หยิกแก้มตัวเองไปหลายทีก็ไม่ตื่น แถมเจ็บอย่างที่คิดไว้ด้วย ทรมาณจากแรงจีจากการเร่งๆ หยุดๆ ยาน ไหนจะระเบิดอุกกาบาตด้วยปืนใหญ่เลเซอร์จนเศษกระจายกระแทกยานแล้วได้เกราะพลังงานกันเอาไว้ จากเรื่องบ้าๆ ทั้งหมดที่ทำไป เหมือนจะไม่มีทางเลือกนอกจากยอมรับสถานการณ์ปัจจุบัน
แล้วเพราะงั้น ปัญหาก็เลยน่าจะตามมาอีกเพียบ ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมต้องมาเกิดเรื่องพวกนี้ขึ้นเนี่ย คิดยังไงก็นึกไม่ออกว่าไปทำอีท่าไหนถึงมาลงเอยกับสถานการณ์บ้าๆ นี่ได้
“เมื่อวานนี้เราทำอะไรอยู่กันนะ?”
น่าจะไปทำงานตามปกติ กลับบ้านตามปกติ กินข้าวตามปกติ อาบน้ำ เล่นเกม แล้วตรงดิ่งไปนอนเลย
ไม่ได้โดนทรักค์ซังชนแบบที่เห็นบ่อยๆ ไม่ได้มีข้อความเด้งที่คอมพิวเตอร์ที่ใช้เล่นเกม
“ไม่เห็นเข้าใจเลยนะ”
แต่บ่นไปก็ไม่ได้อะไร คิดบวกไว้ดีกว่า ถ้าเป็นจริงก็คือฉันโดนส่งมาที่โลกของสเตลล่าออนไลน์สินะ
ไม่ใช่ว่าก็ใช้ชีวิตเป็นทหารรับจ้างได้ตามใจแบบตอนเล่นเกมเหรอ? ไม่โดนผูกมัดแล้วก็พึ่งแค่ตัวเองก็พอ นี่แหละ ฟังดูดีเลย ยังไงก็ดีกว่างานดูแลระบบเครือข่ายที่ไม่น่าได้เลื่อนขั้นเป็นร้อยเท่า ดูจะได้ใช้ความสามารถเล่นเกมด้วย
เยี่ยม รู้สึกดีขึ้นละ บางครั้งคนเราก็ต้องสนุกไปกับปัญหาเล็กๆ ที่เข้ามาในชีวิตแหละเนาะ นั่นแหละ เอาแบบนั้นละกัน ไม่สบายใจนิดหน่อยแต่ก็ปล่อยๆ ไปเท่าที่ทำได้ละกัน ปล่อยวางนี่แหละคือความสุข
เอาล่ะ เมื่อตัดสินใจได้แล้วก็… ก็ว่าแต่ อยู่ที่ไหนล่ะเนี่ย? ฉันพยายามยืนยันตำแหน่งของตัวเองบนแผนที่กาแลกซี่ แต่เจอแต่คำว่า NO DATA โชว์ขึ้นมา ไม่รู้เลยสักนิดว่าตอนนี้อยู่ที่ไหน แล้วไปไหนต่อดี แย่จริงๆ แล้วล่ะ
ไงก็ตาม จักรวาลน่ะกว้างใหญ่นะ ไม่ใช่สถานที่ที่เดินไปมาแล้วคาดหวังจะเจออะไรสักอย่างบนทางที่กำลังไปโดยไม่มีข้อมูลที่แน่นอนอยู่กับมือได้หรอกนะ
ในเกม MMO สเตลล่าออนไลน์ เนี่ย เกมเปิดมาสี่ปีแล้วแต่ยังไม่มีคนเล่นคนไหนที่ไปถึงศูนย์กลางของกาแลกซี่เลย ไม่รู้ว่าจักรวาลนี้จะเป็นเหมือนกันไหม แต่คิดไว้ก่อนว่าใหญ่เหมือนกันก็ปลอดภัยกว่า
