028 – สงครามใหญ่
หลังจากเตรียมตัวพร้อมแล้วเราก็ไปที่ค๊อกพิทและประจำที่กัน ผมนั่งที่นั่งนักบิน มิมิอยู่ที่โอเปอเรเตอร์ และอัลม่าเป็นผู้ช่วยนักบิน ซึ่งเราแต่ละคนก็มีเจ้าขวดน้ำลอยได้อยู่ประจำตัว
“ขนาดกำลังจะบุกเดี่ยวยังไม่รู้สึกเครียดเลยนะ”
“เครียดเกินจำเป็นก็ไม่มีประโยชน์นี่หน่า”
“เชื่อใจท่านฮิโระได้อยู่แล้วค่ะ”
“มิมินี่แน่วแน่จังเลยน๊า”
“แน่นอนค่ะ ฉันมั่นใจในท่านฮิโระนี่หน่า”
“คาดหวังกันไว้สูงเชียวนะ เอาเถอะ จะไม่ทำให้ผิดหวังแล้วกัน”
ผมว่าแบบนั้นพลางเอาหลอดที่ยื่นมาจากสเฟียร์ที่ลอยอยู่ข้างๆ เข้าปาก
“อ่า ค่ะ มีการติดต่อเข้ามาค่ะท่านฮิโระ จากยานลาดตระเวณหนักของกองทัพจักรวรรดิ『กลอเรียส』จะเชื่อมสายไหมคะ?”
“จากกองทัพจักรวรรดิ? เชื่อมสายเลย”
มีอะไรรึเปล่านะ? กำลังจะดื่มโคล่าไม่ซ่าเลย……ตอนที่คิดแบบนั้นสายที่ติดต่อก็เปิดขึ้นและใบหน้าของกัปตันเซเรน่าก็ปรากฎขึ้นมาบนหน้าจอของค๊อกพิท ในตอนที่กัปตันเซเรน่าตั้งใจจะพูดอะไรสักอย่าง เธอก็หันมาเห็นกราวิตี้สเฟียร์ —— ขวดน้ำที่ลอยได้ ก็เลยส่งสายตางุงงงมาให้
『ทั้งๆ ที่กำลังจะลุยเดี่ยวไปทำสิ่งที่แทบจะเป็นไปไม่ได้ แต่ดูสบายใจจังเลยนะ』
“แบบว่ามั่นใจว่าจะรอดกลับมาน่ะนะ”
บุกสุดทางด้วยระบบความเร็วเหนือแสง ยิงใส่ แล้วหนีออกมา งานง่ายๆ เหลือเวลาพอให้กินโคล่าชืดๆ นี่ด้วย
『เข้าใจแล้วค่ะ……เพราะกำลังจะเริ่มภารกิจก็เลยกังวลนิดหน่อย แต่ดูเหมือนว่าคุณจะสบายดีนะคะ หวังว่าจะไม่ได้ดีแต่พูด』
“แน่นอนสิ ฉันมันมืออาชีพนี่หน่า”
กัปตันเซเรน่าทำหน้างงเล็กน้อยกับคำตอบของผมก่อนจะหัวเราะคิกคักและวางสายไป
“ท่านเจ้าหญิงว่างหรือยังไงกันนะ? ถึงมาติดต่อบอกเป็นห่วงทหารรับจ้างทั่วๆ ไปเนี่ย”
“เล็งอะไรอยู่รึเปล่านะ?”
