ผมลืมตาขึ้นแล้วถอนหายใจยาว เผลอจมอยู่กับความทรงจำเก่า ๆ ผมหันไปมองหน้าฮายาชิที่อยู่ข้างหลัง ฮายาชิยังคงทำหน้าหมองหม่น
“ขอโทษนะ…จริง ๆ”
ตอนนี้สิ่งเดียวที่ผมทำได้กับฮายาชิคือขอโทษ ผมขอโทษเธออีกครั้ง
แต่เอาเข้าจริง ผมก็ไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าตัวเองกำลังขอโทษเรื่องอะไร ฮายาชิเพิ่งบอกไปว่า เหตุผลที่เธอรู้สึกแย่ตอนนี้ไม่ใช่เพราะรังเกียจที่ผมกับคาซาฮาระเคยคบกัน ถ้าอย่างนั้นผมก็ไม่รู้เลยว่าทำไมเธอถึงยังดูเศร้าอยู่
“…ยามาโมโตะ”
“อะไรเหรอ”
“…กลับบ้านกันเถอะ”
เธอยังคงดูเศร้า ไม่ได้ฟื้นคืนสภาพเดิมเลย แต่ฮายาชิก็ขอให้ผมพากลับบ้าน ผมเองก็ไม่รู้จะปลอบเธอยังไง เลยตัดสินใจเดินตามเธอกลับบ้าน
ระหว่างทางกลับ ฮายาชิไม่พูดอะไรเลย ถุงหนังสือที่เธอถือดูเหมือนจะหนักขึ้นกว่าตอนขามา
กลับถึงบ้าน ฮายาชิก็ยังไม่ดีขึ้น
แต่ถึงอย่างนั้น เธอก็ยังคงลงมือทำอาหารเหมือนเดิม กลิ่นหอมลอยไปทั่วห้อง ส่วนผมรู้สึกไม่สบายใจที่จะนั่งเล่นอยู่เฉย ๆ เลยออกไปทำความสะอาดระเบียงแทน ช่วงนี้ฝนตกหนักแบบสคอลล์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ระเบียงเลยเลอะเทอะมาก
ระหว่างที่ฮายาชิทำอาหาร เราไม่ได้คุยอะไรกันเลย เสียงเดียวที่ดังในห้องคือเสียงพิธีกรในรายการวาไรตี้จากทีวี
ผมเช็ดเหงื่อบนหน้าผาก กวาดใบไม้ เช็ดราวตากผ้า เช็ดกระจก ทำทุกอย่างเพื่อฆ่าเวลาที่อึดอัดนี้
ผมมองผ่านกระจกไปดูฮายาชิเป็นระยะ เธอยังคงดูหม่นหมอง
ผมไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าอะไรในอดีตของผมกับคาซาฮาระที่ทำให้เธอไม่สบายใจ หรือจริง ๆ แล้วมันไม่ใช่แค่ความโกรธหรือความไม่พอใจ แต่เป็นอย่างอื่น
ขณะที่ผมเหม่อมองอยู่ ก็เห็นว่าหม้อที่ฮายาชิกำลังต้มอยู่เดือดจนล้น และเธอก็ไม่ได้สังเกตเลย
“ฮายาชิ หม้อ!”
“หะ? …ร้อน!”
ผมรีบตะโกนเตือนแต่ก็ไม่ทัน ฮายาชิที่กำลังคนหม้ออยู่โดนน้ำร้อนลวกที่นิ้ว เธอสะดุ้งจนฝาหม้อหล่นลงพื้น
“เป็นอะไรมากไหม”
ผมรีบถอดรองเท้าแล้ววิ่งไปหาเธอ ปิดแก๊สแล้วจับมือเธอไปล้างน้ำเย็น นิ้วชี้ขวาของเธอแดงขึ้นมา ดูเหมือนจะโดนน้ำร้อนลวก
“รีบล้างน้ำเย็นไว้ก่อน”
ผมพาเธอไปที่ซิงก์ เปิดน้ำเย็นล้างนิ้วให้ เธอทำหน้าบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บ แต่สักพักก็เริ่มดีขึ้น
“…ขอโทษนะ”
“ไม่เป็นไร เราเองก็ผิดที่ปล่อยให้เธอทำกับข้าวคนเดียว ขอโทษเหมือนกัน”
“…ฉันนี่มันไม่ได้เรื่องเลย”
“อย่าพูดแบบนั้นเลย มันไม่ใช่เธอเลยนะ ดูไม่เหมือนฮายาชิเลย”
“…ฉันไม่ได้เข้มแข็งอะไรขนาดนั้นหรอก”
เราสองคนเงียบไป มีแต่เสียงน้ำไหล
ผมเคยคิดว่าฮายาชิเป็นคนจิตใจอ่อนไหว แต่พอเห็นเธอพูดแบบนี้กับตัวเอง มันยิ่งดูอ่อนแอกว่าทุกที
“…บางทีฉันก็เกลียดตัวเองจริง ๆ ที่ทำอะไรไม่ได้เลย…มันน่ารำคาญ”
“พูดอะไรแบบนั้นไปได้ มีเรื่องไม่สบายใจเหรอ”
ผมพยายามพูดกลบเกลื่อน แต่ฮายาชิก็ไม่ยิ้มเลย ดูเหมือนจะหนักหนากว่าที่คิด
ระหว่างที่ล้างนิ้วให้เธอ ผมเพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองยังจับข้อมือเธออยู่ เลยถอยออกมา ให้เธอล้างเอง แล้วเดินไปเตรียมวาสลีน
“ขอโทษนะ ที่เอาแต่สร้างปัญหาให้”
“ไม่ต้องคิดมากหรอก คนเราอยู่คนเดียวไม่ได้หรอก”
“…แต่ฉันก็เอาแต่รบกวนเธอมาตลอด”
“ถ้าจะพูดแบบนั้น เราก็รบกวนเธอเหมือนกันนั่นแหละ ไม่ต้องคิดมาก”
“…ยามาโมโตะ”
“หือ?”
“ฉันควรออกจากห้องนี้ดีไหม…”
ผมหยิบวาสลีนขึ้นมาแล้วค่อย ๆ หันไปมองหน้าฮายาชิ
MANGA DISCUSSION