เพราะงั้นเลยยอมแพ้เรื่องระบุตำแหน่งปัจจุบันชั่วคราวแล้วเปลี่ยนไปตรวจสอบสถานะของยานแทน ไม่มีค่าหัวติดอยู่ ถือว่าดี จากสถานการณ์ปัจจุบันอย่างน้อยก็ไม่อยู่ดีๆ โดนหน่วยลาดตระเวณในพื้นที่จับแล้วต้องไปกินอาหารเน่าๆ ในคุกหรืออะไรทำนองนั้น
ต่อไป เรื่องสังกัดที่ลงทะเบียนไว้กับงบที่มี เหมือนว่าจะไม่ได้อยู่สังกัดที่ไหน เป็นพลเรือน แบบพลเรือนจริงๆ ที่ไม่ได้เข้าร่วมกับกิลด์ทหารรับจ้างด้วยซ้ำ ชื่อกับตันที่ลงทะเบียนไว้ดูเหมือนจะเป็นเหมือนกับที่เคยใช้ในเกม
แล้วสุดท้าย เงินที่มีคือ 0 อีเนล ทรุดเลยครับ เชี่ยไรเนี่ย “เงินทั้งหมดที่ลำบากสะสมมา…” ฉันพึมพำพลางย้ายไปตรวจสอบทางส่วนบรรทุกสินค้าของยาน
“ดูหน่อยซิว่ามีอาหารอยู่แค่ไหน…”
พอแตะจอแสดงผลก็ยืนยันได้ว่าอาหารและน้ำที่เก็บไว้ที่ช่องเก็บสินค้านั้นพอสำหรับจำนวนขั้นต่ำ ใจดีจังเลยนะ สงสัยจังว่าใครเตรียมไว้ให้ นึกไม่ออกเลย
แล้วก็ยังมีกระสุนกระจายจำนวนนึงกับพลังงานสำรองสำหรับยานด้วยสองแพ็ค
“แล้วก็โลหะหายากด้วย หืม… เยอะซะด้วย แย่แล้ว”
ถ้าถามว่าไม่ดีตรงไหน? ก็ ลำดับแรกต้องอธิบายเรื่องค่าเงินในเกมสเตลล่าออนไลน์ก่อน
ในเกมสเตลล่าออนไลน์น่ะ ธนบัตรที่จับต้องได้กับเหรียญน่ะเลิกใช้ไปนานแล้ว แล้วใช้เงินอีเล็กทรอนิกซ์ที่เรียกว่า อีเนล เป็นตัวกลางแลกเปลี่ยนทั่วกาแลกซี่แทน ซึ่งการแลกเปลี่ยนด้วยอีเนลน่ะสะดวกแล้วก็ง่ายมาก แต่ด้วยเพราะมันเป็นเงินอีเล็กทรอนิกซ์นี่แหละ มันเลยมีเรื่องการเก็บข้อมูลการแลกเปลี่ยนไว้ด้วย
แล้วทีนี้ก็ย้อนกลับมาที่โลหะหายาก โลหะหายากก็ตามชื่อเลย ทรัพยากรมีค่าที่ทั้งกาแลกซี่ขาดแคลนอย่างมาก ใช้แลกกับอีเนลจำนวนมากได้เกือบทุกอาณานิคมไม่ก็สถานีอวกาศเลย
สั้นๆ เลย คือพวกมันเหมือนทอง เงิน อัญมณีมีค่าบนโลกนั่นแหละ ซึ่งเอาทรัพยากรพวกนี้ไปแลกเปลี่ยนตรงๆ น่ะปัญหาเยอะ พวกที่ทำเรื่องแบบนี้มีแต่พวกน่าสงสัยที่อยากเลี่ยงการตามข้อมูลจากการแลกเปลี่ยนอีเนลตามปกติเท่านั้นแหละ
