022 – อัลม่า
หลังจากซื้อของกันเสร็จเราก็กลับไปที่ยานแล้วทานอาหารเย็นกัน ต่อให้จะเร็วไปหน่อย แต่ดูเหมือนว่าอัลม่าจะไม่ได้กินอะไรเพียงพอมาหลายวันแล้ว
“แปลก”
“มีอะไรเหรอ รึว่าไม่ถูกปาก? อาหารเย็นรอบนี้อุสาห์เป็นมือพิเศษที่ใช้ตลับอาหารคุณภาพสูงกับเนื้อสังเคราะห์เลยนะ”
“นี่มันไม่ใช่แล้ว! อะไรกันเนี่ย…!”
อัลม่ากระแทกตัวขึ้นยืนพร้อมโวยวาย
“ทำไมยานทหารรับจ้างถึงให้ความรู้สึกหรูหราได้ขนาดนี้ล่ะ?!”
อัลม่าตะโกนพลางชี้ไปที่ภายในห้องครัวที่พึ่งปรับปรุงมาใหม่และกำลังส่องประกายพลางตะโกน แหม ถึงจะถามกันแบบนั้นก็เถอะ
“ก็คิดว่าอยู่กันในสถานที่ดีๆ มันสำคัญนี่หน่า รู้ใช่ไหม? อาหารอร่อย ห้องสะอาด เตียงที่นอนสบาย มันให้ผลดีกับสุขภาพจิตของคนที่อยู่นี่หน่า”
“ตรรกะน่ะเข้าใจย่ะ…แต่ว่า…ก็เข้าใจแหละ! แต่นี่อย่างกับเรือสำราญหรูเลยนะ!”
“ได้เงินมาก็ต้องใช้นี่หน่า ที่ซื้อมาก็ของดีๆ ทั้งนั้น มิมิแนะนำได้เก่งมากเลยนะ”
“เอเฮะเฮะ”
“อื้มม—……!”
อาจจะเพราะหงุดหงิดที่สื่อสิ่งที่อยากสื่อออกไปไม่ได้เลยทรุดตัวนั่งปากเบี้ยวด้วยความไม่พอใจ
“อัลม่า”
“อะไร?”
“ที่อื่นก็ที่อื่น ที่นี่ก็ที่นี่ มันเป็นแบบนั้นแหละ ชินซะนะ”
“คุ…..เข้าใจแล้วน่า”
อัลม่ายังคนพึมพำอะไรอย่างภาพลักษณ์ของทหารรับจ้างที่คิดไว้ แต่ก็สามารถระงับอารมณ์และกินข้าวได้ ผมเองก็เอาอาหารเย็นจานพิเศษของคุณเทตซึจินเข้าปากด้วยเช่นกัน
อาหารที่ทำจากตลับอาหารธรรมดาก็อร่อยแล้ว พอใช้ตลับอาหารคุณภาพสูงนี่อย่างกับคนละระดับกันเลย ตัวสเต็กเนื้อสังเคราะห์ของคราวก่อนก็เทียบไม่ได้เลยสักนิด เนื้อสังเคราะห์นี่ทำด้วยเมนูเดียวกับเครื่องทำอาหารอัตโนมัติธรรมดาคราวก่อน ทำไมถึงต่างกันได้เยอะขนาดนี้นะ…? พลังของคุณเทตซึจินช่างน่าทึ่ง
“อร่อยใช่ไหมล่ะ?”
“……อร่อยจนสงสัยเลยว่าก่อนหน้านี้ฉันกินอะไรอยู่กันแน่”
“ฉันเข้าใจ”
“ฉันเข้าใจค่ะ”
มิมิกับผมพยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของอัลม่า นี่คือความสุดยอดของคุณเทตซึจิน พูดตามตรงคือกลัวว่าตัวเองจะกลายเป็นคนเลือกมากเรื่องการกินไปเลยล่ะ
ตัวอย่างก็กรณีของสเต็กเนื้อสังเคราะห์ ด้วยการปรุงรสอย่างปราณีต ระดับความสุก กลิ่นหอมจางๆ ของเครื่องเทศ และรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่ทำให้สัมผัสของเนื้อยกขึ้นสองหรืออาจจะถึงสามระดับเลย เป็นผลงานอันพิถีพิถันที่สัมผัสได้จากทุกๆ จาน ช่างเหมาะเป็นอาหารของเชฟกระทะเหล็กจริงๆ
เราทานอาหารไปพลางคุยเล่นกันไปพลาง สุดท้ายก็ตัดสินใจว่าถึงเวลาอาบน้ำ
“มิมิ ช่วยสอนอัลม่าใช้ทีนะ อาบด้วยกันทั้งสองคนเลยก็ได้นะ?”