“ไม่รู้สิ ช่างเถอะ ไม่ใช่เรื่องที่ต้องกังวลหรอก มิมิ ตัดสายการติดต่อสื่อสารทั้งหมด ปิดกั้นการสื่อสาร”
“ค่ะ ปิดกั้นการสื่อสาร”
“อัลม่า เร่งพลังงานเต็มพิกัด เราจะเข้าสู่ระบบความเร็วเหนือแสง”
“ไอย ไอย เซอร์ เร่งเครื่องเจเนอเรเตอร์เต็มพิกัด”
“เริ่มการชาจน์ระบบความเร็วเหนือแสง”
“เริ่มการชาจน์……เริ่มการทำงานระบบความเร็วเหนือแสงใน ห้า สี่ สาม สอง หนึ่ง……เริ่มระบบความเร็วเหนือแสง”
เมื่อเสียงบูมราวกับระเบิดดังขึ้น กฤษณะก็เข้าสู่ระบบความเร็วเหนือแสง ดวงดาวห่างไกลที่เห็นได้จากค๊อกพิทก็ถูกทิ้งไว้ด้านหลังกลายเป็นเพียงเส้นแสงราวกับดาวตก
“คอยส่องเรดาห์ไว้ อย่าพลาดจังหวะที่ยานของสหพันธ์วาร์ปออกมาล่ะ”
““รับทราบ””
เรารู้อยู่แล้วว่ายานของสหพันธ์จะออกจากการวาร์ปมาที่ตรงไหน เพราะไฮเปอร์ไดรฟ์เป็นเทคโนโลยีการเดินทางระหว่างดวงดาวโดยใช้ไฮเปอร์เลน หรือก็คือทางด่วนระหว่างดาวนั่นเอง
แต่เพราะว่าทางเข้าออกไฮเปอร์เลนน่ะกว้างมากๆ ก็เลยจะมี『ความผันผวน』ในจุดที่วาร์ปออกมาอยู่บ้าง แต่ตำแหน่งพื้นฐานน่ะที่เดิมเสมอ เพราะงั้นถ้ารู้ว่าศัตรูมาจากระบบดาวไหน ก็จะสามรถตีวงจุดเกิดได้ระดับนึงเลย
พวกเราเลยวนรอบจุดวาร์ปออกด้วยโหมดความเร็วเหนือแสงรอให้กองทัพของสหพันธ์วาร์ปออกมา ใช้เวลาราวๆ สิบนาที
“เรดาห์ตรวจการเคลื่อนไหวได้ค่ะ สัญญาณการออกจากวาร์ปจำนวนมาก”
“ดีล่ะ ลดความเร็วกัน”
เราหันหัวไปหาจุดออกวาร์ปของกองทัพสหพันธ์ทันที และปิดระบบความเร็วเหนือแสงผสานไปกับปฏิกริยาการออกวาร์ปของกองทัพสหพันธ์
“ลดอุณหภูมิฉุกเฉิน ตัดการจ่ายไฟ”
“ทำการลดอุณหภูมิฉุกเฉิน ตัดไฟ”
ในเวลาเดียวกับที่ปิดระบบความเร็วเหนือแสง เครื่องเจเนอเรเตอร์ของกฤษณะก็ถูกลดให้เหลือเพียงระดับต่ำสุด และเปิดใช้งานระบบลดอุณหภูมิฉุกเฉิน จนเปลี่ยนเป็นโหมดเทอมอลสเตลท์
“เอาล่ะ ย่องไปกัน”
“ยังไงก็เถอะ นายที่คิดเทคนิคเหลี่ยมจัดแบบนี้มาใช้ได้นี่สุดยอดไปเลยนะ……”
“ต้องใช้จินตนาการกับสมองเพื่อเอาตัวรอดก็ปกตินี่หน่า ทำไม่ได้ก็ตายพอดีสิ”
“สมเป็นท่านฮิโระเลยนะคะ”
ผมปิดระบบช่วยเหลือการบินและเข้าหากองยานของสหพันธ์ด้วยแรงเฉื่อยเท่านั้น ซึ่งยิ่งเข้าไปใกล้มากเท่าไร จำนวนยานของสหพันธ์ก็ยิ่งวาร์ปออกมามากขึ้นเท่านั้น
“สวยมากเลยนะคะ เท่จัง”
“จริง ได้เห็นยานรบจัดทัพเรียงรายสวยขนาดนี้นี่อย่างเจ๋ง”
“ใช่ มันอลังการมากๆ”
ยานประจัญบาน ยานลาดตระเวณหนัก ยานลาดตระเวณเบา ยานพิฆาต ยานคอร์เวต ยานทั้งห้าแบบที่ได้เห็นกำลังเรียงรายอย่างเป็นระเบียบเป็นอะไรที่สุดยอดมากๆ แต่ว่าเผลอมองเหม่อยาวๆ คงไม่ได้
“ยานธงอยู่นั่น”
ผมหันความสนใจไปหายานประจัญบานที่อยู่กึ่งกลางของกองทัพ เหมือนว่ายานประจัญบานลำนั้นจะกำลังสื่อสารกับยานที่เหลือ เพราะงั้นไม่พลาดแน่นอน
“จะไปตรงนั้นเหรอ?”
