ในคืนวันศุกร์ของสัปดาห์ที่ยามาโมโตะจะกลับบ้าน
พวกเราทานอาหารเย็นเสร็จแล้ว และกำลังใช้เวลาว่างๆ ไปจนกว่าจะถึงเวลานอน อาจจะเป็นเพราะสถานการณ์นั้นด้วย ยามาโมโตะก็เลยดูทีวีอย่างสบายๆ
แต่ว่าฉันกำลังวุ่นวายกับการรื้อค้นตู้เสื้อผ้าของตัวเองอยู่
“ยามาโมโตะ ชุดนี้เป็นไงบ้าง”
“อ่า ก็ดีนี่”
“แล้วตัวนี้ล่ะ”
“อ่า ก็ดีนี่”
“ตัวนี้ล่ะ”
“อ่า ก็ดีนี่”
“ฉันเข้าใจแล้วว่านายไม่มีกะใจจะฟังฉันพูด”
เสื้อผ้ามากมายวางเรียงรายอยู่บนเตียง
ตอนนี้ฉันกำลังทำอะไรอยู่น่ะเหรอ ก็คือกำลังให้ยามาโมโตะช่วยเลือกชุดที่จะใส่ไปบ้านเขาพรุ่งนี้นั่นเอง
อืม ถึงจะบอกว่าให้ช่วยเลือก แต่ดูจากบทสนทนาที่ผ่านมาก็จะรู้ได้เลยว่าเขาไม่มีแก่ใจจะทำเลยสักนิด
ถ้าจะให้แก้ต่างหน่อยก็คือ ตอนแรกยามาโมโตะก็ไม่ได้เป็นแบบนี้ ตอนแรกเขาก็ช่วยฉันคิดอย่างจริงจังว่าควรจะใส่อะไรไปดี
ทิศทางลมเริ่มเปลี่ยนไปน่าจะหลังจากที่ฉันเอาเสื้อผ้าในตู้ทั้งหมดมาให้ยามาโมโตะดูจนครบ แล้วก็ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะใส่อะไรไปดีในวันพรุ่งนี้
พูดง่ายๆ ก็คือ ถ้ามองจากภายนอก ตอนนี้ใครผิดก็ต้องบอกว่าเป็นฉันที่ผิด
…แต่ว่า แน่นอนว่าฉันก็มีเหตุผลของฉันเหมือนกัน
ก็แหม จะไปเจอครอบครัวของคนที่ชอบ ก็ต้องตื่นเต้นเป็นธรรมดาไม่ใช่เหรอ
จะใส่อะไรไปดี เรื่องนั้นก็ต้องคิดหนักเป็นธรรมดาไม่ใช่เหรอ
แค่คิดหนักอยู่ประมาณสองชั่วโมง ก็น่าจะช่วยอยู่เป็นเพื่อนอีกหน่อยก็ได้นี่นา…
…ค่ะ
ใช่ค่ะ ฉันผิดเอง
สองชั่วโมงมันนานเกินไปจริงๆ
อย่างมากก็สักชั่วโมงครึ่ง ถ้าเป็นแค่นั้นยามาโมโตะก็คงจะยอมอยู่เป็นเพื่อนต่อให้แหละ
“ถะ ถ้าโดนคิดว่าเป็นคนแปลกๆ ที่มาอยู่กับลูกชายเขามันจะแย่นะ”
ถึงจะคิดได้ขนาดนั้นแล้ว แต่ฉันก็ยังไม่ยอมแพ้
เหตุผลก็อย่างที่พูดไปเมื่อกี้นี้
ถ้าทำให้ทางนั้นไม่พอใจ แล้วโดนบอกว่าอย่ามายุ่งกับยามาโมโตะอีก ฉันคงจะป่วยแน่ๆ…
“พูดไปหลายครั้งแล้วนะว่าไม่ต้องห่วงขนาดนั้น ไม่เป็นไรหรอก พวกเขาไม่ใช่คนที่จะมานั่งจ้องจับผิดเรื่องเสื้อผ้าหรอก”
“พูดจาห่างเหินแบบนั้น…”
พูดอย่างเอือมระอา แต่ยามาโมโตะก็ไม่ได้ตอบกลับมา
ดูเหมือนว่าจะโดนเอือมระอาเข้าจริงๆ แล้วล่ะมั้ง
อืม ก็ลูกชายแท้ๆ พูดแบบนั้น ก็พอจะเข้าใจได้ว่าพ่อแม่ของยามาโมโตะไม่ใช่คนที่เข้มงวดอะไร
ว่าไปแล้ว เมื่อพิจารณาจากนิสัยของยามาโมโตะแล้ว การที่ต้องมานั่งกังวลจนดึกดื่นขนาดนี้มันก็อาจจะดูเกินไปหน่อยก็ได้
…นิสัยของยามาโมโตะเนี่ยนะ
ปากร้ายนิดหน่อย
ดื้อรั้นพอสมควร
แล้วก็ค่อนข้างจู้จี้