เพราะงั้นพูดมาขนาดนี้ก็คงเข้าใจกันหมดแล้วแหละ แต่ยังไงก็ขอพูดให้รับรู้อีกทีแล้วกัน แบกโลหะหายากมาขนาดนี้มันเป้าล่อพวกที่ทำ ‘งาน’ สายนั้นน่ะสิ ถ้าพูดแบบเกมก็คือ โอกาสเจอ NPC ที่เป็นศัตรูน่ะพุ่งทะลุเพดานเลย
[คำเตือน กำลังถูกแสกนโดนยานไม่ระบุตัว]
AI ช่วยเหลือที่กฤษณะติดตั้งไว้แจ้งเตือน
“พูดไม่ทันขาดคำ…”
แค่โดนแสกนน่ะไม่ได้หมายความว่าอีกฝ่ายเป็นสลัดอวกาศแน่นอนหรอก อาจจะคิดว่ายานของฉันมีเกิดปัญหาก็ได้ หรืออีกฝ่ายอาจจะแค่ผ่านมาแล้วแสกนทางนี้เฉยๆ ก็ได้
เอาละ เลิกหลอกตัวเองดีกว่า เป็นไปได้สูงคือโดนแสกนเพราะน่าสงสัยชิบหายนี่แหละ
ยานที่ไหนไม่รู้ขนของแพงหายากมาเต็มยานแล้วจอดนิ่งอยู่กลางพื้นที่รกร้างของอวกาศ มองไงก็น่าสงสัยชิบหาย น่าจะโดนสงสัยว่ากำลังแลกเปลี่ยนของผิดกฎหมายกับโลหะหายากแนวๆ นั้นแหละ
[ยานไม่ระบุตัวตนเปิดการทำงานของระบบอาวุธ]
อ่า เทพีแห่งโชคใจร้ายจังเลยนะ เหมือนว่ารอบนี้จะไม่อยากยิ้มให้เราเท่าไรแฮะ ก็โอกาสที่จู่ๆ จะโดนเอาอาวุธออกมาขู่ทันทีจากอีกฝ่ายที่ดูไงก็ไม่ใช่นักล่าค่าหัวเนี่ยมันต่ำกว่า 1 ใน 10 อีกน๊า แต่ก็ยังโดน
“งาย น้องชาย มางีบแถวนี้อ่อ?”
“ฮะ- ฮ่าๆๆ แถวๆ นี้ไม่มีอะไรน่าสนใจหรอกน่าพรรคพวก ไม่ต้องสนใจฉันแล้วรีบๆ ไปต่อเถอะ”
“หือ? ไม่เอาน่าน้องชายอุตส่าห์ได้มีโอกาสเจอกันกลางจักรวาลกว้างๆ แบบนี้ไม่คิดว่าเป็นเรื่องดีอ่อ? เอาเป็น แบ่งของที่ขนไว้มาให้คนจนๆ แบบพวกข้าบ้างดีปะ เราจะได้ไม่มีปัญหากัน เคปะ?”
“เสียดายว่าคงต้องปฏิเสธ เอาเป็นขายให้ราคาดีๆ แทนดีไหม?”
ระหว่างที่ต่อรองกันอยู่ จู่ๆ ก็มียานไม่ระบุตัวตนอีกสามลำวาร์ปเข้ามายังพื้นที่ที่เราอยู่กับอาวุธที่พร้อมยิงทันที
เมื่อมาใกล้มากพอข้อมูลยานทั้งสามก็ขึ้นบนจอสังเกตการณ์ ลักษณะยานโดยรวมถือว่ายอดเยี่ยม โมดูลมั่วซั่วจำนวนมากโดนฝืนประกอบเข้าด้วยกัน ทั้งหมดมีที่ขนของเยอะพอตัว อาวุธเองก็ถือว่าใช้ได้ เพียงแต่ว่าขาดการดูแลรักษาอย่างมากเลย ทั้งรอยขีดข่วน รอยบุบ เต็มไปหมด ดูยังไงก็ยานโจรสลัดทั่วๆ ไป
“หืม? ดูๆ ไปโมเดลยานไม่คุ้นเท่าไร ไปเอายานนั่นมาจากไหนน่ะเจ้าหนู?”