“โอ๊ส”
ผมพยักหน้าตอบคำถามของอัลม่าที่หน้าซีด มาไกลขนาดนี้จะหนีหางจุกตูดก็ไม่ทันแล้วนะ
“สัญญาณการออกจากวาร์ปหายไปแล้วค่ะ กองยานของสหพันธ์กำลังเคลื่อนที่”
“เยี่ยม ถึงเวลาแล้ว ระยะก็กำลังดี รีสตาร์ทระบบลดอุณหภูมิฉุกเฉิน เดินเครื่องเจเนอเรเตอร์เต็มกำลัง”
“อ้า โม่ว……รีสตาร์ระบบลดอุณหภูมิฉุกเฉิน แรงขับเจเนอเรเตอร์อยู่ในระดับสูงสุด!”
“ไปเลย!”
ผมเร่งไอพ่นเต็มกำลังพุ่งเข้าไปกลางวงกองทัพสหพันธ์ จนได้ยินเสียงน้ำแข็งที่เกาะผิวยานแตกเพราะระบบลดอุณหภูมิฉุกเฉินทำงานหนักเกินไป เป้าหมายคือยานประจัญบานที่อยู่ใจกลางของกองทัพ ซึ่งน่าจะเป็นยานธง แต่เพราะไม่ได้เสร็จสอบให้ดี จึงอาจจะพลาดก็ได้
『……? อะไรน่ะ? เรดา์มัน……!? มีโจรสลัดกำลังพุ่งเข้ามาอย่างเร็ว! จากด้านบน!』
『อะไรนะ!? คนดูแลเรดาห์ทำอะไรอยู่!?』
『อุณหภูมิของยานลำนั้นมันต่ำจนผิดปกติ! โดนมองเป็นซากอวกาศเพราะเย็นเกินไปครับ!』
“ฮ่าฮ่าฮ่า ตกใจเข้าไป ตกใจเข้าไปอีก”
บรรดาป้อมปืนของยานในกองทัพสหพันธ์เริ่มเคลื่อนไหว แต่กว่าจะเริ่มกันพวกเราก็มาถึงใจกลางของกองทัพแล้วจนอยู่ในสถานการณ์ที่อาจจะยิงโดนพรรคพวกตัวเองได้เลยทำให้ไม่สามารถยิงได้ดังใจ ซึ่งเราก็เปิดรางอาวุธที่ใต้ยานพลางเล็ดลอดผ่านช่องว่างของยานสหพันธ์ที่มีอยู่มากมายเข้ามา
“ฮ่าฮ่า! เอานี่ไปกิน!”
ทอปิโดปฏิกริยาต่อต้านยานอวกาศสองนัดถูยิงไปยังยานประจัญบานที่อยู่ใจกลางของกองทัพและพวกเราก็เร่งผ่านไปทันทีที่ยิงออกไป แรงระเบิดขนาดใหญ่เกิดขึ้นที่กลางลำของยานประจัญบาน ตัวยานขนาดใหญ่ถูกฉีกกระชากจากตรงกลางกลายเป็นสองท่อน
『ยานประจัญบานไทเกอร์อายจม! ยานนั่นมีทอร์ปิโดปฏิกริยาต่อต้านยานอวกาศติดตั้งมาด้วย!』
『เวรเอ๊ย! ทหารรับจ้างหรอกเหรอวะ!? ไม่ต้องสนเรื่องยิงฝ่ายเดียวกัน สอยมันให้ร่วงด้วยป้อมมัลติแคนน่อนซะ! แต่ห้ามใช่ปืนเลเซอร์ ปืนกระสุนแข็ง กับมิสไซล์ติดตาม!』
“ย๊ะฮู้ว! สังหารยักษ์ว้อย!”
