หลังจากตั้งสติได้ ฮายาชิก็เริ่มกินข้าวอย่างเงียบ ๆ ดูเหมือนเธอจะไม่คิดขุดคุ้ยเรื่องที่ฉันไม่มีเพื่อนอีกแล้ว
“แต่ฉันว่ามีเพื่อนบ้างก็ดีนะ เพื่อนที่คุยกันได้สบายใจจะทำให้ชีวิตมีสีสันขึ้นเยอะเลย”
…ว่าแต่ ดูเหมือนเธอจะยังไม่เลิกขุดคุ้ยแฮะ
ฮายาชิพูดขึ้นมาเหมือนเป็นเรื่องปกติ
“อืม…”
“อะไร นายไม่อยากมีเพื่อนเหรอ?”
“…คือว่า”
ฉันพูดต่อขณะเก็บจานที่กินเสร็จ
“ฉันไม่รู้วิธีหาเพื่อนน่ะสิ”
เสียงตะเกียบตกดังแกร๊งมาจากฝั่งฮายาชิ
“จริงดิ?”
“จริง”
“โห…”
“โอ้โห ปฏิกิริยาจริงจังมาก อยู่ด้วยกันตั้งเดือนนึงก็เริ่มเข้าใจฉันขึ้นสินะ”
“นาย…ไม่รู้วิธีหาเพื่อน แล้วที่ผ่านมาเคยมีเพื่อนได้ยังไง?”
“ก็เลยไม่มีเพื่อนไงล่ะ”
“อ้อ…นั่นสินะ”
…เธอจริงจังกับฉันขนาดนี้แต่พูดแทงใจดำจังนะ
“ขอโทษ…”
“อย่าขอโทษจริงจังสิ มันเจ็บใจนะ”
ฉันพูดออกไป
“…งั้นเหรอ ไม่รู้วิธีหาเพื่อนสินะ”
“อืม”
“แต่…กล้ายอมรับในสิ่งที่ไม่รู้ก็เก่งแล้วนะ!”
“นี่มันคำพูดที่ไว้ชมเด็กประถมเลยนะ”
“อุ๊ย…”
ฮายาชิทำหน้าหงอยลงอย่างเห็นได้ชัด เห็นแบบนี้แล้วฉันก็อดขำไม่ได้ ทั้งที่มันไม่น่าขำเลย
“นี่ ฮายาชิ ถ้าอยากมีเพื่อนต้องทำยังไงเหรอ เธอน่าจะรู้ดีนี่?”
“หือ? อืม…แค่สบตาก็เป็นเพื่อนกันแล้วมั้ง?”
“งั้นเพื่อนเธอคงเป็นร้อยแน่ ๆ”
“ว่าแต่…จริง ๆ แล้วจะหาเพื่อนยังไงดีนะ?”
“นี่ เธอไม่รู้วิธีหาเพื่อนเหมือนกันเหรอ? แล้วที่ผ่านมาเธอมีเพื่อนได้ยังไง?”
“ก็…อยู่ดี ๆ ก็กลายเป็นเพื่อนเองน่ะ ฮะ ๆ”
ฮะ ๆ ไม่ช่วยอะไรเลยนะ
พูดน่ารัก ๆ แบบนี้คิดว่าจะรอดเหรอ? อันนี้สงวนไว้สำหรับคนหน้าตาดีเท่านั้นนะ…แต่กับฮายาชิก็ยกเว้นได้แหละ
เฮ้อ สุดท้ายโลกนี้ก็วัดกันที่หน้าตาสินะ
“…โอเค”
“โอเคอะไรของเธอ ฮายาชิ”
“ยามาโมโตะ วันนี้ไปคุยกับผู้ชายในคณะเดียวกันหน่อยสิ”
“หา ไม่เอาอ่ะ”
“ไม่ได้”
“ไม่เอา!”
“ไม่ได้!”
“ไม่เอา! ทำไมต้องเถียงกันเหมือนเด็กด้วยเนี่ย!”
ฉันเผลอหลุดปากออกไป ฮายาชิเป็นคนดื้อพอตัว เวลาคุยกันทีไรชอบกลายเป็นแบบนี้ตลอด สุดท้ายฉันก็มักจะยอมเธอ แต่ครั้งนี้มันคนละเรื่อง ฉันยอมไม่ได้
“อะไรล่ะ แค่ไปคุยกับเพื่อนผู้ชายในคณะเอง ไม่เห็นยากเลย”
“ใครบอกว่าคุยแล้วจะได้เพื่อนล่ะ?”