“ขอไม่บอกละกัน”
ผมสแกนยานที่ไม่รู้จักนั่นเพราะคิดๆ แล้วดูยังไงก็น่าจะเป็นยานสลัดอวกาศจริงๆ อื้ม เป๊ะๆ ทุกลำมีค่าหัวตั้งแต่ 5,000 ถึง 8,000 อีเนล
“ห๋า สแกนพวกกูเหรอวะ? เออ งั้นก็ช่วยไม่ได้ล่ะวะ เอาของทั้งหมดในคลังสินค้ามาแล้วอย่างน้อยกูจะปล่อยให้รอดชีวิต”
“เฮ่ออ… ต้องทำจริงๆ สินะ?”
ผมเริ่มตัดสินใจอย่างแน่วแน่พลางเพิ่มแรงขับของเครื่องกำเนิดพลังงานหลักจากระดับปกติสู่ระดับต่อสู้ ตัดสินใจเรื่องอะไรเหรอ? ก็ฆ่าล้างบางพวกดวงตกไงล่ะ
โลหะหายากพวกนี้สำคัญกับผมมาก ยังไงซะคนเราก็อยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีเงิน แล้วถ้าผมโดนเอาอาวุธมาขู่เพื่อแย่งเด็กน้อยพวกนี้ไปละก็ ผมเองก็ต้องตอบกลับด้วยความใจดีและการป้องกันตัวตามศีลธรรมอันดียังไงล่ะ ในอีกความหมายคือผมจะถล่มไอ้พวกโจรสลัดเวรพวกนี้ให้ยับยังไงล่ะ
“เอาละเจ้าหนู ดูเหมือนแกจะไม่ยอมตายง่ายๆ ใช่ม๊า?”
“อื้ม ก็ว่างั้นแหละ”
มนุษย์น่ะ ถ้าไม่มียานช่วยปกป้องจากสุญญากาศของอวกาศ ผลลัพธ์จะออกมาแบบไหนก็ชัดเจนอยู่แล้ว แต่ถึงอย่างนั้นคนเราก็ไม่รอดตั้งแต่โดนยานระเบิดใส่อยู่ดี
และถึงผมกำลังจะเข้าสู่การต่อสู่ที่อาจจะต้องตายอย่างเลี่ยงไม่ได้ในอีกวินาทีข้างหน้า แต่ก็ไม่มีความรู้สึกว่ากลัวเลยสักนิด บางทีอาจจะเพราะว่ายานที่ผมขับอยู่เป็นกฤษณะก็ได้
ยานอวกาศที่โจรสลัดใช้งานน่ะ ใช้ยานพลเรือนสำหรับใช้งานทั่วไปเป็นโมเดลพื้นฐาน แถมยังเป็นรุ่นที่ค่อนข้างเก่า ทั้งแรงขับของเครื่องกำเนิดพลังงานหลัก ความแข็งของโล่ แล้วก็ตัวอาวุธเองก็แย่อย่างมาก เกราะก็เปราะแถมไม่บำรุงรักษาให้ดี ส่วนอีกด้านคือกฤษณะของผมที่เป็นโมเดลกองทัพแถมโดนผมปรับแต่งจนคุณภาพอยู่ระดับสุดยอด
แรงขับของโล่ อำนาจการยิงของอาวุธลำหน้าโมเดลขยะของพวกมันไปหลายปีแสง เพราะยานเองก็เป็นเกรดกองทัพ
พูดสั้นๆ เลยคือแม้แต่โอกาสเล็กๆ ที่จะแพ้ยังไม่มีเลย ไม่ใช่การต่อสู้ เป็นแค่การล่าฝ่ายเดียวเท่านั้นแหละ หรือพูดอีกอย่างคือเดธแทรปนั่นเอง
ในท้ายแรงขับเครื่องกำเนิดพลังงานก็มาถึงระดับต่อสู้
“ถ้าพวกนายไม่อยากตาย ฉันแนะนำว่าให้ยอมแพ้ ถึงสุดท้ายจะคิดว่าฆ่าหมดอยู่ดี เพราะงั้นอย่าแค้นกันเลย นะ?”