“ดะ เดี๋ยวสิย๊ะ! ไม่ใช่เวลามาย๊ะฮู้นะ! ต้องรีบหนีกันแล้ว!”
“นั่นสินะ!”
แจ้งเตือนโดนเล็งโผล่ขึ้นมาจากทุกทิศทาง ถึงยานธงจะจมไปแล้วแถมยังตกอยู่ในความวุ่นวาย แต่การตัดสินใจจัดการศัตรูตรงหน้านี่ไม่หายไปง่ายๆ สินะ เหมือนว่าการรับช่วงต่อการสั่งการจะเตรียมไว้ดีนะเนี่ย
“เดี๋ยวนะ!? ไหนพวกสิ่งมีชีวิตคริสตัลล่ะ!?”
“อีกสามสิบวิถึงจะโผล่มาน่ะ!”
“หา!? สามสิบวิ!? แล้วเราจะทำยังไงกันล่ะห๊ะ!?”
“แน่นอนว่าหนีอะดิ! วนอยู่ในกองทัพนี่แหละ พวกนั้นจะได้ใช้อาวุธหนักไม่ได้ ไม่เป็นไรหรอก!”
“ไม่เป็นไรที่ไหนกันล่ะย๊ะ! ตาโง่!”
พร้อมกับเสียงตะโกนของอัลม่า ปืนใหญ่สำหรับการสู้ระยะประชิดก็ถูกยิงออกมาพร้อมกันทุกทิศทาง กระสุนนับไม่ถ้วนถูกโปรยลงมาหากฤษณะพร้อมๆ กันด้วยความเร็วสูง
“แกลบกับลดอุณหภูมิฉุกเฉิน!”
“เรียบร้อย!”
“มิมิ ปลดการปิดกั้นการสื่อสาร! ส่งข้อมูลไปให้กองทัพจักรวรรดิ!”
“ค่ะ!”
ใช้งานอุปกรณ์ตัวล่อทั้งหมด และขยับเพื่อเลี่ยงจุดที่การโจมตีหนาแน่น แน่นอนว่าไม่มีทางที่จะหลบกระสุนที่กระจายมั่วซั่วจนนับไม่ไหวทั้งหมดได้ แต่โล่ของกฤษณะก็ทนมากพอที่จะรับการโจมตีเอาไว้ได้
แต่เดิมโล่เองก็เป็นเทคโนโลยีที่ทำขึ้นมาเพื่อป้องกันยานจากบรรดาซากต่างๆ ในอวกาศอยู่แล้ว เพราะงั้นการป้องกันต่อกระสุนปืนชนิดแข็งเป็นอะไรที่มั่นใจได้แน่นอน ต่อให้โดนไปบ้างก็ไม่สะเทือนอะไรหรอก
“โล่เริ่มจะไม่ไหวแล้ว!”
“ใช้ชิลด์เซลตามสมควรได้เลย! ไม่ต้องไปหวงมัน!”
“รับทราบ!”
『ถึงจะเป็นยานเล็กแต่โล่แข็งจริงนะ……!』
『มันอ่านระยะปืนของพวกเราเป็น! ระวังหลังให้กันเอาไว้ด้วย!』
『มันเกาะติดฉันไม่ไปไหนเลย……อะไรน่ะ!?』
ตอนที่ผมได้ยินอัลม่าตอบรับ ผมก็ยิงช๊อตกันใส่ด้านล่างของยานลาดตระเวณหนักลำหนึ่งที่ใช้เป็นโล่กันกระสุน กระสุนนับไม่ถ้วนที่ยิงออกไปทำให้โล่ของยานลาดตระเวณหนักที่โดนเพื่อนยิงจนโล่อ่อนแรงแล้วหายไปทันที และทิ้งรูพรุนเอาไว้พร้อมทำลายด้านในยานจนยับเยิน
“สองแล้ว! โอ้ มากันแล้วแฮะ!”
