งตลาดกาแลกซี่อาจจะเท่ากับกับบริษัทอื่น แต่สินค้าของเราน่ะการันตีการทำงานแน่นอน ข้อเสียมีแค่ขนาดกับราคาเท่านั้นแหละ เพราะเป็นแบรนระดับไฮเอนยังไงล่ะ”
ผมเดินตามคุณหมอโชโกะที่เล่าระหว่างเดินอย่างภูมิใจ ฟังอธิบายเกี่ยวกับพ๊อดการแพทย์ของอินางาวะเทคโนโลยี แต่พูดตามตรงนะ สำหรับผมมันเป็นเรื่องลี้ลับจัดๆ เลย ทั้งศัพท์ทางเทคนิคทั้งอะไรต่อมิอะไร ไม่เข้าใจเลยสักอย่าง
“อย่างนั้นแหละนะ”
“ฉันเข้าใจไม่ถึง 20% จากที่พูดมาด้วยซ้ำ”
“สุดยอดไปเลยใช่ไหมล่ะ!”
“นั่นสินะ สุดยอดไปเลย”
“อื้อ สุดยอดอยู่แล้วแหละเนาะ มันเป็นอย่างนั้นอยู่แล้วแหละ”
คุณหมอโชโกะไม่ได้ไม่พอใจอะไร แถมยังดูอารมณ์ดีด้วยซ้ำ รู้สึกเหมือนว่านางจะชินกับการแสดงออกแบบนี้ของคนอื่นแล้ว ดูเป็นนักวิจัยมากกว่าคนที่คอยดูแลคนไข้ภาคสนามแฮะ
“แหม พวกคุณเป็นผู้ช่วยชีวิตของฉันนี่หน่า เพราะงั้นพักให้สบาย เดี๋ยวจะจัดการเรื่องการตรวจทั้งหมดให้ด้วยของที่ดีที่สุดเอง”
“ผู้ช่วยชีวิต……? เป็นคนที่อยู่บนยานลำนั้นเหรอ?”
พอถามคุณหมอโชโกะแบบนั้น เธอก็หันมาพยักหน้าให้อย่างจริงจัง
“ใช่แล้วล่ะ ตอนนั้นน่ะคิดว่าจะไม่รอดซะแล้ว แบบถึงแม้ฉันจะเป็นผู้หญิง แต่ก็ไม่ได้ดูดีเท่าไร ถึงจะโดนโจรสลัดบุกโดยไม่พังยานก็น่าจะโดน ‘กำจัด’ อยู่ดี”
คุณหมอพูดพลางยักไหล่ หืม? อย่างงั้นเหรอ? คือแบบถ้ามองดีๆ คุณหมอโชโกะนี่เป็นคนสวยเลยนะ เกราะหน้าก็หนาด้วย ถ้าโดนโจรสลัดจับไปนี่ ให้พูดตรงๆ คือสิ่งที่เกิดไม่น่าจะดีกว่าโดน ‘กำจัด’ เท่าไรหรอกนะ
“ก็อย่างที่ว่าแหละนะ ให้พูดตรงๆ ก็คือฉันบังคับขอเข้ามาทำหน้าที่ตรวจร่างกายพวกคุณ จริงๆ แล้วฉันเป็นแผนกวิจัยและพัฒนาน่ะ …… อา แต่ไม่ต้องห่วงนะ ฉันมีใบรับรองด้านการแพทย์ และฉันก็มันใจในฝีมือตัวเองในฐานะหมอมากกว่าพวกที่คิดเองเออเองตามคลีนิคส่วนใหญ่ด้วย”
“เข้าใจแล้ว”
ผมพูดได้แค่ว่า ‘เข้าใจแล้ว’ เพราะผมเองก็ไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะไปสงสัยอะไรได้ แถมถ้าสงสัยก็ดูเสียมารยาทต่อความมั่นใจนั่นด้วย
แต่พอมองไปที่มิมิกับอัลม่า ทั้งสองดูกังวลนิดหน่อย ก็ไม่แปลกแหละนะ แต่เขาว่าสบายใจได้แนะ เพราะงั้นทำอะไรไม่ได้นอกจากเชื่อใจหรอกนะ
แล้วก็ ถ้าไม่พอใจผลลัพธ์ก็ไปตรวจร่างกายใหม่ที่สถาบันการแพทย์อื่นได้อยู่ดี เพราะงั้นอดทนแล้วฝากให้คุณหมอโชโกะดูแลจะดีที่สุด
“ห้องนี่แหละ เชิญเข้ามาเลย”
“อา…… โอ้”
“ว๊าว”
“โอ้”
ห้องที่คุณหมอโชโกะพามานั้นเต็มไปด้วยอุปกรณ์เจ๋งๆ จำนวนมาก ที่แบบพ๊อดการแพทย์ของกฤษณะเทียบไม่ติดโดยสิ้นเชิง ใหญ่จนพ๊อดการแพทย์ของกฤษณะเหมือนเตียงเล็กไปเลย เพราะพ๊อดการแพทย์ที่อยู่ในห้องนี้นั้นใหญ่เท่าห้องพยาบาลของกฤษณะเลยทีเดียว สูงประมาณสองเมตร ลึกประมาณสองเมตร และกว่ามากกว่าสามเมตร
“ใหญ่จัง”
“ใหญ่ใช่ไหมล่ะ? เจ้านี่แต่ละเครื่องติดตั้งไว้ด้วยคอมพิวเตอร์โพซิตรอนสำหรับประมวลผลข้อมูล พวกเราน่ะมั่นใจในความสามารถของมันมากเลยล่ะ เพราะงั้น ถอดเสื้อผ้าแล้วเข้าไปในพ๊อดเลย”
“เอ่อคือ ถอดแค่ไหน?”