“เห่าดังจังนะ พวกข้ามีสามเลยนะหือ? แล้วอย่ามาเสียใจทีหลังล่ะไอ้หนู”
ยานโจรสลัดล้อมผมโดนหันหัวเรือเข้าหาพร้อมกัน ในตอนนั้นเองที่ผมเร่งเครื่องกฤษณะเต็มกำลัง
“ห๊า!”
“เหี้ยไรวะ—!?”
“เร็วสัส!?”
ระหว่างโดนแรงจีทำร้าย ผมก็จัดการแตะแผงควบคุมเพื่อเปิดการทำงานของอาวุธ
ลำยานทรงเพรียวบางของกฤษณะเปลี่ยนแปลงไป และแขนควบคุมทั้งสี่ข้างที่ติดตั้งปืนใหญ่พัลซ์เลเซอร์ไว้ก็โผล่ออกมา ช่องเก็บอาวุธที่อยู่ด้านข้างของห้องควบคุมเองก็เปิดออก และมีปากกระบอกปืนใหญ่สะท้อนแสงยื่นออกมาจากทั้งสองฝั่ง
ไอพ่นเสริมปะทุ ทำให้ยานสามารถหันกลับลำฉับพลันได้โดยยังคงแรงเฉื่อยสะสมไว้ และในเวลาเดียวกันนั้นปืนใหญ่พัลซ์เลเซอร์ทั้งสี่กระบอกก็เล็งตรงไปหายานของสลัดอวกาศ
“ไอ้เวรนั่นมันเปลี่ยนรูปร่าง!!!”
ปืนใหญ่พัลซ์เลเซอร์เกรดกองทัพยิงอย่างต่อเนื่องและทะลวงทั้งโล่และเกราะกายภาพของยานสลัดอวกาศอย่างง่ายดาย ทำให้เกิดแรงระเบิดต่อเนื่องภายในตัวยาน ห้องควบคุมเองก็ดูเหมือนจะไหม้เกรียมไปเลยเหมือนกัน
“แค่ทีเดียวเองเหรอ!?”
ผมเร่งเครื่องเงียบๆ ตามหลังยานโจรสลัดที่หนีไป แรงจีอันหนักหน่วงทำให้ภาพที่เห็นมืดลง และพอดีขึ้นผมก็ยิงปืนใหญ่พัลซ์เลเซอร์ไปอีกรอบ
“มะ—ไม่! ข้ายังไม่อยากตาย! ข้ายังไม่อยากตาย! ข้ายัง—!!!”
ลำแสงพลังงานจากปืนใหญ่พัลซ์เลเซอร์ทั้งสี่พังโล่ไปอย่างสบายๆ และทะลวงไอพ่นหลักของยานอย่างไร้ปราณี ทำให้นักบินร้องไห้ขอชีวิตอย่างสิ้นหวัง และเมื่อลำแสงทะลวงเครื่องกำเนิดพลังงานหลัก ยานลำที่สองลำนี้ก็ระเบิดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
“ไอ้เวรเอ๊ย! กูจะฆ่ามึง!”
ยานลำที่สามเลือกที่จะไม่หนี แล้วเลือกสู้ระยะประชิดกับผมแทน ย้อนกลับมาตอนเห็นเพื่อนโดนฆ่าเหรอ? เพราะว่าทำไงก็หนีปืนเลเซอร์ที่ยิงด้วยความเร็วแสงไม่พ้นเลยใช้วิธีเคลื่อนที่สุ่มๆ ให้อีกฝั่งล๊อกเป้าดีๆ ไม่ได้แทน?
“อึก!? อั๊ก…!”
ผมคุมกฤษณะให้เคลื่อนที่แบบสุ่มโดยการไอพ่นเสริมพลางเร่งและลดความเร็วอย่างต่อเนื่อง ชวนอ๊วกโครต
“สัสเอ๊ย! จับตัวยากนักนะไอ้เวร!”