“นั่นสินะคะ ได้ไหมคะ?”
“สอนใช้…? ได้สิ ฉันไม่ถือหรอกนะ”
อัลม่าเอียงคอ แต่ว่าตอบรับ ผมเลยฝากมิมิดูแลแล้วตรงไปอาบน้ำก่อน อาห์ ล้างตัวและนวดอัตโนมัตินี่รู้สึกดีจังเลยนะ ถึงจะใช้น้ำร้อนเยอะ แต่ต้องขอบคุณเทคโนโลยีบำบัดน้ำระดับสูง ที่สามารถเอาน้ำทั้งหมดมาใช้ใหม่น้ำเลยแทบจะไม่ลดเลยสักนิด ประโยชน์เพิ่มเติมจากตรงนี้คือทำให้โอกาสที่น้ำจะหมดตอนเดินทางไกลน้อยลงไปเยอะด้วย
หลังจากที่ผมอาบเสร็จก็ตรงกลับไปที่ห้องทานอาหารในชุดสบายๆ เสื้อยืดกับกางเกงขาสั้น มาถึงก็ได้ยินมิมิกับอัลม่ากระซิบกระซาบบางอย่างกัน
“ขึ้นเหรอ–?”
“ปี๊?!”
“โอ้ว!?”
อัลม่าที่กำลังกระซิบกระซาบตัวสั่นจู่ๆ ก็ทำเสียงแปลกๆ ขึ้นมาจนผมตกใจ เป็นอะไรเนี่ย? ทำเสียงเป็นพวกนกกระจอกเลย
“หวา หวา เร็วจังเลยนะ!?”
“ไม่นะ นี่ปกติดีออก…นี่ไม่เป็นไรใช่ไหม? หน้าซีดเชียว”
“ม-ม-ไม่เป็นไร! ไม่มีอะไรเลยสักนิด!”
“โอะ โอ้”
ผมเหลือบมองมิมิ แต่เธอก็ทำเพียงแค่ยิ้มกำกวมกลับมาให้ อะไรน่ะ? อะไรกัน? ไอ้ความรู้สึกไม่สบายใจที่ก่อตัวขึ้นมา ต้องมีบางอย่างที่เข้าใจผิดกันอย่างหนักตรงไหนสักที่อยู่แหงๆ ผมอดรู้สึกแบบนั้นไม่ได้
“ท่านฮิโระคะ เดียวฉันกับคุณอัลม่าจะไปอาบน้ำก่อนนะคะ”
“อา โอเค”
ผมมองส่งโดยไม่เข้าใจว่าผมผิดอะไร ฮึ่มม? อัลม่าเหมือนจะกลัวผม…? มิมิดูเหงาๆ…?
ไม่เห็นเข้าใจเลย คิดเท่าไรก็ไม่เข้าใจ แต่ในเวลาแบบนี้ ลืมมันไปซะคือวิธีที่ดีที่สุด หยุดเปลืองทรัพยากรสมอง ไม่ใช่หยุดคิด แต่เป็นการมุ่งคิดอื่นต่อไป
เพราะงั้นผมเลยตัดสินใจว่าจะหยุดคิดเรื่องท่าที่แปลกๆ ของอัลม่า แล้วกลับไปที่ห้องของตัวเองเพื่อคิดว่าพรุ่งนี้จะทำอะไรต่อไป
รายจ่ายวันนี้ทำเอากระเป๋าตังค์แฟบไปเลยเพราะงั้นต้องหาเงินเพิ่มให้เร็วที่สุดเท่าที่ทำ อย่างน้อยมีติดมือไว้หนึ่งล้านอีเนล ไว้เผื่อกรณียานพัง
“อื้มมม…..”