“ทั้งหมด”
“ทั้งหมดเลย?”
“ทั้งหมดเลย อ่อ ฉันชินกับการเห็นตัวทดลองเปลือยแล้ว ไม่ต้องใส่ใจหรอกนะ”
“อา ได้……”
ไม่ใช่ว่าเป็นคนโป๊เหรอที่ต้องกังวลน่ะ? ไม่ใช่คุณหมอโชโกะสิ ผมบ่นในใจ แต่ก็ไม่ได้พูดออกไป ผมถอดแจ๊คเก็ต ชุดฝึก แล้วก็เหลือบมองมิมิกับอัลม่า
“อุ๊บ”
อัลม่าขว้างแจ๊คเก็ตลงหัวผมเต็มๆ กางบังสายตาจนมองไม่เห็นอะไรเลย
“มิมิถอดเสื้อผ้าแล้วเข้าไปก่อนเลย ส่วนนายน่ะรอจนเราเข้าไปก่อน เข้าใจไหม?”
“ไอย ไอย แหม่ม”
ผมวันทยาหัตถ์และทำตามคำสั่ง แต่แบบผมเปลือยทั้งตัวแล้วนะ มีแจ๊คเก็ตผู้หญิงห้อยอยู่กับหัวแบบนี้จะไม่แปลกไปหน่อยเหรอ? ไม่มีใครสนใจหน่อยเหรอ? ถามจริง?
“ทั้งสองคนเข้าพ๊อดไปแล้วล่ะ”
พอคุณหมอว่าแบบนั้น ผมก็ดึงแจ๊คเก็ตออกมาจากหัวแล้วโยนลงตะกร้าผ้าที่ใส่เสื้อผ้าของผมไว้
“ขอบคุณ ขอโทษด้วยที่ต้องมาเห็นในสิ่งที่ไม่สมควร”
“ไม่เป็นไรๆ ถือเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ออก”
ด้วยเหตุผลบางประการ เราทั้งสองมาจบที่การก้มหัวให้กัน แต่ให้จ้องกันไปเรื่อยๆ แบบนี้ก็ใช่ที่ ผมเลยเปิดพ๊อดการแพทย์แล้วลงไปนอน หืมม รู้สึกแคบนิดหน่อยแฮะ นึกถึงต่อที่ตรวจสุขภาพแบบ MRI เลย
อาจจะเป็นผลมาจากยาที่กินก่อนตรวจก็ได้ แต่รู้สึกเหมือนร่างกายมันร้อนออกมาจากด้านในเลย ไม่เคยคิดว่าจะได้รู้สึกอะไรแบบนี้ด้วยร่างกายของตัวเองเลย เป็นประสบการณ์ใหม่ที่ไม่เคยเจอมาก่อนเลย
『ได้ยินรึเปล่า? กำลังจะเริ่มแสกนแล้ว ปล่อยตัวตามสบายนะ』
“อ่า”
『ทำตัวให้ตรงเท่าที่เป็นไปได้นะ วางหลังมือแนบกับด้านข้างต้นขาไว้』
“รับทราบ”
ผมทำตามที่บอกแล้วรออยู่สักแปป แสงสีเขียวซีดก็สว่างขึ้นในพ๊อดการแพทย์หลายครั้ง แสกนทั่วร่างกายของผม แต่เพราะว่าผมไม่ใช่คนจากโลกนี้ หวังว่าจะไม่มีอะไรแปลกๆ เกิดขึ้นนะ
『เอาล่ะเรียร้อย จะเปิดพ๊อดให้ ออกมาแล้วก็แต่งตัวได้เลยนะ』
มีเสียงฟู่อากาศออกแล้วฝาพ๊อดก็เปิด การตรวจจบอย่างรวดเร็ว ซึ่งก็อย่างที่คิดเอาไว้กับโลกที่เกิดจากนิยายไซไฟ ต่างจาก MRI ที่ใช้เวลาสักพัก…… แต่ร่างกายร้อนนี่ไม่ใช่อะไรที่อยากเจอบ่อยๆ เท่าไรนะ
ผมรีบใส่เสื้อผ้าแล้วเอาแจ๊คเก็ตของอัลม่าไปคืน
“ถ้าไม่นับของฉันกับมิมิ ฉันห่วงผลของนายแฮะ”
“หวังว่าจะไม่มีอะไรนะคะ”
“อย่าพูดสิ พาฉันเครียดนะ”
“อะฮ่าฮ่า ไม่มีอะไรต้องห่วงหรอก——หือ?”