สลัดอวกาศคนนี้ปรับมุมยิงตามทำให้บางส่วนพุ่งตรงมาหาผม เป็นการกระทำที่ไม่เคยเจอในเกมมาก่อนเลยสักครั้ง อย่างที่คิดเลย ยังไงก็ไม่ใช่ฝันสินะ และคนที่ควบคุมอยู่ในนั้นเองก็คนเหมือนกัน พอรู้แล้วมันอยากอาเจียนออกมาจริงๆ นะ
บางทีอาการอยากอาเจียนอาจจะส่งผลกับการคุมกฤษณะ หรืออาจจะเพราะการปรับการเล็งของโจรสลัดที่ปรับตามการเคลื่อนที่หลบหลีกของผมได้แล้ว ไม่ว่าอะไร แต่นั้นทำให้กระสุนเลเซอร์นั้นโดนกฤษณะเต็มๆ
“มะ— มันไม่แม้แต่จะสะเทือนเลย!?”
เลเซอร์สีแดงที่ถูกยิงออกมาจากยานโจรสลัดโดนขวางไว้ด้วยโล่พลังงานของกฤษณะ และไม่แม้แต่จะทิ้งรอยไหม้บนเกราะเลย แสดงว่าชัดเจนแล้วสินะ?
ผมเร่งยานเข้าหายานโจรสลัดที่ชี้หน้ายานมาทางผม ยานโจรสลัดเองก็พุ่งเข้ามาหาเหมือนกัน เหมือนกับเล่นแข่งไก่
ยานโจรสลัดยิงปืนเลเซอร์ใส่ผมไม่หยุดราวกลับเป็นการดิ้นรนครั้งสุดท้าย แต่สุดท้ายมันก็ไร้ผล ต่อให้มีกระสุนที่โดนกฤษณะ ก็ไม่มีนัดไหนที่ทะลวงโล่พลังงานมาได้เลย
“หย— หยุดนะ! แม่จ๋าา—!”
ก่อนที่จะชน ผมก็หักหลบจากทิศทางของยานฝั่งตรงข้าม แล้วยิงกระสุนลูกปรายทั้งสองนัดเข้าใส่ในพริบตาที่ยานของพวกเราสวนกัน ลูกปรายจากการยิงพุ่งออกไปด้วยความเร็วสูงทะลวงโล่พลังงานของยานโจรสลัดและทะลุตัวยานจนเต็มไปด้วยรูพรุน
ชีสสวิสพร้อมเสิร์ฟแล้วจ้า
“ฮ่าา! ฟู่วววว ฮ่าา…”
ผมรีบคุมยานกลับอย่างรวดเร็วพร้อมกับปรับลมหายใจพลางมองไปที่ยานโจรสลัดที่กำลังระเบิด ลดการทำงานของเครื่องกำเนิดพลังงานลงเป็นระดับปกติและปิดการทำงานของระบบอาวุธ
อาการอยากอาเจียนดีขึ้นโดยที่ไม่รู้ตัว เพราะว่าเคลื่อนไหวสุดโต่งเครื่องในโดนเขย่าเหรอ? หรือเป็นพวกอาการหลอนทางจิตกันนะ? ฮึ่ม เหมือนว่าตัวผมเองจะเข้มแข็งกว่าที่คิดไว้แฮะ
“หลังจากเจออะไรแบบนี้เข้าไปแล้วยังคงไม่ตื่นนี่ ยังไงก็ ‘ความจริง’ จริงๆ สินะ เฮ้อ…”
จะจมไปกับความคิดด้านลบไม่ได้ เพราะงั้นคิดบวกไว้ คิดบวก ไม่งั้นผมตายแหง ทางจิตใจน่ะ
{ไทยพาณิชย์ นางสาว ทยาธร อนันต์มานะ 162-246448-2}
สนับสนุนเป็นกำลังใจหรือจะเป็นค่าชานมไข่มุกให้คนแปล หรือจะเป็นค่าเหนื่อยไปซื้อชานมก็ได้ทั้งนั้นคะ
ขอบคุณสำหรับการอ่านจนถึงตรงนี้นะคะ แล้วเจอกันใหม่คะ
MANGA DISCUSSION