…ถ้าเป็นพ่อแม่ของยามาโมโตะคนนี้ล่ะก็ ถ้าพลาดไปนิดเดียวก็อาจจะโดนวิจารณ์เรื่องเสื้อผ้าได้เหมือนกัน
อ๊าาาาา
ฉันเริ่มร้อนรนอีกแล้ว
“เธอนี่บางทีก็น่าขำดีนะ”
“ชะ ช่วยไม่ได้นี่นา”
การที่จะได้เจอพ่อแม่ของคนที่ชอบน่ะ มันเป็นครั้งแรกเลยนะ
…กับแฟนเก่าถึงจะเคยอยู่ด้วยกัน แต่ก็ไม่เคยมีโอกาสได้เจอหน้าพ่อแม่ของเขาเลย
ว่าไปแล้ว ความรู้สึกที่ฉันมีต่อแฟนเก่ากับความรู้สึกที่ฉันมีต่อยามาโมโตะในตอนนี้น่ะ มันเทียบกันไม่ได้เลยสักนิด
เพราะฉะนั้น ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น พรุ่งนี้ก็จะเป็นประสบการณ์ครั้งแรกของฉันอย่างแท้จริง
การที่ตื่นเต้นก็เป็นเรื่องธรรมดา การที่จะนอนไม่หลับในคืนก่อนหน้าก็ไม่แปลกอะไร
เพียงแต่ว่า สิ่งเดียวที่แปลกก็คือ ฉันไม่ได้คบกับยามาโมโตะน่ะสิ
…พรุ่งนี้ ยามาโมโตะจะอธิบายเรื่องฉันว่ายังไงกันนะ
เขาบอกว่าจะบอกตามตรงว่าเราอยู่ด้วยกัน
แต่หลังจากนั้น บางทีเขาก็คงจะอธิบายได้ไม่ดีเท่าไหร่หรอก
ว่าไปแล้ว การที่อยู่ด้วยกันแต่ไม่ได้คบกันน่ะ… ในแง่หนึ่ง ความสัมพันธ์ของเรามันดูไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่เลยไม่ใช่เหรอ
แบบนั้นน่ะ ถ้าคนอื่นมองก็อาจจะเข้าใจผิดได้ว่าฉันกำลังเกาะยามาโมโตะกินอยู่ก็ได้
อืม ว่าไปแล้ว สถานการณ์ของฉันในตอนนี้ก็คือการเกาะยามาโมโตะกินอย่างไม่ต้องสงสัยเลย…
เอาเป็นว่า ยามาโมโตะจะอธิบายเรื่องของฉันให้พ่อแม่เขาฟังว่ายังไงกันนะ
…ถ้าเป็นปกติ
ถ้าเป็นปกติแล้ว ในฐานะของยามาโมโตะแล้วก็น่าจะพูดว่าอย่ามาด้วยกันเลยไม่ใช่เหรอ
การกลับบ้านคนเดียวน่าจะทำให้ทุกอย่างราบรื่นกว่าไม่ใช่เหรอ
แต่ว่า น่าแปลกที่ยามาโมโตะกลับยอมให้ฉันไปด้วยหลังจากที่ปฏิเสธไปเบาๆ ในตอนแรกแล้วฉันก็ตื๊อเขา
หมอนั่นเป็นผู้ชายที่ดื้อรั้น
เพราะฉะนั้น ด้วยความเป็นลูกผู้ชายที่พูดคำไหนคำนั้น พอถอยไปก้าวหนึ่งแล้วก็เลยไม่สามารถปฏิเสธการที่ฉันจะไปด้วยได้อีกงั้นเหรอ
หรือว่า เขาก็คิดว่าถ้าฉันไปด้วยก็น่าจะดีกว่า…?
ไม่เข้าใจเลย
เรื่องของผู้ชายคนนี้ ไม่เคยเข้าใจมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว
…เพียงแต่ว่า ตอนนี้ไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว ฉันน่ะ กำลังหลงรักผู้ชายคนนี้อยู่
เรื่องที่จะทำให้ยามาโมโตะเดือดร้อนน่ะ ไม่อยากจะทำเด็ดขาด
“อื๊ออออ… จะใส่อะไรไปดีล่ะเนี่ย…”
“หรือว่าเธอจะทำแบบนี้ไปจนถึงพรุ่งนี้เลยรึไง”
สายตาของยามาโมโตะในตอนนี้ช่างเย็นชาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
MANGA DISCUSSION