คุณหมอโชโกะที่ดูแท๊บเล็ตอยู่ จู่ๆ ก็หรี่ตาและจ้องจอแท๊บเล็ต คุณหมอครับ คิ้วเป็นปมหมดแล้วครับ
“คือ อื้ม? หืม……?”
“นี่ชวนไม่สบายใจจริงๆ แล้วนะ?”
“แบบ อือ……ฮิโระคุง ถามอะไรหน่อยได้ไหม?”
“อ่า”
“มีหลายอย่างเลยที่ฉันไม่เข้าใจน่ะ หรือก็คือมีหลายอย่างที่อยากถาม แต่ก่อนอื่นเลย…… เหมือนว่านายจะไม่มีอิมแพลนแปลงหลายภาษานะ”
“อย่างนั้นเหรอ”
จำไม่ได้ว่ามีใส่อะไรแบบนั้นไว้ เพราะงั้นไม่มีก็ไม่แปลก แต่ดูจากท่าทีของคนอื่นแล้ว เหมือนว่าไม่มีจะเป็นเรื่องแปลกมากกว่า หน้ามิมิกับอัลม่านี่ราวกับจะบอกว่า『อะไรนะ? ล้อเล่นรึเปล่า?』อะไรแบบนั้นเลย
“ไม่มีนี่แปลกสินะ”
“แปลกสิ”
“แปลกน่ะสิ”
“แปลกสิคะ”
ทั้งสามคนพยักหน้าพร้อมกัน เหมือนว่าอิมแพลนแปลงหลายภาษาจะใช้กันทั่วจักรวาล แล้วก็จะถูกปลูกถ่ายกับสมองทันทีที่เกิดเลย ปลูกถ่ายให้ฟรีสำหรับทุกคนโดนไม่สนสถานะ ถ้ามีการแจ้งเกิดก็แทบเป็นไปไม่ได้ที่จะโตมาอายุเท่าผมโดยไม่เคยผ่านการปลูกถ่าย
“แต่ท่านฮิโระก็ไม่มีปัญหากับการพูดคุยมาจนตอนนี้เลยนี่คะ?”
“นั้นสิน๊า ไม่เคยเจออะไรแบบนี้เลยนะ นายนี่ไม่สนใจเรื่องสามัญสำนึกเลยสินะ”
“จริงเหรอ? ขอทดสอบหน่อยได้ไหม?”
“ได้เลย”
คุณหมอโชโกะพูดพลางจัดการกับแท๊บเล็ต
“เดี๋ยวจะเล่นภาษาเอเลี่ยนจำนวนนึงผ่านแท๊บเล็ตนี่นะ ช่วยทวนคำพูดที่ได้ยินจากแท็บเล็ตให้ทีได้ไหม? เป็นโปรแกรมทดสอบอิมแพลนแปลงหลายภาษาน่ะ”
“แน่นอน”
“เยี่ยม งั้นเริ่มล่ะนะ”
ประโยคที่ดูเหมือนจะใช้ในชีวิตประจำวันเล่นผ่านแท๊บเล็ตที่คุณหมอโชโกะถือ ซึ่งผมก็พูดทวนตามที่ได้ยินทั้งหมด ซึ่งผมได้ยินเป็นภาษาญี่ปุ่นทั้งหมดน่ะ
และโปรแกรมทดสอบก็เสร็จสิ้นโดยไม่มีปัญหาใดๆ
“ไม่มีปัญหาอะไรเลย เป็นไปได้ยังไงกันนะ?”
