เช้า พอเดาว่ายามาโมโตะคงถึงมหาวิทยาลัยแล้ว เขาก็ส่งข้อความมาหาฉัน ฉันตกใจที่ได้รับข้อความนั้น พอคุยไปคุยมาก็รู้ว่าวันนี้เขาถูกเพื่อนผู้ชายในคณะชวนไปงานกลุ่ม จริง ๆ ก็รู้อยู่แล้วว่าสักวันมันต้องเกิดขึ้น
ถึงฉันจะอาศัยอยู่ในห้องของยามาโมโตะ แต่ก็ไม่ได้เป็นแฟนกัน หรือว่าเขาจะชอบฉันด้วยซ้ำ
ยังไงเขาก็อายุสิบเก้า เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยที่อยากลองใช้ชีวิตสนุก ๆ สักวันเขาก็ต้องไปหาคนรักใหม่หรือมีเพื่อนใหม่ มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
ฉันพยายามจะไม่คิดมาก พยายามจะตัดใจ
ฉันไม่ได้ตอบข้อความเขา แต่ไปเดินเล่นที่โฮมเซ็นเตอร์ ซื้อกระดาษห่อของขวัญหลายม้วน
พอกลับถึงบ้าน ฉันก็โยนถุงกระดาษห่อของขวัญลงบนโซฟา แล้วเปิดตู้เสื้อผ้า
“บ้าเอ๊ย”
ฉันเริ่มห่ออุปกรณ์ทำความสะอาดของเขาด้วยกระดาษห่อของขวัญ
“ยามาโมโตะบ้า”
ฉันพูดด้วยน้ำเสียงประชดประชัน ห่อของไปเรื่อย ๆ
“…ยามาโมโตะบ้า”
พยายามจะตัดใจ แต่ก็ทำไม่ได้
ถ้าคิดถึงอดีตที่ผ่านมา มันก็ไม่แปลกเลย
ยามาโมโตะเป็นคนช่วยฉันออกจากนรกในชีวิตประจำวัน เป็นคนที่ให้ที่พักพิง เป็นคนที่ช่วยให้ฉันรอดพ้นจากแฟนเก่าที่ใช้ความรุนแรง เป็นคนที่ยังให้ฉันอยู่ในห้องนี้ต่อไป
ความรู้สึกที่ฉันมีต่อเขา มันไม่ใช่อะไรที่ตัดใจได้ง่าย ๆ
ฉันอยากให้เขามีเพื่อนบ้าง เวลาหลับตาก็ยังนึกถึงรอยยิ้มของเขา ถ้ามีใครสักคนที่ทำให้เขายิ้มได้มากกว่าฉันก็คงดี
ฉันเลยยอมเสี่ยงโดนเกลียด ขู่ว่าจะเอาอุปกรณ์ทำความสะอาดไปขาย
แต่ไม่คิดเลยว่าผลจะกลับกลายเป็นแบบนี้
“บ้าเอ๊ย”
สุดท้ายฉันก็เลิกห่อของขวัญ กระดาษที่ซื้อมาก็เหลือเต็มไปหมด จริง ๆ ก็ไม่ได้คิดจะขายของพวกนี้หรอก แค่อยากแกล้งเขา อยากเห็นหน้าเขาตอนตกใจเท่านั้นเอง
ฉันไม่มีสิทธิ์จะลงโทษเขาหรอก รู้สึกผิดด้วยซ้ำ แต่ความรู้สึกหึงหวงมันมากกว่าความรู้สึกผิด
เขาคงไม่เข้าใจว่าทำไมฉันถึงหึง
แต่ก็ช่วยไม่ได้ เขาเป็นคนช่วยฉันเอง นั่นแหละความผิดของเขา
สมัยมัธยม ฉันเคยเกลียดเขาจนไม่อยากเห็นหน้า แต่ตอนนี้กลับอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีเขา
ทั้งหมดนี้…ก็เพราะวันนั้นเขาช่วยฉัน
“…รีบกลับมานะ ยามาโมโตะ”
ฉันจะซื้อเนื้อย่างลิ้นวัวที่นายชอบมาให้ จะไม่ขายอุปกรณ์ทำความสะอาดแล้ว
…เพราะงั้น
รีบกลับมานะ
แต่เวลาผ่านไปเรื่อย ๆ ฉันทำกับข้าวไว้สองที่ แต่คิดดูแล้วเขาคงกินมาแล้วจากงานกลุ่ม จะบอกว่าไม่ต้องทำกับข้าวก็ได้แท้ ๆ ทั้งที่ฉันเองก็ไม่ตอบข้อความเขาเหมือนกัน
กินข้าวคนเดียวมันไม่อร่อยเลย
ฉันเพิ่งรู้ว่าความสุขที่แท้จริงคือการมีเขาอยู่ข้าง ๆ
แต่แน่นอนว่าต่อหน้าเขาฉันไม่มีวันพูดแบบนี้หรอก
ฉันไม่อยากแตะต้องแท็บเล็ตที่ยืมเขามาเลย
สุดท้ายก็เอาแต่ดูนาฬิกาทุกห้านาที ฟังเสียงทีวีแล้วซุกหน้าลงบนหมอนของยามาโมโตะ
ดิ้นไปดิ้นมา หวังว่าเขาจะกลับมาเร็วขึ้น แต่ก็เปล่า เวลาก็ผ่านไปเรื่อย ๆ
จนกระทั่งเที่ยงคืน รถไฟเที่ยวสุดท้ายก็หมดแล้ว
ฉันยอมแพ้แล้ว
ถ้ายามาโมโตะพลาดรถไฟเที่ยวสุดท้าย…ถ้าเขากลับดึกขนาดนี้ ฉันก็รู้ดีว่าเขาไปทำอะไรที่ไหน
ไม่น่าเลย ไม่น่าบอกให้เขาไปหาเพื่อนเลย
ถ้าเขามีเพื่อน ฉันก็จะไม่ได้อยู่กับเขาแค่สองคนอีกต่อไป มันไม่ใช่ผลดีสำหรับฉันเลย
“บ้าจริง ๆ เลย ฉันนี่”
ฉันกอดหมอนของยามาโมโตะแน่น
หมอนยังมีกลิ่นของเขาอยู่ แต่ในห้องนี้ไม่มีเขา
ฉันมันเป็นแบบนี้เสมอ พอเสียไปแล้วถึงจะรู้สึกเสียใจ
ทั้งเรื่องแฟนเก่า ทั้งเรื่องพ่อ
และสุดท้าย…ก็เรื่องของเขาด้วย
“…ยามาโมโตะ”
ฉันอ้อนวอนกับคนที่ไม่ได้อยู่ตรงนี้
ขอร้องล่ะ
ขอร้องจริง ๆ
จะไม่บอกให้ไปหาเพื่อนแล้ว จะไม่ขู่ขายอุปกรณ์ทำความสะอาดแล้ว จะไม่สร้างปัญหาให้นายอีกแล้ว
เพราะงั้น กลับมานะ
“กลับมาแล้ว”
เสียงของเขาดังมาจากหน้าประตู
MANGA DISCUSSION