หลังจากจัดการยานลาดตระเวณหนักเสร็จและกำลังจะไปหาเป้าหมายถัดไป สิ่งนั้นก็เกิดขึ้น
เสียงแหลมสูงดังจนสะเทือนไปถึงแก่นกระโหลก พร้อมๆ กับรอยแยกจำนวนนับไม่ถ้วนที่โผล่ขึ้นกลางอวกาศ
“มันมาแล้ว! หนีกันเถอะ!”
“อุหวา เต็มไปหมดเลยแฮะ!?”
“อา โม่ว! เละเทะไปหมดแล้วเนี่ย!”
สิ่งที่ปรากฎตัวออกมาจากรอยแยกของอวกาศคือสิ่งที่เป็นเหมือนคริสตัสทั้งหมดโดยไม่มีอะไรผสมรูปทรงราวกับกระสุนปืน — หรือเขี้ยว ที่มีปลายแหลมราวกับต้องการเสียบแทงบางอย่าง เพราะวิธีการโจมตีหลักของมันคือการพุ่งชนโดยใช้ปลายแหลมอันโดดเด่นของมันนั่นแหละ
แน่นอนว่าการโจมตีแบบอื่นอย่างพวกยิงเศษร่างกายออกมาด้วยความเร็วสูงหรือยิงกระสุนพลังงานลึกลับออกมาก็มีอยู่เหมือนกัน
『มีสัญญาณการออกจากวาร์ปจำนวนมาก! นี่มัน……สิ่งมีชีวิตคริสตัล!?』
『ทำไมมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะ!?』
『มันมาแล้ว!? อุหวาาาาา!?』
『ขวางไว้! ขวางไว้! ใช้ทุกอย่างที่มีได้เลย!』
『ไอ้โง่เอ๊ย! เราฝ่ายเดียวกัน——-อ๊ากกกกก!!』
『ฮิ๊ยยยยย! อ๊า ขามัน!? ขามันกำลังโดนละลาย……ไม่นะะะะ!?』
เป็นเสียงตะโกนและกรีดร้องอันแสนบ้าคลั่ง พอเป็นแบบนี้ก็ไล่ตามผมไม่ได้แล้ว ไม่นับเรื่องการสั่งการด้วยซ้ำ
“โหดร้ายจังเลยแฮะ”
“ทั้งหมดนี่นายเป็นคนทำ”
อัลม่าพูดด้วยน้ำเสียงฉุนเฉียวและถอนหายใจ ส่วนมีมิมิก็หน้าซีดตัวสั่น อาจจะเพราะช๊อกจากความตายของเหล่าทหารสหพันธ์ที่ได้ยินจากช่องสื่อสาร
“มิมิ ถ้ารับไม่ไหวจะปิดไปก็ได้นะ”
“ม-ไม่เป็นไรค่ะ”
ไม่เห็นจะไม่เป็นไรเลยสักนิด แต่เมื่อว่าแบบนั้นก็จะไม่ห้ามแล้วกัน อัลม่าเองก็เป็นคนดูเรดาห์กับโอเปอเรเตอร์สื่อสารให้ได้ถ้าจำเป็น
“แล้วก็ถึงเวลาทำเงิน”
“……ห๊ะ?”
“ดูสิ กองทัพสหพันธ์กำลังวุ่นวายเลยนะ”
“น-นั่นสินะคะ?”
“หรือพูดอีกอย่างคือเป็นโอกาสถล่มยานอีกฝั่งได้เป็นจำนวนมากไงล่ะ”
“พูดเล่นใช่ไหมน่ะ?”
“จริงจัง”
พูดจบผมก็หันหันยานกลับและพุ่งตรงกลับเข้าไปหาสนามรบที่กองทัพสหพันธ์กำลังสู้ประชิดกับสิ่งมีชีวิตคริสตัลอยู่
“ไปล่ะนะ!”