“ไม่รู้สิ”
อาจจะเป็นของจำพวกโบนัสแปลภาษาที่ได้กันเป็นปกติตามเรื่องแนวข้ามโลกละมั้ง? แต่กับโลกไซไฟนี่ผมน่าจะอยากมีอิมแพลนเหมือนคนทั่วๆ ไปมากกว่าละมั้ง…… รึเปล่านะ ไม่ค่อยเข้าใจเรื่องพวกนี้เท่าไรแฮะ อธิบายไม่ค่อยถูก?
“อา เพราะตอนนี้ไม่มีปัญหาอะไร เพราะงั้นช่วยมองข้ามเรื่องที่ว่าไม่มีอิมแพลนไปทีนะ”
“เอ๋~…… แต่ส่วนตัวฉันสงสัยนี่หน่า”
“ไม่ล่ะ ผมไม่สนใจเป็นหนูทดลองให้คุณหมอโชโกะหรอกนะ ไปหัวข้อถัดไปเถอะ”
“ช่วยไม่ได้ล่ะนะ…… เอ ต่อไปก็ นายมาจากที่ไหนเหรอ?”
“เท่าที่รู้คือ โลก เป็นดาวเคราะห์ดวงที่สามของระบบสุริยะน่ะ ที่นี่เรียกระบบดาวโซลอาจจะดีกว่า”
ดาวเคราะห์ดวงที่สามของระบบสุริยะ ประโยคนี้ไม่ค่อยจะได้พูดหรือได้ยินบ่อยๆ ในชีวิตประจำวันหรอกนะ แต่เพราะเคยได้ยินเรื่องนี้ในเกมเลยตอบได้ในทันที
“ระบบดาวโซล…… ไม่เคยได้ยินชื่อเลย”
คุณหมอโชโกะหันมามองมิมิกับอัลม่า แต่ทั้งสองคนก็ส่ายหัวให้
“เรื่องมาจากที่ไหนเอาไว้ก่อนแล้วกัน ทำไมถึงอยากรู้เหรอ?”
“อื้อ ข้อมูลพันธุกรรมของนาย มีตัวแปรจำนวนมากที่ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน”
“อื้อ……?”
“จากที่ค้นคว้ามา เหมือนว่าการทำงานของร่างกายจะไม่ต่างจากมนุษย์ปกติ เพราะงั้นไม่มีปัญหา แต่มันน่าสนใจเป็นอย่างมาก กับข้อเท็จจริงที่ว่าข้อมูลพันธุกรรมนี้ไม่เคยพบที่ไหนมาก่อนนั่นหมายถึงการที่อาจจะทำให้เรามีปัจจัยพิเศษที่เราไม่เคยมีมาก่อนนั่นเอง”
“ขอเข้าใจง่ายกว่านี้หน่อย”
“ข้อมูลพันธุกรรมของนายนั้นเป็นเขตแดนที่ยังไม่เคยค้นพบมาก่อน แบ่งให้เราได้ไหม?”
“เอ……”
ผมเหลือบตามองมิมิกับอัลม่า แต่ทั้งสองก็ส่งสายตากลับมาราวกับไม่รู้จะทำอย่างไรเช่นกัน ก็จริง ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกัน
“ทำแบบนั้นแล้วฉันได้ประโยชน์อะไร?”
“ราคาดีแน่นอน ฉันจะจ่ายให้อย่างงามเลย ข้อมูลพันธุกรรมที่ไม่รู้จักน่ะนับเป็นเขตแดนที่ยิ่งใหญ่ไม่ต่างจากตัวจักรวาลเลย!”
คุณหมอโชโกะขยับเข้าหาผมพร้อมใบหน้าตื่นเต้น ใกล้มาก สายตากดดันมองผ่านเลนส์แว่นมาหาจนผมต้องแตะบ่าคุณหมอเบาๆ พร้อมขอให้ถอยไปหน่อย
“แล้วข้อเสียกับฉันล่ะ?”
