หลังจากที่ออกมาและทิ้งร้านเฉพาะทางเกี่ยวกับแฟนชั้นโลลิต้า『Atelier Pure』เอาไว้เบื้องหลัง พวกเราตัดสินใจจะตรงไปที่กิลด์ทหารรับจ้างกัน ส่วนก็ชุดของมิมินั้นสุดท้ายแล้วมิมิก็เลือกเป็นเดรสโกธิคโลลิต้าสีดำมาใส่ และก็อายมากที่ต้องใส่ชุดที่ไม่คุ้นเคยมาเดินในที่สาธารณะเลยแอบด้านหลังผมและจับชายเสื้อผมเอาไว้ตลอดทาง ซึ่งนั่นน่ารักมากๆ แต่ยังไงก็ซ่อนใบหน้าได้ไม่มิดหรอกนะ
“มิมิ ถ้าเดินด้วยท่าทางแบบนั้นจะยิ่งเด่นเข้าไปอีกนะ เดินอย่างมั่นใจสิ มั่นใจเข้าไว้ จะได้เด่นน้อยลงไง”
“อุวว……เข้าใจแล้วค่ะ”
“แล้วไม่ต้องอายหรอกน่า เหมาะจะตาย เหมาะสุดๆ ไปเลย น่ารักสุดๆ ไปเลยนะ”
“ได้โปรดยกโทษให้ฉันด้วยเถอะค่ะ”
มิมิปิดหน้าด้วยสองมือพ่ายแพ้จากการโจมตีของผม ไม่ได้อยากทำร้ายพวกเดียวกันหรอกนะ รู้สึกผิดจริงๆ นะ แต่ว่าท่าทางตอนเขินน่ารักนี่หน่า เฮะเฮะเฮะ
จากนั้นสักพักมิมิก็ดูจะใจเย็นลงแล้ว และถึงจะมีอายอยู่บ้างแต่ก็กลับมาเดินปกติได้แล้ว เพราะงั้นเราเลยเริ่มเดินไปที่กิลด์ทหารรับจ้างกันอีกครั้ง ตัวกิลด์ทหารรับจ้างนั้นตั้งอยู่ที่ชั้นล่าง(?) ของตึกคนละตึกกับที่『Atelier Pure』ตั้งอยู่ ซึ่งดูเหมือนจะอยู่ใกล้กลับท่าจอดยานมากกว่า
พอมาถึงตึก เราก็ขึ้นลิฟท์ไปยังชั้นที่กิลด์ทหารรับจ้างอยู่ ตึกนี้สูง 85 ชั้น เป็นชั้นบน 3 ชั้นกลาง 52 และชั้นล่าง 30 ผมไม่รู้หรอกว่าแต่ละชั้นสูงขนาดไหน แต่นี่ก็น่าประทับใจแล้ว
“คนที่อาศัยอยู่นี่อยู่ไหนกันนะ?”
“เหมือนว่าจะมีพื้นที่อยู่อาศัยที่เป็นตึกหน้าตาเหมือนกันอยู่นะคะ ห่างจากที่นี่ไปนิดหน่อย”
“เข้าใจแล้ว เหมือนว่าตึกนึงจะอาศัยกันอยู่ได้เยอะเลยนะ”
อยากรู้จังว่าโคโลนี่นี้มีคนอยู่เท่าไร? เพราะเป็นสถานีที่ค่อนข้างใหญ่ น่าจะสักหมื่น หรืออาจจะเกินแสนเลยก็ได้
กลางวันกินอะไรดี? ผมกับมิมิกำลังจะเริ่มบทสนธนาเช่นนั้น แต่ก่อนที่จะได้ข้อสรุปเสียง ปิ๊ง ก็ดันขึ้นมาซะก่อน ดูเหมือนว่าลิฟท์จะมาถึงชั้นที่กิลด์ทหารรับจ้างอยู่แล้ว
“บางทีลองถามกิลด์ทหารรับจ้างน่าจะได้แหละ น่าจะรู้เรื่องสถานที่ดี”
“นั่นสินะคะ”
และพวกเราก็ออกจากลิฟท์พร้อมๆ กัน ซึ่งทำให้สายตาของทุกๆ คนมารวมกันอยู่ที่พวกเรา แต่ละคนที่มองมามีรูปลักษณ์ที่ต่างกันออกไป มีทั่วๆ ไปอย่างพวกกล้ามล่ำกับบรรยากาศกดดัน มีเอเลี่ยนสัตว์เลื้อยคลานที่ยืนด้วยสองขาเองก็ดูจะเป็นทหารรับจ้างเหมือนกัน มีสาวผิวดำในชุดเกราะบิกินี่ที่ไม่รูู้ว่าใส่ไปทำไมก็เถอะ มีผู้หญิงที่ดูยังไงก็เมด มีกลุ่มหกคนที่ขนาดตัวเหมือนเด็กในชุดอวกาศที่เหมือนกัน มีเอเลี่ยนที่เหมือนแพนด้าในชุดหมี(ชุดทำงาน) และกลุ่มไอดอลด้วย