“ไม่ใช่เหรอ?”
“ไม่ใช่! ฉันคุยกับใครทีไรเขาก็หนีหมดนั่นแหละ”
“ไม่จริงหรอกน่า”
สมัยมัธยมเธอยังไม่ชอบฉันเลย ยังจะพูดแบบนี้อีก แต่ฉันไม่พูดออกไปหรอก
“ยังไงวันนี้ก็ต้องลองคุยกับผู้ชายในคณะดู เชื่อสิ ไม่มีอะไรแย่หรอก”
“ไม่เอาอะ ยังไงก็ไม่เอา”
“ไม่ได้ ถ้าไม่ทำ…”
“ถ้าไม่ทำ?”
“…ฉันจะเอาเรื่องที่เราอยู่ด้วยกันไปปล่อยที่ร้าน”
“อืม ก็ไม่เห็นเป็นไรนี่ มันก็เรื่องจริงอยู่แล้ว ถึงคนจะมองแปลก ๆ แต่ฉันก็ยอมรับได้อยู่ดี ขอแค่เธอยังอยู่ที่นี่กับฉัน…ฉันก็ดีใจแล้ว”
“…งั้นไม่เอาดีกว่า”
“แน่ใจนะ?”
“แน่ใจ!”
วันนี้ฮายาชิอารมณ์ขึ้น ๆ ลง ๆ แปลก ๆ
“…งั้นฉันจะไม่ทำกับข้าวแล้ว”
“ฉันไม่ว่าอะไรหรอก แต่เธอจะโอเคเหรอ?”
ที่ฮายาชิช่วยงานบ้านก็เหมือนเป็นข้ออ้างให้เธอรู้สึกไม่เกรงใจ เพราะเธอยังไม่ได้รับเงินเดือนจากงานพาร์ทไทม์ แถมยังอยู่กับฉันฟรี ๆ
“…ไม่ได้หรอก”
“ไม่ต้องคิดมากหรอก”
“…เข้าใจแล้ว ๆ”
ในที่สุดเธอก็ยอมแพ้ ฉันถอนหายใจอย่างโล่งอก
“งั้นฉันจะเอาอุปกรณ์ทำความสะอาดไปทิ้ง”
“หา!???”
เมื่อกี้…เธอว่าไงนะ?
จะเอาอุปกรณ์ทำความสะอาดของฉันไปทิ้งเหรอ!?
“ล้อเล่นน่า ทิ้งคงโหดไป”
…โล่งอกไปที
“งั้นจะเอาไปขายในเมอร์คารี”
หา!? ขาย!? ใจฉันเต้นแรงจนแทบจะหลุดออกมา
ของรักของฉันจะถูกขายทิ้งเหรอ!?
“แบบนี้ยอมไม่ได้เด็ดขาด!”
“ก็แค่ไปคุยกับเพื่อนผู้ชายในคณะเอง ง่ายจะตาย”
“ไม่เอา!”
“เงินที่ได้จะให้ยามาโมโตะหมดเลยนะ ไหน ๆ ตอนนี้ของก็เต็มตู้แล้ว มีแต่ของซ้ำ ๆ สีต่างกันบ้าง ถึงเวลาต้องจัดระเบียบแล้วล่ะ”
“แต่…แต่…!”
“ยามาโมโตะ”
“อะไร?”
“นายทำได้แน่นอน”
“อึ่ก…!”
ฉันจ้องฮายาชิแบบเอาเป็นเอาตาย ประมาณเด็กที่พ่อแม่ถูกฆ่าแล้วจ้องคนร้ายยังไงยังงั้น
“ก็ได้ ๆ จะไปคุยก็ได้!”
“ดีเลย งั้นเดี๋ยวฉันจะทำกับข้าวเย็นรอ”
“โอเค! ไปแล้ว!”
ฉันเดินออกจากบ้านอย่างหัวเสีย
“รักอุปกรณ์ทำความสะอาดมากกว่าฉันอีก ไม่อยากขายหรอกน่า…แต่ถ้าไม่ยอมคุยกับเพื่อนผู้ชายจริง ๆ จะขายให้หมดเลยดีไหมเนี่ย…”
เสียงบ่นของฮายาชิดังแว่ว ๆ ตามหลังมา แต่ฉันไม่ได้ยินชัดนัก
มุมแอด ชื่อตอนอย่างปั่น wwww
MANGA DISCUSSION