“ไม่คิดว่าจะมีอะไรเป็นพิเศษนะ การรักษาข้อมูลของเราเข้มงวดมาก เพราะงั้นไม่มีทางหลุดไปที่ไหน แต่ว่าฉันไม่แนะนำให้ตรวจการแพทย์ที่คล้ายกันกับที่อื่น เพราะถ้าเจอที่ไม่ดีโดนจับเป็นหนูทดลองแน่นอน พวกเราเองก็แข็งแกร่งมาก ถ้ามอบข้อมูลพันธุกรรมให้เรา ฉันสัญญาเลยว่าจะไม่ติดตามหรือกักขังคุณไว้แน่นอน”
“หืมม”
จริงจังมากเลยแฮะ ไม่ใช่ว่าไม่ได้คิดไว้ แต่ว่าไม่ได้คิดว่าจะจริงจังขนาดนี้ เอาไงดี…… ทำตามคำขอแล้วปล่อยให้อินางาวะเทคโนโลยีจัดการเรื่องสุขภาพดีไหมนะ?
“เข้าใจแล้ว ฉันจะคิดเรื่องการมอบข้อมูลพันธุกรรมในทางบวกแล้วกัน แต่มีคำขอว่าจะฝากเรื่องการดูแลสุขภาพในอนาคตกับอินางาวะเทคโนโลยีหลังจากนี้ อยากให้จัดเตรียมเรื่องนั้นไว้ด้วย แล้วฉันก็อยากใช้เวลาจัดการข้อมูลเรื่องราคาซื้อข้อมูลพันธุกรรม และการนำข้อมูลที่วิเคราะห์แล้วไปใช้ด้วย ตอนนี้เอาเป็นแค่ตรวจสุขภาพกับวัคซีน……”
“เรื่องวัคซีนอยากให้เป็นหลังจากที่เก็บข้อมูลพันธุกรรมเรียบร้อยแล้ว เพราะมีความเป็นไปได้ว่าข้อมูลอาจเกิดการกลายพันธุ์ อยากให้เป็นธรรมชาติที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้”
วัคซีนแบบไหนกันที่ทำให้ข้อมูลพันธุกรรมเกิดการกลายพันธุ์น่ะ?……น่ากลัวนิดหน่อยแฮะ
“ต้องมาใหม่สินะ……”
“ถ้ามอบข้อมูลพันธุกรรมให้เราก่อนเลย ก็ใช้เวลาแค่วันนี้นะ ได้ไหม?”
“ไม่มีพ่อค้าที่ไหนเขาให้สินค้าก่อนสัญญาขายเสร็จสิ้นหรอกนะ”
“ถ้าเชื่อใจฉัน ฉันว่าจ่ายให้ก่อนก็ไม่เป็นไรนะ”
คุณหมอโชโกะยิ้มเอียงคอให้ ไม่น่าเชื่อว่าคุณหมอจะร้ายกว่าที่คิดนะเนี่ย
“ไม่มีทางน่า เรายังไม่ได้พัฒนาความเชื่อใจกันเลย”
“แย่จัง”
“มีข้อมูลสแกนแล้วนิ”
อย่างน้อยข้อมูลสแกนจากพ๊อดการแพทย์ควรจะเผยข้อมูลมากพอให้ตัดสินใจแล้วว่าข้อมูลพันธุกรรมของผมมันต่างจากคนอื่นน่ะ
“ยังไงก็สู้ข้อจริงไม่ได้นี่หน่า ฉันอยากได้เลือดกับอสุจิน่ะ”
“ช่วยอดทนจนกว่าจะตกลงเงื่อนไขกันได้นะ”
“ช่วยไม่ได้นะ” คุณหมอโชโกะว่าพลางถอนหายใจ เป็นนักวิจัยจริงๆ นั้นแหละนะ คิดไม่เหมือนหมอเลยสักนิด
“ถ้างั้น รีบๆ ทำให้จบกันเถอะ อยากจะวิเคราะห์ข้อมูลพันธุกรรมของฮิโระคุงเร็วๆ แล้ว”
คุณหมอโชโกะยิ้มออกมาอีกที จ้าๆ ทำอะไรก็ทำเถอะ
kloy1002 : วันนี้ลองสองตอนละ ถ้ามากดอ่านตอนนี้ก่อน แปลว่าเริ่มอ่านถูกตอนแล้วนะ!
{ไทยพาณิชย์ นางสาว ทยาธร อนันต์มานะ 162-246448-2}
สนับสนุนเป็นกำลังใจผู้แปล หรือกดไลค์ คอมเม้น สับตะไคร้(????)ได้เลยคะ!
ขอบคุณสำหรับการอ่านจนถึงตรงนี้นะคะ แล้วเจอกันใหม่คะ
MANGA DISCUSSION