“เทียบกับกิลด์ทหารรับจ้างที่เทอเมนไพรม์โคโลนี่แล้ว ดูมีชีวิตชีวากว่าแฮะ”
“น-นั่นสินะคะ”
แล้วสายตาที่มองมาที่ผมก็หายไปแทบจะในทันที แต่สายตาที่มองมิมิยังคงมีไม่ขาดสายจนทำให้มิมิไม่สบายใจเท่าไร เอาน่า เดี่ยวก็ชินแหละ ผมทำท่าบอกให้มิมิไปที่เคาทเตอร์แล้วเดินนำไป พอมิมิเริ่มเดินตาม สายตาที่มองมาก็เริ่มลดลง น่าจะรู้แล้วว่ามาด้วยกันกับผม เพราะผมเองก็ดูเป็นทหารรับจ้างเต็มตัว
เหมือนจะไม่มีอะไรตามธรรมเนียมอย่างมีคนโดดมาขวางละแพล่ม เน่ สาวน่ารักคนนั้นมากับนายเหรอเด็กใหม่ อะไรแบบนั้น เราเลยไปถึงโต๊ะรับรองของกิลด์ทหารรับจ้างได้อย่างราบรื่น มิมิยังคงดึงดูดความสนใจ แต่เพราะว่าน่ารักยังไงก็ช่วยไม่ได้แหละ เป็นกฎของธรรมชาตินี่หน่า
“ยินดีตอนรับค่ะ ต้องการให้ช่วยด้านไหนเหรอคะ?”
คุณพนักงานที่โต๊ะตอนรับเป็นหญิงสาววัยกลางคนที่ดูเป็นพนักงานบริษัท ใส่ยูนิฟอร์มพนักงานของกิลด์ทหารรับจ้าง เกราะหน้าหนาจนข่มอัลม่าได้สบายๆ บางทีอาจจะหนากว่ามิมิซะอีก แถมยังเป็นสาวสวยด้วย หรือว่าจริงๆ ความสวยเป็นหนึ่งในเกณฑ์การเลือกพนักงานต้อนรับของกิลด์ทหารรับจ้างกันนะ
“ฉันกัปตันฮิโระ และนี่มิมิเป็นโอเปอเรเตอร์ฝึกหัด เรามาจากเทอเมนไพรม์โคโลนี่ แวะมาทักทายว่าจะอยู่ที่นี่สักพักน่ะ”
พอผมโชว์เทอมินัลให้ดู เธอก็ยื่นเครื่องอ่านมาให้ ผมก็เอาไปแตะ เมื่อเสียงปี๊ป ดังว่าอ่านแล้ว จอโฮโลกราฟฟิคก็ปรากฎขึ้นบนเคาทเตอร์
“ค่ะ ยืนยันเรียบร้อย กัปตันฮิโระสินะคะ แรงค์ซิลเวอร์ และมีลูกเลือกสองคน…… อีกคน คุณอัลม่าอยู่ไหนเหรอคะ?”
“อยู่ที่ยานน่ะ พอดีมีธุระกับอินางาวะเทคโนโลยี”
“อินางาวะเทคโนโลยี…… เข้าใจแล้วค่ะ ไม่รู้เลยนะคะว่าเป็นโชคดีหรือโชคร้ายที่คุณมาที่ระบบดาวนี้พอดี”
“ในเมื่อมันทำเงินได้ ฉันไม่อยากมองว่าเป็นโชคร้ายเท่าไร”
ผมว่าแบบนั้นพลางผายมือ ซึ่งพนักงานต้อนรับก็ยิ้มขืนๆ ให้ อา เข้าใจน่า เข้าใจ พวกเรามันดูเหมือนจะเป็นพวกดึงดูดปัญหานี่เนาะ เข้าใจความรู้สึกดีน่า แต่ถ้าไม่มองว่าการเข้าไปเจอปัญหาคือดวงดี ก็หมายความว่าเป็นตัวปัญหาน่ะสิ
“มีติดต่อมาจากทางนั้นบ้างไหม?”