ในหัวผมก็คือมีเพลงประกอบเล่น 『デッデッデデデデ! カーン!』*ไปแล้ว
“ย๊าา!? ไม่น๊า! ตายแหง! ต้องตายแหงๆ ! ตาโง่! นายมันโง่สิน๊า!?”
“อัลม่า”
“อะไร๊!?”
“กาลครั้งหนึ่งบุรุษสีแดงได้กล่าวไว้ว่า『ถ้าไม่โดนก็ไม่เป็นไร』น่ะ”**
“และไอ้หมอนั่นต้องเป็นไอ้โง่แห่งจักรวาลแน่ๆ!”
ไม่ต้องห่วงนะ พอเทียบกับเครื่องที่นักบินของดาวหางแดงคนนั้นขับแล้วกฤษณะน่ะมีโล่อยู่ด้วย ง่ายเหมือนปลอกกล้วยเข้าปากเลย เทียบกับหมอนั่นที่ขับเครื่องที่โดนที่เดียวร่วงแล้วยังหลบการโจมตีทั้งหมดจนเอายานประจัญบานลงได้แล้วผมนี่อย่างกับเล่นโหมดง่ายเลย
ผมเลี่ยงพวกสิ่งมีชีวิตคริสตัลที่พุ่งเข้ามาหาและยิงทอปิโดปฏิกริยาต่อต้านยานอวกาศที่เหลือสองลูกใส่ยานประจัญบานลำละลูกที่กำลังยุ่งอยู่กับการจัดการสิ่งมีชีวิตคริสตัล เพราะงั้นการโจมตีที่มาหาผมเลยน้อย เลยกลายเป็นชัยชนะที่ได้มาง่ายๆ เลย
“ตะกี๊เฉี่ยวไปเลยนะ! เฉียดไปนิดเดียวเองนะ!? อ๊าาาา! สิ่งมีชีวิตคริสตัลจากกราบขวา! เลเซอร์ขนาดใหญ่จากกราบซ้ายหน้า!”
“มาเลย”
“ท่านฮิโระใจเย็นจังเลยนะคะ”
“ในสนามรบ ใครเสียความเยือกเย็นก่อนก็จะตายก่อนน่ะ เพราะงั้นมิมิเองก็ต้องพยายามใจเย็นเข้าไว้นะ”
“ค่ะ”
“ได้ยินนะย๊า!”
ผมยิงเฉพาะสิ่งมีชีวิตคริสตัลที่ขวางทางเท่านั้น และเน้นเล็งเป้าไปที่ยานสหพันธ์ขนาดใหญ่
ตัวสิ่งมีชีวิตคริสตัลเองน่ะไม่ได้เก่งอะไรขนาดนั้น ไม่มีโล่ ตัวคริสตัลก็ไม่ได้แข็งมาก โดนช๊อตกันยิงก็แตกง่ายๆ เลย แค่ปืนเลเซอร์จะไม่ค่อยได้ผลเท่าไร
พอเจ้าสิ่งมีชีวิตคริสตัลพวกนี้พุ่งเข้าชนยานจนโล่หาย ผมก็ค่อยยิงซ้ำด้วยปืนเลเซอร์กับช๊อตกัน ยานสหพันธ์ก็จะระเบิดเป็นชิ้นๆ ส่วนพวกที่ตั้งขบวนป้องกันแข็งๆ ผมก็จัดการเทรนสิ่งมีชีวิตคริสตัลไปปาดซะ***
『ไอ้เวรมีแขนเอ๊ย!』
『กูจะฆ่ามึง ไอ้เวรเอ๊ย!』
『ไอ้ปีศาจมีแขน!』
ความโกรธแค้นของกองทัพของสหพันธ์รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ……แต่โทษทีนะ นี่มันสงครามน่ะ
ยานของสหพันธ์โดนจมไปลำแล้วลำเล่าพร้อมเสียงแห่งความโกรธแค้น เยี่ยมเลยฮับพ่อ พรุ่งนี้จะได้กินสเต็กแล้วนะฮับ
『กองทัพจักรวรรดิเริ่มเคลื่อนไหวแล้วครับ!』
『เวรเอ๊ย! จังหวะดีไปไหนวะ! ผิดพวกแกทั้งคู่เลยไอ้แขนเวรกับไอ้คริสตัลเวร!』
เหมือนว่าทัพสหพันธ์จะตรวจจับการเคลื่อนไหวของทัพจักรวรรดิได้ซะแล้วสิ เวลาโบนัสจบซะละ
“ถ้างั้นเราเองก็ออกจากสนามรบกัน”
“ในที่สุด!?”
