สมัยมัธยมปลาย อย่างที่ฉันนึกถึงอยู่บ่อยๆ ฉันไม่ได้ชอบยามาโมโตะเลยสักนิด ตรงกันข้าม ฉันเกลียดเขามากเสียจนไม่อยากจะเห็นหน้าด้วยซ้ำ
พอนึกย้อนกลับไปตอนนี้ ฉันก็ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมตอนนั้นถึงได้หงุดหงิดแค่เพียงได้เห็นหน้ายามาโมโตะ ฉันเกลียดเขามากขนาดนั้นเลย
ฉันรู้สึกว่าตัวเองจะเดาะลิ้นทุกครั้งที่ไปโรงเรียนแล้วเห็นหน้ายามาโมโตะ
แล้วการเดาะลิ้นนั้นก็กลายเป็นกิจวัตรอย่างหนึ่งไปแล้ว ในขณะที่ฉันก็ใช้ชีวิตช่วงมัธยมปลายไปกับการพูดคุยหัวเราะกับอาคาริและอิจจัง
จะว่าไปแล้ว ฉันก็นึกขึ้นมาได้ว่าเคยมีอยู่วันหนึ่งในสมัยมัธยมปลายที่ฉันไม่ได้กลับบ้านพร้อมกับอาคาริและอิจจัง
จำได้ว่าวันนั้นอาคาริเป็นหวัด แล้วอิจจังก็กลับไปก่อนเพราะมีเรียนพิเศษ
ฉันที่เหลืออยู่คนเดียวอย่างเหงาหงอยก็นั่งเล่นมือถืออยู่ในห้องเรียนคนเดียว
คงจะมีคนคิดว่าถ้าไม่มีธุระอะไรก็รีบกลับบ้านไปสิ แต่ตอนนั้นฉันไม่ค่อยอยากจะกลับบ้านเท่าไหร่ เลยนั่งฆ่าเวลาอยู่ในห้องเรียนคนเดียว
ในห้องเรียนหลังเลิกเรียนทันทีน่าจะยังคงมีนักเรียนเหลืออยู่บ้างสองสามคน
แต่นักเรียนสองสามคนนั้นก็ไม่ได้สนใจฉันเลยสักนิด พวกเขารวมกลุ่มกับเพื่อนสนิทแล้วก็พากันกลับบ้านไป
ตัวฉันในตอนนั้นคิดว่าอยู่คนเดียวในห้องเรียนยังดีกว่าไปยุ่งเกี่ยวกับคนพวกนั้น แต่พอนึกย้อนกลับไปตอนนี้ ฉันคิดว่าตัวฉันในตอนนั้นถึงแม้จะมีสถานะที่ค่อนข้างจะแข็งแกร่ง แต่ก็เป็นตัวตนที่แปลกแยกในห้องเรียน
สนามโรงเรียนที่อึกทึก
อาคารเรียนที่จอแจ
ฉันอยู่ตัวคนเดียว
ในตอนนั้นเอง ก็มีคนเข้ามาทักฉัน
“เหอะ ยังอยู่อีกเหรอ”
นั่นไม่ใช่ใครอื่นเลยนอกจากยามาโมโตะ
ผู้ชายที่ฉันไม่อยากจะพูดคุยด้วยมากที่สุดในตอนนั้น
ฉันจำไม่ได้ว่าตอบอะไรยามาโมโตะกลับไป
แต่จำได้ว่าเดาะลิ้นใส่เขา ตัวฉันในตอนนั้นถึงกับรู้สึกโกรธยามาโมโตะที่อุตส่าห์เข้ามาทักทาย
ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้ว
นั่นคงจะเป็นความใจดีในแบบของยามาโมโตะสินะ
เขาเป็นห่วงฉันที่ไม่ยอมกลับบ้านง่ายๆ และไม่มีเพื่อนคนอื่นเข้ามาทักทาย เลยเข้ามาทักฉันทั้งๆ ที่ก็ไม่ได้ชอบขี้หน้าฉันเลย
เพียงแค่ช่วงเวลาไม่ถึงหนึ่งปีนับจากสมัยมัธยมปลาย ในใจของฉันก็เกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้น
เป็นความรู้สึกที่มีต่อยามาโมโตะที่ฉันเคยเกลียดมากขนาดนั้นในสมัยมัธยมปลาย
ฉันชอบยามาโมโตะ
เพื่อยามาโมโตะแล้ว ฉันทำได้ทุกอย่าง
ฉันชอบเขามากเสียจนอดคิดแบบนั้นไม่ได้จริงๆ
…เพราะฉะนั้น
เพราะฉะนั้น การพบหน้ากับพ่อแม่ของยามาโมโตะในวันนี้ ฉันไม่อยากจะทำพลาดเป็นอันขาด
“พี่ชาย คุณแม่กลับมาแล้วนะ”
เสียงของชิโฮะจังดังมาจากชั้นล่าง
ในที่สุดก็มาถึงจนได้…!
ฉันรู้สึกหนาวสั่นจากความประหม่า
“ไม่เคยรู้เลยนะว่าเธอขี้ประหม่าขนาดนี้”
ยามาโมโตะพูดขึ้นมาอย่างล้อเลียน
“หนวกหู น่ารำคาญรึไง?”
“เปล่า แค่รู้สึกแปลกใจนิดหน่อยน่ะ ถ้าทำให้รู้สึกไม่ดีก็ขอโทษนะ”
พอเห็นยามาโมโตะขอโทษอย่างตรงไปตรงมา ฉันก็รู้สึกว่าใจของตัวเองเบาลงเล็กน้อย
…อ๋อ อย่างนี้นี่เอง
ยามาโมโตะทำเพื่อให้ฉันรู้สึกผ่อนคลาย
“ฮะฮะฮ่า”
“คราวนี้หัวเราะแล้ว”
“หนวกหูน่า”
“คราวนี้โกรธแล้ว”
“…นายเนี่ย ไม่ซื่อสัตย์เลยนะ จริงๆ”
“ผมซื่อสัตย์ตลอดเวลานะ ถ้าเธอคิดว่าผมไม่ซื่อสัตย์ มันก็หมายความว่าเธอเองนั่นแหละที่ไม่ซื่อสัตย์ไม่ใช่เหรอ?”
“อาจจะใช่ก็ได้”
มันเป็นความรู้สึกที่น่าประหลาด
เวลาที่ได้คุยกับยามาโมโตะ ความรู้สึกหนักอึ้งที่ฉันแบกรับไว้คนเดียวเมื่อครู่นี้ก็ค่อยๆ จางหายไป
เวลาที่อยู่กับเขา ก็เป็นแบบนี้เสมอ
พอรู้ตัวอีกที ใจของฉันก็สงบลงได้ขนาดนี้แล้ว
บางที นี่อาจจะ…
นี่อาจจะเป็นสิ่งที่เรียกว่าการรักใครสักคนก็ได้
“นี่ ยามาโมโตะ?”
“หืม?”
“ฉันจะพยายามนะ”
ฉันไม่รอฟังคำตอบของยามาโมโตะ รีบเดินออกจากห้องของเขานำไปก่อน
ฉันเดินลงบันได มุ่งหน้าไปยังห้องนั่งเล่น แล้วก็พบกับผู้หญิงคนหนึ่งที่กำลังคุยกับชิโฮะจังอย่างสนุกสนาน
…คนคนนี้สินะ
“สวัสดีค่ะ”
ฉันยิ้มให้กับคุณแม่ของยามาโมโตะ
MANGA DISCUSSION