“ตอนนี้ยังไม่มีค่ะ ฉันว่าพวกเขาอาจจะต้องใช้เวลาสักหน่อยในการคำนวนค่าตอบแทนและได้รับการยินยอมเรื่องค่าใช้จ่าย ยังไงก็เป็นบริษัทที่ค่อนข้างใหญ่น่ะค่ะ”
“เข้าใจแล้ว ถ้ามีการติดต่อจากอีกฝ่าย ฝากติดต่อมาหาฉันหรือติดต่อไปที่ยานด้วยนะ”
“รับทราบ……โอ๊ะ?”
จู่ๆ คุณพนักงานต้อนรับก็อุทานออกมาและจัดการอะไรบางอย่าง
“เวลาเหมาะเจาะพอดีเลย พึ่งได้รับการติดต่อมาจากอินางาวะเทคโนโลยีค่ะ”
“โอ้…… อีกฝ่ายว่าไงบ้าง?”
“เหมือนว่าจะเสนอรางวัลเอาไว้ที่ 500,000 อีเนลค่ะ”
“ถึงไม่รู้ว่าเรตตอนนี้เป็นยังไง……แต่ขอแค่ไม่ต่ำเกินไปก็ไม่ว่าอะไรหรอก ขอคุยกับลูกเรือคนอื่นที่อยู่ที่ยานก่อนได้ไหม?”
“ได้ค่ะ”
หลังจากที่ได้รับการยินยอมจากพนักงานต้อนรับ ผมก็โทรหาอัลม่าที่อยู่ที่ยาน ซึ่งดูเหมือนจะตั้งหน้าตั้งตารอเป็นอย่างดี เพราะพอโทรไปก็รับทันที
“อัลม่าพูด มีอะไรรึเปล่า? เจอปัญหาเหรอ?”
“แค่ฉันมาที่กิลด์ทหารรับจ้างแล้วก็ได้ค่าตอบแทนจากอินางาวะเทคโนโลยีน่ะ 500,000 อีเนลนี่เหมาะสมรึเปล่า?”
“อื้ม เราไม่ได้ต้องลากยานกลับ เพราะงั้นฉันว่าราคานี้เหมาะสมกับการคุ้มครองจนกองทหารระบบดาวมาถึงแล้วล่ะ สมกับค่าคุ้มครองยานโดยสารขนาดกลางแล้ว”
“งั้นรับเลยนะ?”
“เอาเลย ฉันว่าไม่มีปัญหาอะไรหรอก ให้มิมิจัดการได้เลย”
“เข้าใจแล้ว ขอบใจนะ”
“ไม่เป็นไร ดีใจที่เชื่อใจฉันนะ”
งั้นเดี๋ยวฉันจะพักเรื่อยเปื่อยอยู่บนยานนี่แหละ อัลม่าว่าแบบนั้นแล้วก็วางสายไป หลังจากยืนยันจบผมก็หันมาหามิมิ
“อัลม่าบอกว่า 500,000 อีเนลโอเคแล้ว มิมิมีความเห็นอะไรไหม?”
“จำได้ว่าอินางะวะเทคโนโลยีมีเปิดโรงพยาบาลทั่วไปอยู่ด้วย เอาเป็นขอจดหมายแนะนำสำหรับการตรวจร่างกายของท่านฮิโระด้วยดีไหมคะ?”
“อย่างงั้นเหรอ? ถ้างั้นเดี๋ยวจะขอเรื่องนั้นด้วยแล้วกัน ขอบใจนะ”
“ค่ะ เดี๋ยวจะแจ้งอีกฝั่งให้นะคะ แล้วจะติดต่อไปอีกทีหลังจากที่ได้รับการตอบกลับ”
“ขอบคุณมาก อ่อแล้วก็มีอะไรอยากจะถามหน่อย”
“อะไรเหรอคะ?”
