“นี่ เสาร์นี้ขอออกไปข้างนอกหน่อยได้ไหม?”
ฉันนั่งท่าขัดสมาธิกอดหมอนของยามาโมโตะไว้แน่น แล้วถามเขา
“อืม ได้สิ จะไปไหนเหรอ?”
“…ก็แค่ไปธุระนิดหน่อย”
ไม่รู้ทำไม ฉันเลือกจะไม่บอกว่าไปเจออาคาริ ทั้งที่จริง ๆ ก็ไม่ได้มีอะไรต้องปิดบัง
“งั้นเหรอ”
“จะไม่ถามหน่อยเหรอ?”
“อยากให้ถามเหรอ?”
“ถ้าถามจะไม่ให้อภัย”
“แล้วถามทำไมล่ะ?”
ยามาโมโตะทำหน้าลำบากใจนิดหน่อย
ก็จริงแหละ คำพูดฉันช่วงนี้ขัดแย้งกันเองไปหมด
“น่ารำคาญจัง แบบนี้ไม่มีทางจีบสาวติดหรอกนะ”
ฉันทำหน้าบึ้งใส่เขา ทั้งที่ตัวเองเป็นคนพูดขัดแย้งเองแท้ ๆ
“ว่าแต่…จะคืนหมอนฉันได้รึยัง?”
ฉันไม่สนใจ เดินไปนอนกลิ้งบนฟูกเขาอีก
ยามาโมโตะถอนหายใจแล้วหันไปดูทีวีต่อ
จริง ๆ ก็ไม่อยากให้เขาซักไซ้หรอก แต่พอเขาไม่สนใจขึ้นมาก็เหงาเหมือนกัน
“…แค่จะไปเจอเพื่อนน่ะ”
ในใจแอบหวังว่าเขาจะสนใจฉันมากกว่านี้
“งั้นเหรอ งั้นฉันคงเป็นตัวเกะกะสินะ”
พักหลังมานี้ เวลาฉันออกไปไหนก็มักจะชวนยามาโมโตะไปด้วยตลอด ดูเหมือนเขาจะคาดหวังว่าจะได้ไปด้วยอีก เลยรู้สึกผิดขึ้นมา
ฉันเลยกอดหมอนเขาแน่นขึ้นอีก
“ดีใจด้วยนะ”
“อะไร?”
“เพื่อนสมัยมัธยมยังเป็นห่วงเธออยู่เลยนี่นา”
“…ไม่หรอก”
“แต่ก็ยังไปเจอใช่ไหม?”
“…ก็ใช่แหละ”
จริง ๆ แล้วอิโต้กับโอตะก็ไม่ได้สนิทอะไรกับฉันมากนัก แค่เคยอยู่กลุ่มเดียวกันเฉย ๆ ถ้าพวกเขารู้เรื่องฉันตอนนี้จะคิดยังไงกันนะ
คงแค่แสดงความเห็นใจต่อหน้าล่ะมั้ง แต่ในใจคง…
“ฝากอาคาริดูแลด้วยนะ”
“…รู้ได้ไงว่าอาคาริจะไปด้วย?”
อยู่ ๆ ก็รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมา
เขารู้ได้ยังไงว่าอาคาริจะไปด้วย หรือว่าแอบติดต่อกัน?
ฉันจ้องเขาอย่างจับผิด ยามาโมโตะเอียงคออย่างงง ๆ
“ก็…เธอไม่ใช่คนที่จะไปเจอเพื่อนสมัยมัธยมเองง่าย ๆ นี่นา”
ก็จริง ตั้งแต่ตอนคบกับแฟนเก่า ฉันก็ไม่ค่อยติดต่อเพื่อนเลย
“ถ้ามีใครจะชวนไปเจอเพื่อน ก็คงมีแต่อาคาริแหละ”
“…นั่นสินะ”
ฉันตอบอย่างไม่สบอารมณ์
“โดนเดาถูกแบบนี้มันน่าหงุดหงิดจัง”
“…ขอโทษ”
ทำไมฉันถึงหงุดหงิดกับเขานักนะ
…อ๋อ เพราะเขารู้ใจฉันเกินไปนั่นเอง
รู้สึกอายและหงุดหงิดไปพร้อมกัน นี่มันซึนเดเระชัด ๆ
“จะนอนแล้ว”
“นั่นฟูกฉันนะ”
“ช่างสิ!”
“พักนี้เธอเริ่มกลับไปเป็นเหมือนสมัยมัธยมแล้วนะ”
ช่างสิ ช่างสิ…บ้าเอ๊ย
ฉันหันหลังให้เขาแล้วหลับตา
…แล้ววันเสาร์ก็มาถึง
MANGA DISCUSSION