“ใช่ ถ้าติดในวงยิงถล่มของพวกเดียวกันก็จบกันสิ”
ทัพจักรวรรดิจะต้องยิงถล่มเต็มกำลังจากนอกระยะยิงแน่ๆ เพื่อจัดการทัพสหพันธ์ไปพร้อมสิ่งมีชีวิตคริสตัล ไม่ต้องเดาเลย ถ้าเวลานั้นมาถึงแล้วยังอยู่ที่นี้โอกาสรอดก็แทบไม่เหลือแน่ๆ
“เต็มชิลด์เซล ปล่อยแกลบกับแฟลร์เลย”
“ปล่อยเรียบร้อย!”
“บินไปเลย อย่ากัดลิ้นกันล่ะ!”
ผมเร่งไอพ่นเต็มที่เพื่อเร่งถอนตัวออกจากสนามรบที่ทัพสหพันธ์กับสิ่งมีชีวิตคริสตัลกำลังรบประชิดกันอยู่
『ยานทหารรับจ้างนั่นมันจะหนีแล้ว! ยิงเลย! ยิงเลย!』
『อย่าให้ไอ้เวรนั่นหนีไปได้!』
“เริ่มชาจน์ระบบความเร็วเหนือแสง”
“เริ่มการชาจน์ กำลังจะเข้าสู่ความเร็วเหนือแสงใน ห้า สี่ สาม——”
『เป้าหมายกำลังเริ่มชาจน์ระบบความเร็วเหนือแสง!』
『เวรเอ๊ย!!! จำเอาไว้เลยนะ!!!』
“โทษที ลืมแล้วว่ะ เจอกัน!”
“—— สอง หนึ่ง……เริ่มระบบความเร็วเหนือแสง”
พร้อมๆ กับที่เสียงบูมดังขึ้น เราก็ออกมาจากสนามรบทันที ไม่มีทางที่พวกนั้นจะไล่ทันที เพราะที่เราทิ้งไว้เบื้องหลังไม่ใช่เพียงแค่เสียง แต่เป็นแสงด้วยเช่นกัน ถ้าตามรอยระบบความเร็วเหนือแสงน่ะเป็นไปได้ แต่ไม่ใช่กับสถานการณ์ตอนนี้หรอกนะ
——————————————————————————————-
HorrorDay’s Note:
*デッデッデデデデ! カーン! || BGM ประกอบเกม Romacing Saga
**ประโยคพูดของชาร์จากกันดั้ม แต่เราจำไม่ได้ว่าตอนพากย์ไทยใช้ประโยคว่าอะไร เพราะงั้นขอแปลตรงๆ แล้วกันนะ
***ตรงนี้เล่นคำจาก ‘เทรนมอน’ เป็น ‘เทรนสิ่งมีชีวิตคริสตัล’ อธิบายเสริมเผื่อคนไม่รู้ เทรนคำนี้แปลว่ารถไฟ มาจากเกม MMORPG ที่เราจะลากฝูงมอนสเตอร์จำนวนมากไปฆ่าผู้เล่นคนอื่น
kloy1002 : คุณฮิโระมันสนุกจนน่าหมั่นไส้เลยคะ แต่ฉากสู้สนุกมาก ยอมรับว่าเพลินสุดๆ เพราะงั้นถ้ามีคำผิดก็น่าจะเป็นความผิดของเรื่องที่สนุกเกินไปจนมองข้ามคำผิดนั่นแหละคะ!!
MANGA DISCUSSION