“ช่วยแนะนำร้านอาหารที่มีอร่อยแล้วก็เน้นอาหารท้องถิ่นของโคโลนี่นี้หน่อยสิ”
พนักงานต้อนรับแข็งค้างพร้อมเครื่องหมายคำถามเหนือหัวราวกับไม่เคยคิดว่าในชีวิตนี้จะโดนถามคำถามแบบนี้ที่เคาทเตอร์กิลด์ทหารรับจ้าง
คำถามมันแปลกเหรอ……?
☆★☆
วันถัดมาจากวันที่ไปเดตกับมิมิ เราก็ได้รับจดหมายแนะนำจากอินางาวะเทคโนโลยี เราทั้งสามเลยตรงไปที่โรงพยาบาลที่อยู่ในเครือของอินนางาวะเทคโนโลยี
อาเระ? อาหารขึ้นชื่อประจำถิ่น? เขาบอกว่าไม่มีอาหารประจำถิ่นที่อร่อยน่ะ ผมเองก็สงสัยเรื่องคำตอบอยู่เหมือนกัน เพราะถ้าคิดตามคอมมอนเซนส์แล้วอาหารขึ้นชื่อประจำถิ่นไม่น่าจะแย่ขนาดนั้นรึเปล่านะ
ผมคิดแบบนั้น
ก็นะ ถ้าไม่ใช่แหล่งกำเนิด ก็ไม่มีทางได้ลิ้มรสของที่ทำจากอาหารตลับสดๆ ได้ใช่ไหมล่ะ? แต่ถ้าเป็นของเหลวที่ใช้รสชาติเดิมๆ ของวัตถุดิบเลยก็แปลกไปหน่อยนะ
หน้าผมกับมิมิตอนนี้เลยกลายเป็นจิ้งจอกทิเบตไปเรียบร้อย นี่สินะ ความลับของคุณพนักงานต้อนรับบอกไว้?
“ทำไมทำหน้าอย่างกับเคี้ยวทรายเลยล่ะ?”
“คือ แผงลอยอาหารพวกนั้นอะ……”
ตอนที่ไปโรงพยาบาลทั่วไปที่อยู่ในเครือของอินางะวะเทคโนโลยี ผมก็ได้เห็นร้านแผงลอยที่เหมือนร้านที่แวะเมื่อวาน มิมิที่อยู่ข้างๆ ผมเองก็ทำสีหน้าแบบเดียวกัน แต่ช่างเรื่องนั้นไปเถอะ วันนี้มิมิใส่ชุดฝึกเรียบๆ และแจ๊คเก๊ต ที่น่าจะถอดตอนตรวจร่างกาย อัลม่ากับผมเองก็แต่งตัวไม่ต่างกัน ซึ่งเราทั้งสามนั้นมีปืนเลเซอร์ติดตัวอยู่
“แย่ขนาดนั้นเลยเหรอ?”
“พนักงานกิลด์แนะนำมา แต่ว่าเกินจะรับไหวจริงๆ”
“เปิดประสบการณ์หายากค่ะ……”
อาจจะเป็นอาหารขึ้นชื่อประจำถิ่นที่หากินได้แต่แถวนี้เท่านั้น ทั้งถูกและอิ่ม แต่……ไม่ใช่อะไรที่จะกินซ้ำไหวเลย
ระหว่างที่ผมกับมิมิบ่นกระปอดกระแปดเรื่องของเหลวเสริมอาหารจากร้านแผงลอยว่ามันแย่ขนาดไหน พวกเราก็ได้มาถึงตึกขนาดใหญ่ เป็นตึกที่มีชื่อของอินางาวะเทคโนโลยีติดอยู่เด่นหรา สำหรับคนของอินางาวะเทคโนโลยีทั้งตึกเลยเหรอเนี่ย?
“หาง่ายดีนะคะ”
“นั้นสิ เด่นหราเลย”
มิมิมองชื่นชม ส่วนอัลม่าไม่ได้สนใจอะไรเป็นพิเศษ เลยไม่ได้ออกความเห็นอะไร แล้วเราทั้งสามก็เดินเข้าตึกไป
“ชั้นไหนเหรอ?”