พอดูบรรดาคำขอที่กิลด์ทหารรับจ้างจัดหาให้ก็ได้แค่ครวญครางอย่างอดไม่ได้ ไม่ใช่ว่าไม่มีงานเงินดีเลย แต่ส่วนใหญ่จะเป็นงานสำหรับทหารรับจ้างเป็นกลุ่มพร้อมมียานขนส่ง
เป็นงานที่เกี่ยวกับการขนสินค้าที่ผลิตจากโคโลนี่เทอเมนไพรม์แล้วนำไปส่งที่ระบบดาวที่อยู่ห่างออกไปสักสองสามระบบโดยผ่านพื้นที่อวกาศและระบบดาวที่อันตราย ค่าจ้างขึ้นอยู่กับตัวสินค้าและจำนวนโดยขึ้นเงินยืนพื้นคือหนึ่งล้านถึงสามล้านอีเนล ถ้าส่งได้ดีก็เป็นงานที่เร้าใจอยู่
แต่โชคไม่ดีที่จำนวนของที่ขนได้ของกฤษณะไม่เยอะขนาดนั้น ขนของเสริมเล็กๆ น้อยเพื่อหาเงินเพิ่มระหว่างที่เดินทางข้ามระบบดาวอยู่แล้วก็พอคุ้มช่วยค่าพลังงานกับซ่อมบำรุงได้ แต่ให้ทำงานเป็นยานขนส่งหลักนี่ไม่ไหว
“ยังไงก็ต้องเป็นงานล่าค่าหัวแหละนะ……”
ฐานโจรสลัดของที่ระบบดาวนี้พึ่งโดนทำลายไป แต่โจรสลัดไม่ใช่หินใหญ่หนึ่งเดียวเท่านั้น มันมี ‘กระแส’ หรือโจรสลัดที่ไม่เข้ากับฝ่ายใหญ่ๆ แล้วจับกลุ่มเป็นกลุ่มเล็กๆ อยู่ด้วย
และพวกนี้จะกระตือรือร้นมากขึ้นตอนที่กลุ่มใหญ่ๆ โดนทำลายไป เพราะว่าจะเป็นช่วงที่กองทัพระบบดาวผ่อนคลายลง
“เป้าหมายก็เป็นวงแหวนอุกกาบาตแหละนะ”
ที่วงแหวนอุกกาบาตมีทรัพยากรให้ขุดเป็นจำนวนมาก พวกยานขุดส่วนตัวและโจรสลัดที่เล็งยานพวกนั้นก็จะโผล่มากัน เพราะงั้นพรุ่งนี้ผมจะออกไปล่ายานโจรสลัดพวกนั้น
หลังจากตัดสินใจแล้ว ก็ถึงเวลาเลือกพื้นที่ล่า เจ้าพวกนั้นน่าจะไม่เลือกระบบดาวในการควบคุมของสหพันธ์เบลเบลมที่ป้องกันเข้มงวดแม้แต่ในช่วงสงบสุข และพื้นที่ใกล้ๆ โคโลนี่เทอเมนไพรม์ที่ศูนย์ใหญ่ของกองทัพระบบดาวตั้งอยู่ก็ไม่น่าจะเลือกเหมือนกัน พื้นที่อดีตฐานโจรสลัดตรงนั้นก็มีการเก็บกู้ซากยานโจรสลัดที่พังเลยมีการวางกำลังของกองทัพไว้อยู่ เพราะงั้นตัดทิ้งได้
“ถ้างั้นก็เหลือตรงนี้ หรือตรงนี้ ไม่ก็ตรงนี้……”
เลือกจุดที่โจรสลัดน่าจะเยอะได้แล้ว ต่อไปก็จุดที่ยานขุดของประชาชนจะไปขุด เพราะต่อให้ตรงนั้นโจรสลัดจะเยอะ แต่ถ้าไม่มียานขุดเป็นเหยื่อก็ไม่มีประโยชน์ ไม่มีรายได้ก็ไม่มีโจรสลัด
และพูดตามตรงจุดขุดที่เป็นที่นิยมหรือ ‘จุดที่ขุดได้ทรัพยากรบ่อย’ ก็เก็บเงียบอยู่กันในกลุ่มประชาชนเท่านั้นแหละ แน่นอนว่าเพื่อการเอาชีวิตรอดของพวกเขาเอง
“อื้ม ยากจัง”
ผมเปิดแผนที่ดวงดาวของระบบดาวเทอมเนและพยายามหาข้อมูลหลายๆ อย่าง แต่จะให้ระบุจุดขุดเหมือนดีๆ นี่ไม่ง่ายเลย ไปลองต่อพรุ่งนี้น่าจะดีกว่า
ในตอนที่ได้ข้อสรุป จู่ๆ ประตูห้องผมก็โดนเปิดออก
“อื้อ? มีอะไรรึเปล่า? แล้วอย่างน้อยก็ควรเคาะสักหน่อยนะ……”
เป็นอัลม่าที่เปิดประตูเข้ามา เพราะอะไรไม่รู้ ชุดที่สวมถึงปล่อยเนื้อปล่อยตัวสบายๆ จนแปลก หรือก็คือชุดบางๆ หรือว่าเป็นชุดชั้นในกันนะ? อัลม่าที่น่าจะรับรู้สายตาผมก็หน้าแดงแล้วกอดอกราวกับจะเอาแขนบังหน้าอกไว้
“ฉันมาแล้ว…..”
