ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูห้องของยามาโมโตะดังขึ้น เป็นการเคาะที่ค่อนข้างจะแผ่วเบา
“พี่ชาย โอเคมั้ย?”
“เอ๊ะ? โอ”
ยามาโมโตะตอบกลับเสียงที่แผ่วเบาของชิโฮะจังด้วยความลังเลเล็กน้อย
ชิโฮะจังเดินเข้ามาในห้องอย่างกล้าๆ กลัวๆ
ชิโฮะจังมองพวกเราที่นั่งอยู่ข้างกันบนเตียงด้วยสายตาที่หลุบต่ำ
“ขอโทษนะ ฉันมารบกวนรึเปล่า?”
“ไม่เลย ไม่เป็นไรหรอก”
“จริงเหรอ? ฉันไม่ได้มารบกวนทั้งสองคนแน่นะ?”
“รบกวนอะไรเหรอ?”
ฉันเผลอถามออกไป
เรื่องที่อยากจะคุยก็คุยจบไปแล้ว ชิโฮะจังไม่ได้รบกวนอะไรเลยสักนิด เพราะฉะนั้นไม่จำเป็นต้องทำหน้าเกรงใจขนาดนั้นก็ได้ แต่ชิโฮะจังก็ยังคงไม่เปลี่ยนสีหน้าที่เต็มไปด้วยความรู้สึกผิด
“เป็นอะไรไป ชิโฮะ”
“เดี๋ยวคุณแม่ก็จะกลับมาแล้วน่ะ”
“โอ้ เหรอ”
“อื้ม… พอฉันบอกว่าพี่ชายกลับมาแล้ว ท่านก็ตอบแค่ว่า ‘เหรอ’ “
“…อย่างนั้นเหรอ”
เอ๊ะ แค่นั้นน่ะเหรอ?
กับการกลับบ้านของลูกชายสุดที่รัก ตอบกลับแค่นั้นน่ะเหรอ?
…จะว่าไปแล้ว ยามาโมโตะเคยพูดอยู่บ่อยๆ ว่าพ่อแม่ของเขาปล่อยปละละเลยเขา ไม่แน่ว่าพวกเขาอาจจะไม่ได้สนใจเรื่องที่ลูกชายออกจากบ้านไปแล้วก็ได้
ยามาโมโตะทำหน้าลำบากใจ
“แต่พอฉันบอกว่าพี่ชายพาแฟนมาด้วย ท่านก็ดีใจใหญ่เลย”
“นั่นเป็นข้อมูลที่ไม่จำเป็นเลยนะ”
“อีกอย่าง ฉันก็ไม่ใช่แฟนเขาสักหน่อย”
สำหรับชิโฮะจังแล้ว คงจะเป็นการกระทำที่หวังดี แต่พวกเรากลับไม่รู้จะตอบสนองอย่างไร
ช่วงนี้ฉันมักจะจินตนาการถึงอนาคตกับยามาโมโตะอยู่บ่อยๆ แต่… เฉพาะตอนนี้เท่านั้น ที่ฉันไม่ได้เป็นสาวน้อยผู้มีความรัก แต่กลับกลายเป็นศูนย์รวมของนักสัจนิยม
แน่นอนว่าการที่จะต้องเจอกับพ่อแม่ของเพื่อนผู้ชายมันเป็นเรื่องที่น่าอึดอัดใจ ถ้าเลี่ยงได้ก็อยากจะเลี่ยง มันก็ช่วยไม่ได้ที่จะเป็นแบบนั้นไม่ใช่เหรอ
พอคิดแบบนั้นแล้ว ฉันก็แอบทึ่งในตัวยามาโมโตะ… ที่เขายอมตามฉันไปที่บ้านเป็นอย่างดี
“อยู่ต่ออีกหน่อยสิ อยู่ในห้องนี้กันสองต่อสอง”
“…ชิโฮะ”
“อะไรเหรอ พี่ชาย”
“…อ่า”
เป็นการเริ่มต้นบทสนทนาที่กะทันหัน
นี่คงจะเป็น…
คำแนะนำของฉันเมื่อกี๊นี้สินะ ดูเหมือนว่ายามาโมโตะจะรีบพูดเพื่อที่จะแก้ไขความเข้าใจผิดนั้นทันที
แต่ว่า จังหวะมันก็ช่าง…
ถึงจะเริ่มพูดได้ดี แต่ดูเหมือนว่าเขาจะติดขัดในการหาคำพูด
การกระทำโดยไม่ทันคิดแบบนี้ ช่างไม่เหมือนยามาโมโตะเลย
“…พี่ชอบเธอนะ”
“หา?”
ยามาโมโตะที่สับสนและพูดจาวกวน
ชิโฮะจังที่ทำหน้าไม่พอใจอย่างมาก
“ไม่ใช่สิ นี่มันหมายถึง… ในฐานะพี่น้องน่ะ”
“หา?”
ยามาโมโตะกุมขมับ
ชิโฮะจังทำหน้าไม่พอใจยิ่งกว่าเดิม
“…ก็เพราะว่าไม่เคยบอกอย่างเป็นเรื่องเป็นราวเลยนี่นา ก็เลยคิดว่าต้องบอกให้ชัดเจน”
“หา?”
ยามาโมโตะยอมจำนนและสารภาพออกมา
ชิโฮะจังทำหน้าไม่พอใจอย่างที่สุด
…เอ๊ะ เมื่อกี๊นี้ยังทำหน้าเศร้าเป็นห่วงความสัมพันธ์ฉันท์พี่น้องกับยามาโมโตะอยู่เลยนี่นา
ชิโฮะจัง ทำไมถึงมีท่าทีแบบนี้ล่ะ?
หรือว่า… โกหกเหรอ?
คำพูดเมื่อกี๊นี้ เป็นแค่การประจบประแจงฉันที่กำลังไปได้ดีกับพี่ชายของเธอเหรอ?
…หรือว่า…
“เรื่องแบบนั้นไม่ต้องก็ได้”
“อะ อื้ม”
“…ตอนนี้”
ชิโฮะจังเดินออกจากห้องไป
ตอนนี้
หมายความว่า ในสถานการณ์ที่มีฉันอยู่ด้วย ไม่จำเป็นต้องพูด… สินะ
…อะไรกันเนี่ย
ถึงจะพูดเรื่องสายเลือดอะไรนั่น แต่ยามาโมโตะกับชิโฮะจัง ก็มีส่วนที่คล้ายกันอยู่นี่นา
ทั้งสองคนเหมือนกันยังกะแกะ
“ไม่ซื่อสัตย์เลยนะ แถมยังพูดไม่เก่งอีก”
พอฉันพูดแบบนั้นพร้อมกับหัวเราะแห้งๆ
“ก็ขอโทษแล้วกัน”
ยามาโมโตะทำปากยื่นเพราะคิดว่าฉันพูดถึงเขา
…ก็นะ มันก็ถูกอยู่ครึ่งหนึ่งล่ะมั้ง
คำพูดเมื่อกี๊นี้ ฉัน… พูดโดยหมายถึงพวกเธอทั้งสองคนนั่นแหละ พี่น้องคู่นี้
จริงๆ เลยนะ พี่น้องคู่นี้… ไม่ซื่อสัตย์ พูดไม่เก่ง แต่กลับคิดถึงคนอื่นเป็นอันดับแรกเสมอ
“เหมือนกันจริงๆ เลยนะ พี่น้องคู่นี้”
ยามาโมโตะเอียงคอด้วยความสับสน
MANGA DISCUSSION