“ในตึกน่าจะมีเนวิโรโบอยู่”
อะไรคือเนวิโรโบ? ผมสงสัยพลางเดินตามอัลม่าที่จิ้มจอข้อมูลที่อยู่บนกำแพง เสียงอิเล็คทริคดังปี๊ป แล้วลูกทรงกลมขนาดเท่ากำปั้นก็ไหลออกมาจากรูบนกำแพง
『ยินดีตอนรับ ฉันคือเนวิเกชั่นยูนิท N-34 จะนำทางคุณอัลม่าไปยังปลายทาง』
“โอ้ ไฮเทคจังแฮะ”
“ไม่เห็นจะไฮเทคตรงไหน…อ่อ ไฮเทคกับนายนี่เนาะ”
“ใช่แล้ว”
“อย่างนั้นเหรอคะ?”
“ใช่แล้วล่ะ”
มิมิเอียงคอ พอมาคิดดูแล้ว ผมยังไม่ได้บอกมิมิเรื่องที่มาจากต่างโลกนี่นะ…… บางที่ เอาไว้บอกคืนนี้แล้วกัน แต่มิมิก็ไม่ได้สงสัยอะไร หรือไม่ต้องบอกดี คิดว่าลองถามอัลม่าก่อนแล้วกัน?
พวกเราขยับตัวไปต่อ เดินตามยูนิทนำทางไป ดูเหมือนว่ากำลังจะไปขึ้นลิฟท์กัน
“ฮึ่ม เจ้านี่น่ารักแฮะ”
“เอาจริง? ความชอบไม่เหมือนใครดีนะ”
“หือ? ไม่น่ารักเหรอ แบบพวกสัตว์เล็กๆ อะ?”
“ฉันว่าพอจะเข้าใจนิดหน่อยนะคะ แบบถึงจะตัวแค่นี้ แต่รู้สึกพยายามน่าดูเลย”
ยูนิทนำทางเลือกชั้นที่จะไปให้อัตโนมัติ ซึ่งลิฟท์ก็เริ่มขยับทันที พอมาคิดดูแล้ว ลิฟท์ที่โลกนี้นี่ไม่เคยแวะรับคนกลางทางเลยนี่หน่า ระบบทำงานเป็นแบบไหนกันหว่า? ลึกลับจัง
ไม่นานเราก็มาถึงชั้นปลายทาง แล้วประตูลิฟท์ก็เปิดออก ซึ่งเจ้ายูนิทนำทางก็เริ่มกลิ้งต่อ มันแอบแปลกนิดหน่อยที่เจ้านี้จงใจทำให้มีเสียงอิเล็คทริคที่เหมือนเสียงกลิ้งปล่อยออกมาให้ได้ยิน แต่คิดว่าน่าจะเผื่อกรณีที่คนตามคลาดสายตาจะได้ตามเสียงไปได้
“เหมือนว่าเราจะมาถึงแล้วล่ะ”
ระหว่างเดินไปตามระเบียงก็เห็นคนที่ใส่ชุดกาวน์สีขาวที่มีทั้งหมอและพยาบาล และปลายทางของเราคือห้องโล่งสว่างแสบตา ดูปลอดโปร่ง ซึ่งน่าจะเป็นสถาบันการแพทย์นั่นเอง
“สวัสดีค่ะ กำลังรออยู่เลย”
ยูนิทนำทางหยุดลงที่เท้าของคนคนหนึ่งที่ยืนอยู่ในพื้นที่
เป็นผู้หญิงที่สูงเท่าๆ กับผม มีผมสีน้ำตาลเข้มที่ยาวจนเกือบถึงเอว ถักเป็นเปียเอาไว้ สองมือสอดอยู่ในกระเป๋าเสื้อกาวน์ สายตาที่มองผมจากหลังแว่นเชยๆ นั้นมีดูง่วงงุนอยู่บ้าง ถึงโดยรวมจะดูเรียบๆ แต่ผมบอกได้เลยว่าเป็นคนสวย และความหนาของเกราะหน้า…… เทียบเท่ามิมิเลย ยอดเยี่ยม
“ฉันโชโกะ เป็นคนทำหน้าที่ตรวจร่างกาย…… แบบ เป็นหมอน่ะ ยินดีที่ได้รู้จัก”
เธอว่าแบบนั้นพลางยิ้มให้
————————————————————————————
ทำหน้าแบบจิ้งจอกทิเบต
MANGA DISCUSSION