“เอ๊ะ?”
ผมว่าไม่ได้เรียกนะ? ผมเอียงคอ อัลม่าก็หันหน้าแดงๆ มาหาแล้วจ้องผม ไม่สิ ไม่ๆ ผมไม่เข้าใจความหมายจริงๆ ทำไมถึงเข้ามาในห้องโดยไม่ได้รับอนุญาตแล้วมาจ้องกันล่ะ?
“ก็เรื่องนั้นน่ะ…”
“อืออ……?”
อัลม่าถอนหายใจด้วยเหตุผลบางอย่าง เดินผ่านผมที่นั่งอยู่ที่โต๊ะไปนั่งลงบนเตียง เตียงที่กว้างพอให้ผมและมิมินอนด้วยกัน เดี๋ยวสิ ไปที่เตียงด้วยชุดบางๆ แบบนั้น…… ท่าทีแบบนั้นไม่น่าดีมั้ง เดี๋ยวจะทำให้คนเข้าใจผิดเอา
“……ทำซะ”
“ครับ?”
“——ก็นั่นไง! บอกให้ทำก็ทำเซ่!”
“ทำไมอะ?!”
อัลม่ากรีดร้องใส่โดยที่นั่งอยู่บนเตียงจนผมลืมตัวพุ่งไปหาอย่างเร็วที่สุดเท่าที่ทำได้
“บอกว่าอยากได้ฉันนี่! เหตุผลที่จ่ายสามล้านให้ฉันมาเป็นลูกเรือ! ก็เรื่องนั้นนี่!”
“เอ……”
ผมย้อนกลับไปนึกถึงสิ่งที่ตัวเองพูดและทำ ท่าทีของอัลม่าและสายตาเหงาหงอยของมิมิ
เข้าใจแล้ว งี้นี่เอง จริงอยู่ที่ผมบอกอัลม่าว่าฉันอยากได้เธอ ผมทำจริง แต่จากนั้นผมก็บอกไปว่าอยากให้สอนมิมิและช่วยเหลือผมไม่ใช่เหรอ? อ่า บางทีอาจจะตีความคำว่า ‘ช่วย’ ผิด?
นั่นสิ ถ้ามองไปทางนั้นแล้ว ท่าทีและการตอบรับแปลกๆ ของอัลม่าก็สมเหตุสมผล และถึงจะเป็นเรื่องเข้าใจผิดแต่อัลม่าก็ยอมรับมัน หืมมม
ผมมองไปที่อัลม่าที่ตัวสั่นอยู่บนเตียงอีกครั้ง
ความสวยที่โดดเด่นอย่างชัดเจน ผมสีเงินเป็นประกาย หน้าอกเล็กแต่ไม่ถึงขั้นไม่มี ดันชุดเดรสวันพีชบางๆ จนนูนขึ้นมา รูปร่างผอมหุ่นดี ผิดนุ่มลื่น สวยแบบที่ยังไงก็ปฎิเสธไม่ได้
ถึงแม้ว่าจะเป็นความเข้าใจผิดที่ให้ผลลัพธ์ต่างจากที่ตั้งใจไว้ แต่ใครจะปฎิเสธอาหารที่มาเสิร์ฟให้ถึงโต๊ะกัน? ถ้าอีกฝ่ายยอมรับข้อเสนอของผม ถ้าปฎิเสธก็คงจะเป็นการหยาบคาย
“เข้าใจแล้ว ฉันจะทำให้เธอไม่เสียใจเลยล่ะ”
“อึก—-! ช-ช่วยอ่อนโยนด้วย นะ……?”
“จะทำให้ดีที่สุดนะ”
ผมว่าเช่นนั้นและลูบหัวอัลม่าอย่างอ่อนโยนเท่าที่จะทำได้ เพราะท่าที่ของเธอตอนนี้ราวกับเด็กที่กำลังหวาดหลัวเลย ผมดันร่างบอบบางนั้นลงบนเตียงอย่างอ่อนโยน
☆★☆
“เจ้าสัตว์ร้าย”
“……”
“เจ้าหัวรุนแรง เจ้าเสือผู้หญิง”
“ได้รับความยินยอมแล้ว เพราะงั้นไม่เป็นไร”
“อุ—……”
แล้วอัลม่าก็เลยมาทุบหน้าอกผม ฮ่าฮ่าฮ่า ยัยนี่นี่นะ
“นึกว่าเข้าใจผิดแล้วจะทำให้รู้สึกไม่ดี…”
“ไม่หรอก ฉันมีความสุขมาก รู้สึกดีสุดๆ ไปเลย”
ก็นะ ตั้งแต่แรกผมเองก็ไม่ใช่นักบุญจากที่ไหนด้วยสิ ถ้าทำได้ก็ทำอยู่แล้ว
“ไอ้เจ้าสัตว์ร้ายนี่…”
“ฉันว่ามันเป็นความผิดของกระต่ายนะที่เข้าใจผิดเดินเข้ามาให้หมาป่ากินน่ะ….. โอ๊ย โอ๊ย อย่าหยิกตรงนั้นดิ”
อัลม่าทำแก้มป่องแล้วหยิกจุดบอบบางของผม เจ็บโคตร
“ไม่คิดว่าฉันเป็นคนจริงใจเหรอ ที่บอกความจริงไม่เก็บเงียบเอาไว้น่ะ จริงมะ?”
“คนจริงใจเขาบอกก่อนจะมาถึงจุดนี้ย่ะ”
“เดี๋ยวจะดูเป็นคนไม่จริงใจถ้าบอกก่อนแล้วทำให้เธออับอายน่ะ”
“ปากเสียๆ นี่สินะ ที่พูดกลับไปกลับมา”
อัลม่าว่าแบบนั้นแล้วปิดปากผมด้วยริมฝีปากของเธอ
“โอ๊ย”
“ฮึ่ม”
อย่ากัดริมฝีปากตอนจูบเสร็จสิ เจ็บจริงๆ นะ
“ทำไปแล้ว กังวลไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา”
“ฉันมีความสุขจริงๆ นะ รู้สึกดีแล้วก็พอใจมากๆ”
ผมว่าแบบนั้นแล้วก็มองไปที่อัลม่าที่หน้าแดงหลบตา
“……ไม่ได้แย่ ฉันเองก็รู้สึกดีเหมือนกัน”
“โย๊ส”
“อะไรย๊ะ?”
“โอ๊ยๆๆๆๆ”
รอบนี้โดนหยิกสีข้าง เจ็บค้างเลยนะ
“ถ้าทำรังแกกันมากระวังโดนเอาคืนนะ”
“……ก็ลองดูสิ?”
“ได้เลย”
งั้นแสดงว่าไอ้ท่าทีแบบนั้นคือคำชวนรอบสองสินะ ถ้างั้นเดี๋ยวจะตอบรับความคาดหวังให้เอง
☆★☆
“อรุณสวัสดิ์ค่ะ”
“รุณหวัด”
เช้าถัดมา ผมทิ้งอัลม่าที่เหนื่อยล้าให้หลับอยู่ที่เตียง และมาอาบน้ำ ตอนที่กลับมาถึงห้องทานอาหารก็เจอมิมินั่งอยู่ที่โต๊ะ ไม่ได้ทำอะไรอยู่ แค่นั่นอยู่เฉยๆ
“……”
“……”
เป็นความเงียบที่ทำให้อึดอัด ท่าทีมิมิออกไปทางมืดหม่น ใช่สินะ? ถ้ารักษาไม่หายขาดก็จะกลับมาเป็นอีกเนาะ?
“เอ่อ คะ?”
“แหมแหมแหม”
ผมใช้แรงอุ้มมิมิที่ยังงงอยู่ขึ้นจากเก้าอี้แล้วพาไปที่ห้องอาบน้ำที่พึ่งออกมา สื่อสารด้วยร่างกายก็จำเป็นเหมือนกันเนาะ
—————————————————————————-
Horrorday: ภาพจากเล่มหนึ่งหมดแล้ว ไม่น๊า
Kloy1002 : หมั่นไส้จังนะ แกเหมือนคนจะซื้อบื้อ แต่ซัดเรียบเฉยเลย ไอ้พวกชีวิตสุขสมระเบิดตายไปซะ!
คำเตือน มีนม(น้อยมาก) แต่ขาวนะ
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
งวดนี้ขอยาดย้ายภาพจากช่วงหมดฉากมาไว้ล่าง จะได้เซฟๆแล้วกันน้า คราวที่แล้วภาพมันเน้นนม มองไม่ค่อยเห็นอะไรมา งวดนี้ภาพมันเห็นร่างกายชัดเจนกว่า ดูท่าจะอันตรายกว่านะเจ้าค่า~
{ไทยพาณิชย์ นางสาว ทยาธร อนันต์มานะ 162-246448-2}
สนับสนุนเป็นกำลังใจผู้แปล หรือกดไลค์ คอมเม้น สับตะไคร้(????)ได้เลยคะ!
ขอบคุณสำหรับการอ่านจนถึงตรงนี้นะคะ แล้วเจอกันใหม่คะ
MANGA DISCUSSION